รักนี้อ้วนแล้วต้องผอม

ตอนที่3



ตอนที่3

วันนี้วันที่ 14 กุมภาพันธ์ วันที่เด็กวัยรุ่นชายหญิงที่มีแฟนและ ไม่มีแฟนรอคอย แต่สำหรับฉันก็ไม่ได้รอคอยอะไรเลยเพราะว่า ทุกๆวันเราสองคนก็หวานกันอยู่แล้ว ซึ่ง ตึง ตึง เสียง โทรศัพท์ของฉันดังขึ้น ฉันหยิบโทรศัพท์ของฉันขึ้นมาแล้วก็ มองว่าใครในคนโทรมาหาฉัน (พี่เบส] พี่เบสโทรมาทำไม ตั้งแต่เช้าล่ะเนี่ย ฉันกดรับสาย

“ฮัลโหลสวัสดีค่ะพี่เบส ทำไมโทรมาแต่เช้าจังเลยมีอะไร ป่าวคะ”

ฉันถามพี่เขาไปด้วยความสงสัยพี่เขาเงียบไปสักพักก่อน

จะตอบฉันกลับมาว่า

“วันนี้พี่ไม่ว่างไปรับนะพอดีว่าพี่มีธุระคงไม่ได้เข้าไปเรียน อะ พี่ลาครูไว้แล้วนะไม่ต้องห่วงพี่ แต่น้องปอยไปเรียนเองได้ หรือป่าววันนี้อะ?”

วันนี้เป็นอะไรรึป่าวทำไมทำเสียงแปลกๆแบบนั้นล่ะ แล้ว ธุระอะไรที่พี่เขาว่ากันนะ

“พี่บอกหนูได้ไหมว่ามีธุระอะไรของพี่ ทำไมวันนี้ถึงมา เรียนไม่ได้”

พี่เขาอึ้งไปสักพักก่อนจะหัวเราะออกมาใส่ฉัน อยู่ๆก็ หัวเราะออกมาทําเอาตกใจหมด
“แฮะๆ ฮ่า ฮ่า คือว่าพี่มีธุระที่โรงแรมนะครับไม่ต้องห่วง นะ แต่ว่าพี่ไม่ให้หนูไปเรียนเองหรอกพี่จะให้คนขับรถขับรถไป ส่งหนูที่โรงเรียน โอเคป่าว จะโอเคไม่โอเคยังไงพี่ก็อยากให้ หนูตอบตกลงอยู่ดี เดี๋ยวตอนเจ็ดโมงครึ่งจะให้คนขับรถขับไป ส่งหนูที่โรงเรียนนะ โอ๊ะพี่ต้องวางสายแล้วนะมีคนเรียกแล้ว บายรักเสมอนะหมูอ้วนของพี่ยีราฟ

ติด ติด ติด แล้วพี่เขาก็วางสายไปเลยสงสัยจะวุ่นวาย มากทางนั้น เสียงดังมาถึงนี้เลยนะ เอาเถอะตอนนี้ก็ต้องไป อาบน้ำแต่งตัวรอคนขับรถของพี่เบสมาก่อน ฉันใช้เวลาอาบน้ำ ประมาณสามสิบนาทีได้ แล้วก็แต่งตัวประมาณสิบนาที กินข้าว ก็ใช้เวลานิดเดียวเพราะฉันไม่ชอบกินข้าวเช้าสักเท่าไหร่ || ใดๆ// เสียงคนบีบแตรรถได้ดังขึ้นฉันคิดว่าคนขับรถของพี่เบส น่าจะมาแล้วล่ะ เมื่อฉันเดินไปถึงรถที่พี่เบสส่งมารับฉันทำให้ ฉันไม่กล้าขึ้นรถเลย เพราะว่ารถเป็นรถราคาที่แพงมาก แต่ว่า มันก็ไม่มีทางเลือกแล้วยังไงก็ต้องขึ้นไปอยู่ดี ฉันขึ้นรถข้างหลัง ก่อนจะปิดประตูรถแล้วรถก็เริ่มเคลื่อนที่ไป

[ โรงเรียน ]

เมื่อถึงโรงเรียนรถก็ได้จอดลง คนขับรถจอดรถที่ข้างหน้า โรงเรียนแล้วหันมาหาฉัน

“ถึงแล้วครับเดินทางให้ปลอดภัยนะครับ” คุณคนขับรถ อวยพรให้กับฉันก่อนที่ฉันจะพยักหน้าให้แล้วก็ไหว้ขอบคุณเขา ไป ฉันเดินลงมาจากรถแล้วปิดประตูลง เด็กนักเรียนที่นี่เขาก็ไม่ ได้มาอะไรกับรถของฉันหรอกนะเพราะว่าที่นี่มันเป็นโรงเรียนที่มีแต่คนรวยอยู่แล้ว ดีเท่าไหร่แล้วที่เราสอบติดเข้ามาได้ ไม่ อย่างนั้นก็คงไม่ได้เข้าเรียนโรงเรียนดีๆแบบนี้หรอก อย่างที่ว่า บ้านฐานะไม่ค่อยจะร่ำรวยฐานะบ้านฉันแค่ปานกลางก็ต้อง อดทนสอบเข้ามาเอง ฉันเดินเข้าไปในโรงเรียนพร้อมกับสาย ตาแปลกๆเหมือนเดิมทุกๆวัน แต่คงจะผิดสังเกตหลายๆคน เหมือนกันที่พี่เบสไม่มากับฉันด้วยในวันนี้

“แกทำไมวันนี้พี่เบสไม่มาวะ หรือว่าสองคนนั้นเลิกกัน แล้ว?” พวกรุ่นน้องพูดขึ้นมาด้วยความสงสัย แล้วจะมาสงสัย อะไรข้างๆฉันด้วย พ่อแม่ไม่สั่งสอนหรอว่าการนินทาคนอื่นให้ นทาไกลๆคนที่นินทาหน่อย นี่มันใกล้จนเขาได้ยินหมดแล้ว ดี แค่ไหนแล้วเขาไม่วิ่งไปตบปากเอาเนี่ย

“ฉันไม่รู้เหมือนกันค่ะ แต่วันนี้พี่เบสไม่ได้มาเรียนนี่นา สงสัยมีงานมากกว่าเลยไม่ได้มาเรียนล่ะมั้ง

แหมะยังมีเด็กคนอื่นที่มีเหตุผลมากกว่าไอ้เด็กคนแรกอีก ดีแล้วที่เด็กมันยังคิดได้ถ้าคิดไม่ได้กันหมดนี่ไม่ควรมาเรียนที่นี่ หรอกนะ ฉันเดินไปต่อแล้วก็ไม่ได้สนใจเด็กพวกนั้นอีก ฉันเดิน ขึ้นไปเข้าห้องเรียน ในตอนเช้าทุกๆวันคนอื่นก็ยังไม่มาเหมือน เดิม ฉันเดินไปนั่งที่นั่งของฉันแต่วันนี้ที่ดูผิดแปลกไปก็คือโต๊ะ ของฉันนี่แหละ นี่มาก้าวก่ายถึงโต๊ะเรียนของฉันกันแล้วหรอ เลิกยุ่งกับเบสซะไม่อย่างนั้นฉันไม่เอาเธอไว้แน่ อะไรของคน พวกนี้เนี่ยจะให้ฉันเลิกยุ่งกับคนที่ฉันรักมันคงจะยากมากเลย นะ คิดยังไงถึงอยากจะได้ของคนอื่นกัน ฉันไม่เข้าใจคนพวกนี้ จริงๆเลย เคยเห็นฉันยุ่งกับพี่เบสก่อนกันไหมก็ไม่เคย ถ้าอยากจะให้เลิกยุ่งทำไมไม่ไปบอกกับพี่เบสเขาเองล่ะมาบอกกับฉัน ทำไม เมื่อยัยพวกนี้จริงๆเลยที่ชอบผู้ชายแล้วมาว่าผู้หญิงที่เป็น แฟนเขาเนี่ย ฉันเอาไม้บรรทัดเหล็กขึ้นมาจากกระเป๋าของตัว เองก่อนจะเริ่มขูดลิขิตออกจากโต๊ะ ไม่เคยมีวันให้ฉันพักเลย หรอวันที่ทุกคนเข้าใจในตัวของฉันบ้าง ฉันพูดมันจนเสร็จ เรียบร้อย กริ่ง กริ่ง กริ่ง เสียงเตือนว่าจะต้องเข้าแถวได้ดัง ขึ้น เสร็จก่อนเข้าแถวก็ถือว่าดีแล้วล่ะ ฉันเดินลงไปเข้าแถวใน ระหว่างที่กำลังเข้าแถวอยู่ก็รู้สึกเหมือนมีใครกำลังมองมาทาง ฉันอยู่ข้างหลังฉัน ฉันเลยหันไปดู แต่ก็ไม่ได้มีใครมองอะไรฉัน อยู่ก็มีแต่คนเข้าแถวกันนั่นแหละ ระเทศไทย.. ความรู้สึก มันกลับมาบางครั้งบางคราว อะไรที่ทำให้ฉันรู้สึกแบบนี้กันนะ ใจคอไม่ดีเลย เมื่อทำความเคารพกันเสร็จพวกเราก็ขึ้นไป เรียนกัน ในระหว่างที่เรียนฉันนั่งติดหน้าต่างแล้วตรงข้ามกับ ตึกของเราก็จะเป็นตึกของรุ่นพี่อีกฝั่ง รู้สึกแปลกๆมากเหมือนมี คนมองมาอยู่ตลอดตรงทางตึกนั้น ฉันจะพยายามไม่สนใจและ คิดบวกว่าฉันคงคิดมากไปเอง กลิ้ง กลิ้ง กลิ้ง เวลาพักเที่ยง ได้มาถึง ฉันเดินลงมาจากตึกแล้วไปที่โรงอาหาร เมื่อถึงโรง อาหารความรู้สึกมันก็มาอีกครั้ง ฉันว่ามันไม่ใช่แค่ความรู้สึก ธรรมดาแล้วล่ะ เหมือนมีคนมองจริงๆแล้วตอนนี้ขนลุกไปทั้งตัว เลย ฉันเดินไปสั่งข้าวส่งน้ำแล้วก็เดินมานั่งตรงโต๊ะที่ว่างๆ วันนี้ ไม่มีพี่เบสอยู่ก็คิดถึงอยู่เหมือนกันนะ ไม่มีใครมากวนใจฉันเลย วันนี้ นั่นมันมาอีกแล้วฉันไม่ไหวแล้วนะหันไปดูเลยก็แล้วกันสายตาแปลกๆ ใส่ฉันนั่นเอง เธอมองฉันด้วยสายตาที่ไม่ชอบ หน้าแบบว่าโกรธเคืองอะไรฉันอยู่ แต่วันนี้เธอมองฉันทั้งวันเลย นะไม่เหมือนแต่ก่อนที่มองแล้วก็ไม่มองอีกเลย มันก็เลยทำให้ ฉันมีความรู้สึกแปลกๆอยู่ตลอดเวลาแบบนี้นี่เอง ฉันรีบกินข้าว แล้วรีบเดินออกไปจากตรงนั้นทันทีเลยจะได้ไม่ต้องรู้สึกแบบนี้ อีก ความรู้สึกที่มันไม่ดีแบบนี้ใครล่ะจะไปอยากรู้สึก อยู่ๆฉันก็ รู้สึกปวดขึ้นมาทันใด ฉันเลยหาห้องน้ำเดินไปแถวนี้น่าจะมี ห้องน้ำอยู่ตรงตึกพี่เบสนะ ฉันเดินไปเข้าห้องน้ำที่ตึกพี่เบสข้าง ล่างตึกจะมีห้องน้ำอยู่ ฉันเดินเข้าไปแล้วก็เข้าไปปล่อยทุกข์ อย่างไว รู้สึกโล่งสบายมากตอนนี้ ในระหว่างที่ฉันกำลังทำกิจ ส่วนตัวของตัวเองนั้นก็มีผู้หญิงกลุ่มหนึ่งได้เข้ามาในห้องน้ำ

“นี่แกฉันว่านะแก น้องอ้วนๆที่เป็นแฟนเบสน้องเขาก็ไม่ใช่ ว่าไม่ดีนะ ไม่งั้นเบสจะชอบน้องเขาขนาดนั้นหรอ

เจออีกแล้วหรอ โรงเรียนนี้มันเป็นอะไรกับเรื่องของฉันกัน เนี่ย ฉันดูไม่เข้ากันกับพี่เบสขนาดนั้นเลยหรอ ทำไมต้องอยาก จะกรีดกันคนที่เขารักกันด้วยล่ะ

“ฉันไม่สนหรอกนะวิว ฉันสนแค่ว่าจะทำยังไงให้ยัยเด็ก อ้วนนั่นเลิกกับเบสดี”

เสียงพี่ลิ้งนี่กินข้าวเสร็จกันแล้วหรอ อะไรที่ว่าให้ฉันเลิก กับพี่เบส

“แล้วแกจะทำยังไงกับน้องล่ะ?” พี่วิวถามพี่ทิ้งไปแต่รู้สึก ว่าพี่ทิ้งจะไม่ได้พูดอะไรมีแต่หัวเราะออกมาอย่างเดียวเลย
“ฮ่า ฮ่า ฉันมีแผนอยู่แล้วล่ะ แผนที่จะทำให้เบสกับเด็กนั่น เลิกกันได้ชัวร์ๆเลย แต่มันคงจะไม่เป็นวันนี้หรอก ฉันขอเวลา ทำแผนนานหน่อย แต่แกไม่ต้องห่วงฉันหรอกนะฉันจัดการได้ แน่นอน”

แผนการที่ว่ามันคืออะไรกันนะที่บอกว่าฉันกับพี่เขาจะเลิก ชัวร์ๆ แต่แผนที่ว่าฉันจะพยายามจะรับมือกับมันนะ เพราะฉันก็ รู้อะไรบางอย่างก็ตอนนี้แหละ = = //กริ๊ง กริ้ง//

“โอ๊ะรีบไปเรียนกันเถอะเดี๋ยวสายเอา” คนหนึ่งในกลุ่มได้ พูดขึ้นก่อนทุกคนจะเดินออกไปจากห้องน้ำกัน ฉันถอนหายใจ ออกมาก่อนจะเดินออกจากประตูห้องน้ำ เมื่อเห็นว่าไม่มีใครอยู่ แถวๆนี้แล้ว ฉันก็เดินออกมาจากห้องน้ำแล้วก็วิ่งออกมาเข้าตึก ของตัวเอง ในระหว่างที่ฉันเรียนอยู่มันก็ทำให้ฉันคิดมากใน เรื่องที่พี่นิ่งพูด พี่นิ่งเขาจะทำอะไรของเขากันแน่นะ แต่ตอนนี้ ช่างมันเถอะต้องเรียนก่อน เวลาผ่านไปจนกระทั่งถึงเวลาเลิก เรียน เมื่อเลิกเรียนฉันก็เก็บกระเป๋าแล้วก็เดินลงมาจากตึก แต่ ข้างหน้าประตูก็มีกระดาษบางอย่างเขียนไว้ [ เดินลงมาส 1 ทำไมมันมีตรงนี้ล่ะฉันหยิบกระดาษที่แปะไว้ตรงพื้นขึ้นมา ปอย เดินลงมาเลยไม่ต้องมาคงรู้นะว่ากำลังคิดอะไรอยู่ โอ้ถึงฉันเอง หรอแล้วจะให้ฉันเดินไปไหนกันนะ เดี๋ยวลงมาเลย เดี๋ยวลง ไป..เลี้ยวแล้ว มองขึ้นมาสิ ฉันมองขึ้นไปตามที่กระดาษมัน บอก เสียงเพลงได้ดังขึ้นมา เสียงกีตาร์ใครเป็นคนดีดกันนะ ที่ นี่มันสวยจังเลยม่านสีชมพูที่แวววับไปด้วยแสงที่ส่องตามผ้าไป ในตอนนี้มันก็มืดแล้วล่ะก็เลยค่อนข้างจะสวยงาม
“ฉันรักเธอมาก รักเธอจนสุดหัวใจ รักเธอไม่ว่าจะนานแค่ ไหน ฉันจะรักเธอจนตลอดไป”

เสียงใครบางคนร้องเพลงออกมาพร้อมกับเสียงกีตาร์ที่ เข้ากันสุดๆไปเลย มีคนเดินขึ้นบันไดมาพร้อมกับดอกไม้ เดิน มาหาฉันด้วยชุดสูทที่น่าจะราคาแพงมากเลยแหละ

“อันนี้สำหรับคุณผู้หญิงนะครับ แล้วเขาก็ยื่นดอกไม้มา ให้กับฉัน ฉันรับมันไว้แล้วมองตามเสียงเพลงต่อไป “เดินลงตามผมมาเลยครับ มีคนต้องการที่จะพบกับคุณนะ

ครับ”

ใครกันที่อยากจะพบฉัน ฉันเดินลงไปจากตรงนี้ เสียง เพลงได้ดังขึ้นมาเรื่อยๆ และดังขึ้นมากๆ ทุกอย่างหยุดลงจากที่ กำลังมืดๆอยู่ แสงก็ได้จ้าขึ้นมามีซุ้มๆหนึ่งพร้อมกับเสียงเพลง อยู่ที่นั่น ฉันเดินเข้าไปเรื่อยๆ แล้วลองเปิดผ้าสีขาวออก สิ่งที่ฉัน เห็นทำให้ฉันตกใจนิดหน่อย

“ฉันรักเธอมากมายแค่ไหนเธอรู้บ้างไหม…น้องปอยของ

พี่เบสกำลังดีดกีตาร์อยู่ข้างหน้าของฉัน ทำไมพี่เขามาอยู่ ที่นี่ได้ล่ะ พี่เขาเดินมาหาฉันแล้วก็จับมือของฉันเอาไว้

“สุขสันวันวาเลนไทน์นะครับสุดที่รักของผม” แล้วเขาก็ยื่น กล่องอะไรบางอย่างให้กับฉัน

“นี่มันกล่องอะไรหรอคะ” ฉันถามไปเพราะว่าอยากรู้ว่าในกล่องนั้นมันกล่องอะไร

“อยากเห็นแล้วอะ เดี๋ยวเปิดให้ดู” พี่เบสหันกล่องไปทาง

พี่เขาแล้วเปิดออกมา นั่นมัน…. “สร้อย ราคาหลายล้านมากเลยนะ พี่ให้น้องเป็นของ ขวัญวันวาเลนไทน์” สร้อยราคาหลายล้านพระเจ้าหลายล้าน

เลยนะ พี่เขาเอาของแบบนี้มาให้กับฉันหรอ

“มันเยอะไปสำหรับบ่อยนะปอยไม่กล้ารับไว้เลย” ฉันพูด ขึ้นด้วยความเกรงใจ แต่พี่เขาก็หันฉันให้หมุนไปด้านหลัง ทุก คนต่างมองพวกเรากันสำหรับคนที่ยังอยู่ที่โรงเรียนนะ

“อันนี้เป็นสร้อยคู่ของเราสองคนนะ รับไปเถอะเอาไว้เป็น ความทรงจำระหว่างเราสองคน

พี่เขาหยิบสร้อยขึ้นมาแล้วเอามืออ้อมมาโอบฉันเอาไว้ ก่อนจะดึงสร้อยมาไว้ตรงคอแล้วใส่ให้กับฉัน มันสวยมากเลย สร้อยอันนี้ฉันชอบมันมากๆ พี่เขาจับมาที่แก้มของฉันแล้วก็ กอดฉันจากข้างหลัง

“ทุกคนมองหมดแล้วนะพี่เบสแหมะอายเขา” ฉันอายจริงๆ นะก็ทุกคนกำลังมองพวกเราอยู่ ทำแบบนี้ฉันก็อายเป็นเหมือน

กัน

“ไม่เป็นอะไรหรอกนะพี่ก็อยากให้โลกรู้นั่นแหละว่าพี่มี แฟนที่น่ารักแบบนี้ เขาจะมองเรายังไงก็ช่างแต่ว่าพี่มองเราใน แบบที่มอง”
บ้ามากเลยนะผู้ชายคนนี้เนี่ย แต่ฉันก็รักพี่เขาเพราะแบบนี้ วันแห่งความสุขก็ได้ผ่านไปอีกวัน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ