รสรักล่าสวาท

บทที่ 3 สิ่งที่กำลังเกิดขึ้น…มีฉันกับเธอเท่านั้นที่รู้ (3)



บทที่ 3 สิ่งที่กำลังเกิดขึ้น…มีฉันกับเธอเท่านั้นที่รู้ (3)

“อ๊ะ!”

ไม่เพียงเท่านั้น ปลายลิ้นร้อนยังควานไปทั่วตักตวงน้ำทิพย์จาก กายเธอไม่หยุด จนเธอสั่นพร่าระเบิดพร่างพราวในที่สุด

ร่างเพรียวล้มตัวลงนอนบนเตียงหอบหายใจหนักหน่วง นัยน์ตา สีนิลร้อนแรงจ้องมองเขาอย่างยั่วเย้า โดยไม่รู้เลยว่าแค่นี้เจ้าของ กายแกร่งก็ร้อนจนแทบจะระเบิดอยู่แล้ว ฟองซัวล์สบถเสียงต่ำใน ลำคอ ขณะจรดปลายจมูกสูดดมกลิ่นกายสาวที่หอมหวานรัญจวน ใจ กลีบกุหลาบแดงหลั่งหยาดน้ำทิพย์ออกมาเรื่อย ๆ เขาสัมผัส แตะต้องด้วยปลายลิ้น ก่อนจะดื่มกินด้วยความกระหาย ยิ่งรุกราน เขาก็ยิ่งต้องการสัมผัสเธอให้มากขึ้น…

อยากรุกล้ำเข้าไปด้านใน อยากรู้นักว่าจะทำให้เขารู้สึกดีแค่ไหน และเขาก็ไม่รีรอที่จะทำตามใจตัวเองเสียด้วยสิ

เสียงกรีดร้องดังขึ้นยาวนาน เมื่อเขาล่วงล้ำเข้าไปในพื้นที่ส่วน ตัว เธอเร่าร้อนและคับแน่น จนเขาต้องพาตัวเองเข้าไปรวดเดียวทำลายเหยื่อพรหมจรรย์จนขาดสะบั้นหลอมรวมเป็น หนึ่งเดียว ทว่า…นั่นกลับต้องแลกมาด้วยหยาดน้ำตาของอีกคน ชาลิตารู้สึกเจ็บปวดตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เจ็บเหมือนร่างกาย ถูกจับแยกออกจากกัน

“อย่าเกร็ง อีกเดี๋ยวเธอก็หายเจ็บแล้ว…” ฟองซัวล์ที่ไม่เคยปลอบ ใครหรือใจเย็นกับเรื่องแบบนี้มาก่อน แต่พอเห็นน้ำตาใสไหลอาบ สองข้างแก้ม เขาก็ทนใจร้ายไม่ลงโน้มตัวลงไปกระซิบชิดเรียว ปากอิ่ม โดยไม่รอให้อีกฝ่ายได้พูดอะไร เขาก็ประทับริมฝีปากลง ไปดูดกลืนเสียงร้อง ทันทีที่เขาขยับกายรุกรานเธอต่อ

“อื้อ!..อื้อ!”

ฟองซัวส์รู้ดีว่าควรต้องจัดการอย่างไร สองมือหนาลงมือปรน เปรอเธอทุกอย่าง ทั้งลูบไล้ทั้งนวดคลึงสัมผัสทั้งหนักเบาสลับ กันให้เธอได้ผ่อนคลาย เตรียมตัวรอรับศึกใหญ่ที่กำลังจะมาเยือน

เมื่อเห็นว่าร่างเพรียวเริ่มมีอารมณ์ร่วมตอบสนองกลับมาบ้างแล้ว ร่างสูงก็เริ่มขยับเรือนร่างเนิบนาบ ทว่าหนักแน่นในทุกท่วงท่า จนร่างเพรียวหยุดร้องไห้ เปลี่ยนจากเสียงสะอื้นเป็นเสียงคราง หวานด้วยความเสียวซ่านแทน ขณะที่เขาก็คํารามเสียงต่ผสาน กับเสียงคราง เร่งเร้าจังหวะให้รัวเร็วขึ้นรับรู้ถึงความร้อนด้านในที่ บีบรัดเขาแน่นเต้นระริกทุกครั้งที่เขาเข้าหา

ชาลิดาร้องครางไม่เป็นศัพท์รู้แต่ว่าตอนนี้เธอทรมาน จนต้อง เปล่งเสียงออกมาให้ดัง ๆ ระบายความเสียวซ่านที่มากระจุกรวม กันในจุดเดียว จุดที่ถูกความแกร่งร้อนกระแทกกระทั้นเข้ามา มัน ร้อนระอุและเธอรับรู้ถึงรูปร่างมันได้อย่างชัดเจน แล้วก็ไม่รู้ว่าเขา ใจดีเกินไปหรือเปล่าที่ไม่ทอดทิ้งทรวงอกของเธอ ยังคงใจดีช่วย บีบเคล้นจนเป็นรอยแดงเถือกปรากฏรอยนิ้วมือให้ได้เห็น

“อ่า…เธอกำลังจะฆ่าฉันยายแม่มด

“คน…บ้า” เธอเองก็กัดฟันกรอดต่อว่าเขากลับไปเช่นกัน

“ฉันจะบ้ามากกว่านี้อีก ถ้าเธอยังรัดฉันแน่นแบบนี้ อยากจะ สัมผัสฉันไหม”

ทันทีที่ร่างสูงเอ่ยถาม ดวงตาคู่สวยก็เปล่งประกายวาววับรู้สึกตื่น เต้นขึ้นมา ชาลิดาแทบไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเธอพยักหน้าไปตั้งแต่เมื่อ ไหร่ มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ข้อมือถูกปล่อยให้เป็นอิสระ แล้วเธอ ก็ไม่รีรอที่จะกางกรงเล็บตะกุยแผ่นหลังเขาอย่างระบายอารมณ์

“ฉันเจ็บนะยายตัวดี เธอเป็นแมวหรือไง!” เขาต่อว่าน้าเสียงไม่ จริงจังนัก ขณะขยับความแกร่งร้อนเข้าออกในกายเธอเร็วขึ้น แรงขึ้นตามอารมณ์ปรารถนา ไฟพิศวาสโหมกระพือลุกพริบ แทบแผดเผาพวกเขาให้มอดไหม้ไปด้วยกัน

“โอ๊ย!! ยายแม่มด! เธอกล้ากัดฉันเหรอ!” เสียงทุ้มคำรามลั่น เมื่อ เจอฤทธิ์แม่ตัวดีกัดเข้าให้ที่คอ แถมยังกัดเสียแรงจนได้กลิ่นคาว เลือด คงเพราะเขาทำให้เธอได้เลือด เขาถึงได้เสียเลือดให้กับ เธอ

หึ ร้ายไม่เบา ฉันจะเล่นงานให้หนักเลย

เขาคิดอย่างหมายมาดเร่งรุกจังหวะเข้าออกกายสาวรุนแรงขึ้น ร้วเร็วจนชาลิดาครวญครางซ้าแล้วซ้ำเล่า ปล่อยให้ธรรมชาติกล ไกลของร่างกายมนุษย์สอนเธอให้เรียนรู้ที่จะร่วมรักกับบุรุษเพศ ตอบสนองกลับไปอย่างเร่าร้อนไม่แพ้กัน แม้ว่าสรีระจะต่างกัน แต่ กลับสอดคล้องกันได้อย่างลงตัว

เขาเปรียบเสมือนอาวุธทำลายล้างขนาดใหญ่ที่กำลังยิง กระสุนใส่ร่างเธอไม่ยั้ง แต่กลับไร้วี่แววของความเจ็บ มีแต่ความ วาบหวาม เสียวซ่านที่กำลังเล่นงาน

เขาหล่อเหลาราวเทพบุตร แต่กลับเลือดเย็นไม่ต่างจากซาตาน ในช่วงที่เธอขอร้องให้เขาหยุด เขากลับไม่สนใจเดินหน้าต่อ แม้ว่าจะรู้ว่าเธอเจ็บแทบขาดใจ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็คือคนแรกที่ สอนเธอให้รู้จักกับเรื่องนี้
“ร้องครางให้ดัง ๆ ปลดปล่อยตัวตนของเธอออกมา แล้วเธอจะ รู้สึกดีขึ้น ลองดู” ฟองซัวล์ขยับเรือนกายให้ช้าลงพลางจ้องมอง ปฏิกิริยาของอีกคน ชาลิตาที่ลำคอแห้งผากเพราะกรีดร้องมาได้ พักใหญ่ถึงกับวัดค้อนตาด จ้องเขม็งร่างสูง

นี่กะจะให้เธอร้องจนคอแตกไปเลยหรือไง!

“อึก…..คุณฉันเจ็บ…พอก่อน…” เสียงหวานเอ่ยขึ้นเบา ๆ ขณะที่ ทาบฝ่ามือลูบไล้แผ่นอกกว้างเล่น ท่าทางช่างสวนทางเหลือเกิน แม่ตัวดี!

ฟองซัวล์คิดในใจ ไม่คิดจะตอบโต้กลับไปให้เสียเวลา ตัดสินใจ โน้มหน้าลงไปจูบซับเหงื่อ ใบหน้าสวย ขณะที่เริ่มขยับตัวตน ของตัวเองอีกครั้ง จนชาลิตาที่หลงเคลิบเคลิ้มถึงกับผวาเฮือก กอดรัดร่างสูงแน่นเกร็งร่างรับเบา

จังหวะรักของทั้งสองคนยังคงดำเนินต่อไปยาวนานนับชั่วโมง และดูเหมือนว่าจะไม่มีใครยอมใคร อาจเป็นเพราะฤทธิ์ยาที่ทำให้ เธอกลายเป็นนางแมวยั่วสวาทเขาให้หัวปั่น อยากกลืนกินเธอ แล้วซ้ำเล่า แม้จะรู้ว่าเธอยังใหม่กับเรื่องนี้ก็ตาม

เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังแข่งกับเสียงโยกไหวของเตียง เสียง ครางหวานผสานกับเสียงครางตาดังระงมไปทั่วห้อง บทเพลงอัน เร่าร้อนทีบรรเลงกันอย่างหนักหน่วงแทบจะแผดเผาพวกเขาให้มอดไหม้ หลงระเริงอยู่ในวังวนพิศวาสที่พร่า ผลาญสติให้มอดไหม้ ปลุกสัญชาตญาณดิบในกายให้ลุกโชน ฟาดฟันกันบนเตียง

และแล้วร่างของพวกเขาก็กระตุกเกร็ง เมื่ออารมณ์ปรารถนาถึง จุดสูงสุด ระเบิดพร่างปลดปล่อยคลื่นความหฤหรรษ์ออกมาใส่กัน และกัน

“…แฮ่ก” ชาลิตารู้สึกเหมือนสมองมันอื้ออึงไปหมด ตาลายคล้าย จะเป็นลมกับบทรักที่เพิ่งจบไป เธอจำแทบไม่ได้เลยด้วยซ้ำว่าจุด เริ่มต้นมันมาจากตรงไหน ทว่า….จุดจบคือเธอกับเขามาจบอยู่บน เตียง เกิดมาจนอายุครบยี่สิบห้าปี เธอก็เพิ่งเคยพบกับความสุข แบบนี้แหละ ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะรู้สึกชอบมัน แต่บางทีมันอาจจะ เป็นเพราะยานั่นก็ได้ เพราะขนาดกับยายคุณหนูนั่นเธอก็ยังรู้สึก เลย มันก็คงจะไม่ต่างกัน

เธอหายเหนื่อยหรือยัง” เสียงทุ้มเอ่ยถามขึ้น ขณะดวงตาคมจับ จ้องมองอกอิ่มเครียดคัดที่กระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะการหายใจ ของเธอ ประกายตาร้อนแรงที่มองมาทำให้ชาลิตารู้สึกหวั่นใจ โดยเฉพาะเมื่อเธอสัมผัสได้ถึงตัวตนของเขาที่เหยียดขยายใน ร่าง เธอก็รู้ในทันทีว่าเขากำลังต้องการอะไร

“ฉันยัง…”

“แต่ว่าฉันหายเหนื่อยแล้ว”
“นี่คุณ…” เธอนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ คนอะไรจะหน้ามึนขนาดนั้น

“และฉันต้องการเธอ…

โดยที่ไม่รอฟังอะไรอีก ร่างสูงก็ตัดสินใจก้มลงขยี้เรียวปากอิ่ม ตักตวงความหวานอย่างเอาแต่ใจ ขณะลงมือปลุกปั่นอารมณ์ของ คนใต้ร่างให้ลุกโชนขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะจัดการขยี้ร่างของเธอให้ แหลกเหลวคามือ

มือหนากอบกุมสะโพกผายให้บดเบียดแนบชิดไปกับเรือนกาย แข็งแกร่ง ขยับเข้าออกรัวเร็วตามแรงอารมณ์ที่พุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ โดยมีแม่สาวช่างยั่วคอยให้ความร่วมมืออย่างลืมตัว ขาเรียวตวัด รัดเอวหนาขยับกายขึ้นรับตัวตนของเขาไว้ด้วยความเต็มใจ ขณะ ที่มือทั้งสองข้างก็กอดรัดลูบไล้ไปทั่วร่างแกร่งที่มีเรือนกายกํายำ น่าฟัดน่าขย้ำ จนเธออดใจไม่อยู่

นี่เธอกลายเป็นสาวร่านร้อนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน!

คําคืนนี้ช่างแสนยาวนานในความรู้สึกของเธอและเขา ไม่ว่าจะ ตักตวงไปเท่าไร กลืนกินมากแค่ไหนก็ยังไม่เพียงพอ พวกเขายัง คงรู้สึกกระหาย โหยหาและต้องการกันและกันรุนแรงขึ้นทุกขณะ จนต้องสาดซัดอารมณ์เข้าใส่กัน ปรนเปรอความสุขให้แก่กัน จน กระทั่งหมดแรงคล้อยหลับไปในอ้อมแขนของกันและกัน
ไม่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นเพราะสถานการณ์พาไปหรือว่าความใคร่ ความสิเน่หา แต่ผลที่ตามมาในภายหลังกลับสร้างความวุ่นวายให้ กับพวกเขาไม่น้อย…

….แล้วที่สำคัญใครจะรู้ว่านับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หัวใจทั้งสอง ดวงได้ผูกร้อยรัดเข้าไว้ด้วยกัน โดยมีสายใยบาง ๆ เป็นตัวเชื่อม กลางความรักระหว่างเขาและเธอ…


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ