บทที่ 11 อยากลืม แต่ใจกลับจํา (4)
บาร์โลน่าผับ
แสงสลัวในผับ มีเพียงแสงไฟวิ่งวุ่นดวงเล็ก ๆ หลากสี ส่องไปมา ทำให้ยังพอมองเห็นบรรยากาศด้านใน ตอนนี้ ผับเปิดทําการแล้ว ลูกค้าส่วนใหญ่ที่มาผับนี้จะเป็นพวก ชนชั้นกลาง ไม่ถึงกับรวยมาก แต่ถือว่ามีอันจะกิน อายุของ ลูกค้าส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงวัยทำงาน เวลาตกดึกก็จะมา สังสรรค์กันเพื่อผ่อนคลายความเครียด ได้ใช้เวลาดื่มเหล้า และฟังเพลงช่วยทำให้จิตใจสงบขึ้น
ชาลิตาเองที่ทำงานอยู่ที่นี่มาหลายปีก็ค่อนข้างคุ้นชินกับ ภาพตรงหน้าเสียแล้ว ไม่ได้แตกตื่นหรือตกใจกลัวกับการ ที่มีชายหนุ่มมากหน้าหลายตาพยายามส่งสายตาเชิญชวน มาให้ อีกทั้งแววตาโลมเลียพวกนั้นก็ยังอยู่นอกสายตา อย่างมากก็ได้แค่มองเท่านั้น ถ้าขืนพวกเขาคิดจะทําอะไร เธอล่ะก็…ศพไม่สวยแน่
ร่างเพรียวในชุดลําลอง เสื้อกล้ามสีดำคลุมทับด้วยเสื้อ แขนยาวสีน้ำตาลเข้มและกางเกงสีเดียวกันเข้ารูป รองเท้า ผ้าใบเก่า ๆ ของเธอยังคงเป็นเอกลักษณ์เหมือนเดิม การ แต่งตัวของหญิงสาวกลายเป็นความเคยชินของผู้ที่พบเห็น ไปเสียแล้ว ไม่จําเป็นต้องแต่งอะไรให้มาก เพราะแค่ หน้าตาเธอก็ชนะขาดลอย รูปร่างของเธอสูงเพรียวโปร่งบางดูคล่องแคล่วเวลาก้าวเดิน ใบหน้าเรียวสวยคมราวกับนางฟ้า สวยจนสามารถสะกดทุก สายตาให้หยุดอยู่ที่เธอได้ทันทีที่ปรากฏตัว
เวลาผ่านไปได้พักใหญ่ เสียงกีตาร์ก็โซโล่ขึ้นเบา ๆ พร้อม າ กับการปรากฏตัวของนักร้องสาวสวยสุดเซ็กซี่ ชาลิตาใน ตอนนี้อยู่ในชุดใหม่ แต่งตัวแบบพั้งค์ร็อค กรีดอายไลเนอร์ นําเข้มเน้นดวงตาให้เฉียวคม นอีก ริมฝีปากอิ่มทาทับด้วย สีม่วงคล้ำ ทรงผมถูกเปลี่ยนให้แสกกลางแล้วดัดหยิก จน กลายเป็นสาวเปรี้ยว มั่นใจ มีเสน่ห์ลึกลับน่าค้นหา ยิ่งเสียง ร้องของเธอก้องกังวาน ไม่หวานแต่แหบห้าวปนเซ็กซี่ เพราะจับใจคนฟัง ที่เสื้อกล้ามสีน้ำตาลมีโซ่สีดำเส้นเล็ก หลายเส้นประดับอยู่ กางเกงขายาวถูกกรีดขาดเป็นช่วง ๆ ทำให้เห็นเนื้อหนังวับแวม เพียงเท่านั้นก็ทําให้คนที่อยู่ด้าน ล่างหัวใจกระตุกวูบเลือดสูบฉีดพลุ่งพล่านได้แล้ว
ชาลิตา จับไมค์มาตั้งร้องเพลงอยู่ก็รับรู้ได้ถึงรังสีบาง อย่างที่สาดใส่ร่างเธอ ให้ความรู้สึกถึงอันตรายบางอย่าง จนเธอหายใจติดขัด สัญชาตญาณบอกให้เธอระวังตัว ตลอดเวลาพลางสอดส่องสายตามองหาความน่ากลัวที่ว่า นั่น ใครกันที่จ้องมองเธอด้วยสายตาแบบนี้ เธอเริ่มรู้สึกไม่ ปลอดภัยอย่างไรบอกไม่ถูก เกิดมายังไม่เคยเจอกับสายตา แบบนี้เลย แต่แล้วชาลิตาก็ต้องชะงักค้างลมหายใจสะดุด เมื่อได้สบเข้ากับดวงตาสีฟ้าเข้มลึกลั คล้ายอยู่ใต้ท้องสมุทร ดวงตาที่สามารถทําให้ใครหลาย คนที่ได้สบหลงวนอยู่ในนั้นหาทางกลับไม่เจอ
เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกสั่นสะท้านไปทั้งร่าง หัวใจถูกบีบ เคล้นรุนแรง เธอไม่คิดว่าจะได้กลับมาเจอกับเขาอีกครั้ง ผู้ชายที่เป็นคนแรกของเธอ
ดวงหน้าสวยรีบเบือนหน้าไปมองทางอื่นพยายามอย่างยิ่ง ที่จะไม่หันไปมองทางชายหนุ่มร่างกำยำท่าทางภูมิฐานที่ ยืนหลบอยู่มุมห้องในเงามืดที่แทบไม่มีใครสังเกตเห็น เธอ รับรู้ได้ถึงสายตาน่ากลัวและดุดันของเขาที่มองมาราวกับ จะแผดเผาเธอให้มอดไหม้ เธออยากรู้นักว่าเขามาที่นี่ได้ ยังไง แล้วมีสิทธิ์อะไรมาโกรธแค้นเธอ ความสงสัยและไม่ เข้าใจฉายชัดในดวงตา แต่ก็ต้องเก็บเอาไว้ไม่เผยสีหน้า อะไรออกไป หวังว่าพอเสร็จงานจะรีบหนีหน้าเขาไปให้ ไกล ไม่คิดอยากเสวนากับเขาสักวินาทีเดียว
แต่ให้ตายสิ ใจเจ้ากรรมกลับดินวนเวียนคิดถึงแต่เขา ยิ่งตอนนี้สายตาของเขาเปลี่ยนเป็นร้อนแรงสื่อความนัย ร่างกายเธอก็เกิดปฏิกิริยาร้อนวูบวาบขึ้นมา ทุก ๆ ครั้งที่ สายตาของเขาลากผ่านไปยังจุดนั้น ๆ คล้ายกับมีมือมากมายสัมผัสแตะต้องตัวเธอ ดวงตาสีฟ้าเข้มพออยู่ใน ความมืดก็เกือบจะกลายเป็นสีดำา มันยิ่งทําให้เขาลึกลับ และน่าเกรงขามขึ้นไปอีก ช่วงเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมา เธอปฏิเสธไม่ได้เลยว่าคิดถึงเขา ทุกครั้งที่หลับตาจะเห็น ภาพที่เขาและเธอร่วมรักกัน ทุกสัมผัสทุกท่วงท่ายังคง ตราตรึงอยู่ในใจ แม้อยากจะลืมเลือน แต่มันก็ยากเหลือ เกิน เธอพยายามเตือนตัวเองว่าเพราะเขาเป็นคนแรกที่ ครอบครองเธอ จึงทำให้เธอรู้สึกหวั่นไหวเผลอไผลไป กับประสบการณ์ที่เขามอบให้ แต่เธอรู้ดีแก่ใจว่าเกิดอะไร ขึ้นกับตัวเอง หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ในวันนั้น เธอก็ไม่ สามารถกลับไปเป็นตัวของตัวเองได้อีก ไม่สามารถทำให้ หัวใจที่เคยเย็นชาไม่ให้อ่อนไหวยามคิดถึงใบหน้าเขา รอย ประทับที่เขาตีตราไว้ คำพูดปลอบโยน ทุกอย่างที่รวมเป็น เขา เธอทำใจให้ลืมไม่ได้เลย
ความคิดถึงและว้าวุ่นใจกำลังจะฆ่าเธอให้ตายทั้งเป็น
ฟองซัวล่ไม่คิดจะละสายตาจากคนที่อยู่บนเวทีแม้แต่ วินาทีเดียว เป็นเวลากว่าหนึ่งเดือนที่เขาไม่ได้เจอกับเธอ หญิงสาวนิรนามที่ฉุดกระชากลากถูเขาเข้าห้องและเริงรัก กันอย่างเมามันจนใกล้รุ่งสาง แม่สาวจอมยั่วของเขา
คงไม่มีใครคิดว่าคนอย่างเขา ฟองซัวล์ เอดิซา ผู้ชายที่ แค่อยู่บนเตียงเฉย ๆ ก็สามารถทําให้สาว ๆ กระโจนเข้าใส่ คอยดับกระหายความใคร่ให้เขาอย่างเต็มอกเต็มใจ ทันที ที่กิจกรรมจบสิ้น เขาก็ไล่พวกเธอได้อย่างเลือดเย็นไม่คิด ปรานี ไม่แม้แต่จะถามชื่อให้เปลืองพื้นที่ในสมอง เพราะ สมองเขามีไว้ใช้แค่เรื่องธุรกิจเท่านั้น แต่บัดนี้พื้นที่กว่า ครึ่งในสมองเขากลับถูกใช้ให้คิดถึงใครบางคน จนต้อง มายืนแผ่รังสีอ้ามหิตใช้ดวงตาสีฟ้าเข้มดุดันตรงเข้าฟาด ฝันผู้ชายทุกคนที่คิดจะยุ่งกับคนของเขา แน่นอนว่าแม้ จะไม่เห็นตัวคนปล่อยรังสีไอเย็น แต่ทุกคนที่อยู่โดยรอบ ก็รู้สึกได้ พอเริ่มรับรู้ถึงความไม่ปลอดภัยก็ขยับตัวกระ สับกระส่ายพากันทยอยหนีออกไปด้วยความเร็วอย่างไม่ ทราบสาเหตุว่าตัวเองทำแบบนั้นไปเพื่ออะไร แต่ที่แน่ ๆ ถ้า พวกเขายังอยู่ในนี้อาจตายได้เพราะรังสีอำมหิต น
ในช่วงแรก ๆ เขาก็ไม่ได้รู้สึกอะไรมากนัก หรืออาจจะรู้สึก แต่แค่แกล้งทําเป็นไม่สนใจ ทําไมผู้ชายอย่างเขาจะต้อง ใยดีเพียงเพราะผู้หญิงคนเดียวที่ผ่านมามีความสัมพันธ์กับ เขาชั่วข้ามคืน ท่าทางมาดแมนทอมบอยแบบนั้น ไม่เคย อยู่ในลิสต์ผู้หญิงที่เขาคิดจะควงเล่น แต่เมื่อได้สัมผัส ได้ แตะต้อง เขาก็ยากที่จะหักห้ามใจ เธอไร้เดียงสา หากแต่ เร่าร้อน เธอเรียนรู้ทุกอย่างที่เขาสอนได้อย่างรวดเร็วและ ตอบสนองกลับมาร้อนแรงไม่แพ้กัน
คล้ายกับมีเสน่ห์ดึงดูดบางอย่างที่ทําให้เขาอยากใกล้ชิด วันเวลาที่ผ่านไปเขาได้แต่ร้อนรุ่มในใจไม่ต่างจากคนป่วย ที่ไม่ทางเยียวยา เริ่มแรกเขาดื้อดึงเรียกสาว ๆ ขึ้นไป ด บนเตียงระบายความใคร่ แต่อารมณ์ก็ไม่บรรลุถึงจุดสูงสุด ค้างเติ่งกลางอากาศ จนเขาต้องไล่ตะเพิดพวกเธอไป เขา กลายเป็นคนหงุดหงิดง่าย เห็นอะไรก็ขวางหูขวางตา ไม่ สบอารมณ์ไปเสียหมด เขารู้ว่าตัวเองเป็นอะไร ทางเดียวที เขาจะหายจากอาการนี้มีอยู่ทางเดียวเท่านั้น คือเขาต้องหา เธอ ยารักษาอาการป่วยที่จะดับกระหายเร่าร้อนในกายเขา ได้
เขาตัดสินใจให้ลูกน้องคนสนิทตามสืบประวัติเธอทุก อย่าง พ่อแม่ ญาติพี่น้อง กระทั่งที่อยู่ที่ทำงานก็สืบมาหมด แต่พอรู้แล้วเขาก็ยังรั้งรอ คิดว่าผ่านไปนานวันเข้าก็อาจ จะหาย กลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม แต่มันกลับยิ่งทรมาน เมื่อรู้ว่าเธออยู่ใกล้แค่เอื้อม เพียงเขาไปหาก็จะได้เจอเธอ เขากระสับกระส่ายเหมือนถูกไฟลน กระวนกระวายเหมือน สัตว์ป่าดุร้ายที่กระหายต่อความใคร่ แล้วไม่ได้รับการปลด ปล่อย จนถูกไอ้บีและไอ้จีแซวหลายต่อหลายครั้ง พอพวก มันทนไม่ไหวก็ไล่เขาให้มาหาเธอ
เขาจําเป็นต้องทรมานตัวเองไปเพื่ออะไรกัน ในเมื่อรู้ว่าตัว เองจะหายด้วยวิธีไหน ทําไมเขาต้องอดทนที่เขาอดทนไม่มาหาเธอตั้งแต่แรก เพราะรู้ดีว่าทันทีที่ได้เจอ เธอ ลางสังหรณ์บางอย่างเตือนว่าหัวใจของเขาอาจจะ ถูกช่วงชิงไป มันจะไม่ใช่ของเขาอีก เขาจะถูกผูกมัด ถูก พันธนาการไว้ไม่สามารถไปรักใครได้ นอกจากเธอ…
ความรู้สึกที่รุนแรงแบบนี้ มันอยู่เหนือความคาดหมาย ถึง เขาจะไม่อยากยอมรับ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าครึ่งหนึ่งของ หัวใจถูกยายแม่มดแย่งชิงไปเรียบร้อยแล้ว
แน่นอนว่าการมาในครั้งนี้ ย่อมหมายความว่าเขาจะไม่ ยอมเสียเปรียบเพียงฝ่ายเดียว เธอจะต้องรู้สึกเช่นเดียวกับ เขา เขาจะจับเธอกลืนกินและยัดตำแหน่งมาดามเอดิซาให้ อย่างไม่มีข้อโต้แย้งใด ๆ ทั้งสิ้น
ในเมื่อเขาอยากได้ ก็ต้องได้ เมื่อเขาอยากให้เป็น เธอก็ ต้องเป็น
ถึงเวลาที่นายพรานจะออกล่าเหยื่อ
แม่เสือสาว…เธอไม่มีวันหนีฉันไม่พ้นหรอก!
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ