บทที่ 6 อย่าแตะต้องเขา
พอซิวมู่เฉิงพูดเช่นนี้ออกไป ทําให้ทุกคนในงานต่างอ้าปาก
ค้าง
คุณนายใหญ่ชิวยิ่งโมโหหนักขึ้น “ฉันว่าเธอหน้ามืดตา มัวแล้ว ! เจ้าหนุ่มยาจกนี้ไม่รู้ใส่เสน่ห์ยาแฝดอะไรให้เธอกิน ทำให้เธอทิ้งเกียรติของวงศ์ตระกูล ! พวกเธอยังยืนที่ออะไร อยู่ ! ลงมือเร็ว !”
พอบอดี้การ์ดสองสามนายได้รับคำสั่ง ก็บุกเข้าไปในพริบ ตา เพื่อจะสั่งสอนเนี่ยเฟิง
แต่พวกเขาแตะไม่ได้แม้แต่ชายเสื้อของเนี่ยเฟิง แล้วยังถู กชีวมเฉิงสวิงเตะ ลอยละลิ่วไปไกล!
บอดี้การ์ดอีกสองนายคิดไม่ถึงว่าฝีมือต่อสู้ของชีวมเพิ่งจะ ดีเช่นนี้ ถูกซัดจนรับมือไม่ทัน!
เท่ห์มาก ! เนี่ยเฟิงเห็นฉากกล้าหาญชาญชัยของพี่ใหญ่ อดอุทานในใจไม่ได้ ไม่เสียแรงที่ตอนนั้นได้ประลองกับพี่ ใหญ่ หลายปีผ่านมาแล้ว ฝีมือการต่อสู้ยังคงไม่ตกเลย !
“ฉันว่าพวกเธอไม่ใส่ใจคำพูดของฉัน
สีหน้าของซิ่วเฉิงเข้มข้นขึ้น “ใครกล้าลงมือ ฉันรับรองว่า เขาอยู่ไม่พ้นวันนี้แน่”
พอเธอพูดจบ เสียงดัง “แควก” จากการฉีกชุดเจ้าสาวที่ เป็นภาระบนตัวก็ดังขึ้น
“ซิวมู่เฉิง เธอใจแข็งที่จะเป็นศัตรูกับตระกูลชิวใช่ไหม ?
คุณนายใหญ่ชิว โมโหจนกัดฟันกรอด ๆ จ้องมองชีวมเฉ งอย่างเอาเป็นเอาตาย วันนี้เธอต้องขายหน้าทั้งวงศ์ตระกูล แล้ว !
ทั้งที่ปกติซิวมู่เฉิงเป็นเด็กที่เชื่อฟัง สั่งให้เธอไปทางตะวัน ออกเธอจะไม่กล้าไปทางตะวันตก แต่ตอนนี้เพื่อชายหนุ่มป่า เถื่อนโผล่มาจากไหนไม่รู้ เธอถึงกับทรยศตระกูลชิว ทรยศ ท่านย่า !
“หนูไม่ได้จะเป็นศัตรูกับตระกูลชิว หนูแค่ทำในสิ่งที่หนูคิด ว่าถูกต้อง หนูจะทิ้งฐานะในตอนนี้ของหนู ต่อไปหนูไม่ใช่คน ตระกูลชิวอีกต่อไป”
เธอรู้สึกว่าถูกต้อง ที่ต้องปกป้องน้องชายไม่ให้ถูก ทําร้าย !
“ขอโทษค่ะ พิธีแต่งงานครั้งนี้ถือเป็นโมฆะ !”
ชิวมู่เฉิงประกาศเสร็จ ก็หันกลับไป ดวงตาที่เยือกเย็นทั้งคู่ เต็มไปด้วยคำว่าอ่อนโยน
เธอพูดกับเนี่ยเฟิงด้วยความอ่อนโยนว่า “น้องชาย พวก เราไปกัน พี่ยังมีเรื่องอีกมากจะบอกกับเธอ
เหล่าแขกเหรื่อได้เห็นฉากนี้ อดไม่ได้ที่จะซุบซิบกัน
เป็นที่รู้กัน ตระกูลฟางกับตระกูลชิวทั้งสองตระกูลผูกดอง กัน เป็นที่ครึกโครมไปทั่วเมืองตั้งให
ฟางชื่อเหาก็นึกไม่ถึงว่าจะมีเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ตระกูล ฟางของพวกเขาเสียหน้ากันหมดแล้ว !
ฟางซื่อเหาโมโหสุดชีวิต เขาคิดเสมอว่าต้องได้ตัวชิวเฉิง แต่เธอกลับไปกับชายอื่น
ความแค้นนี้เขาจะยอมได้อย่างไร ?
ตอนที่ตกใจลนลานเขารีบคว้าเก้าอี้ข้าง ๆ โยนใส่เนี่ยเฟิง
เนี่ยเฟิงเป็นคนตื่นตัวดีมาตลอด ลูกไม้แค่นี้ของฟางซื่อ เหาจะพ้นสายตาของเขาได้อย่างไร ?
เห็นแต่เนี่ยเพิ่งเข้ามาปกป้องชีวมเฉิงอย่างรวดเร็ว อีกมือ ก็คว้าเก้าอี้ที่ฟางชื่อเหาโยนมาใส่เขา เขาหมุนเก้าอี้ตัวนั้นใน มือรอบหนึ่ง แล้วก็วาดเส้นพาราโบล่ากลางอากาศ หันไป ทางฟางซื่อเหา !
ฟางซื่อเราเห็นท่าทางไม่ดี เดิมที่คิดจะหนี แต่ความเร็ว ของเขาสู้ความเร็วที่โยนออกมาของเก้าอี้ไม่ได้ !
ฟางซื่อเหาหลบไม่ทน ถูกเก้าอี้กระแทกศีรษะจนเลือดออก ! ทำเป็นเล่น เมื่อครู่เนี่ยเฟิงจงใจใส่พลังเข้าไป ดังนั้นเก้าอี้กระแทกลงไปเลยมีไดนามิค
ฟาง อเหาถูกกระแทกจนหัวบาน หวิดสลบไปแล้ว “คุณชายฟาง ! ให้ตายคุณชายฟาง ! ”
คุณนายใหญ่ซิวเห็นสภาพ ตกใจจนเหงื่อท่วมตัว เธอรีบ กระโจนเข้าไป คนที่ไม่รู้อาจจะคิดว่าฟางซื่อเหาเป็นหลาน ขายของเธอก็ได้
“แก ! ไอ้หมอนี่ ฉันไม่ปล่อยแกไว้แน่ พวกนายยั่งยืนที่อ อะไรอยู่ ? ยังไม่รีบไปจัดการอีกหา ! จะรอดูฉันถูกเล่นงานเห รอไง”
ฟางชื่อเหาเพิ่งหกล้มฟันหัก ฉะนั้นเวลาพูดเลยเสียงลม ออกมาด้วย
“ฟางซื่อเหา ทั้งหมดนี้คุณท่าตัวเองทั้งนั้น พวกนายใคร กล้าลงมือ ฉันจะให้มันตาย !”
ชิวมู่เฉิงขวางทางอยู่ด้านหน้าเนี่ยเฟิง เนี่ยเฟิงมองดูพี่ ใหญ่ปัจจุบันที่อยู่ในอ้อมอกของเขายังคงปกป้องเขาเหมือน สมัยเด็ก พลันก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาในหัวใจ
“ซิวมู่เฉิง ! คุณแสดงตัวจะเป็นศัตรูกับผมใช่ไหม ? เขามัน แค่คนมีแต่ตัว ไม่มีอะไรเลย คุณจะไปกับเขาเหรอ ?
ฟางชื่อเหาโมโหจนไม่ไหว เขาแย่กว่าหมอนตรงไหนกัน ?
หุบปาก” ซิวเฉิงมองฟางเหาด้วยความเย็นชา ถ้า ฉันยังได้ยินคำประนามเสี่ยวเฟิงจากปากของคุณอีก ฉันจะ ไม่ละเว้นคุณ”
มู่เฉิงพูดจบ ก็จูงมือเนี่ยเฟิง “เสี่ยวเฟิง เราไปกัน
เกิดความโกลาหลในงานขึ้น ทุกคนต่างไม่รู้ว่าต้องทำ อย่างไร เวลานี้ก็ไม่ได้กล้าลุย ได้แต่ยอมเปิดทางให้
สิ่งเร่งด่วน ในตอนนี้คือ พาตัวฟางเหาไปส่งโรง พยาบาล เรื่องงานแต่งอะไรนั่น จัดต่อไปไม่ได้แล้ว
ชีวเฉิงพาเนี่ยเฟิงไปเอารถ ขับออกไปปานสายลม
ขอโทษด้วยเสี่ยวเฟิง เป็นเพราะความสามารถของพี่ ใหญ่ไม่พอ ได้แต่ให้เธอต้องทนนั่งรถอย่างนี้ พวกเรากลับไป กันก่อนเถอะ พี่สาวคนอื่นถ้ารู้ว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ต้องดีใจ แน่นอน !”
ชิวมู่เฉิงพูดถึงตรงนี้ น้ำเสียงก็ขึ้นมาก หลายปีมา แล้ว เธอเสียใจมาตลอด ที่ปกป้องเนี่ยเฟิงไม่ได้
เธอตำหนิตัวเองตลอด โทษสวรรค์ โทษตัวเอง ที่ไม่มี โอกาสดูแลเนี่ยเฟิงให้ดี
แต่นึกไม่ถึงว่าเนี่ยเฟิงยังมีชีวิตอยู่
“พี่ใหญ่ พี่พูดอะไรของพี่ ? รถคันนี้เยี่ยมมาก ผมได้เห็น พวกพี่ผมก็ดีใจนะ !”
เนียเฟิงมองดูรถยนต์ออร์ตี้คันนี้ กล่าวตามที่เป็น
แน่นอน สำหรับเนี่ยเฟิงแล้ว รถหรูก็เท่านั้น รถหรูของเขา มีมากจนเก็บเข้าคลังรถไม่ไหว
แต่รถคันนี้เป็นรถยนต์ของซิวเฉิง พอเขาคิดเช่นนี้ก็รู้สึก นั่งสบายขึ้นมาอย่างพิเศษ
ใบหน้าของซิ่วเฉิงเก็บความรู้สึกเอาไว้ เธอดีใจมาก ฉะนั้นความเร็วของรถจึงเร็วขึ้น
ข้างหน้าเพิ่งจะหนีไป ข้างหลังก็มีสาวสวยตามมาติด ๆ เห็นได้ว่าพวกเธอสองคนจะรีบมาให้ทันงาน
“เอะ ? พิธีแต่งงานเสร็จเร็วอย่างนั้นเลยเหรอ ? ไม่มั้ง !!
ค้งเมิ่งหงุดหงิดไม่หยุด ในบัตรเชิญเขียนอยู่ชัด ๆ ว่างาน เริ่ม 12 นาฬิกา ตอนนี้ยังไม่ถึงไม่ใช่เหรอ?
“น้องเจ็ด รอ เดี๋ยวนะ
ผู้ที่ตามดังเพิ่งมาก็คือเย่หรูเสาที่เปลี่ยนชุดแล้ว พอเย่หรู เสวรู้สึกตัวฟื้นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองตัวเหม็นไปทั้งตัว เธอได้ แต่อาบน้ำด้วยความโมโห ไปส่งมอบเวรที่สังกัดก่อน แล้ว ค่อยรีบตามมา
“พี่หก ทำอย่างไรดี พวกเรามาช้าไปแล้ว !!
ผังเมิ่งมองดูเย่หรูเสว่ด้วยความน่าสงสาร “เธอว่าพี่ใหญ่จะถือโทษพวกเราไหม ?”
เหรูเสวมองดูสถานที่จัดงานที่เละเทะ ก็รู้สึกประหลาดใจ “งานแต่งไม่เสร็จเร็วอย่างนั้นแน่
ต่อให้พิธีเสร็จไปแล้ว ก็ต้องทานเลี้ยงกันถึงจะถูก อีก อย่างว่าตามขั้นตอนแล้วจะเสร็จเร็วอย่างนั้นได้อย่างไร ?
“เอะ ! พี่หกมาดูนี่เร็ว นั่นอะไรน่ะ ?”
เย่หรูเสวมองตามนิ้วที่ยังเพิ่งไป จึงได้เห็นนักข่าวกำลัง ทําข่าวอยู่
พวกเธอสองคนเข้าไปใกล้ขึ้น จึงได้ยินที่นักข่าวรายงาน
“ดังนั้น คนที่ที่ทำให้นางฟ้าเบอร์หนึ่งแห่งเมืองตงไห่คุณ หนูใหญ่ตระกูลชิวทอดทิ้งทุกอย่างได้ กระทั่งทิ้งคุณชายฟาง ไว้กลางครับไม่ใยดีและหนีตามเขาไปเป็นใครกัน ? ชาย ปริศนาผู้นี้มีเสน่ห์ที่อะไร ? เราจะติดตามรายงานมาให้ทราบ
!”
“ขอโทษค่ะ คุณตำรวจ ไม่ทราบว่าที่นี่เมื่อครู่เกิดอะไรขึ้น
คะ ?”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ