บทที่ 10 ถ้าเจ้าชอบก็ทำบ่อยๆ
นําหนักหลับเทียน
ร่างบางที่กำลังพับเก็บอาภรณ์ของชินอ๋องที่นำมาซักลงในหีบ เพื่ออบรให้กลิ่นหอมซึมลึกลงไปในเนื้อผ้าทิ้งไว้สักวันสองวันก็ ใช้ได้นางคิดสูตรน้ำอบนี้ขึ้นมาเองเอาไว้ใช้จนกลายเป็นกลิ่น ประจําตัวไปแล้วนอกจากจะนำมาอบอาภรณ์ผสมน้ำอาบยัง ใช้เป็นน้ำหอมพรมตามร่างกาย ในระหว่างวันได้อีกด้วย
หลังจากนางกำนัลยกหีบอาภรณ์กว่าสามหีบออกไปเก็บแล้ว ร่างบางจึงหยุดพักจิบชาคลายเหนื่อยสักครู่
“พระชายาเพคะ ยามโหย่ว (17.00-18.59) แล้วทรงรีบไป
สรงน้ำเถิดเพคะ ท่านอ๋องคงใกล้เสด็จกลับมาถึงแล้วเพคะ”
“ยามโหย่วแล้ว ข้าลืมไปสนิทเร็วเข้า เสี่ยวอรีบไปช่วยข้า เตรียมอาภรณ์ ข้าจะอาบเอง”
“แต..พระชายาเพคะ”
“ไปเร็ว ไม่มีเวลาแล้วข้าอาบเองได้”
ขุนนางชักช้าอีกไม่รู้ว่าคนผีเข้าผีออกอย่างในอ๋องจะหาเรื่อง
ใดมากลั่นแกล้งนางอีก
หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนอาภรณ์อย่างรวดเร็วร่างบางก็พาตัว เองมาถึงตำหนักเฟยเทียนได้เพียงครู่เดียว รถม้าพระที่นั่งของชินอ๋องก็มาจอดเทียบหน้าตำหนักทนางได้แต่แอบถอนหายใจ ช้าๆ เกือบไปแล้วหากนางช้าอีกเพียงเดือดงมิทันแน่
ร่างสูงเดินลงมาจากรถม้าสายพระเนตรเหลือบมองร่างบางที่ ยืนรอรับเสด็จอยู่
“ถวายพระพรชินอ๋องเพคะ/พะยะค่ะ”
“ลุกขึ้น”
ร่างบางที่ยืนในหันไปรับถาดน้ำชาที่น้ำชาหอมกรุ่นอยู่เต็ม ถ้วยชา ยื่นให้แก่ร่างสูงหลังจิบชาหมดพระหัตถ์หนาก็ส่งถ้วยชา คืน ก่อนนางจะยื่นให้นางกำนัลนำไปเก็บ
“ตามเปิ่นหวางมา ส่วนพวกเจ้าไปจัดโต๊ะเสวยได้”
“เพคะ”
ร่างระหงเดินตามร่างสูงเข้ามาในห้องยืนรอรับคำสั่งอยู่
เงียบๆ
“นั่งรอในนี้ เป็นหวางอาบน้ำครู่เดียว”
ตรัสจบร่างสูงก็เดินหายเข้าไปหลังฉากกั้นทันทีปล่อยให้ร่าง บางยืนเคว้งอยู่คนเดียวอย่างแปลกใจ
ให้นางมารอพระองค์สรงน้ำ
ผ่านไปราวหนึ่งเค่อ (15 นาที)
“เข้ามาเกล้าผมให้เป็นหวาง”
ร่างบางเดินเข้าไปในห้องเห็นร่างสูงนั่งอยู่หน้ากระจกสวม อาภรณ์เรียบร้อยด้วยฉลองพระองค์ลำลองสีฟ้าอ่อนจึงหยิบห ขึ้นมาสางพระเกศายาวเบาๆ
“เกล้าขึ้นครึ่งเดียวดีหรือไม่เพคะ”
“แล้วแต่เจ้า”
ได้รับคำอนุญาตนางจึงเกล้าเส้นเกศายาวขึ้นเพียงครึ่งเดียว ปักด้วยปืนหยกเป็นอันเสร็จทนางจึงมองสำรวจความเรียบร้อย พระพักตร์หล่อเหลาที่ติดจะเย็นชานั้น วันนี้ดูอ่อนโยนลงคงเป็น เพราะสีอาภรณ์และเส้นเกศายาวที่ปล่อยสยายลงมาครึ่งหนึ่ง ใน อ๋องนับเป็นบุรุษที่มีรูปเป็นทรัพย์โดยแท้พระพักตร์คมได้รูปจมูก โด่งริมฝีปากหยักนั้นหนาพอดีสีแดงระเรื่อ คิ้วเข้มพาดเฉียงรับ พระเนตรคมราวกลับจะมองทุกสิ่งได้ทะลุปรุโปร่งนั้น รวมกับ วรกายสูงใหญ่มแปลกที่เหล่าสตรีจะหมายปอง แต่หากมีสักคน ได้มาเห็นนิสัยเอาแต่ใจเช่นนางพบเจออยู่ตอนนี้จะทนได้หรือไม่
“มองพอรึยัง หน้าเป็นหวางมีสิ่งใดติดอยู่งั้น”
“เอ่ออ ไม่มีเพคะ หม่อมฉันเพียงคิดว่าผมทรงนี้เหมาะกับ พระองค์ดีเพคะ”
มุมโอษฐ์หยักยกยิ้มมุมปากช้าๆ สบตานางผ่านกระจก ก่อน เอ่ยคำที่ทำนางแทบไปไม่เป็น
“หากเจ้าชอบก็ทําให้เป็นหวางบ่อยๆ ก็ได้”
“เอ่ออ..เพคะ”
หลังการเสวยทีเงียบเชียบผ่านไปนางก็กลับมายังตำหนักหลับ เทียนทันทีส่วนในอ๋องก็ทรงเข้าห้องอักษรเพื่อทรงงานต่อ ถึงแม้ การเสวยร่วมกันคราวนี้จะยังทรงเมินเฉยและไร้การพูดคุยกัน เช่นเดิม แต่บรรยากาศนั้นต่างออกไปมิได้รู้สึกอึดอัดหรือกดดัน เช่นคราแรก
ร่างบางที่นั่งรับลมอยู่โต๊ะข้างหน้าต่างบานใหญ่คิดถึง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ไม่ว่าจะคิดยังไงนางก็เข้าใจพระองค์ อยู่ดีบางทีก็เหมือนพระองค์จะดีกับนางอยู่บ้างแต่อีกสักพักก็ เปลี่ยนไปเป็นอีกคนช่างเอาใจยากยิ่ง
จวนตระกูลหลาน
“ท่านอ๋องเสด็จมาหรือไม่”
หลานกุ้ยอิงเอ่ยถามสาวใช้เป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วมิรู้หลายวัน แล้วที่ไม่เสด็จมาหานางทั้งที่พระองค์มิเคยห่างหายไปเช่นนี้สัก ครั้ง
“เอ่อ…ยังไม่เสด็จมาเลยเจ้าค่ะ”
ใบหน้างดงามเริ่มบึ้งตึงมือเล็กกำแน่น
“เหตุใดมิทรงเสด็จมา นี่ก็สามวันแล้วที่เสด็จมา”
“พระองค์อาจจะมีราชกิจเร่งด่วนก็ได้นะเจ้าคะ
หรวนเหยาหาทางเอ่ยปลอบใจเจ้านาย
“พรุ่งนี้ให้บ่าวนำจดหมายไปมอบให้ท่านอ๋องที่วังเสิ่นหยางกงดีหรือไม่เจ้าคะ”
“ไม่ต้อง ข้าจะไปเอง”
ในเมื่อพระองค์ไม่เสด็จมานางจะเป็นคนไปหาพระองค์เอง อย่างไรนางก็ไปที่นั่นบ่อยครั้งซึ่งพระองค์ก็ทรงอนุญาตให้นาง เข้าออกได้ตลอดอยู่แล้ว
กําหนักเฟยเทียน
ร่างบางทีตื่นขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่เดิมเดินทางมาถึงตั้งแต่ต้น ยามเหมาพร้อมกับเหล่าขันทีที่ยกหีบอาภรณ์ที่นางอบเข้ามา ด้วยร่างสูงที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงกว้างมองหีบใบใหญ่ทั้ง สามหีบอย่างสนพระทัย
“หีบอะไร”
“หีบอาภรณ์ของพระองค์เพคะ หม่อมฉันนำไปซักอบให้
เพคะ”
ทรงทอดพระเนตรมองร่างบางที่จัดเตรียมอาภรณ์ให้พระองค์ อย่างตั้งใจก็แย้มสรวลออกมาเบาๆ ทรงได้กลิ่นหอมอ่อนๆ โชย มาจากอาภรณ์ในหีบนั้นจึงเอ่ยถามนาง
“กลิ่นเดียวกันกับที่ใช้ผสมน้ำใช่หรือไม่”
“เพคะ”
“อืม ดี”
ทรงพยักหน้าอย่างพอพระทัยยามได้กลิ่นนี้ราวกับว่านางอยู่ใกล้พระองค์ตลอดกระนั้นได้แต่สายศรีษะให้กับความคิดของ
ตนเอง
หลังจากสรงน้ำเสร็จโดยที่วันนี้มิทรงได้กลั่นแกล้งนางแล้วจึง ทําให้นางลดการระวังตัวและผ่อนคลายลงมาก
“วันนี้เกล้าครึ่งเดียวพอเป็นหวางมิได้เข้าวัง”
“เพคะ”
“เจ้าอยากออกไปไหนหรือไม่”
“หม่อมฉันอยากกลับจวนเพคะ”
“เช่นนั้นยามอู่ (11.00-12.59) เป็นหวางจะพาไป
“ขอบพระทัยเพคะ เช่นนั้นหม่อมฉันไปเตรียมรับเช้าให้ พระองค์ก่อนนะเพคะ”
ใบหน้างามนั้นแย้มยิ้มเต็มใบหน้าอย่างดีใจทรงทอดมองรอย ยิ้มงามนั้นนิ่ง พระทัยเต้นแรงแปลกๆ
“อืม”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ