รักซ่อนร้าย นายซาตานรักผิดคน

บทที่010 เตรียมตัวสำหรับสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้



บทที่010 เตรียมตัวสำหรับสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้

ตอนที่หวังอี้หลินได้รับสายจากเว่ยเหออีกครั้ง แล้วได้ฟังเรื่องราว ที่เกิดขึ้นที่เขาเล่าให้ฟัง หัวใจที่หวาดกลัวสุดท้ายก็กลับมาเป็น แบบเดิม

เธอกลัวว่าฉันจะพูดความจริงต่อหน้าคนของตระกูล ถ้ายัง งั้นเรื่องที่ตัวเองโกหกไปก็จะพังทลาย

แต่ว่าเรื่องแบบนั้นไม่ได้เกิดขึ้น

ตอนนี้หวังอี้หลินมั่นใจว่า ฉันไม่รู้เลยว่าคนที่เธอช่วยเหลือ คืนนั้นคือใคร!

ในที่สุดเธอก็ไม่ต้องกังวลว่าเรื่องที่ตัวเองโกหกไปจะถูก

เปิดโปงแล้ว! รอให้ฉินซูใสหัวออกไปจากตระกูลเมื่อไหร่ เธอก็

จะได้เป็นคุณนายหญิงของตระกูลฉู่!

หวังอี้หลินรู้สึกมั่นใจ แต่ว่าก็เสแสร้งทำเป็นพูดอย่างไม่ได้รับ ความเป็นธรรม “แล้วถ้ายังงั้นคุณชายจะแต่งงานกับฉันเมื่อไหร่ ล่ะคะ? พอฉันคิดว่าฉันซูจะแต่งงานกับคุณชายแทนฉัน ฉันก็ รู้สึกไม่สบายใจเลย”

เว่ยเหอ : “คุณวางใจเถอะครับ คุณชายไม่ได้ชอบฉินซู ใช่ เวลาไม่นานเดี๋ยวก็ไล่เธอออกไปแล้ว”

หลังจากพูดจบ ก็พูดเสริมว่า “คุณชายสั่งมา ว่าถ้าเกิดว่าคุณ ต้องการอะไร ให้บอกได้เลยครับ”
หวังอี้หลินดีใจมาก เธอกลอกตา “ถ้ายังงั้น สร้อยคอที่ คุณชายให้ฉันมา ฉันขอคืนได้ไหมคะ? ฉันชอบมากเลย

ถ้าเกิดว่าฉันซูเห็นสร้อยเส้นนั้น แล้วนึกถึงเรื่องคืนนั้นขึ้นมาได้ ต้องไม่ดีแน่

เธอจําเป็นต้องป้องกันความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นไว้ก่อน

“เรื่องนี้..…….

เว่ยเหอรู้สึกว่าความต้องการของหวังอี้หลินข้อนี้นั้นมันแปลก มากเลย แต่ว่าพอย้อนคิดอีกที คุณชายกับฉินซูมีทะเบียนสมรส กันแล้ว เธอต้องรู้สึกไม่ปลอดภัยอย่างแน่ ก็เลยอยากได้สร้อย เส้นนั้นคืน”

อย่างไรก็ตาม สร้อยเส้นนั้นก็เป็นตัวแทนที่มีความหมายของ การที่คุณชายรับปาก และเป็นความหมายแสดงตัวตนเป็น คุณนายหญิงของตระกูล

เว่ยเหอคิดแล้วพูดว่า “สร้อยอยู่ที่คุณผู้หญิง เดี๋ยวผมไปขอคำ แนะนำจากคุณชายก่อน แล้วจะเอาสร้อยเส้นนั้นส่งไปให้คุณ

“ขอบคุณมากเลยนะคะ”

หวังอี้หลินวางสายอย่างมีความสุข

พ่อแม่ของเธอแอบฟังอยู่ข้างๆ

“ยัยฉินซูที่ไร้ยางอายนั่น กลับขโมยหลักฐานของลูกสาวฉัน แล้ววิ่งไปถึงตระกูลเพื่อสวมรอย! ลูกสาวของฉันเห็นว่าเธอน่าสงสาร ก็เลยเป็นเพื่อนกับเธอมาตลอด เด็กบ้านนอกที่ไม่มีพ่อมี แม่นี่ช่างมีความคิดที่ไม่ชอบธรรมจริงๆ จิตใจโฉดชั่วเหมือน หมาป่า!”

จางเหวินเท้าเอวพร้อมกับด่า

หวังเจิ้นหัวเองก็อารมณ์เสียเหมือนกัน “ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเธอ ยื่นเท้าเข้ามา ตอนนี้ฉันก็จะได้เป็นพ่อตาของคุณชายฉู่แล้ว! หึ อี้ หลิน ต่อไปลูกอยู่ให้ห่างฉินซูเท่าไหร่ยิ่งดี!”

“ใช่” จางเหวินเห็นด้วย

คู่สามีภรรยาไม่ได้รู้เลยว่า ฉินซูนั่นแหละที่เป็นคุณนายของ ตระกูล และลูกสาวของตัวเองต่างหากที่เป็นคนแอบอ้าง หวังอี้หลินฟังที่พวกเขาพูด แล้วก็ตกอยู่ในห้วงความคิด

แค่ฉินซูอยู่ตระกูลฉู่ ตั้งแต่ต้นจนจบเธอก็เป็นเหมือนระเบิด เวลาที่ไม่สามารถคาดเดาได้ เธอควรนึกหาวิธีทำให้เธอไปอยู่ ไกลหน่อยดีกว่า

ในวิลล่า

ฉินซูปิดหน้าค้นหาในโทรศัพท์ของตัวเอง เธอไม่สามารถสงบ จิตใจที่กำลังช็อคของตัวเองได้

เธอรู้ว่าตระกูลมีเงิน แต่ไม่คิดว่าจะรวยขนาดนี้

ร่ำรวยที่สุดในจีน ด้วยทรัพย์สินหลายล้านล้าน
กิจการที่เกี่ยวข้องมีการแพทย์ วงการบันเทิง อสังหาริมทรัพย์ เครื่องจักร……สาขาย่อยของบริษัทกระจายอยู่ทั่วโลก

มีข่าวลือว่าตระกูล ยังมีความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับองค์กร อุตสาหกรรมทางทหารในประเทศ

ไปชั่วครอบครัวที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้เข้า เธอยังถอนตัวกลับได้อยู่

อีกเหรอ?

ระหว่างที่เป็นกังวลอยู่นั้น ความโกรธก็พลุ่งพล่านออกมา

พ่อแม่บุญธรรมของเธอเสี่ยงส่งเธอไปตระกูล พวกเขาไม่ได้ คิดเลยว่าการไปทําผิดต่อตระกูลเข้า เธอต้องเจอกับจุดจบแบบ ไหน

พวกเขาผลักเธอเข้าไปในหลุมไฟ

เธอถูกพามาอยู่ที่นี่ตอนอายุ15ขวบ ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันห้าปี ไม่มีความรักหรือความรู้สึกของคนในครอบครัวเลย เธอเห็น พวกเขาเป็นคนในครอบครัว แต่ว่าพวกเขาเห็นเธอเป็นอะไรกัน?

ความโกรธวนเวียนอยู่ในอกของเธอ และวินาทีถัดมา เธอก็

โทรหาแม่บุญธรรมของเธอ โจวซือฉัน

พอรับสาย ก็มีเสียงเซอร์ไพรส์และรีบร้อนของแม่บุญธรรมดัง ขึ้น “ฉินซู ก่อนหน้านี้ฉันประเมินเธอไป ไม่คิดเลยว่าเธอจะ ทำได้! ตอนนี้เธอเป็นคุณนายหญิงของตระกูลแล้ว อย่าลืม ความรักที่ฉันกับพ่อของเธอมอบให้นะ!”

ความรักงั้นเหรอ?
ฉินซูสีหน้าเย็นชา ดวงตาเต็มไปด้วยการถากถาง

“ใช้สี อย่าลืมเอาเงินสินสอดมาด้วย บริษัทของพ่อเธอกำลัง ต้องการความช่วยเหลือ

“เงินสินสอดอะไรกัน?

โจวซือฉันพูดอย่างเป็นธรรมชาติ “ตระกูลแต่งงานเอาลูก สะใภ้เข้าบ้าน ต้องให้สินสอดอย่างแน่นอน ไม่ใช่สองสามพัน แต่เป็นหลายล้านใช่ไหมล่ะ? อย่ามาแกล้งโง่กับฉันนะ”

พอพูดจบ น้ำเสียงของเธอก็เปลี่ยนเป็นสงสัย “เธอคงไม่ได้ อยากจะเก็บเงินนั้นไว้คนเดียวใช่ไหม? ฉันจะบอกอะไรให้ ถ้า เกิดว่าเธอไม่เอาเงินมา ฉันจะหยุดการรักษาของยาเธอทันที พอได้ยินคำขู่ของ โจวซือฉัน ใจของฉันก็หนาวเหน็บขึ้นมา เธอเข้าใจแล้วว่าตัวเองก็เป็นแค่เครื่องมือเพื่อแลกกับเงิน “ตระกูลฉ่รู้แล้วว่าหนูเป็นตัวแอบอ้าง เกือบจะส่งหนูไปสถานี ตำรวจ แม่ยังมาคิดเรื่องเงินสินสอดอีกงั้นเหรอ?”

เธอขึ้นเสียงและเยาะเย้ย “พ่อกับแม่ส่งหนูมาที่ตระกูล แล้ว ทำไมไม่ถามเรื่องสินสอดมาเลยล่ะ? หรือเพราะว่าไม่กล้าถาม กลัวว่าสิ่งต่างๆจะถูกเปิดเผย และรับความโกรธแค้นของตระกูล ฉู่ไม่ไหวล่ะสิ!

พอถูกฉินซูเปิดโปง โจวซือฉันก็ตกอยู่ในสภาพวิตกกังวล เธอกลับมามั่นคงเหมือนเดิมอย่างรวดเร็ว “เธอไม่ต้องมาทำให้ฉันกลัว ฉันเห็นข่าวแล้ว ถ้าเกิดว่าตระกูล รู้ว่าเธอเป็นคน แอบอ้าง แล้วทำไมถึงยังปล่อยเธอไว้อยู่ล่ะ? ฉันจะบอกอะไรให้ นะ ถ้าเกิดว่าเธอไม่เอาเงินกลับมา ย่าของเธอก็รอความตายได้ เลย!”

หลังจากพูดจบ เธอก็ตัดสายไป

ฉินซูกุม โทรศัพท์แน่น รู้สึกว่าในอกของตัวเองมีกองไฟอยู่ แต่ หาทางออกไม่ได้

ถึงแม้ว่าจนถึงตอนนี้พ่อบุญธรรมยังไม่ได้พูดอะไรสักคำ แต่ ฉินซูเชื่อว่า เรื่องนี้ไม่ใช่ฝีมือของโจวซือฉันเพียงคนเดียวอย่าง แน่นอน!

เธอเป็นเด็กกําพร้าไม่มีพ่อมีแม่ ดังนั้นพ่อแม่บุญธรรมจะใช้ ประโยชน์จากเธอช่างเถอะ

แต่ว่าย่าของเธอล่ะ? เป็นญาติทางสายเลือดของพวกเขานะ

ทําไมพวกเขาถึงได้โหดร้ายถึงขั้นเอาชีวิตของย่ามาขู่เธอ?

ไม่มีใครแคร์ชีวิตของย่า แต่ว่าเธอแคร์!

ฉินซูพยายามกดความโกรธในใจของตัวเอง ทำให้ตัวเอง

สงบลง

สิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้ก็คือไปโรงพยาบาลเพื่อยืนยันอาการ ของย่า

แต่ว่าหลินเฉินบอกให้เธอรออยู่ที่นี่
ฉันซู ลังเลอยู่สามวินาที แล้วก็ลุกขึ้นเดินออกไปข้างนอก

เพื่อย่าแล้ว เธอรอไม่ได้

พึ่งจะเดินไปถึงหน้าประตู ก็ต้องถอยกลับมาพร้อมกับหน้า คร่าเครียด

ถ้าเกิดว่าไม่ได้มองผิด หลายคนที่ด้อมๆมองๆอยู่ไกลๆ ถือ

กล้องอยู่นั้น คือพวกนักข่าว

พอนึกถึงภาพที่ถูกนักข่าวล้อมตอนที่อยู่หน้าตระกูล ฉินซูก ไม่กล้าทําอะไรผลีผลาม

เธอเดินไปเดินมาในห้องนั่งเล่น คิดว่าจะออกไปได้ยังไง

ถ้าเกิดว่าสามารถติดต่อบอกให้หลินเฉินมาจัดการพวกนัก ข่าวได้ นั่นมันก็จะง่ายขึ้นมาก แต่ว่าเมื่อเขาไม่ได้ทิ้งช่อง ทางการติดต่อไว้ให้เธอเลย

ตอนนี้ เธอทำได้แค่หาวิธีด้วยตัวเองเพียงเท่านั้น

ฉินซูหยุดเดิน แล้วก็หยิบโทรศัพท์ออกมา ไม่นาน ก็มีคนส่งของมาถึง

หลังจากฉินซูเซ็นชื่อรับของเสร็จแล้ว ก็รีบหมุนตัวกลับทันที

ผู้สื่อข่าวนั่งยองๆ ใต้ต้นไม้เพื่อรอถ่ายภาพการเคลื่อนไหวของ คุณนายหญิงแห่งตระกูลในวิลล่า

นั่งยองๆอยู่นาน ก็ถ่ายได้แค่รูปที่เธอออกมารับพัสดุ แล้วก็ ภาพที่แม่บ้านทําความสะอาดวิลล่าเสร็จแล้วก็กลับไป
นอกเหนือจากนั้น ก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ

ในตอนนี้เอง ฉันก็มาถึงด้านนอกของโรงพยาบาลแล้ว เธอแต่งตัวเป็นพนักงานทำความสะอาด ถักเปีย สวมผ้าโพก หัวสีน้ำเงิน สวมผ้ากันเปื้อนสีเทา และรองเท้าผ้าสีดำ

เสื้อผ้าพวกนี้ เธอสั่งซื้อมาจากอินเทอร์เน็ต เธอใช้ชุดนี้หลอก

สายตานักข่าวได้สําเร็จ

ยังไงก็ไม่มีใครนึกถึงว่าคุณนายหญิงของตระกูล คือคน ทําความสะอาด

โรงพยาบาล ใจกลางเมือง

ฉินซูมองไปที่ตัวอักษรขนาดใหญ่ และสูดลมหายใจเข้าลึกๆ

ย่าของเธอรักษาอยู่ที่นี่ แต่ว่าในขณะเดียวกัน นี่ก็เป็นที่ที่ ไอ้ผู้ชายกากเดนอย่างหลินมิ่งฟานทำงานอยู่เหมือนกัน

ตอนนี้เธอไม่อยากเจอเขาเลยแม้แต่นิดเดียว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ