รักนี้อ้วนแล้วต้องผอม

ตอนที่1



ตอนที่1

สิ่งที่เขาพูดกับฉันมันทำให้ฉันคิดไม่ออกเลยว่ามันจะเป็นไปได้ หรอ เขาจะมาขอฉันแล้วทางพ่อกับแม่เขาจะว่ายังไง

“พี่จะบ้าหรอพี่ทำแบบนั้นไม่ได้หรอกนะ เพราะพ่อกับแม่ ของพี่ไม่ยอมแน่นอน ถึงแม้คุณจะยอม แต่ก็น่าสงสารผู้หญิงที่ ยังเป็นคู่หมั้นของพี่อยู่นะคะ”

เขาจับที่ไหล่ของฉันแล้วมองหน้าของฉันอย่างจริงจัง

“พี่จะให้ไปคุยกับทางฝ่ายหญิงให้ เพราะว่าพี่ไม่อยาก หมั้นและไม่อยากแต่งงานกับเขา พี่ว่าน่าจะตกลงกันได้อยู่นะ

พี่เขาจะคุยได้จริงๆหรอ พี่เขาจะทำแบบนั้นได้จริงๆหรอ ฉันก็อยากให้มันเป็นแบบนั้น แต่ฉันก็ไม่แน่ใจว่าจะทำได้ไหม เขาดึงตัวของฉันเข้าไปกอดก่อนที่เราสองคนจะยืนกอดกันนาน มาก ฉันผลักตัวพี่เขาออกเบาๆเพราะว่าพี่เขาบังหน้าของฉัน ตัวสูงเกินไปเลยทำให้บังหน้าฉันไปหมดเลย

“พอแล้วค่ะรู้แล้ว แต่ก็อยากให้คุยกันดีๆนะคะ ถ้ามันไม่ ได้บ่อยก็ยอมถอยออกมา

พี่เบสพยักหน้าให้กับฉันก่อนจะยิ้มให้แล้วก็พากันไปเข้า เรียน ในเวลาเที่ยงกว่าก็ถึงเวลากินข้าวของฉัน นั่นก็คือการพัก เที่ยงที่โรงเรียนนั่นเอง ฉันเดินไปสั่งอาหารแล้วก็กำลังเดินตาม ทางเพื่อหาโต๊ะที่ว่างมานั่งกินข้าว แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น ผู้หญิงคนหนึ่งเดินมาแล้วก็เอาไหล่ของเธอมาชนจน จานข้าวของฉันหล่น ฉันมองลงไปที่จานข้าวก่อนจะมองไปที่ เธออีกครั้ง หน้าของเธอที่มองมาที่ฉันเหมือนกับสะใจอยู่ใน ตอนนี้ ไม่มีคำขอโทษใดๆทั้งสิ้นจากปากของเธอ ฉันมองหน้า ชัดๆพี่นิ่งเป็นเพื่อนของพี่เบสเป็นรุ่นพี่ของฉันนี่นา ทำไมเธอถึง ทำแบบนั้นล่ะ จากนั้นเธอก็เดินออกไปจากฉันแล้วไปนั่งโต๊ะที่ อยู่มุมสุดกับพวกรุ่นพี่คนอื่นๆ พี่เบสเดินมาหาฉัน

“มันเกิดอะไรขึ้นทำไมจานข้าวถึงตกกระจัดกระจาย เละเทะแบบนี้ล่ะ ไม่เป็นไรช่างมันเถอะเดี๋ยวพี่สั่งใหม่ให้ งั้น อ้วนไปนั่งตรงนั้นรอพี่ก่อนไปจองโต๊ะให้แล้ว

เขาพาฉันเดินไปที่โต๊ะที่พี่เบสจองทุกคนต่างมองฉันด้วย สายตาแปลกๆแต่มันชินแล้วล่ะเพราะสายตาแบบนี้ฉันเจอที่ โรงเรียนนี้ทุกวันตั้งแต่ที่คบกับพี่เบสมา ฉันนั่งลงก่อนที่พี่เขาจะ เดินไปสั่งอาหารมาให้ฉัน พี่เขาถือน้ำที่ซื้อมาวางไว้สองขวด แล้วเดินไปสั่งอาหารต่อ ฉันมองไปที่โต๊ะของพี่นิ่งที่พี่นิ่งนั่งอยู่ พี่เขามองฉันไม่ละสายตาแถมทำหน้าเหมือนแค้นอะไรบาง อย่างใส่ฉันด้วย เมื่อพี่เบสเดินมาพนิ่งก็หันกลับไปฉันเลยหัน กลับมาหาพี่เบสเหมือนเดิมอีกครั้ง พี่เขาสั่งข้าวผัดมาให้ฉันกิน เพราะเขารู้ว่าฉันชอบกินข้าวผัด ฉันยิ้มให้กับพี่เบสแล้วพี่เบส มานั่งตรงข้ามกับฉันก่อนที่พวกเราจะเริ่มกินข้าวกัน เวลาผ่าน ไปไม่นานอยู่ๆก็มีรุ่นน้องของพวกเราประมาณสามคนเป็นผู้ หญิงเดินมาหาพี่เบส

“พี่คะหนูเอาของขวัญมาให้ค่ะ คือมันเป็นของที่หายากมากเลยนะคะ พวกหนูชอบพี่มากๆเลยนะคะ ขอถ่ายรรูปเป็นที่ ระลึกด้วยนะคะพี่เบสสุดหล่อ”

มันเป็นเรื่องปกติสำหรับฉันไปแล้วล่ะเห็นแบบนี้อยู่ทุกวัน เพราะพี่เบสเขาเป็นนายแบบด้วยเลยมีสาวติดต็มไปหมด และ ทุกๆวันฉันก็จะโดนแช่งให้เลิกกับพี่เบสอยู่ๆบ่อยๆด้วย เรื่อง แบบนี้ไม่น่ามาเกิดขึ้นกับฉันเลยนะ ฉันน่าจะไม่รับรักจากพี่เบส ตั้งแต่เราเจอกันครั้งแรกแล้ว ย้อนความกลับไปเมื่อปีที่แล้ว ตอนนั้นฉันไม่มีใครเลยเพื่อนก็ไม่คบยังอยู่มัธยมต้นสามอยู่ เลย ในชีวิตไม่ได้คุยกับใครเรียนเสร็จกลับบ้าน แล้วมาเล่นกับ พวกสัตว์เลี้ยงและคุยกับพ่อแม่ของฉัน แค่นั้นเองในชีวิต แต่ แล้ววันหนึ่งฉันได้เจอกับพี่เบสตอนที่เห็นเจ้าหมาน้อยที่อยู่ใน กล่องกำลังตากฝนอยู่ ฉันเห็นร่มคันหนึ่งในตอนกลับบ้าน ร่ม คันนั้นทำให้เราสองคนได้มาเจอกันเพราะว่าวันที่เห็นร่มเป็นวัน ที่ฝนตก ฉันได้เก็บน้องหมาที่อยู่ในกล่องมาพร้อมกับร่มคันนั้น ในตอนที่กำลังเดินทางกลับบ้านพร้อมกับหมาน้อยตัวนั้น ก็มี ชายคนหนึ่งได้เดินเข้ามาหาฉันเขาหล่อและน่ารักมากสำหรับ ใครหลายๆคน แต่เขาไม่ใช่สเป็คของฉันหรอกเพราะว่าฉันไม่ ชอบคนหน้าตาที่ๆแบบพี่เขา เขามาหยุดที่หน้าของฉันแล้วมอง มาที่ร่มคันที่ฉันถืออยู่พร้อมกับกล่องที่ฉันถือมา

“น้องพี่ขอเจ้าหมาน้อยที่อยู่ในกล่องหน่อยได้ไหม” พี่ เขาพูดขึ้นก่อนที่ฉันจะยื่นกล่องที่ใส่เจ้าหมาน้อยตัวนั้นให้กับพี่ เขา เขาเปิดมันขึ้นมาแล้วถอนหายใจยาวๆ ด้วยความโล่งอก

“ขอบใจนะที่เก็บมันเอาไว้นะ พี่ชื่อเบสนะยินดีที่ได้รน้องก็อยู่โรงเรียนเดียวกันกับพี่นี่นา แต่ทำไมถึงไม่เคยเห็น น้องเลยล่ะ”

ใครจะมาเห็นหนูล่ะคะพี่หนูเหมือนกำลังล่องหนอยู่ใน โรงเรียนทุกวันนั่นแหละ ไม่เคยมีใครมาสนใจหนูหรอกนะคะ ยกเว้นครูที่โรงเรียนที่ยังเห็นค่าของหนูบ้าง

“หนูชื่อย่อยค่ะอยู่มัธยมสามยินดีที่ได้รู้จักนะคะพี่เบส งั้น

หนูขอตัวก่อนล่ะค่ะแม่จะด่าหนูเอาหนูกลับบ้านช้าแบบนี้ ฉันกำลังจะเดินออกไปจากที่ตรงนี้แต่แล้วพี่เขาก็จับแขน

ของฉันเอาไว้ มันทำให้ฉันหยุดลงแล้วมองไปที่พี่เขา

“คือว่าพี่ขอเบอร์หรือไลน์ไม่ก็เฟซของน้องหน่อยได้ไหม พอดีว่าพี่อยากจะอยาก…อยากจะคุยเรื่องน้องหมานี้หน่อยนะ พี่อยากเลี้ยงมันนะแต่ที่บ้านพี่แพ้ขนหมาก็เลยไม่ได้เลี้ยงเลย สักตัว พี่อยากรู้ว่าอยู่ดีกินดีรึป่าวอะไรแบบนี้อะ ได้รึป่าวหรอ?”

ถ้าเป็นเรื่องหมาฉันพอที่จะให้ได้ฉันเลยพยักหน้าแล้วพี่ เขาก็ยื่นโทรศัพท์มาให้กับฉัน ฉันจึงพิมพ์เบอร์ของฉันให้พี่เขา ไป จากนั้นก็ยื่นคืนให้กับพี่เขาแล้วพี่เบสก็โทรมาหาฉัน ถึง ตึง ตึง เสียงโทรศัพท์ได้ดังขึ้นมาทำให้รู้ว่านี่เป็นเบอร์ของฉัน จริงๆ จากนั้นพี่เขาก็ยิ้มให้กับฉัน

“ขอบใจนะเดี๋ยวตอนเย็นๆพี่จะโทรไปหาไปถามเรื่องน้อง หมา ตั้งชื่ออะไรบอกพี่ด้วยนะพี่จะได้เรียกมันถูกตอนเจอมันอีก ครั้งหนึ่ง บายจ๊ะน้องปอย

พี่เขาโบกมือลาฉันและฉันก็โบกมือลาพี่เขาเช่นกัน จากนั้นฉันก็เดินกลับบ้านของฉัน ทำอย่างเสร็จเรียบร้อยฉัน เอนตัวลงสู่ทำให้ฉันสะดุ้งตื่นขึ้นมา ตึง ตึง เสียงโทรศัพท์ได้ ดังในตอนฉันมาที่โทรศัพท์ของฉันก็ว่าเบอร์ แปลกโทรมา ฉันคิดอยู่ค่อนข้างนานว่าไหม สุดท้ายฉัน

“ฮัลโหลนี่เบสเองนะ กว่าจะรับสายรอตั้งนานเลย” เขา พูดขึ้นด้วยเสียงค่อนข้างน่ารัก

“หนูไม่รู้จะดีไหมรู้ว่าเป็นเบอร์ของใครก็เลยคิด อยู่แต่ดีกว่า

พี่เขาหัวเราะออกมาก่อนเราสองคนจะเริ่มคุยกันไปเกี่ยว กับเรื่องของหมาน้อยตัวนั้นนั่นแหละ

“แล้วปอยตั้งชื่อมันว่าอะไรหรออยากจะจังเลยฉันลืม

ลืมตั้งชื่อกับเจ้าตัวน้อยได้ยังไงกันนะ

“ลืมชื่อให้มันเลยอะ งั้นกับหนูตั้งชื่อให้มันกว่า พี่เอาชื่ออะไรล่ะ

เขาเงียบเหมือนกับกำลังนึกชื่ออยู่และฉันเช่นกันรู้ ว่าจะเรียกอะไรดี

“โชคไหม” เขาพูดมา

“ทำไมถึงโชคล่ะฉันถามพี่เขาด้วยความสงสัยทำไมเจ้าหมาน้อยถึงต้องชื่อว่าโชค
“ก็เพราะว่ามันโชคดีถึงที่มีคนใจบุญเก็บไปเลี้ยง แถมพี่ โชคดีด้วยเหมือนกัน><”

อะไรที่ว่าโชคดีสำหรับพี่เขามันทำให้ฉันมึนงงกับสิ่งที่พี่

เขาพูด

“โชคดีของพี่คืออะไรหรอคะ” ฉันถามพี่เขาด้วยความ สงสัยอีกครั้ง แต่พี่เขาเงียบแล้วก็ไม่ได้บอกอะไรกับฉันเลย แถมเปลี่ยนเรื่องใส่ฉันอีกต่างหาก อะไรของเขากันเนี่ยมัน ทำให้ฉันรู้สึกคาใจอย่างบอกไม่ถูก พวกเราคุยกันไปได้สักพัก พี่เขาก็พูดบางอย่างกับฉันขึ้นมา

“งั้นพรุ่งนี้พี่จะไปรับหนูที่บ้านนะ พี่จะขอพ่อกับแม่ของหนู เองเลยไม่ต้องห่วง”

พี่เขาจะมารับฉันไปโรงเรียนหรือแถมจะมาขอพ่อกับแม่

ฉันที่บ้านอีก พึ่งเจอกันได้วันเดียวจะมารับฉันไปโรงเรียนแล้ว

หรอเนี่ย

“เอิ่มมันไม่ดีหรอกมั้งคะ พ่อกับแม่หนูคงไม่อนุญาติหรอก

วันต่อมา

“ตามสบายเลยจ๊ะพ่อหนุ่มแม่ให้ไปฝากดูแลลูกสาวของ

พ่อด้วยนะ”

ทำไมมันง่ายแบบนี้ล่ะพ่อกับแม่ไม่เป็นห่วงหนูบ้างเลย หรือ T^T ฉันสวัสดีคุณพ่อคุณแม่พร้อมกับพี่เบส แล้วพวกเราสองคนก็เดินออกมาจากบ้านของฉัน

“สงสัยบ้านเราจะมีลูกเขย ในอนาคตแล้วล่ะแถมรวยด้วย

ดูสิพ่อคะ”

คุณแม่พูดไล่หลังของฉันมามันทำให้ฉันอายสุดๆ

“แม่คะหนูได้ยินนะคะ เราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกันสัก

หน่อย”

พี่เขาหัวเราะออกมาก่อนจะยิ้มให้กับพ่อและแม่ของฉัน ทำไมไม่คิดจะห้ามหน่อยล่ะเนี่ยแปลกคนจริงๆเลย ฉันเดินไป เปิดประตูหลังรถแต่ว่าพี่เขาก็จับมือของฉันเอาไว้ ฉันมองไปที่ มือของฉันที่พี่เขาจับแล้วพี่เขาก็ปล่อยมือออกเมื่อเห็นว่าฉัน มองอยู่

“คือว่า อยากให้นั่งหน้ามากกว่านะ มานั่งหน้ากับพี่ไม่ ต้องห่วงหรอกพี่ไม่ทำอะไรอยู่แล้ว”

ฉันก็ไม่ได้กลัวเรื่องนั้นหรอก แต่แค่กลัวว่าพี่เขาจะอึดอัด ถ้าฉันไปนั่งข้างหน้า แต่ในเมื่อพี่เขาบอกขนาดนี้แล้วฉันก็จะไป นั่งให้ พี่เขาอ้อมมาทางข้างหน้าแล้วเปิดประตูรถให้กับฉัน ดู เป็นคนที่สุภาพมากๆเลยนะเนี่ย ฉันเข้าไปนั่งก่อนที่ประตูรถจะ ปิดแล้วเราสองคนก็ไปเรียนกัน จากนั้นพวกเราก็คุยกันมา เรื่อยๆแบบนี้ทุกๆวัน และพี่เบสเขาก็มารับมาส่งฉันแบบนี้ทุกๆ วันเช่นกัน แต่วันนั้นก็มาถึงพี่เขาจอดรถก่อนจะถึงบ้านของฉัน ในตอนที่เลิกเรียนแล้ว พี่เขามองมาที่ฉันพร้อมกับทำหน้า จริงจังใส่ฉัน
“พี่มีอะไรจะบอกหนูหน่อย พี่ไม่รู้ว่าหนูจะคิดยังไงแต่พี่เก็บ มันไว้ไม่ไหวแล้ว มันถึงเวลาที่จะต้องบอกอะไรบ้างอย่างให้ หนูได้รู้แล้วล่ะ”

ฉันทำหน้ามึนงงใส่พี่เขาจากนั้นพี่เขาก็ยื่นมือมาจับที่มือ ของฉัน

“พี่ชอบปอยนะเป็นแฟนกับพี่ได้ไหม ฉันอึ้งกับคำพูดของ พี่เขา พี่เขาชอบฉันหรอมันเป็นไปได้ยังไง มันไม่น่าที่จะเป็นไป ได้เลยคนอย่างพี่เขาเนี่ยนะจะมาชอบคนอย่างฉัน

“พี่ชอบหนูตั้งแต่แรกพบที่เจอกันแล้ว พี่ก็ไม่รู้ว่าชอบได้ยัง ไงแต่พี่ชอบหนูที่เป็นแบบนี้ เป็นคนที่เป็นคนที่น่ารักสำหรับพี่ คบกับพี่เถอะนะพี่จริงจริงและพี่ไม่ได้หลอกหนูด้วย

ฉันรู้สึกเขินมากดวงตาที่เปร่งประกายส่องจากตาของพี่ เขามันทำให้ฉันไม่กล้าสบตาของพี่เขาเลย ทั้งๆที่พี่เขาก็ไม่ใช่ สเป็คของฉันแต่ว่านิสัยของพี่เขากลับทำให้ฉันเคลิ้มตามพี่เขา ได้ขนาดนี้เลย

“ขอคิดดูก่อนได้ไหมคะ” ฉันพูดไปด้วยความอาย พี่เขา จับหน้าของฉันด้วยทั้งสองมือของพี่เขาก่อนจะดึงฉันเข้าไปจูบ มันทำให้หัวใจของฉันเต้นแรงยิ่งขึ้น ริมฝีปากของพี่เขาที่นุ่ม นวลพร้อมกับลมหายใจที่ปะทะหน้าของฉันมันทำให้ฉันเคลิ้ม ไปตามอารมณ์ แต่ใช้เวลาไม่นานฉันก็ตั้งสติแล้วก็ดึงตัวเอง ออกจากตรงนั้น

“อะ..โอเคค่ะคบก็ได้ค่ะ หนูจะเชื่อพี่นะคะ” ฉันพูดขึ้นด้วยความแน่ใจและจะแน่ใจว่าพี่เขาไม่หลอกลวงฉัน เพราะว่าสิ่งที่ พี่เขาทำไม่มีใครกล้าทำอยู่แล้ว ถ้าไม่ชอบกันหรือรักกันจริงๆ พี่ เขาคงไม่ทำแบบนี้หรอก และตั้งแต่วันนั้นมาเราสองคนเลยได้ คบกันแบบนี้นั่นเองก็ผ่านไปเป็นเวลานานจนถึงตอนนี้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ