พี่สาวเจ็ดคนทีสวยสง่าของผม

บทที่ 7 อย่าถูกหลอกเลย



บทที่ 7 อย่าถูกหลอกเลย

เย่หรูเว่ โชว์บัตรเจ้าหน้าที่ตำรวจ แล้วสอบถาม

เหล่านักข่าวพอเห็นบัตรเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงเล่าสิ่งที่ได้ เห็นสิ่งที่ได้ยินให้เย่หรูเสบู่ฟัง

เดิมทีพวกเขามาที่นี่เพื่อทำข่าวพิธีแต่งงานที่ยิ่งใหญ่ บังเอิญถ่ายได้เนี่ยเฟิงตอนแย่งเจ้าสาวพอดี

คังเมิ่งกับเย่หรูเสวสุมหัวไปดู ร้องเสียงเดียวกันว่า “เขา

“แสยะชะมัด ! วิญญาณตายนี่ทำไมไม่สลายไปนะ! ถึง กับมาก่อความวุ่นวายงานพี่ใหญ่ที่นี่

ดังเมิ่งโมโหจนกว่าปั้นไว้แน่น อยากที่จะเอาตัวเนี่ยเป็ งมาชกแรกสักยก

แต่ปฏิกิริยาของพี่ใหญ่ก็ประหลาดเหลือเกิน ทำไมพี่เขา ถึงได้ไปกับหมอนี่นะ ?”

นี่เป็นจุดที่เย่หรูเสว่คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก ดูจากเหตุผล แล้ว พี่ใหญ่ของพวกเขาเป็นคนที่สุขุมที่สุด เป็นไปไม่ได้ที่จะ วู่วามอย่างนั้นแน่

“ไม่เห็นต้องพูด ต้องเป็นเพราะหมอนี่ก่อเรื่อง เจ้ายคนนี้ต้องทําอะไรแน่ ! ไม่ได้ พวกเราต้องรีบติดต่อพี่ใหญ่ จะให้พี่ ถูกเขาหลอกลวงไม่ได้ !

ยังเพิ่งปากพูดไป ก็รีบร้อนโทรเข้ามือถือของชีวเฉิง

เวลานี้ชิวมู่เฉิงขึ้นไปเปลี่ยนชุดเจ้าสาวออกที่ชั้นบน ได้ยิน เสียงโทรศัพท์มือถือดัง จึงรับสาย

“พี่ใหญ่ ! พี่อยู่ไหนคะ ? นายปุ๋ยตัวแสบนั้นไม่ได้ทำอะไร

ใช่ไหม ?”

พอรับสาย บ เสียงในโทรศัพท์เป็นเสียงที่ร้อนใจของทั้ง

เพิ่ง

ชิวมู่เฉิงรีบถือมือถือให้ห่างออกไปเล็กน้อย เธอห่วงว่า แก้วหูจะมีปัญหา

“พี่ใหญ่ ตอนนี้พี่ปลอดภัยดีไหม ? ฉันจะรีบหาโลเคชั่น ของมือถือพี่เดี๋ยวนี้ หมอนั่นถ้ากล้าคุกคาม ฉันจะให้เขา กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเลย !!

ซิวเฉิงทั้งจำทั้งร้องไห้ขึ้นมา “พวกเธอพูดอะไรกันนะ ?

“พี่ใหญ่ พี่ไม่ต้องปิดบังแล้ว เมื่อเรารู้มาจากทางนักข่าว แล้ว มีกุ้ยตัวแสบคนหนึ่งบุกเข้ามาในพิธีแต่งงานของพี่ แล้ว ยังกล้าพาพี่ไปอีก !

ดังเมิ่งพอนึกถึงว่าหมอนลงไม้ลงมือกับเธอที่รถไฟ แล้วยัง บอกว่าเธอเป็นภรรยาของเขา ทำให้แฟนคลับของเธอหายไปหมด เธอจึงโมโห ก

“พวกเธอจําเขาไม่ได้กันเหรอ ?

ชีวเฉิงตะลึงไปชั่วครู่ ดูท่าทางน้องสาวทั้งสองเข้าใจผิด แล้ว ทว่าหลายปีผ่านไปขนาดนั้น พวกหล่อนจำไม่ได้ก็เป็น เรื่องปกติ

ตอนแรกชิวมุ่งเฉิงก็ไม่กล้ารู้จัก แต่เธอสัมผัสเงาในวัยเด็ก จากตัวของเนี่ยเฟิงได้ พอได้ยืนยัน ก็แน่ใจเลย

“เอะ ? จำไม่ได้อะไรกัน ? หมอนั่นก็เป็นภัยตัวแสบไง เป็น

พวกหิ่นกาม…

ชิวเฉิงอดหัวเราะไม่ได้ “เขาคือเสี่ยวเฟิงไง

“อะไรนะ ? !”

ดังเมิ่งกับเหรูเว่ มองตากันและกัน พูดสองคำนี้ออกมา พร้อมกัน

“ในเมื่อพวกเธอไม่เชื่อ งั้นก็มาที่บ้านฉันก่อนสิ

ดังเมิ่งกับเย่หรูเสวมีความสงสัยบางอย่างภายในใจ ทั้งที่ เนี่ยเพิ่งหายสาบสูญไปนานแล้ว พวกหล่อนตามหาอยู่หลาย ปีก็พบร่องรอยใด ๆ เย่หรูเว่เพื่อตามหาเนี่ยเฟิงถึงได้มา เป็นตำรวจ

เพียงแต่สืบต่อไป เย่หรูเสวรู้สึกว่าเนี่ยเฟิงไม่น่าจะมีชีวิตรอด หล่อนเสียใจตำหนิตัวเองเพราะเรื่องนี้มาตลอด

ตอนนี้ช่วมเฉิงกลับบอกว่าน้องชายของพวกหล่อนยังมี ชีวิตอยู่ และยังเป็นเนี่ยเฟิงที่มีรูปร่างแข็งแรง

ไม่ใช่ว่าหล่อนสองคนไม่เชื่อ เพียงแต่เรื่องนี้เหมือนเป็น ภาพลวงตาไปหน่อย หล่อนสองคนไม่มีเวลาสนใจขนาดนั้น แล้ว รีบวิ่งรถไปยังบ้านของซิวเฉิงทันที

หลังจากชิวมู่เฉิงเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ ลงจากชั้นบนก็เห็น เนี่ยเฟิงที่นั่งดื่มน้ำอยู่บนโซฟา

ปกติแล้ว ชิวมู่เฉิงเป็นคนเงียบ ๆ ดูภายนอกไม่น่าใกล้ชิด แต่พอมองมายังเนี่ยเฟิง ดวงตาที่เปี่ยมไปด้วยความเย็นชา กลับแฝงความอ่อนโยนเอาไว้

เนี่ยเฟิงประเมินวิลล่าเล็ก ๆ ของซิวมู่เฉิง ดูเพล็กซ์เล็ก ๆ แบบนี้ก็สวยงามไม่เลว แม้พื้นที่จะไม่ใหญ่มาก แต่ก็เติมเต็ม การใช้ชีวิตได้

“เสี่ยวเฟิง คงต้องลำบากเธออาศัยอยู่ในบ้านหลังเล็ก ๆ ของพี่ใหญ่ชั่วคราวแล้ว”

ชิวมู่เฉิงช่วยตระกูลชิวทำอะไรทั้งหลายอย่าง ต่อให้ตระ กูลซิวทารุณ แต่เธอก็ยังมีทรัพย์สินของเธอเอง วิลล่าหลังเล็ก นี้ก็เป็นหนึ่งในนั้น

“ไม่เลย บ้านนี้ใหญ่มากเพียงพอแล้ว”
บ้านหลังใหญ่กว่านี้เนี่ยเฟิงก็เคยอยู่ เพียงแต่ต่อให้บ้าน หลังนี้ใหญ่ขึ้นแล้วจะมีประโยชน์อะไรกัน ? กำแพงทองแดง ผนังเหล็ก เหล็กเส้นปูนซีเมนต์ ไม่มีความรู้สึกให้น่าเอ่ยถึง แม้แต่นิดเดียว

“หลายปีมานี้เธอคงใช้ชีวิตลำบากมาสินะ ?”

ชิวมู่เฉิงพูดไปพลางก็เดินมากุมมือเนี่ยเฟิงเอาไว้

เธอมองดูมือทั้งคู่ที่เต็มไปด้วยรอยแผลและรอยด้านของ เนี่ยเฟิง อยู่ ๆ ก็รู้สึกคัดจมูก ขอบตาก็แดง “เป็นเพราะ พวกพี่ไม่ดี พวกพี่ไม่เอาไหน ไม่ได้ดูแลเธอให้ดี

เนี่ยเฟิงถูกมือน้อย ๆ ที่อ่อนนุ่มกุมเอาไว้ก็ใจเต้นตูมตาม ขึ้นมา จากนั้นความรู้สึกทรมานใจที่สะสมมาหลายปีเหมือน

จะทะลักออกมา

ตอนนั้นเขามีชีวิตอยู่ในการฝึกฝนที่เข้มงวด แล้วต้อง หมอบคลานต่อสู้ในภารกิจทุกรูปแบบไม่ขาด เขานึกว่าตัว เองไร้ซึ่งความรู้สึกไปนานแล้ว

แต่เมื่อได้พบพี่สาวอีกครั้ง เขาจึงรู้ว่าการได้ถูกอยู่ในใจ ของใครเป็นความรู้สึกอย่างนี้นี่เอง

“พี่ ตอนนี้ผมก็สบายดีนี่ พี่ไม่ต้องเสียใจ

เนี่ยเฟิงมองดูขอบตาแดงก่ำของซิ่วเฉิง อยู่ ๆ ก็รู้สึก เหมือนหัวใจถูกจับไว้แน่น
“ถูกต้อง เธอยังมีชีวิตอยู่ เป็นเรื่องที่ดีกว่าอะไรทั้งหมด! เธอวางใจนะ ต่อไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พี่สาวจะปกป้องเธอ เอง จะให้เธอได้รับบาดเจ็บแม้เพียงนิดเดียว !!

เนี่ยเฟิงอดปนหัวเราะไม่ได้ ถ้ารู้ว่าความสามารถของ เขาเหนือกว่าชิวมู่เฉิงเท่าไหร่ ถ้าต้องปกป้องก็เป็นเนี่ยเฟิง เขาที่ต้องปกป้องบรรดาพี่สาว

ทว่าเนี่ยเฟิงก็ไม่ได้เอ่ยออกมาจากปาก การได้ถูกพี่สาว ปกป้องเช่นนี้ก็เป็นความสุขคนเราอย่างหนึ่ง

ในเวลานี้เอง ภายนอกก็ส่งเสียงเคาะประตูดังเข้ามา

ชิวมู่เฉิงเช็ดที่หางตาเสร็จ ก็กลับคืนสู่ท่าทางที่เย็นชา “ฉัน ไปดูเดี๋ยว”

“คงไม่ใช่คนตระกูลฟางมาหรอกนะ ?”

เนี่ยเฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อย หมอนถูกต่อยขนาดนั้นแล้ว ยัง จะกล้ามาอีก ?

“ไม่ใช่”

ซิ่วเฉิงส่ายหน้ายืนยันอย่างยิ่ง โดยทั่วไปไม่มีใครรู้ที่อยู่ ของเธอ เว้นแต่เหล่าน้องสาวของตัวเอง

แล้วใครกัน ?”

เนี่ยเฟิงสงสัยเล็กน้อย
“เดี๋ยวเจอเธอก็รู้เอง”

ซิวมู่เฉิงพูดพลางก็เปิดประตูออก

เนี่ยเฟิงมองไปที่ประตู ก็ได้เห็นทั้งเมิ่งกับเข่หรูเส ดวงตาโตของทั้งสามคนจ้องไปที่ดวงตาเล็ก ๆ “พี่ใหญ่ ! พี่แน่ใจว่าไม่ได้เข้าใจผิดนะ พี่อย่าถูกเขาหลอก

เอานะ !”

คังเมิ่งเท้าสะเอวเดินเข้ามา มองดูเนี่ยเฟิงจากมุมสูง “หมอ นี่จะเป็นน้องชายของฉันได้เหรอ ?”

เนี่ยเฟิงอดที่จะแบะปากไม่ได้ “พี่เจ็ด สมัยเด็ก ๆ พี่อ่อน โยนมากเลย แล้วก็ขี้ขลาด เรียนเก่งที่สุดในบรรดาพวกเรา สมัยเด็กพี่บอกเองว่าโตแล้วจะเป็นคุณครูไม่ใช่เหรอ ? ตอน นี้ทำไมไปทำไลฟ์สดแล้วล่ะ ?”

ท่าทางคงเพิ่งเหมือนเจอผีชั่วขณะ “นาย นายรู้ได้ อย่างไร ?”

“น้องเจ็ด เสี่ยวเฟิงเขาจะรู้ก็เป็นเรื่องปกติ สมัยเด็กเธอ สนิทกับเขาที่สุดไม่ใช่เหรอ ?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ