ประธานเฟิง ฉันไม่รักนายอีกแล้ว

บทที่ 11 เปลี่ยนเป้าหมายแล้วใช่ไหม



บทที่ 11 เปลี่ยนเป้าหมายแล้วใช่ไหม

ลัวมันจ้องมองที่กาต้มน้ำในมือของเขา

เฟิงเชิงเทน้ำให้อย่างรวดเร็ว และค่อยๆ พยุงไหล่ของเธอ ก่อนเธอจะเอื้อมมือออกไป

“คุณอย่าเพิ่งขยับ ยังให้น้ำเกลืออยู่เลย เดี๋ยวผมจัดการเอง

ลั่วมั่นเพิ่งตื่นขึ้น ในหัวยังคงมึนงง และยังไม่ได้คิดอะไรมาก บวกกับแขนที่อ่อนแรง จึงปล่อยให้เขาช่วงพยุงนั่ง และดื่มน้ำใน มือของเขา

ร่างสูงร่างหนึ่งปรากฏตัวขึ้นที่ประตูในเวลาพอดี และเห็น สถานการณ์ที่หน้าเตียง มือที่จับกรอบประตูก็เกร็งเล็กน้อย ดวงตาลดลงต่ำ

“ดื่มช้าๆ หน่อย……”

ฉากที่ดูเข้ากันได้ดีนั้น ดูแยงตาเฟิงเฉินมากขึ้นเรื่อยๆ ราวกับ ว่ามีอะไรบางอย่างไหม้อยู่ในช่องอกและรามไปที่ศีรษะ

ในตอนที่รับโทรศัพท์ของแม่บ้านหลี เขากำลังประชุม นานาชาติอยู่ และไม่รู้ว่าทำไม ใจของเขาถึงถูกรบกวนมากขึ้น จากนั้นเขาจึงวางทุกอย่างและรีบมาในทันที

แต่สิ่งที่ปรากฏต่อหน้าเขากลับเป็นฉากดังกล่าว เขานึกถึงในวันประมูลที่ก็เป็นอย่างนี้ เพิ่งเซิ่งออกมาช่วยเธอทันที เมื่อไหร่กันที่พวกเขาทั้งสองคนเริ่มมีความสัมพันธ์ที่ดีเช่น

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ใบหน้าของเขาก็อึมครึมขึ้น จากนั้นก็เดินออก

มาจากหลังประตู จ้องไปที่เตียงด้วยใบหน้าที่เป็นชา “ในโทรศัพท์แม่บ้านหลีพูดเกินจริงไปมาก ผมคิดว่าคุณกำลัง

จะตายซะอีก แต่ดูจากตอนนี้ คุณก็สบายดีนี่”

เสียงดังก้องในห้อง ถั่วมั่นเงยหัวขึ้นมอง และเห็นเฟิงเฉินยืน กอดอกอยู่ที่ประตู พิงกรอบประตูและไม่มีร่องรอยความกังวล ปรากฏบนใบหน้าเลย

ความสดใสสุดท้ายในดวงตาของเธอค่อยๆ ดับลง เธอยิ้มมุม ปากเล็กน้อย

” ขอโทษด้วยจริงๆ นะคะ ที่ทำให้คุณผิดหวัง”

ดวงตาของเฟิงเฉินเย็นชาขึ้น และกวาดมองไปที่เพิ่งเพิ่ง

“เสียเวลาผมไม่เป็นไร แต่เพิ่งเซ็งยังมีงานที่ตัวเองต้องทำก็ ต้องมาเสียเวลาอยู่กับคุณ คุณคิดว่ามันเหมาะสมเหรอ?” เมื่อเห็นอย่างนี้ เฟิงเชิงก็ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว

“พี่ครับ พอดีแม่บ้านหลีโทรมาที่โทรศัพท์บ้าน และผมก็อยู่ ตรงนั้นพอดี บ่ายนี้เลยมาดูแทนพ่อสักหน่อยครับ ไม่มีอะไร พี่ไม่ ต้องกังวล ผมส่งข้อความหาพี่แล้ว พี่ไม่เห็นเหรอครับ?”

หลังจากได้ยินแบบนั้น การแสดงออกของเฟิงเฉินก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย และพูดคุยกันอีกไม่กี่ประโยค ในเมื่ออธิบายชัดเจน แล้ว เพิ่งเพิ่งจะอยู่ต่อก็ไม่สะดวก จึงบอกลากับถั่วมั่นและกลับไป

เฟิงเซงเพิ่งออกไป บรรยากาศในห้องก็อึดอัดขึ้นมา

“เท่าที่ผมจำได้ คุณแค่มีไข้ ไม่ได้ขาหักแขนหักไม่ใช่เหรอ? หรืออ่อนแอขนาดต้องให้คนป้อนน้ำให้คุณดื่มด้วย?”

เฟิงเฉินจ้องมองไปที่แก้วน้ำด้วยสายตาอึมครึม

ลั่วมั่นไม่มีแรงมากพอจะสนใจเขา ทำได้แค่หันหน้าไปอีกทาง และดึงผ้าห่มคลุมกาย

ก่อนที่เธอจะล้มตัวลงนอน ก็มีรู้สึกเจ็บอย่างรุนแรงที่คางของ เธอ จนเธออุทานออกมา และจ้องตรงไปที่ชายที่เดินเข้ามาใกล้ เธอทันที

“คุณทําอะไร?”

“ผมทำอะไร?” เฟิงเฉินใช้แรงมากขึ้นและพูดอย่างเยือกเย็น

“กลัวว่าเมื่อคืนนี้ที่ทำไม่ได้ คุณถึงทนรอไม่ไหวที่จะหาคนใหม่ เหรอ? ทำไม? ท้องลูกของผมไม่ได้ ก็จะเปลี่ยนเป็นเฟิงเชิงเหรอ? คุณคิดว่าที่พ่อของผมต้องการลูกของตระกูลเฟิง แล้วพวกเราทั้ง คู่จะเหมือนกันงั้นเหรอ?”

เมื่อได้ยินอย่างนี้ ใจของถั่วมั่นสั่นอย่างแรง ก่อนจะกัดฟันพูด ออกไป

“คุณจะคิดยังไงก็เรื่องของคุณ……”
เมื่อพูดจบ เธอก็หลับตา ทำท่าทางเหมือนคนโดนกดขี่อย่างไร อย่างนั้น

แบบนี้อีกแล้ว!

เฟิงเฉิน โกรธเธอจนพูดไม่ออก จ้องมองเธออยู่ครู่หนึ่ง ก่อน สะบัดมือออก และออกไปอย่างโกรธเคือง

“ปัง” ในห้องกลับมาเงียบอีกครั้ง

ถั่วมั่นลืมตาขึ้นช้าๆ มองไปที่ประตูที่สั่นเทา เม้มริมฝีปากตัว เอง รู้สึกไม่เห็นคุณค่าของตัวเอง

อยากทําร้ายใคร ย่อมหาเหตุผลได้เสมอ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ