ตอนที่ 9 จิตเสน่หา
ดีลสาวเท้าออกจากโรงแรม พนักงานต่างทำความ เคารพ รถกันกระสุนเคลื่อนจอดติดกันสามคัน อัสลันเปิด ประตูเพื่อให้เขานั่ง ส่วนตนเองประจำด้านหน้าคู่คนขับ
“พระองค์จะกลับวังเลยหรือเปล่าพะยะคะ”สรรพนาม เปลี่ยนไปทันทีที่อยู่ในรถ
กษัตริย์มาซาฮาฟทรงครุ่นคิดครู่หนึ่ง แล้วรับสั่ง
“พรุ่งนี้มีประชุมที่ไฮดริก กลับวังเสียเวลาเปล่าๆ ไปแคน ยาสแทนก็แล้วกัน”
“พะ ะค่ะ”
แคนยาสสถานที่อันร่มรื่นอุดมด้วยแมกไม้นานาพรรณ มันคือที่พักผ่อนส่วนพระองค์ของกษัตริย์แห่งซากวัย อัน ที่จริงพระองค์ไม่ค่อยออกสื่อเพราะเกรงต่ออำนาจมืด การเมืองที่นี่ไม่รุนแรงแต่บรรดาผู้ต้องการแย่งชิงบัลลังก์ มีไม่น้อยเลยเลยทำให้ กษัตริย์แห่งประเทศซากวัย มา ซาฮาฟ จาเมียร์ จำต้องทำงานในรูปนักธุรกิจรูปงามผู้ ประสบความสําเร็จในการบริหาร
รถเคลื่อนผ่านถนนผู้คนสัญจรขวักไขว่ พระเนตรสี อำพันทรงทอดมองประชาชนด้วยความภูมิใจ พระองค์ ทรงพัฒนาประเทศจนเจริญก้าวหน้า ผู้คนมีความเป็น อยู่ดีขึ้นกว่าเดิมมากนัก
อัสลันชำเลืองมองประมุขของประเทศด้วยความชื่นชม เขาเป็นราชองค์รักษ์ประจำพระองค์ ตั้งแต่วัยเยาว์ถูก สอนให้ฝึกศิลปะการต่อสู้ การใช้อาวุธในรูปแบบต่างๆ รวมถึงการลอบสังหารเพื่อคุ้มครองกษัตริย์ในอนาคต เคยพบท่านมาซาฮาฟบ่อยครั้งเพราะพระองค์ชอบหนีมา เที่ยวเล่นกับบรรดาลูกของข้าราชการ ไม่ยอมอยู่ในวัง เหมือนพี่ชายต่างมารดา เลยทำให้สนิทสนมกับเด็กๆ วัย เดียวกัน
ในตอนนั้นไม่มีใครรู้จักเจ้าชายมาซาฮาฟ เด็กคนอื่น เลยคิดรุมรังแกแต่พระองค์กลับสู้จนเอาชนะมาได้ ถึงถูก รุมทำร้ายก็ตาม สำหรับเขาชื่นชมมาตั้งแต่ตอนนั้นและ อยากให้เจ้าชายมาซาฮาฟเป็นกษัตริย์ ช่วงที่กษัตริย์คา ยานีสสิ้นพระชมน์มีการถกเถียงกันมากมาย เมื่อกษัตริย์ ทรงมีราชโองการให้เจ้าชายมาซาฮาฟในวัยยี่สิบชันษา เป็นผู้ปกครองประเทศซากวัยต่อ ช่วงจังหวะเกิดเหตุโจร ปล้นฆ่าชาวเมืองทำให้พระองค์ตัดสินใจปราบโจรจน สําเร็จ บรรดาข้าราชบริพารเลยยอมรับและเจ้าชายมาซา ฮาฟกลายเป็นกษัตริย์นักบริหารที่เก่งกาจที่สุดองค์หนึ่ง เลยก็ว่าได้
รถจอดเทียบด้านหน้าบ้านพักสไตล์ฝรั่งเศสผสมผสาน กลิ่นอายอารยธรรมของเมืองไฮดริก ด้านในตกแต่ง ด้วยพรมสีแดงปักลวดลายดอกไม้งดงาม เฟอร์นิเจอร์ กำมะหยี่ดูหรูหรา เครื่องเรือนเป็นทองเหลือง โคมไฟ ระย้าไล่ระดับ บันไดวนราวจับสีทอง พาขึ้นสู่ห้องนอนราว ยี่สิบห้อง มีข้ารับใช้คอยดูแลทำความสะอาดรวมถึงดูแล สวนไปจนขับรถ
กษัตริย์มาซาฮาฟถอดสูทแล้วส่งให้คนรับใช้ดูแล ปลด เนคไทเพื่อคล้ายความอึดอัด พับแขนเสื้อเชิ้ตเสยผมเล็ก น้อยแล้วสาวเท้าขึ้นสู่ชั้นบนของบ้านพัก
“พระองค์ไม่เสวยก่อนหรือพะยะค่ะ”อัสลันทักไว้เสีย ก่อน ทำให้พระองค์ทรงชะงักพระบาท
“ยังก่อนอัสลัน” ทรงหยุดคิดครู่หนึ่ง “อย่าลืมเรื่องที่ข้า
สั่งเจ้าก่อนหน้าด้วยล่ะ เรื่องหญิงไทยคนนั้น”
อัสลันสะอึก นึกว่าพระองค์คงลืมไปเสียแต่ที่ไหนกลับ จดจําแม่นยิ่งกว่าอะไร ไม่น่าเลยจริงๆ คงถึงคราวเคราะห์ ช่วยไม่ได้เช่นกันเขาเองต้องทำตามหน้าที่ของราช องครักษ์ผู้ภักดี
“กระหม่อมรับทราบแล้วพะยะค่ะ”องครักษ์หนุ่มคุกเข่า แล้วรับคํา ก่อนลุกยืน
กษัตริย์หนุ่มโบกพระหัตถ์สีพระพักตร์ติดรำคาญ
“อยู่ที่นี่ไม่ต้องพิธีรีตองหรอกอัสลัน ความจริงเรียกฉัน ว่าดีลเหมือนเดิมดีกว่า ทำตามขนบธรรมเนียมประเพณี มากแล้วมันอึดอัด”
“เกล้ากระหม่อมคงทำตามความต้องการของพระองค์
มิได้พะยะค่ะ”
มาซาฮาฟตวัดสายพระเนตรมอง แววพระเนตรขุ่น
“นี่คือคำสั่ง!”
“รับทราบแล้วพะยะค่ะ!”อัสลันรับคำหนักแน่น กษัตริย์ มาซาฮาฟทรงชี้นิ้วพระหัตถ์
“ข้าบอกว่าไง”
“ผมทราบแล้วครับ”
“ดีมาก ข้าไปนอนก่อนล่ะ เหนื่อยมาก”
อัสลันมองตามแผ่นพระปฤษฎางค์แล้วถอนหายใจออก มาเฮือกใหญ่ ความเอาแต่ใจของพระองค์ไม่เคยเปลี่ยน พอมาถึงตอนนี้ยังคิดไม่ออกเลยว่าจะพาตัวหญิง สาวชาวไทยมาให้ได้อย่างไร คิดแล้ว…. อยากหุบหัวตัว เองให้ระเบิดนัก ถ้าหากนางยินยอมพร้อมใจกว่าไปอย่าง แต่นี้คงไม่มีทางแน่นอน
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ