ตอนที่ 7 เสียการควบคุม
ทันทีที่คำพูดของตุงคนหลุดออกมา ทุกคนในห้อง ยกเว้นแก้วใจก็รู้สึกโกรธจนหน้าดำ เงินสองร้อยห้าสิบ บาทกับห้าสิบล้านถ้าเอามาเปรียบกันก็ต่างกันราวกับ ฟ้ากับเหว ใครจะโง่พอที่จะยอมเสียเมล็ดแตงโมและ เลือกเมล็ดงากัน
ชนัดดามองดูเงินสองร้อยห้าสิบบาทบนโต๊ะชา มุม ปากของเธอกระตุกขึ้นมา “อัยการตุงคิน คุณอย่าล้อ เล่นกับพวกเราเลย วันนี้เป็นวันดีของหลานสาวเราและ คุณเทพทัต สองร้อยห้าสิบบาทนี้ถือว่าเป็นของขวัญ จากคุณก็แล้วกัน แล้วอย่าลืมมางานแต่งด้วยนะคะ”
ชนัดดาประดิษฐ์คำพูดออกมาอย่างสวยงาม นอกจาก จะปลอบคุณเทพทัตแล้ว ยังบอกเป็นนัยว่าตุงคนไม่ สามารถนําเงินสองร้อยห้าสิบบาทมาปล้นการแต่งงาน ไปได้ คำพูดเมื่อสักครู่พวกเขาจะถือว่าไม่ได้ยินก็แล้ว กัน
ตุงคินยิ้มออกมาอย่างเงียบๆ เขาเบะปากเล็กน้อย “คุณนายชนัดดา คุณกำลังพูดเล่นกับผมหรอ เธอ ผม จองแล้ว”
“คุณอัยการ คุณอย่าใช้อำนาจรังแกคนอื่นนะ” ธน ชาตด่าออกมาอย่างอุ่นเคือง “วันนี้หลานสาวผมแต่งงาน คุณตั้งใจจะมาก่อกวนใช่ไหม”
“ผมไม่ได้ตั้งใจจะมาก่อกวน ผมเป็นของเธอตั้งนานแล้ว” ใบหน้าของตุนคินเต็มไปด้วยความสนุกสนาน ชี้ ไปยังแก้วใจ
ชิง ชิง ชิง
ในห้องนั่งเล่นมีสายตาหลายคู่มองมาที่เขาอย่างไม่ พอใจ แก้วใจยิ้มอย่างขมขื่น ใครช่างให้ความกล้าของ เขามามากขนาดนี้กัน เขาบอกว่าเธอเป็นคนของเขา จะ ให้เธออธิบายว่าอย่างไร
เธอชั่งน้ำหนักอยู่ครู่หนึ่ง ในนี้มีเพียงตุงคินที่สามารถ ช่วยเธอได้ ถ้าเธอไม่สู้ เธอก็ต้องแต่งงานกับเทพทัต เมื่อคิดได้ดังนั้นเธอก็พยักหน้าอย่างไม่ลังเล “ใช่ เขา เป็นคนของฉัน”
“ยัยเด็กสมควรตาย เธอจะทำลายบ้านทองพิทักษ์จน ย่อยยับเลยใช่ไหมถึงจะพอใจ” ชนัดดาด่าออกมาอย่าง โมโหและยกมือขึ้นหมายจะตบเธอ
แก้วใจกดคอลงและหลับตาลงอย่างหวาดกลัว แต่ หลังจากรอไปครู่หนึ่งเธอก็ไม่รู้สึกเจ็บปวดอะไรเลย จากนั้นเธอก็ลืมตาขึ้น
ตุงคินยืนอยู่ข้างหน้าเธอและจับข้อมือของชนัดดาไว้ “ผมจะคอยดูว่าวันนี้ใครจะกล้าตบเธอ”
เสียงของเขาไม่ได้ดังมาก แต่ทุกคนในห้องก็ได้ยิน กันอย่างทั่วถึง น้ำเสียงนั้นทำให้ทุกคนไม่กล้าที่จะลองดี กับคำเตือนนั้น มันช่างน่ากลัว
“นี่คุณหมายความว่าอะไร” ธนชาตก้าวมาข้างหน้า ถามอย่างเยือกเย็น
“เธอเป็นคนของผม เธออยู่ในความดูแลของผม ตั้ง วันนี้ไปใครก็ตามอย่าได้คิดจะรังแกเธอ คุณธนชาต ปี นี้เธออายุยี่สิบสองปีแล้ว เธอเป็นผู้ใหญ่แล้ว สามารถ เลือกคู่แต่งงานเองได้ แต่การกระทำของพวกคุณใน ตอนนี้เป็นการบังคับแต่งงาน”
เฉิงอี้เฉินเปิดปากพูดช้าๆและดวงตาดุจเหยี่ยวของ เขาก็ส่องประกายข่มขู่ออกมา
ธนชาตน้ำท่วมปาก ในใจมีแต่ความเจ็บปวด แก้วใจ ตอนนี้ไม่เพียงแต่เป็นหลานสาวของเขา แต่ยังเป็นชะตา กรรมของบริษัท มูลค่าห้าสิบล้าน ห้าสิบล้านเลยนะ จะ ไม่ให้เขาเจ็บใจได้ยังไง
“ไม่ได้ คุณเอาเธอไปไม่ได้ ฉันไม่ให้คุณเอาเธอไป!” ชนัดดาตะโกนอย่างบ้าคลั่ง จับแขนของแก้วใจไว้มั่น ให้ตายยังไงก็ไม่ยอมปล่อย
แก้วใจรู้สึกอับอายในการกระทำของอาสะใภ้ หัวใจ ของเธอรู้สึกเย็นเยียบ นี่คงเป็นอำนาจของเงิน เมื่อก่อน ยังว่าเธอเป็นกาลกินี ตอนนี้กลับไม่ยอมปล่อยเธอไป
ใจคนช่างน่ารังเกียจจริงๆ
“คุณชนัดดาการกระทำของคุณในตอนนี้คือจำกัด เสรีภาพส่วนบุคคล ผิดกฎหมายนะ” ตุงคินสอดมือไว้ในกระเป๋ากางเกง เหมือนจะไม่มีความกังวลใดๆที่ต้องสู้ กับบ้านทองพิทักษ์
“คุณ คุณพล่ามอะไร เธอเป็นหลานของฉัน จะถือว่า ผิดกฎหมายได้ยังไง” ถึงแม้ว่าปากของชนัดดาจะพูด อย่างนั้น แต่มือที่จับอยู่ที่แขนของแก้วใจกลับสั้นขึ้นมา ทันที อาชญากรรมที่เขาพูดนั้นดูใหญ่มาก เธอไม่อยาก จะติดคุกหรอกนะ
“แก้วใจ คุณจะยอมไปกับผมมั้ย
ตุนคินสอดมือข้างหนึ่งไว้ในกระเป๋ากางเกง อีกข้าง ยื่นออกมาตรงหน้าเธอ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความ มั่นใจในตัวเอง มุมปากที่ยกขึ้นเล็กน้อยเป็นไปด้วย ความชั่วร้าย เขาทำเหมือนสบายๆ แต่บรรยากาศนั้น กดดันจนไม่มีใครกล้ามองตรงๆ
สายตาของทุกคนมองไปที่แก้วใจอีกครั้ง เธอดู เหมือนจะวิตกและหวาดกลัว มือที่บีบกันแน่นมีเหงื่อซึม ออกมา เธอไม่กล้าแน่ใจว่าเมื่อทิ้งบ้านทองพิทักษ์ไป แล้ว เขาจะยังเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ช่วยชีวิตเธอไหม
เธอต้องการแน่ใจว่าตุงคินจะสามารถช่วยเธอได้ แต่ ที่บ้านทองพิทักษ์มีคนที่สามารถช่วยเธอได้จริงๆหรอ เรื่องของพ่อ อารองไม่แม้แต่จะเดินเรื่องอะไรเลยเพียง แต่ทำลวกๆเท่านั้น
ตุงคินเป็นนักกฎหมาย เธอต้องการทนายที่ดีคนหนึ่ง เธอหลับตาสูดหายใจเข้าลึกๆหนึ่งครั้ง วางมือลงบนฝ่ามือของเขา เพื่อช่วยพ่อของเธอ เธอคิด
มือของเขาช่างอบอุ่น เขาดึงเธอลุกขึ้นมาจากโซฟา สายตาคมมองพุ่งไปที่ธนชาตและภรรยาของเขา การ แสดงออกบนใบหน้าของพวกเขานั้นช่างเป็นที่น่าพอใจ จริงๆ
“แก้วใจ เธอไม่ควรจะลืมบุญคุณอย่างนี้นะ” น้ำเสียง หนักๆของธนชาต ทำให้เธอหยุดเดินในทันที
“ลืมบุญคุณหรอ อารอง หนูก็มีสิทธิที่จะไล่ตามความ รัก จะเรียกว่าลืมบุญคุณได้อย่างไร และบ้านทอง พิทักษ์ก็ยังมีกันทรอีกคนไม่ใช่หรือ บริษัทยังมีที่พึ่ง เทพทัตน่าจะชอบคนที่ว่าง่ายหน่อยๆมากกว่านะคะ” คุณ แก้วใจตาโตเป็นประกาย ไม่ได้มีความรู้สึกผิดเลย และ ที่เธอพูดมาก็เป็นเรื่องจริง
ทำไมปล่อยให้เธอใช้หนี้คนเดียว ไม่ใช่มีกันทรอีกคน หรือ ให้กันทรใช้คืนสิ
สีหน้าของทั้งสองหม่นลง โดนเธอถามกลับจนน้ำท่วม ปากอีกหน ใช่ บ้านทองพิทักษ์ยังมีกันทรอีกคน แต่ใน ฐานะพ่อแม่ จะยอมเห็นลูกตัวเองกระโดดเข้ากองไฟได้ อย่างไร ทั้งสองทำอะไรไม่ได้นอกจากหลีกทางให้พวก เขาเดินจากไป
“เดี่ยว หยุดก่อน คุณเอาภรรยาผมไป จะให้ผมทำยัง ไง” เทพทัตเห็นสถานการณ์ไม่ดีก็รีบถามอย่างรวดเร็ว
ตุงคนหยุดเดิน และมองกลับไปอย่างช้าๆ “ คุณเทพ ทัต เรื่องนี้คุณควรถามพวกเขา ไม่ใช่ถามผม
ใช่ คนที่ตกลงค้าขายกับเขาคือกระตูลทองพิทักษ์ เขาควรจะไปถามเอาจากคนบ้านทองพิทักษ์
ใบหน้าของทัตเทพะครียดเขม็ง มองไปที่ใบหน้าอัน สิ้นหวังของธนชาตและภรรยา ถามเสียงต่ำกว่า “คุณ ธนชาต ที่ตกลงเป็นทองแผ่นเดียวกันกับพวกคุณก็ เพราะมิตรภาพอันยาวนานของเรา แต่ตอนนี้คุณทำกับ ผมแบบนี้ จะให้ผมจัดการยังไงดี”
“คุณเทพทัต ช่วยให้เวลาพวกเราอีกสักหน่อยเถอะ” ชนัดดาขอร้องอย่างขมขื่น
“ให้เวลาอะไร คนก็หนีไปแล้ว จะให้ให้เวลาอะไร อีก” เทพทัตพูดออกมาด้วยเสียงเย็น ดวงตาของเขา แสดงออกมาอย่างเย็นชา “ผมเตือนคุณไว้ก่อนนะ ถ้า อีกสามวันคุณยังไม่ให้ของแลกเปลี่ยนที่ผมพอใจล่ะก็ ผมจะไม่ใจดีกับพวกคุณอีกแน่”
พูดแล้วสะบัดมือเดินออกไป
ธนชาตและชนัดดาสบตากัน แล้วถอนหายใจออกมา นั่งลงบนโซฟาอย่างท้อแท้
ฝนที่ตกอย่างต่อเนื่อง ทำให้อากาศค่อนข้างเย็น แก้ว ใจใส่ชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์ยาวถึงพื้น ทำให้เธอเดิน อย่างยากลำบาก เธอเดินตามตุงคินจนเกือบจะสะดุดล้มหลายครั้ง นภวัตกางร่มคลุมบนหัวของตุงคินเกือบ ทั้งหมด เธอที่ยืนข้างๆเขาช่างดูน่าอายอย่างหาอะไร มาเปรียบได้ เธอเหยียบอยู่บนรองเท้าส้นสูง สองมือ จับชุดแต่งงาน เดินอยู่ข้างๆตุงคืนที่เดินอย่างสำราญใจ เหมือนเธอเป็นตัวตลก
“คุณจะรอฉันหน่อยไม่ได้เลยหรือไง”
ตุงคนหยุดเดิน แต่ขาข้างหนึ่งกลับเหยียบลงบนหลุม โคลน ทำให้น้ำโคลนสีดำสาดไปทั่วชุดแต่งงานของเธอ
เธออ้าปากด้วยความตกใจ มองไปที่ชุดสีขาวเปื้อน โคลนของเธอ ทั้งตัวเธอยุ่งเหยิงอยู่ท่ามกลางสายลม คนคนนี้ตั้งใจใช่ไหม
เขามองเธออย่างไม่ใส่ใจ คิ้วของเขาขมวดขึ้นอย่าง หงุดหงิดและเดินขึ้นรถไป
เฮ้อ เพิ่งออกมาจากบ้านทองพิทักษ์ก็เริ่มจะเย็นชาใส่ เธอแล้ว
เธอตามเขาไปติดๆ ขาข้างหนึ่งก้าวขึ้นรถ แต่แขน ของเธอกลับถูกกันไว้ก่อน
“สกปรก ทำความสะอาดแล้วค่อยขึ้นมา”
บ้าชิบ คนบ้านสมองกลับหรือไง ฝนตกหนักขนาดนี้ เธอจะทำความสะอาดได้ยังไง จะให้เธอกลับบ้านทอง พิทักษ์เปลี่ยนเสื้อใหม่ออกมาหรือไง กลัวว่าเมื่อถึงเวลาเธอยังไม่ทันได้ออกมา ก็ถูกชนัดดากันไว้ก่อนน่ะสิ
“ปล่อยผ่านหน่อยเถอะ”
เธอยิ้มแหยๆขอให้เขาปล่อยให้เธอขึ้นรถ แขนของ เธอถูกจับไว้ สายตาของเขาลึกล้ำยากจะคาดเดา พูด ออกมาเสียงเย็น “ชุดเจ้าสาวสกปรก ช่างขัดตา ข้างใน น่าจะใส่เสื้อผ้านะ”
พูดแล้วไม่รอเธอตอบ มือใหญ่ของเขาก็เริ่มดึงชุด แต่งงานของเธอออกทันที
ให้ตายเถอะ ตอนนี้เป็นประตูใหญ่บ้านทองพิทักษ์ เขายังกล้าทำผิดกฎหมาย แถมตอนนี้คนรอบๆก็ยังมีตั้ง มากมาย เธออับอาย ขายหน้าไปถึงต้นตระกูลเธอแล้ว
ชุดแต่งงานเนื้อดีถูกดึง ฉีกออกในทันที กระดุมด้าน หลังก็หลุดออกทั้งหมด เขาทำเหมือนกำลังจับลูกไก่ เขาลากเธอขึ้นรถและปล่อยชุดแต่งงานก็ทิ้งไว้ใต้รถ และขับออกไป
โชคดี โชคดีจริงๆ
แก้วใจตบอกตัวเองเบาๆ โชคดีที่ข้างในเธอใส่เสื้อ สายเดี่ยวตัวเล็กๆไว้ ทำให้เธอยังไม่ถึงกับขายหน้า ขนาดนั้น
แต่ตะกี้เขาโกรธใช่ไหม แปลกคนจริงๆ เธอไปกระตุ้น ต่อมปีศาจของเขาเมื่อไหร่กัน
ผมที่ม้วนไว้อย่างดีหล่นลงมาอย่างหลวม ๆ ผมของ เธอก็เปียกไปด้วยหยดน้ำก่อนจะหยดลงบนใบหน้าของ เธอ ทำให้ใบหน้าเล็ก ๆ ของเธอดูบริสุทธิ์เหมือนดอกบัว
เธอรู้สึกหนาวเพราะสวมเพียงเสื้อสายเดี่ยวตัวเล็ก ๆ และกางเกงอุ่นๆของเธอ ก็เหมือนจะถูกความเย็นเข้าไป อย่างรวดเร็ว คนตัวเล็กหดตัวลงบนที่นั่ง ฟันของเธอกัด กันอย่างหนาวเย็น และร่างกายก็สั่นเทา
แต่ชายที่นั่งข้างเธอกลับนั่งตัวตรง เมินเฉย ทําเหมือน มองไม่เห็น
คนบ้า ผู้ชายคนนี้รู้บ้างมั้ยว่าอะไรคือความเป็นสุภาพ บุรุษ เธอจะหนาวตายอยู่แล้วมั้ย แก้วใจสูดหายใจเข้า ลึกๆ เปิดปากพูดอย่างหงุดหงิด “พี่นภวัต เปิดแอร์อุ่น ขึ้นอีกหน่อยได้ไหมคะ”
นภวัตก็นั่งตัวตรง สายตามองตรงไม่กล้าหันไปมอง พร้อมหัวเราะออกมาเบาๆ “คุณแก้วใจ เรื่องนี้ต้องถาม คุณตุงคินครับ”
ถามเขา
ก้นบึ้งของหัวใจรู้สึกโกรธแค้นขึ้นมาทันที เธอเม้ม ปากจนริมฝีปากเป็นสีขาว “พี่นภวัต แต่คนเปิดเป็นพี่หนิ
พี่นภวัตคะ พี่นภวัตขา เรียกอย่างคล่องปาก ตุงคิน ตวัดสายตาไปมองนภวัตอย่างเยือกเย็น พอดีกับที่นาวัตมองไปที่กระจกส่องหลัง ทําให้เขามองเห็นสายตา เยือกเย็นนั้นทันที เขากลัวสายตาคมนั้นจนต้องสูด หายใจเข้าลึกๆ เขาไม่ได้ฆ่าใครเขาไม่ได้ก่อไฟอะไรใช่ ไหม
“แหะๆ คุณแก้วใจ เรียกผมผู้ช่วยนภวัตก็พอแล้วครับ”
“เรียกว่าพี่นภวัตจะได้ดูสนิทกันหน่อยไงคะ”
สนิทกันหน่อย นภวัตหัวเราะอย่างขมขื่น ถ้าสนิทกัน ต่อไปเกรงว่าคุณตุงคินจะเอามีดมาสับเขาเป็นชิ้นๆ ถ้า ยังเรียกต่อไปชีวิตน้อยๆของเขาคงไม่เหลือแน่ๆ
“อย่า อย่าเลย เรียกผมผู้ช่วยนภวัตเถอะ”
สายตาของตุงคินเย็นชา ถอดเสื้อคลุมโยนลงบนร่าง ของเธอ เคลื่อนไหวอย่างดูดีโดยไม่ต้องหันไปมอง
ผู้ชายคนนี้ทำเป็นเท่ห์หรอ แล้วจะสนใจทำไม เธอจะ ไม่ถูกแช่แข็งตายแล้วมากกว่าที่ควรสนใจ เธอรีบเอา เสื้อของเขาห่อตัวอย่างรวดเร็ว และก็ทำให้นภวัตแอบ ถอนหายใจออกมาอย่างเบาใจ
“คุณตุงคิน ขอบคุณค่ะ”
แก้วใจดึงมุมเสื้อของเขา แต่ในตากลมโต้กลับแฝงไป ด้วยความไม่พอใจ เขาใช้เงินเพียงแค่สองร้อยห้าสิบ บาทไถ่เธอออกมา คุ้มกับการลงทุนจริงๆ
แต่คิดว่าตัวเองมีค่าแค่สองร้อยห้าสิบบาทก็เหมือน จะบ้าแล้วจริงๆ ต้องถูกขนาดนี้เลยหรอ หมูยังมีค่าแพง กว่าเธออีก นี่นับว่าซื้อขายแบบถูกๆใช่ไหม
ผู้หญิงคนนี้จนตอนนี้ก็ยังไม่รู้เรื่องรู้ราว ตุงคินเม้ม ปากจนเป็นเส้นตรง สายตาแฝงไปด้วยความโกรธ เกรี้ยว เธอให้เขารอสามวันเต็มๆ แล้วหลังจากนั้นเธอ กลับจะแต่งกับเทพทัต
เรื่องนี้สําหรับคนที่มั่นใจในตัวเองมาตลอดอย่างตุง คินถือว่าเป็นเรื่องน่าขันอย่างมาก
มีแต่เขาเท่านั้นที่สามารถควบคุมอะไรก็ตามไว้ในกำ มือของเขาได้มาตลอด แต่แก้วใจคนนี้กลับอยู่นอกการ ควบคุมของเขา การเสียการควบคุมนี้ทำให้เขาไม่พอใจ จริงๆ
“นี่ คุณมีมารยาทมั้ย ฉันพูดขอบคุณ คุณจะไม่พูดว่า ไม่เป็นไรหน่อยรึไง ไม่พูดอะไรเลยหมายความว่าไง” เมื่อเห็นเขาหุบปากไม่พูดไม่จา เธอก็โพล่งออกมาทันที เธอไม่ชอบอะไรอย่างนี้ที่สุด
“ความหมายก็คือ
ตุงคินค่อยๆหันตัวมาทางเธอ เขายกมุมปากยิ้มอย่างเย็นชา
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ