ยอดขายาสายลับ

ตอนที่15 อ้อ!ที่แท้ก็คือองค์หญิงเล่อจือนี่เอง1



ตอนที่15 อ้อ!ที่แท้ก็คือองค์หญิงเล่อจือนี่เอง1

“ฮ่องเต้ทำไมถึงตรัสเช่นนี้เล่า? “มู่หรงเจิงถามออกไป

เย่เล่อจือกินไก่ที่เหลืออยู่หมดในคำเดียว แล้ว หันไปมองมู่หรงเฉินที่อยู่ด้านข้าง เขาทำไมไม่เชื่อว่าเรา คือเย่เล่อลือนะ

มู่หรงเฉินยิ้มแล้วพูดว่า”เย่เล่อจือเป็นองค์หญิง จะไม่รู้จักกาลเทศะเช่นนี้ได้เล่า?”

“คงจะอยู่ที่หอนางโลมนาน เลยลืมความเป็นเจ้า หญิง”มู่หรงเจิงอธิบายต่อ เขาไม่สงสัยในตัวของเย่เล่อ มือเลยแม้แต่น้อย

“น่าเสียดายที่เมื่อก่อนนางไม่แม้แต่จะกินเนื้อเลย ทำไมตอนนี้ถึงได้เปลี่ยนไปหละ?”มู่หรงเฉินฉงลใจ

มู่หรงเจิงกรอกตาไปมา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ ต่ำว่า “นางความจำเสี่ยม”

สําหรับการคาดเดาของพวกเขาเย่เล่อจือไม่ได้ สนใจมาก แต่ที่พากเจ้าสนใจก็คือคำว่า”องค์หญิง”ต่าง หาก ถึงแม้เย่เล่อจือถึงแม้จะเป็นองค์หญิงผู้สูงศักดิ์ แต่ ก็ถือได้ว่าเป็นน้องสาวของทั้งมู่หรงเฉินกับมู่หรงเจิงแล้ว

ถึงกระนั้นพวกเขายังส่งนางไปยังหอนางโลมแล้วยังยกนางให้กับขอทานอีก ทั้งสองคนนี้ซึ่งเป็นคนที่ ไร้คุณธรรมเสียจริงๆหรอ อ้อ!ไม่ใช่สิ พวกเขาแซ่มู่หรง แต่นางแซ่เย่เล่อจือนั่นก็ถือว่าไม่ใช่ครอบครัวเดียวกัน หนิ หรือว่าองค์หญิงผู้นี้คือเด็กที่ถูกเก็บมาเลี้ยงกันนะ

เล่อจือที่กำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่นั้น ได้โด นมู่หรงเฉินดึงเข้าไปอยู่ในอ้อมกอด รองเท้าอีกข้างก็ โดนถอดออกไป “ท่านจะทำอะไร?”เล่อจือตกใจเป็น อย่างมาก แล้วใช้ข้อศอกกระทุกเข้าไปที่บริเวณอก แล้วอาศัยจังหวะนั้นบิดตัวเองออกมา แล้วมองมู่หรงเฉิน ด้วยสายตาขวาง

มู่หรงเฉินใช้มือข้างหนึ่งลูบบริเวณหน้าอก แล้วมอง นางด้วยสายตาที่โมโห “เจ้ากล้าทำร้ายข้ารึ?” เมื่อสัก ครู่ที่เล่อจือได้ลงมืออย่างไม่ยั้งกำลังตรงบริเวณหน้าอก นั้น ทำให้อีกฝ่ายได้รับความเจ็บปวดเป็นอย่างมาก

เย่เล่อจือจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่ “เมื่อสักครู่ฝ่าบาท พูดว่าหม่อมฉันเป็นองค์หญิง ในเมื่อเป็นองค์หญิง งั้นก็ ถือว่ามีความเกี่ยวข้องเป็นพระวงค์ของฝ่าบาท ฝ่าบาท เสียมารยาท อย่างงี้ต้องให้พูดไหมเพคะ?”

มู่หรงเฉินหัวเราะลั่น แล้วพูดต่อว่า “เย่เล่อคือนี่ เจ้าเสียสติไปแล้วหรือเจ้าลืมไปแล้ว?”

เดาผิดงั้นรึ เย่เล่อจือมองไปยังมู่หรงเจิงแล้วปะทะเข้า กับสายตาเย้ยหยัน แล้วคิดตลกตัวเอง แอบคิดว่าเขา คนนี้มีอะไรแล้วไม่ยอมบอกกับตน หรือว่าจะทำให้ตน เสียหน้ากันนะ
“ฮ่องเต้ ปานที่อยู่ใต้ฝ่าเท้านั้นยากที่จะมีคนลอก เลียนแบบได้นะขอรับ ท่านต้องดูให้ชัดเจน ” มู่หรงเจิง พูดออกมาอย่างช้าๆ แล้วยกแก้วสุราในมือขึ้นมาจิบ เบาๆ

ที่แท้แล้วการที่มู่หรงเฉินถอดรองเท้าตนเองออก นั้นเพื่อเป็นการแยกแยอะเท็จจริง เย่เล่อจือก้มลงไป แล้วยกเท้าขึ้นมา พร้อมทั้งมองดูปานสีแดงรูปดอกเหม ยอย่างงดงาม

มู่หรงเฉินพยัคหน้า สงบสติแล้วพูดว่า “ข้าเชื่อว่า เจ้าคือเย่เล่อจือตัวจริง แล้วแผลที่หน้าผากเจ้ายังเจ็บ อยู่หรือไม่?” พร้อมทั้งส่งสัญญาณมือให้เย่เล่อจือนั่งลง

เย่เล่อจือถอนหายใจ พร้อมทั้งสวมรองเท้ากลับ แล้วนั่งลงกินข้าวต่อ

“เล่อจือถึงเจ้าเป็นองค์หญิง และมิใช่องค์หญิง แคว้นแคว้นจิ่นสวีของข้า หากแต่เป็นองค์หญิงของ แคว้นเฌอหลี” คำพูดของมู่หรงเฉินนั้นทำให้มือที่ถือ ตะเกียบอยู่ ร่วงลงไปจากมือนางทันที

“แคว้นเฌอหลีงั้นรึ? งั้นข้าก็สมควรตะกลับได้ แล้วใช่รึไม่? ” เย่เล่อจือแอบดีใจ โอ้วเจ้าของร่างเดิม ของข้าซึ่งเป็นคนที่สูงส่งจริงแท้

มู่หรงเฉินคิดสักพักแล้วพูดว่า “เจ้ามีการหมั้น หมายกับข้าอยู่ จะกลับได้เยี่ยงไรเล่า”
หมั้นหมายงั้น? เย่เล่อจือหันกลับมามองมู่หรง เฉิน เขาเป็นสวามีของข้างั้นรึ? ช่างเป็นที่น่านับถือยิ่ง นัก ฮ่องเต้! เป็นคนของฮ่องเต้งั้น! โอ้วแม้กระทั่งฝันก็ มิอาจจะเป็นไปได้ “หากเป็นเช่นนี้ ทำไมฝ่าบาทถึงตรัส ให้ข้าแต่งงานกับขอทานหละ?”

“หากเจ้ารับปากข้า ข้าก็จะยกเลิกเกี่ยวกับเรื่อง การแต่งงานเจ้าทันที อยู่ข้างๆข้า มาเป็นสนมของข้า เถิด” มู่หรงเฉินพูดพร้อมยิ้มกว้าง เวลาที่เขายิ้มมันช่าง งดงาม เป็นมิตร ไม่เหลือคราบฮ่องเต้ที่โหดเหี้ยมเลย แม้แต่น้อย

“ข้าอยู่ในวังได้ แต่ข้าจะไม่เป็นสนมของท่าน” เย่ เล่อจือไม่อยากจะมาแย่งผู้ชายคนเดียวกับเหล่าสนม

“รอยยิ้มของมู่หรงเฉินยังคงไม่เลือนหาย “ได้ ขอแค่เจ้ายินยอมจะอยู่ในวังต่อ ข้าจะรอจนกว่าจะถึง วันที่เจ้ายินยอม”

เย่เล่อจือพอใจกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ยิ่งเห็น ฮ่องเต้ยกเหล้าในมือดื่มจนหมดยิ่งพอใจ

เย่เล่อจือยอมสงบติลง มู่หรงเฉินกับมู่หรงเจิงยก แก้วเหล้าขึ้นมาจิบอย่างยินดี พร้อมทั้งยิ้มไม่หุบ เสมือน กับว่าความเย็นชาที่เคยมีอยู่นั้นได้มะลายหายไป มู่หรง เฉินนั้นแทบจะไม่เหลือคราบของฮ่องเต้เสียด้วยซ้ำ มู่ห รงเจิงเองก็เช่นกัน ก็แค่กินข้าวไม่เยอะ แต่กลับดื่มเหล้า ไม่ขาดสาย
“หลังจากที่ถามสัพเพเหระ มู่หรงเฉินก็ถามขึ้นมา ว่า “ในเมื่อกลับมาแล้ว งั้นก็ไปอยู่ที่เหมือนหลวงเถิด”

มู่หรงเจิงยังมีข้องข้องใจนิดหน่อยจึงถามไป ว่า”องค์ชายเก้าของที่นั้นจะปฏิบัติต่อข้าเยี่ยงไร”

“เจ้าเป็นสหายคนสำคัญของข้า การมาในครั้งนี้ ทำให้ข้ารู้สึกไม่คุ้นเคย แม้กระทั่งว่าองค์ชายเก้ายังจะ ต้องทำอะไรให้เจ้ารู้สึกอึดอัดสักครั้งเป็นแน่” มู่หรงเฉิ นก็คิดไว้อยู่แล้ว

“ถูกต้อง”มู่หรงเจิงน้อบรับคำสั่งจากมู่หรงเฉินด้วยชีวิต


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ