ตอนที่ 17 การแข่งขันของอ๋องเก้า1
สวนดอกเหมยช่างเป็นสวนที่ดีอย่างมาก ฟังเสียง นกร้องพร้อมกับกลิ่นหอมรันจวนใจ มีศาลารายล้อม เป็นเรือนที่ดีมากเลยทีเดียวและที่สำคัญก็คือมีสาวใช้ มากมาย มีคนคอยปรนนิบัติรับใช้ไม่ขาด เสื้อผ้าก็ล้วนแต่ เป็นผ้าไหม นดี การกินคือสิ่งสำคัญอย่างมาก ช่วงสอง สามวันนี้นางรู้สึกสบายอย่างยิ่ง
เย่เล่อจือสุขสบายอย่างมากจนไม่สนใจเรื่องราวที่ ผ่านมา นางคิดอยู่ทุกวันว่าถ้าหากเอาของพวกนี้ไปขาย ในยุคปัจจุบันจะได้เงินเท่าไหร่กัน อันไหนที่ดูแพง ทำยัง ไงถึงจะสามารถเอากลับไปได้มากๆ พอคิดแล้ว คนสมัย ก่อนช่างรวยกว่าคนในปัจจุบันอย่างมาก ขนาดถ้วยที่ ใช้ในชีวิตประจำวันนั้นยังสามารถนำไปขายได้ในราคา ดีเลย ในสมัยนี้นั้นไม่ว่าจะเป็นบ้านเรือนของใครก็มีแต่ ของล้ำค่าทั้งนั้น เย่เล่อจือมองเห็นอะไรก็ตาลุกวาว โดย เฉพาะหมอนที่ทำจากหยกอันนั้น นางอดไม่ได้ที่จะนอน หนุนทุกคืน
แต่ว่าผ่านไปไม่นานเย่เล่อจือก็พบว่าตัวเองไม่มี อิสระเลย เดินไปไหนก็มีนางในคอยรับใช้ตลอด อยาก ออกไปข้างนอกสักครั้ง พวกนางก็เอาไปกราบทูลฝ่าบาท จนนางโดนกักบริเวณ แบบนี้ไม่ใช่การกักขังกันหรือไง?
มู่หรงเฉินงานยุ่งอย่างมาก นานๆเขาถึงมาที ส่วน มู่หรงเจิงพอปิดประตูคิดทบทวนเรื่องราวต่างๆก็ไม่เจอ เขาอีกเลย
เย่เล่อจือยิ่งคิดก็ยิ่งเบื่อ อยู่แบบนอนสบายๆนางก็ไม่ชอบ เรื่องการเย็บปักถักร้อยของผู้หญิงนางก็ทำไม เป็น ดอกเหมยที่อยู่ในเรือนนี้นางก็มองจนเบื่อแล้ว เบื่อ มากๆ นางเลยอยากออกไปเดินเล่นข้างนอกบ้าง แต่ สุดท้ายนางในก็เดินมาบอกว่า “ฮ่องเต้ไม่ทรงอนุญาต”
เย่เล่อจือมองแม่น้ำสีเขียวที่อยู่ด้านนอก: “ข้าจะ ไปเล่นที่นั่น ไม่เดินหลงทางแน่นอน”
“ฝ่าบาทมีรับสั่ง ว่าท่านไม่สามารถออกไปจากที่นี่ ได้เพคะ”นางพูดขึ้นมาอย่างไม่ยอม
เย่เล่อจือโมโหฉุนขึ้นมาทันที : “ก็ข้าจะไป ข้าจะดู ว่าพวกเจ้าจะกล้าขวางข้ามั้ย! “นางผลักนางในพวกนั้น ออกจากประตูทันที พวกนางในที่อยู่ในตำหนักก็พากันวิ่ง ตามออกมา เพราะต้องการจะมาขัดขวางนางเอาไว้
“พวกเจ้ารู้ว่าตัวเองน่ารำคาญมั้ย? ถ้าฝ่าบาท สั่งโทษลงมาข้าจะเป็นคนรับเอง ไม่มีทางทำให้พวกเจ้า เดือดร้อนหรอกนะ”เย่เล่อจือพูดออกมาอย่างชัดเจน
อยู่ดีๆพวกนางในจึงหยุดลงทันที แล้วพลันโค้ง คำนับ: “คารวะองค์ชายเก้า”
นางจึงหันไปตามทันที มองไปไม่ไกลนักก็เห็นชาย คนนึงที่อายุเกือบจะสี่สิบปีแล้ว สวมใส่หมวกขุนนางแล้ว เดินมาทางนี้ด้วยสายตาที่แวววาว พร้อมกับเสื้อคลุมที่ทำ จากผ้าไหมสีฟ้าทองที่ยาวมากที่คาดด้วยเข็มขัดสีฟ้าที่ ทำมาจากทองแท้ระยิบระยับ
คนนี้ก็คือองค์ชายเก้างั้นหรือ? สายตาดูเป็นคนเมตตา ใบหน้ายิ้มแย้ม ไม่เหมือนกับคนที่ดูเลวร้ายเลย แต่ ว่าค่าเตือนของมู่หรงเฉินนั้น เย่เล่อจือนางก็ยังฉุกคิดอยู่
องค์ขายเก้ามู่หรงหลี่เดินเข้ามาข้างหน้าพลันพูด ขึ้น: “องค์หญิงเล่อจือ สบายดีมั้ยค่ะย่ะค่ะ? ”
เปเล่อจือพยักหน้า: “ท่านอ๋อง เรียกข้าว่าเย่เล่อ จือเถอะ”นางยังไม่ค่อยชินเวลาคนอื่นเรียกองค์หญิง
มู่หรงหลี่มองไปยังพวกนางในที่ยืนด้านข้าง ถอย ไปก่อนเถอะ ข้าต้องการคุยส่วนตัวกับนาง”พอเห็นสีหน้า พวกนางที่ดูเลิกลักว่าไปหรือไม่ไปดี เขาก็พูดขึ้นอีก ว่า: “ถ้าฝ่าบาททรงลงโทษ บอกว่าข้าเป็นคนสั่งเอง”พวก นางถึงยอมถอยไป
เมื่อเดินข้ามไปสะพานมาพร้อมกับมู่หรงหลี่ เดินมา ถึงตรงกลางก็พลันหยุดลง มองดูแม่น้ำที่ใสมาก เย่เล่อจือ ถอยหายใจออกมาทีนึง พอรู้สึกว่าดีขึ้นแล้ว แล้วพอหัน ไป มู่หรงหลี่ก็นั่งลงบนเก้าอี้เรียบร้อยแล้แวก็มีนางในยก น้ำชามาต้อนรับ วางเสร็จก็ออกไปทันที
มู่หรงหลี่รินชาลงไปสองแก้ว รินให้ตัวเองแก้วนึง แล้วก็ส่งไปด้านหน้าเขาอีกแก้วนึง”ลองชิมนี่ดู นี่เป็นชาที่ มีชื่อเสียงจากเขาหิมะเลยนะ”
เย่เล่อจือนั่งลงไป แล้วสายตาก็จับจ้องอยู่ที่ถ้วย ชา นี่มันเป็นน้ำเปล่าชัดๆและเห็นได้ชัดว่านี่มันแค่แก้ว น้ำร้อนใสไม่มีสี มู่หรงหลี่น่าจะทำแกล้งหรือเปล่า? คิด ไปคิดมา เขาเองเป็นถึงอ๋องจะมาแกล้งกันทำไม? และ เขาเองก็ไม่ใช่คนซุ่มซ่ามอะไร นางจึงหยิบแก้วชาขึ้นมาจับคำนึง รสชาติขมอ่อนที่มีความหอมก็พลันทำให้ชา นั้นหวานขึ้นมานิดนึง พอกลิ่นลงไปถึงคอแล้วก็ยิ่งชุ่มชื้น หอมหวาน และนางก็ดื่มลงไปอีก สัมผัสได้ถึงความหอม หวานไปทั่วทั้งปาก จนหลุดพูดออกมา : “ที่แท้ก็เป็นชา ชั้นดีนี่เอง!
มู่หรงหลี่พูดพลางหัวเราะ: “วันก่อนได้ยินว่าเจ้า กลับมาแล้ว ข้าก็ช่างประหลาดใจนัก เลยอยากมาพบเจ้า สักครั้ง ฝ่าบาทบอกว่าเจ้าไม่ค่อยสบาย เลยพยายามหา หลายวิธีเพื่อไม่อยากพบใคร ข้านึกว่าฝ่าบาทจะกำจัด เจ้าแล้ว คิดไม่ถึงว่าวันนี้กลับได้พบเจ้าแล้ว”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ