ยอดดวงใจคุณชายนักรบสุดหล่อ

ตอนที่ 12 การปกป้องที่แตกต่าง



ตอนที่ 12 การปกป้องที่แตกต่าง

ตอนที่ 12 การปกป้องที่แตกต่าง

เทวิณเดินไปหยุดอยู่ด้านหน้า ท่าทางอ่อนน้อมยาม เผชิญหน้ากับผู้อาวุโสคนนั้น “คุณปู่”

แขไขได้ยินคํานั้นก็เหลือบตามองแวบหนึ่ง ก่อนที่จะมา ที่นี่เธอทำการบ้านมาแล้ว ตระกูลวีรสกุลสามรุ่น พิธาน พ่อของเทวิณเคยเป็นทหาร แต่หลังจากแต่งงานกับนมิดา ก็ลาออก ครอบครัวของนมิดา ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ แต่ตัวเองกลับเป็นอัยการ พอทั้งคู่แต่งงานกันก็ไม่ได้ ทำงานร่วมกัน วีรสกุลกรุ๊ปจำกัดถึงได้ยิ่งใหญ่ดังเช่นทุก วันนี้

แต่ทั้งชีวิตของดำรงชัยกลับอุทิศให้กับกองทัพ เคยชี้นิ้ว บัญชาการคนมามากมาย

คนตรงหน้านี้คือดำรงชัย คุณปู่ของเทวิณ?

“พอเสร็จเรื่องก็มีอุบัติเหตุนิดหน่อยก็เลยเสียเวลา ไปบ้าง ตอนนี้ถึงเพิ่งได้มีเวลาว่างมาเยี่ยมครับ” เทวิณ ท่าทางอ่อนน้อมมาก แขไขรู้สึกคาดไม่ถึง เธอยังคิด ว่าผู้ชายที่คิดว่าตัวเองคือที่สุดในโลกอย่างเขาจะยอม นอบน้อมให้ใครไม่เป็นเสียอีก

ดำรงชัยทำเสียงเย็น “ไม่ว่างมาเยี่ยมฉัน แต่มีเวลาไปแต่งงาน ”

ดำรงซับรู้เรื่องนี้ผ่านเพื่อนๆ เดิมแค่เรื่องลาออกก็พอ จะทำให้เขาบันดาลโทสะพออยู่แล้ว นึกไม่ถึงว่าเขายัง ไม่ได้พูดอะไรสักคำ อีกฝ่านก็แต่งงานจดทะเบียนสมรส เรียบร้อยไปแล้ว

ตอนนั้นผู้เฒ่าโมโหจนอีกนิดเดียวเส้นเลือดในสมองจะ แตก ถ้าไม่ใช่เพราะต้องการอยู่เพื่อถามเรื่องนี้ต่อหน้า บางทีเขาออาจจะแบกความโกรธนี้จนตายไปแล้วก็ได้

พอเอ่ยถึงเรื่องแต่งงาน แขไขก็อยากให้ตัวเองมีฟังก์ชั่น ซ่อนตัวตนเหมือนแอพQQขึ้นมาเสียอย่างนั้น ให้ทุกคน มองไม่เห็นว่าเธอยังมีตัวตนอยู่ตรงนี้ แต่เธอทำไม่ได้ แม้ว่าในใจเธอจะกลัวสักเท่าไหร่แต่ก็ต้องปั้นหน้ายิ้มเอา ไว้

“สวัสดีค่ะคุณปู่”

“ใครเป็นปู่เธอ!” ดำรงชัยตำหนิเธอ คัดค้านที่เธอเรียก เขาว่า ‘คุณปู่’ อย่างไม่เกรงใจ

โบราณว่าไม่มีคนยิ้มให้ ดำรงชัยแสดงท่าทีคัดค้านให้ เห็นอย่างนี้ เห็นได้ชัดว่าเขาไปพอใจเธอสุดๆ แขไขกัดฟัน ฝืนยิ้มออกมา “คุณปู่เป็นปู่ของ หนูก็ต้องเรียกว่าคุณปู่สิคะ”

ผู้เฒ่ามองว่าเธอเป็นพวกหิวเงินและชื่อเสียง มือที่วางอยู่ บนไม้เท้าสะบัดไปมา “ฉันไม่ยอมรับว่าเธอเป็นสะใภ้ของ ตระกูลวีรสกุล!”

อย่าว่าแต่คุณปู่ไม่อยากยอมรับเลย แม้แต่เธอก็ไม่อยาก เหมือนกัน ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องเงินบีบบังคับล่ะก็

แขไขไม่รู้จริงๆว่าควรทำยังไง จึงหันไปส่งสายตาขอ ความช่วยเหลือจาก

วินาทีต่อมา ท่อนแขนที่เธอพยุงอยู่ก็ขยับ ชี้นิ้วไปที่ กาน้ำชาบนโต๊ะ “ไปเปลี่ยนน้ำร้อนในกาให้คุณปู่สิ

แขไขราวกับได้ทางสว่าง พยักหน้าติดๆกัน ย่อเอวยก กาน้ำชาขึ้นมาทันที จากนั้นก็หมุนกายผลุบเข้าไปหลบใน ห้องครัว

ห้องรับแขกเหลือเพียงสองปู่หลาน หากจะกล่าวว่าเท วิณเป็นพวกกระดูกแข็ง อย่างนั้นดำรงชัยในสมัยหนุ่มๆ เองก็ไม่ได้น้อยไปกว่าเขาเลย หรือถ้าจะพูดถึงเรื่อง อารมณ์ล่ะก็สูสีแทบไม่ต่างกัน
“เรื่องลาออกยังพอทำเนา แต่นี่กลับไปแต่งงาน นี่ใน สายตาแกยังมีปู่คนนี้อยู่มั้ย!”

“เรื่องมันกระทันหันน่ะครับ”

“แกเลิกพูดแบบขอไปทีอย่างนี้กับฉันสักที เรื่องอื่นก็ช่าง เถอะ แต่เรื่องใหญ่อย่างเรื่องแต่งงานก็ไม่บอกได้เรอะ?”

สําหรับหลานชายคนเดียว ดำรงชัยทั้งเข้มงวดและให้ ความเอ็นดูมาก ตั้งความหวังกับเขาไว้สูง เทวิณเองก็ พยายามอย่างหนัก ที่ผ่านมาไม่เคยทำให้คุณปู่ของตัว เองต้องขายหน้า มาวันนี้คนที่รอบคอบอย่างเขากลับดัน ทำเรื่องที่ไว้น่าไว้วางใจถึงสองเรื่องต่อกัน คนเป็นปู่ก็รู้สึก นั่งไม่ติดพื้นแล้ว

“คุณปู่ยังจำเรื่องที่ผมทำก่อนหน้านี้ได้มั้ยครับ?

ดำรงชัยโกรธจนหน้าแดง ท่าทีเริ่มไม่ดี “แกพูดเรื่องนี้ขึ้น มาทำไม

“ตอนนั้นเพราะเธอช่วยผมไว้ ไม่อย่างนั้นงานที่ ประเทศYผมก็คงทำไม่สำเร็จง่ายๆ” เทวิณที่ปลอมแปลง เนื้อเรื่องเมื่อคืนนั้นเล่าเรื่องให้ดำรงชัยฟังโดยที่หน้าไม่ เปลี่ยนสี “ในสถานการณ์คับขันแบบนั้นผมที่ทำเรื่องผิด ต่อเธอก็ควรจะรับผิดชอบ
ถึงแม้ว่าเขาเล่าเรื่องโดยไม่ได้ลงรายละเอียด แต่คุณปู่ ที่เคยเป็นทหารเก่ามาก่อนก็ย่อมเข้าใจถึงสาเหตุ แต่….

“เพราะงั้นแกก็เลยลาออกแล้วยังแต่งงานกับเธองั้นเรอ ะ? ตาวิณ ปู่เคยบอกแกแล้ว บนบ่ามีภาระต้องแบกรับเป็น เรื่องที่ดี แต่ต้องไม่ปล่อยให้ภาระที่ว่านั่นทําลายตัวเอง แบบนี้!”

“ผมไม่ได้ถูกทำลาย ผมมีสติดี” เทวิณเอ่ยจบประโยคนี้ ก็พอดีเห็นแขไขโผล่หัวออกมาจากครัวอยู่ด้านหลังของ คุณปู่ ใบหน้าเล็กๆขาวๆนั่นยุ่งเหยิง ไม่รู้ว่าควรจะเข้ามาดี หรือไม่

ผู้ชายคนนั้นย่นคิ้ว “เธอบริสุทธิ์ พื้นหลังครอบครัวอาจ ไม่นับได้ว่าดีแต่ก็ไม่ใช่คนเลวร้าย”

“แก!” ดำรงชัยสำลักค่า รู้สึกว่าเขาถูกทาด้วยน้ำมันหมู จนเลอะเลือนไปหมดแล้ว “ยังไงฉันก็ไม่ชอบผู้หญิงคนนี้ แกกลับไปคิดดูให้ดีก็แล้วกัน!”

ผู้เฒ่ายิ่งพูดก็ยิ่งโกรธ จากนั้นก็พยุงความโกรธลุกขึ้น แล้วเดินขึ้นชั้นสองไป

เขาเพิ่งจะก้าวเท้าจากไป แขไขก็ยกกาน้ำชาเข้ามา เห็น สีหน้าของผู้ชายคนนั้นดูกลัดกลุ้ม ก็เปิดปากพูดอย่างเคืองๆ “ฉันพูดอะไรผิดไปใช่มั้ย?”

ตอนอยู่ที่ตระกูลดาวริศกุลเธอเคยชินในการสังเกต สีหน้าของคน มีชีวิตที่ต้องพึ่งพาคนอื่น พอเห็นว่าสีหน้า ของเทวิณไม่ดี เธอก็คิดว่าเป็นเพราะตัวเอง

“ไม่เกี่ยวกับเธอ” ผู้ชายคนนั้นเปิดปากพูดอย่างเรียบ ๆ แม้สีหน้าจะไม่ดีกลับไม่ได้โทษเธอ

แขไขผ่อนลมหายใจ เบนสายตาไปที่กา ชาจากนั้น ก็เทน้ำชาลงในแก้วกระเบื้องเคลือบสีขาวแล้วส่งให้เขา “คุณดื่มชาดับอารมณ์สักหน่อยเถอะ”

เทวิณมองมือเล็กๆที่อยู่ในสายตาตัวเอง แม้จะรู้ว่าเธอมี เจตนาเอาอกเอาใจเขา แต่เขาก็ยังรับมันมา ปลายนิ้วมือ เรียวยาวราวปล้องไม้ไผ่สะกิดโดนหลังมือขอเธอแขไข รีบหดมือกลับไปประหนึ่งถูกลวก

ท่าทางหลบเลี่ยงผิดปกติแบบนี้เสียดแทงสายตานัก เทวิณยื่นมือออกไปคว้าคนด้านข้าง ฝ่ามือใหญ่ยึดไหล่ ของเธอไว้บังคับให้เธอขยับเข้ามาใกล้ตัวเอง “คุณหลบ อะไร?”

แขไขถูกการกระทำของเขาทำเอาแตกตื่น เธอกวาดตา ไปรอบๆอย่างประหม่า “ปล่อยนะ เดี๋ยวก็มีคนมาเห็น

หรอก!”
“เห็นแล้วยังไง?” เขาไม่สนใจสักนิด

ใช่สินะ นี่มันบ้านเขานี่ ใครจะว่าอะไรเขาได้ หรือต่อให้ ถูกเห็นจริง เกรงว่าก็คงมีแค่ตัวเธอเท่านั้น

เขาก้มหน้าขยับเข้ามาใกล้ แขไขเผลอกลั้นลมหายใจ รั้วสีแดงไต่ไปทั่วพวงแก้ม รู้สึกอายทว่าความรู้สึกบีบ บังคับนั้นมากกกว่า พอตาเห็นว่าเขากำลังจะจูบลงมา เธอ ก็ตกใจจนหลับตาแน่น…

“พวกเธอกำลังทำอะไรอยู่?”

ด้านหลังพลันมีเสียงใสของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น

แขไขรู้สึกเหมือนเพิ่งตื่นจากฝัน เธอรีบผลักคนออก ผลุดลุกขึ้นจากโซฟา มองตามเสียงไป ผู้หญิงคนหนึ่งสวม ชุดทำงานสีฟ้าขาว แม้อายุดูไม่น้อยแล้วทว่าท่าทางดู ภูมิฐาน สง่า บนเสื้อผ้าเรียบง่ายแต่มีรสนิยมนั้นกลัดด้วย เข็มกลัดชิ้นงามประณีตหนึ่งชิ้น บนคอและข้อมือสวมชุด หยดเขียวคุณภาพสูง ไม่โอ่อ่าทว่ามีราคา

“แม่มาได้ยังไงครับ?” ขณะที่เอ่ยประโยคนี้ สายตาของ ผู้ชายคนนั้นกลับมองไปที่เด็กผู้หญิงตรงหน้า ได้ยินเขา เรียกอย่างนี้แล้วแผ่นหลังของก็แข็งค้างไปเสียแล้ว
แม่?

คนนี้คือนมิดา แม่ของเทวิณ ?

ไม่รอให้เธอได้เรียบเรียงอะไรในหัว นมิดาก็เดินตรงมา ที่ทั้งสอง ผิวของเธอถูกบำรุงอย่างดีจนแทบดูไม่ออกเลย ว่าเป็นคนวัยห้าสิบกว่าปีแล้ว หากจะบอกว่าอายุสามสิบ หกสามสิบเจ็ดก็ต้องมีคนเชื่อแน่นอน

แขไขรู้สึกเพียงว่ามีสายตาที่ทรงพลังกำลังแพ่งมาที่ตัว เอง สำรวจเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า “เธอก็คือคนที่ลูกชายฉัน แต่งงานด้วยงั้นเหรอ?”

ได้รับสายตาที่ไม่เป็นมิตรเช่นนั้น ใจของแขไขก็ดิ่งต่ำ ลง เปิดปากเอ่ยอย่างสุภาพ “…สวัสดีค่ะคุณป้า หนูชื่อแข ไข”

นมิดาคล้ายกับไม่ได้ยิน ทำเพียงเดินผ่านตัวเธอไปหาเท วิณที่อยู่ด้านหลัง “ทำไมถึงเอาคนไม่รู้หัวนอนปลายเท้า เข้ามาในบ้าน?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ