ยอดชายาสายลับ

ตอนที่ 13 ฮ่องเต้ ข้าสำนึกผิดแล้ว 1



ตอนที่ 13 ฮ่องเต้ ข้าสำนึกผิดแล้ว 1

ความเงียบปคลุมตลอดทางจนถึงประตูเข้าเมือง พบ เข้ากับสั่งอี้ที่กำลังทำการสอบสวนพอดี เมื่อเห็นทั้งสอง เขารีดรุดเดินไปข้างหน้าพอดี ” อ๋องหวินฮ่องเต้โกรธเคือง เรื่องของเมื่อวานเป็นอย่างมาก มีคำสั่งให้แม่ทัพนำตัว ท่านอ๋องกลับเข้าวัง

มู่หรงเจิงส่งเสียงตอบรับ “ข้าจะไปที่วังเพื่อพบฮ่องเต้ หากท่านไม่สบายใจ ก็เพียงตามมา

สั่งอี้ตอบรับเสียงเบา : “กระหม่อมผิดไปแล้ว” และ ติดตามทั้งสองคนไปจริงๆ

เย่เล่อจือกังวลใจ ในตอนนี้ฮ่องเต้กำลังโกรธ ถ้าเข้า วังตอนนี้จะไม่เจอปลายกระบอกปืนหรือ “เฮ้อ มู่หรงเจิง ข้าว่าเราเปลี่ยนเป็นพรุ่งนี้ดีไหม ให้ฮ่องเต้คลายความ โกรธลงกว่านี้ก่อน”

“ยังจะเลื่อนอีกหรือ”มู่หรงเจิงถามกลับเรื่องราวต่างๆ หากกล้าเผชิญหน้าตั้งแต่เนิ่นๆอาจจะดีกว่า ชายหญิงอยู่ ด้วยกันภายนอกนานๆ ยิ่งนานยิ่งยากจะอธิบาย

เมื่อมองไปยังสั่งอี้และทหารรักษาการณ์สองกองทัพ ที่ตามมาอย่างใกล้ชิดแล้ว เย่เล่อจือจึงทำได้เพียงปัดป่า ความคิดนั้นออกไป คำนึงถึงความปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่า แต่ถึงอย่างนั้นมู่หรงเจิงที่ยืนอยู่ตรงนี้คือคนพาตัวเธอ ออกมา เขาจะต้องมีปัญหาใหญ่ตามมาแน่ๆ ฮ่องเต้คงไม่ ถึงกับฆ่าน้องชายตัวเองกระมัง
ผู้คนในเมืองต่างพาก่อนหยุดและชี้นิ้ว ก็เพียงแค่ อ่องหลินลักพาตัวเจ้าสาวขอทานที่ท่านฮ่องเต้ กรุณามา แต่งงานด้วย เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องตลกขบขันของแคว้น จีนสกี้ แต่ในเรื่องตลกนี้ เย่เล่อจือกลับได้ยินสิ่งที่น่าสนใจ อย่างเช่นอ๋องหวินไม่สามารถมีลูกได้ ฝันว่าฆ่าผู้ที่นอน เคียงหมอน

ไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้ทุกคนยังให้ความสนใจ เย่เล่อจือ ถามขึ้น “ท่านฆ่าคนในฝันหรือ” นั่นเกี่ยวกับอาการป่วย ของท่านหรือไม่

“เจ้ากำลังเตือนสติฮ่องเต้ผู้ฆ่าเหล่าคนพูดมากเหล่านั้น หรือ” มู่หรงเจ๋งกล่าวด้วยใบหน้าเคร่งขรึม

เย่เล่อจือไม่คุ้นชินกับท่าทางเช่นนี้เอ่ยตอบ“ข้าแค่เพียง

แต่ถามเท่านั้น” “เจ้าจะอยากรู้เรื่องของฮ่องเต้ผู้นั้นไปเพื่อสิ่งใด จึงถาม

เช่นนี้” มู่หรงเจิงถามอย่างไม่อยากจะสนใจ

ใบหน้าเย็นชาเคร่งขรึมและการปิดปากเงียบของเขา เหมือนเป็นการยอมรับว่าเป็นฆาตกร ทำให้เย่เนี่ยนซีรู้สึก อึดอัด “มู่หรงเจิง เจ้าไม่ได้ป่วยใช่ไหม ”

“เจ้าต่างหากที่ไม่ได้ป่วย”มู่หรงเจิงกล่าวขึ้นทันควัน

เย่เล่อจือยิ้มเยาะ เมื่อเห็นสีหน้าของมู่หรงเจิง “ในที่สุด ท่านก็ยอมรับว่าตนเองป่วย

สิ้นเสียงก็ถูกคว้าเอวไว้แน่น ข้างหูได้ยินเสียงออกคําสั่งอย่างเอาแต่ใจ “ไป!”

ม้าสีขาวพลันออกตัวอย่างรวดเร็ว รอยยิ้มบนใบหน้า ของเย่เล่อจือหุบลง “มู่ทรงเจิงท่านทำอะไร นี่มันทางผู้คน เยอะนะ!

แต่ม้าของมู่หรงเจิ่งกลับไม่ได้วิ่งช้าลงเลย ผู้คนบนทาง เดินพากันหลบเข้าข้างทาง เป็นเรื่องแปลกที่ตลอดที่ม้าวิ่ง ผ่านทางเส้นนี้กลับไม่ชนเข้ากับผู้คนเลย

จนเมื่อมาถึงหน้าวัง มู่หรงเจิงยั่งไม่สั่งลดความเร็ว ม้า สีขาววิ่งแหวกอากาศ ผู้พิทักษ์หน้าประตูเข้าวังต่างหลบ หล็กกันให้ควั่ก “ท่านอ๋อง” สิ้นเสียงม้าก็วิ่งเข้ามาถึงในวัง พอดี

มู่หรงเจิงเขาโกรธมากจริงๆ!

เย่เล่อจือลงจากม้าอย่างกล้าหาญไม่กลัว พอนึกถึง ท่าทางของม้าขาวเมื่อครู่นี้ ที่ได้เตะทหารที่เฝ้าหน้าประตู นั้น อีกนิดเดียวก็จะเลือดสาดแล้ว ตอนที่นั่งม้ามาตาม ทาง เย่เล่อจือตกใจจนขาอ่อนไปหมด ทำได้แค่จับชาย เสื้อมู่หรงเจิงถึงเดินได้

ขนาดมู่หรงเจิงก็ยังเป็นแบบนี้ ไม่รู้ว่าที่เขาพูดว่า ฮ่องเต้เป็นคนโมโหรุนแรงนั้นจะเป็นอย่างไร!

แต่ว่าความกังวลนี้ก็ถูกคนในวังที่ส่งออกมาอย่าง หน้าเข้มเข้ามาแทนที่ทันที

เย่เล่อจือมองเข้าไปในวังอย่างไม่กระพริบตา ในวังนั้นทํามาจากทองแท้ หลังคาที่ทําจากกระเบื้องก็กระทบ กับแสงพระอาทิตย์แล้วเปล่งประกายออกมา เสาที่แกะ สลักที่เป็นทองแท้ๆที่สองคนก็ไม่อาจจะกอดรอบได้ มุก มังกรเป็นของที่ทำมาจากผลึกสีแดง เป็นทองแท้ๆที่ไม่ ผสมสารอื่นเลย ข้างบนคานั้นก็เป็นหยกที่แกะสลักเป็น รูปมังกรที่ไม่เหมือนกันสักตัว เป็นการแกะสลักที่เหมือน จริงมาก หยกสีเขียวเต็มทางเดิน และมีโคมไฟที่เป็นหยก แกะสลัก

“ฮ่องเต้ไม่ได้อยู่ในห้องหนังสือพ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้ฝ่า บาทไปนั่งผ่อนที่สวนดอกไม้พ่ะย่ะค่ะ วันนี้ฝ่าบาททรง พอพระทัยกับอาหารการกินมาก แถมยังชมนางในที่เล่น ดนตรีด้วยน่ะย่ะค่ะ ขันทีเล็กรีบวิ่งมารายงาน

มู่หรงเจิงพยักหน้ารับแล้วดึงเย่เล่อจือตรงไปที่สวน ดอกไม้ทันที

ที่แท้ตำหนักนั้นเป็นเพียงที่อ่านหนังสือของฮ่องเต้ ถ้าอย่างนั้นพระตำหนักใหญ่กับตำหนักอื่นไม่รู้ว่าจะ มโหฬารขนาดไหน?

เย่เล่อจือถูกลากไปข้างหน้า ทิวทัศน์ที่เดินผ่าน มาช่างงดงามยิ่งนัก มีศาลากลางน้ำ มีสะพานเล็กๆข้าม แม่น้ำ ดอกไม้หลากหลายชนิดและเต็มไปด้วยต้นไม้หา ยาก จนทำให้เย่เล่อจืออยากจะมองนานๆ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ