นายซาตานบอฉันแต่งงาน!

ตอนที่ 4 นัดบอดรูปแบบใหม่



ตอนที่ 4 นัดบอดรูปแบบใหม่

ณ.วิลล่าเขตใต้

แก้วใจผลักประตูเปิดออกอย่างอ่อนล้าและดวงตา ของเธอมองลงไปที่กลางห้องนั่งเล่น อาสะใภ้ของเธอ กำลังนั่งเล่นไพ่กับกลุ่มผู้หญิงกลุ่มหนึ่ง

ระหว่างเดินไปที่ห้องของเธอ เธอก็ได้ยินเสียงไร้สาระ ลอยมากระทบถึงหูของเธอ “ฉันก็ว่าทำไมวันนี้มือไม่ดี ที่แท้ก็เพราะเสนียดกลับมาบ้านแล้ว

แก้วใจชะงักไปทันที ก่อนจะยืนนิ่งและพูดด้วยรอย ยิ้ม “อาสะใภ้ หนูกลับมาแล้ว”

ชนัดดาไม่แม้แต่จะยกเปลือกตาของเธอขึ้นไปมอง เพียงพูดอย่างเย็นชาว่า “แกนึกว่าฉันตาบอดรึไง ถึงจะ ไม่เห็นว่าแกกลับมาแล้ว”

แก้วใจยืนอึดอัดอยู่พักหนึ่งก่อนจะหันเดินกลับไปที่ ห้องของตน เธอเป็นแค่ผู้อาศัย เธอจึงต้องหลีกเลี่ยงที่ จะมีปัญหากับอาสะใภ้

เมื่อถึงห้อง เธอส่องกระจกมองหน้าตนเอง มุมปาก และดวงตาของเธอยังคงฟกช้ำ เธอจะเข้าร่วมมื้อเย็นใน สภาพนี้ได้อย่างไร

เธอจัดการแต่งหน้าอย่างหนาเพื่อปกปิดรอย และจัด แต่งทรงผม แล้วเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
“คุณแก้วใจ นี่เป็นชุดที่คุณผู้หญิงให้คุณใส่ค่ะ” แม่ บ้านหลี่ยื่นชุดให้กับเธอ

“ขอบคุณค่ะ”

มันเป็นชุดเชือกคล้องคอสีแดงเข้มเปิดหลัง อายุของ เธอไม่เหมาะสำหรับชุดสีนี้ มันแก่เกินไป

แต่เนื่องจากเป็นชุดที่อาสะใภ้ให้ เธอจึงไม่มีทางเลือก

เธอเปลี่ยนชุด สวมรองเท้าส้นสูง แล้วเดินออกจาก ห้องด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า

“อาสะใภ้ คุณคิดว่าชุดนี้เหมาะกับหนูหรือคะ หนูว่ามัน สวยดีนะคะ”

“ตอแหล” กันทรลูกพี่ลูกน้องของเธอ ที่นั่งอยู่ตรงหัว

มุมโซฟาพึมพำออกมาอย่างไม่เป็นมิตร

เธอไม่สนใจ ควงแขนของชนัดดาและหมุนกระโปรง ของเธอด้วยรอยยิ้ม “สายตาของคุนอาสะใภ้ต้องไม่คิด อย่างนั้น”

“เกือบจะถึงเวลาแล้วไปกันเถอะ” ชนัดดามองดูเวลา และพูดอย่างเย็นชา

แก้วใจควงแขนของชนัดดาอย่างคุ้นเคยและเมื่อเธอ เดินผ่านกันทรเธอได้ยินคำพูดที่กระซิบของเธออย่าง ชัดเจน
“ประจบสอพลอ

แก้วใจยกมุมปากยิ้มอย่างไม่สนใจ แต่รอยยิ้มนั้นมี ความหมายอะไรมากกว่านั้น

Amazing food

ร้านอาหารมิชลินสตาร์ที่มีชื่อเสียงในเมือง S ยังเป็น สถานที่ซึ่งชนัดดามักจะพาเธอไปทานอาหารค่ำ ธน ชาตอารองของเธอเป็นนักธุรกิจ มักจะมีงานดินเนอร์ เสมอ

เพื่อที่จะชนะใจผู้คน อาสะใภ้มักจะพาเธอเข้าร่วมงาน ด้วยเสมอ อย่างน้อยในช่วงหกเดือนที่ผ่านมาเธอก็ทำ อย่างนี้เสมอ ตอนนี้เธอชินเสียแล้ว เพราะเธอก็อาศัย อยู่ในบ้านอารอง ดังนั้นเธอก็ต้องช่วยอีกแรง

มีน้ำพุเล็ก ๆ ในห้องโถงและผู้คนมักจะโยนเหรียญ ลงไปในน้ำพุ ทุกครั้งที่แก้วใจโยนได้ ในใจเธอก็มักจะ ภาวนาว่า ขอให้พ่อของเธอไม่เป็นอะไร

เธอนั่งอยู่ข้างอาสะใภ้ของเธอ คราวนี้บนโต๊ะอาหาร เป็นกลุ่มบริษัทคู่ค้าระดับผู้บริหาร

“คุณชนัดดา นี่คือหลานสาวคุณหรอ”

“ใช่ค่ะ นี่คือแก้วใจ ส่วนนี่คือประธานเทพทัต” ชนัดดา แนะนำอย่างยินดี
เทพทัตมองหน้าเธอขึ้น ๆ ลง ดวงตาของเขาแวววับดู พึงพอใจ

“คุณลุงสวัสดีค่ะ”

“เรียกลุงมันแก่เกินไป เรียกพี่เถอะจ้า

ปากของแก้วใจกระตุกทันทีและรอยยิ้มของเธอก็ดูไม่ เป็นธรรมชาติ ให้เธอเรียกคนแก่วัยห้าสิบกว่าว่าพี่ ช่าง แปลกเสียจริง

เธอนั่งอย่างเบื่อหน่ายและหัวเราะไปตามน้ำ เธอพูด น้อยมาก เพราะเป็นเรื่องธุรกิจที่เธอไม่เข้าใจ

“คุณเทพทัตนี่เป็นเครื่องดื่มที่คุณสั่งค่ะ”

ทันทีที่ประตูห้องเปิดออก แก้วใจจึงหันไปกลับไปมอง เธอจึงเห็นคนที่เดินผ่านไปพอดี และเมื่อคนนั้นเห็นเธอ เขาก็หยุดเดินในทันที

ตุงคิน! เป็นเขาไปได้ยังไง! นี่เป็นเรื่องบังเอิญเกิน ไปหรือเปล่า

แก้วใจรีบหันหน้าของเธอกลับมาอย่างรวดเร็วและ จงใจใช้มือบังใบหน้าของเธอ โดยหวังว่าเขาจะไม่ สังเกตเห็นเธอ

เสียงฝีเท้านอกประตูกำลังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ หัวใจ ของเธอเต้นอย่างไม่เป็นจังหวะ เขาคงไม่ได้เข้ามาหรอกใช่ไหม

“คุณอัยการ บังเอิญจังเลยนะครับ” เทพทัตทักทาย ด้วยรอยยิ้ม

แก้วใจชะงักทันทีที่รู้ว่าเขายืนอยู่ข้างหลังเธอ เธอ รู้สึกกดดันอย่างมาก

“คุณเทพทัต นี่คุณกำลังทำอะไรกันอยู่ครับ” ตุงคินม องแก้วใจแวบหนึ่งและพบว่าเธอจงใจหลบหลีกเขา และ เหมือนเธอจะรู้สึกอึดอัด

“มากินข้าวกับเพื่อนเก่าน่ะ คุณอัยการมานั่งด้วยกันดี ไหมครับ” เทพทัตชวนด้วยความยินดี

“ยินดีครับ”

เธอไม่รู้ว่าเขาตั้งใจนั่งข้างเธอหรือไม่ แต่ตอนนี้เธอ รู้สึกเหมือนนั่งข้างกับระเบิด

“ชื่อเสียงของคุณอัยการนั้นโด่งดังไปทั่ว ฉันยังคิดอยู่ ว่าถ้ามีโอกาสจะเชิญคุณไปทานอาหารเย็นด้วยกันสัก มื้อ คิดไม่ถึงว่าวันนี้จะบังเอิญขนาดนี้” ชนัดดาพูดด้วย ความสุภาพ

“คุณชนัดดายังมีโอกาสอีกมากมายในอนาคตครับ”

แก้วใจรู้สึกว่าคำพูดของเขานั้นดูตั้งใจมาก เธออดไม่ ได้ที่จะเงยขึ้นมองไปทางเขา แต่เธอดันไปสบตาเข้ากับเขาพอดีทําเอาหัวใจเธอแทบหยุดเต้น

“ใช่แล้ว ผมยังไม่ได้แนะนำให้รู้จัก นี่หนูแก้วใจ”

เพราะเทพทัตแนะนําเธอให้เขา ให้เธอต้องพยักหน้า ลง ทำท่าเหมือนไม่รู้จักกัน “สวัสดีค่ะคุณอัยการ”

เขาเพียงแค่ยิ้ม ไม่ได้พูดอะไรออกมา มุมปากยกยิ้ม ของเขาแฝงไปด้วยความยียวน

เธอขมวดคิ้วและเหยียดขาไปเหยียบเท้าของเขา

“คุณแก้วใจ ชุดของคุณช่างสวยจริงๆ”

เธอได้ยินเสียงเย้ยหยันในคำพูดของเขา ทำให้เธอ ขมวดคิ้วหงุดหงิดเล็กน้อย แต่เพราะอาสะใภ้เธออยู่นี่ เธอจึงไม่กล้ามีปัญหา ได้แต่แกล้งทำเป็นอาย “ใช่ไหม ล่ะคะ ฉันว่าคุณอัยการมีสายตาที่ดีจริงๆ”

“แก้วใจ จริงๆแล้ววันนี้อาตั้งใจจะให้เธอมาทำความ รู้จักกับคุณเทพทัตเขาไว้ พวกเธอน่าจะดูใจกันสัก หน่อย” อาสะใภ้พูดยิ้มๆ “คุณเทพทัตเป็นนักธุรกิจดาว รุ่ง หลายปีก่อนเขาเสียภรรยาไป ไม่ว่าจะด้านไหนๆ พวกเธอก็เหมาะสมกันจริงๆ”

พวกเขาเหมาะสมกันตรงไหน

แก้วใจอ้าปากจนกรามแทบค้าง อาสะใภ้ตั้งใจแนะนำ เธอให้คุณเทพทัต
นี่เล่นตลกอะไรกัน คุณเทพทัตแก่แทบจะลงโลงอยู่ แล้ว เขาเหมาะสมกับเธอ เธอแก่ขนาดนั้นเชียวหรือ

“คุณเทพทัตเป็นคนที่มีความสามารถมากจริงๆ แต่ฉัน ยังเด็กและยังไม่คิดถึงเรื่องแต่งงาน”

เธอจ้องมองไปที่ตุงคืนที่กำลังนั่งจิบชาอยู่ข้างๆเธอ เขายกคิ้วขึ้นแล้วจ้องมองเธอ ความหมายนั้นแสดงออก ชัดเจนว่าเขาไม่ตั้งใจจะยุ่งกับเรื่องนี้ ก่อนหน้านี้ยัง เรียกเธอที่รักแทบจะทุกคำ พอมาตอนนี้กลับเงียบเสีย ได้

“ไม่เป็นไร วันนี้ก็ถือว่ารู้จักกันไว้ก่อนแล้วกัน” เทพทัต พูดอย่างอารมณ์ดี แต่กลับแสดงท่าทีไม่พอใจออกมา เล็กน้อย

“คุณเทพทัตสมบูรณ์แบบมาก หลังจากนี้แก้วใจต้อง ชอบในตัวคุณแน่ๆ”

ชอบหรือ ตอนนี้เธอแทบจะทนไม่ไหวอยูแล้ว ถึงว่า น้องชายของเธอถึงได้บอกให้ระวัง เขาน่าจะรู้อยู่แล้วว่า อาสะใภ้ตั้งใจจะทำอะไร

แนะนําให้เธอรู้จักกับชายชราในวัยห้าสิบที่สูญเสียคู่ ครองของเขา นี่เป็นวิธีที่แย่มาก!

“หึ~” เธอยิ้มแข็งๆ ก่อนจะหาข้ออ้างออกมาห้องน้ำ

ในห้องน้ำ เธอใช้น้ำเย็นล้างมือพร้อมกับหายใจเข้าลึกๆและถอนหายใจออกมาอย่างแรง ก่อนจะได้ยิน เสียงหัวเราะเย้ยหยันมาจากข้างหลังของเธอ

“คุณแก้วใจ เพิ่งออกมาจากบ้านผม ก็ทนไม่ไหวจน ต้องรีบมานัดบอดเลยหรอ”

“คุณอัยการ ฉันยังไม่ได้แต่งงานกับคุณ คงไม่ผิดถ้า ฉันจะให้โอกาสตัวเองมองหาผู้ชายที่โดดเด่นคนอื่นๆ” แก้วใจตอบกลับด้วยสายตาเย้ยหยันไม่แพ้กัน วันนี้เธอ ข่มความโกรธมามากแล้วจริงๆ

“เพื่อนัดบอด คุณถึงกับต้องยอมแต่งตัวขนาดนี้ ไม่ เบาเลยจริงๆ”

“ฉันชอบ มีปัญหาอะไรไม่ทราบ

คิ้วของตุงคินขมวดมุ่น ก่อนจะจับแขนเธอไว้

ตอนนี้เลือดในกายเขาเดือดปุดๆ จากปกติที่เป็นคน สุขุม ตอนนี้กลับทำตัวราวกับคนบ้า

กลิ่นมิ้นต์ที่ลอยมาอ่อนๆ ทำให้แก้วใจรู้สึกมึนงงไป ช่วยขณะ แต่ความเจ็บปวดที่ปากของเธอ ทำให้เธอ ดึงสติกลับมาได้

คนบ้า เขาจูบฉัน

“คุณมีรอยประทับของผมไว้แล้ว อย่าคิดจะไปมอง ผู้ชายที่โดดเด่นคนอื่นอีก เข้าใจไหม”
คนบ้า คนเอาแต่ใจ เขาคิดว่าเขาเป็นใครกัน

“คุณมีสิทธิอะไรไม่ทราบ

“แก้วใจ อย่าลืมว่าผมเป็นเจ้าหนี้คุณตอนนี้”

เจ้าหนี้! คำพูดติดปากของเขา แต่มันเป็นความจริง ใครใช้ให้เธอไม่มีปัญญาคืนเงินสิบเอ็ดล้านนั่นกันล่ะ คิดได้ดังนั้นความโกรธของเธอก็ค่อยๆทุเลาลง

ดังนั้นเธอจึงคำนับให้เขาพร้อมพูดว่า เจ้าหนี้ ถูก คุณทำถูกแล้ว ฉันสมควรโดนกัด คุณพูด

“โอเค คุณชนะ ฉันยอมแล้ว”

“งั้นคุณก็เชื่อฟังผมดีๆล่ะ”

เขาเห็นเธอเป็นหมา เป็นแมวหรือ ถึงไม่มีสิทธิปฏิเสธ เขาได้

“ค่ะ”

ตุงคินยกคิ้วของเขาขึ้นอย่างพอใจ นัยย์ตาของเขา ก็แสดงออกถึงความพอใจ เขาปัดสูทเล็กน้อย ก่อนจะ เดินออกไป

เธอกำมือยกขึ้นอยู่ข้างหลังเขา พร้อมพึมพำออกมา เบาๆว่า “เจ้าหนี้ ขี้งก!”
ไม่ทันไรเขาก็หันหลังกลับมา

แก้วใจรีบเอามือลง พร้อมพูดออกมาว่า “มีอะไรอีก ไหมคะ”

เขาเห็นการกระทำของเธอเมื่อกี้ เขาเพียงยิ้มออกมา และพูดว่า “เสื้อผ้าของคุณน่าเกลียดมาก น่าจะพัฒนา สายตาตัวเองสักหน่อย”

เธอขบริมฝีปากไว้ ไม่ได้ตอบกลับไป สายตาของเธอ แสดงถึงความอดกลั้นอย่างทำอะไรไม่ได้ ก็คือเธอไม่มี ทางเลือก ถ้าเลือกได้ เธอก็คงจะไม่ไว้หน้าใคร ตั้งแต่ที่ อาสะใภ้แนะนำให้เธอรู้จักกับเทพทัตแล้ว

กลับมาถึงห้องอาหารส่วนตัว เธอก็พบว่าอาสะใภ้ได้ กลับไปแล้ว เหลือเพียงแค่คุณเทพทัตนั่งอยู่

“คุณอากลับแล้ว งั้นฉันก็ควรกลับดีกว่าค่ะ”

“แก้วใจ ที่อาเธอทำอย่างนี้เธอน่าจะรู้นะว่า หมายความว่ายังไง” เทพทัตนั่งอยู่บนเก้าอี้ สายตาของ เขาเต็มไปด้วยการข่มขู่

“คุณเทพทัต หมายความว่ายังไงคะ”

“คืนนี้มาบ้านผม เรามาทำความคุ้นเคยกันสักหน่อย เป็นไง”

คนสมัยนี้เขาพูดตรงๆกันอย่างนี้เลยหรอ
“เพียงแค่เธอตอบตกลง เรื่องของพ่อเธอฉันจะจัดการ เอง”

แก้วใจรู้ว่าเขาตั้งใจใช้เรื่องนี้มาบีบเธอ ให้เธอยอม

นี่เป็นจุดอ่อนของเธอจริงๆ แต่เธอไม่มีทางที่จะทำ อย่างนี้ หาคนแต่งงานด้วย อย่างน้อยก็ขอเป็นคนที่ดูดี

อย่างเช่นคนมีพิษสงอย่างตุงคิน

“คุณเทพทัต ฉันมั่นใจว่าพ่อฉันบริสุทธิ์ ไม่ลำบากคุณ ดีกว่า สวัสดีค่ะ”

“ผมจะบอกคุณไว้ คุณอย่าเสียใจภายหลังแล้วกัน”

เสียงคำรามของนายเทพทัพดังอยู่ข้างหลังเธอ แก้ว ใจเพียงแค่ต้องการออกจากสถานที่นี้อย่างรวดเร็ว สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยการค้าที่สกปรก

หลังออกมาจาก amazing food เธอก็ได้สูดอากาศ บริสุทธิ์ เธอไม่ควรอาศัยเขาอยู่จริงๆ เธอเกือบจะโดน ขาย

แม้ว่าเทพทัตจะช่วยพ่อของเธอได้จริงๆเธอก็จะไม่ ยอม เธอยังไม่จนหนทางขนาดนั้น

เธอเลียริมฝีปากเบาๆ แล้วซี้ดปากขึ้นมา คนบ้าตุงคิน ทำไมถึงกัดแรงขนาดนี้ เป็นหมาบ้ารึไง
คิดแล้วหัวเราะคิกคักออกมาน้อยๆ เธอคิดและพูด ได้เพียงในใจ เพราะถ้าเขารู้เข้าคงสั่งให้เธอทำความ สะอาดบ้านอีกแน่

“หัวเราะคิกคักอะไรเหรอ

เสียงผู้ชายที่คุ้นเคยดังมาจากข้างหลัง ร่างของเธอ แข็งทื่อ หันไปมองชายที่ยืนอยู่ข้างหลังเขาอย่างช้า ๆ ด้วยรอยยิ้มอันขมขื่นเขายังไม่ไปอีกหรือ

“แขกที่อยากมากินข้าวที่ amazing food เขาตกใจ กลัวเสียงหัวเราะของเธอ จนหนีกลับหมดแล้ว”

“คะ…คุณ… ทำไมยังอยู่ที่นี่

“เจอพวกคุณปู่เข้าไป ตกใจจนพูดไม่ออกเลยหรอ” ตุงคินก้าวไปข้างหน้าแล้วแตะที่ปลายจมูกแดงๆเพราะ ความหนาวของเธอ “ตะกี้ตอนอยู่ในห้องอาหาร ไม่เห็น เธอจะตกใจขนาดนี้เลย”

เมื่อกี้เธอจะกล้าตกใจได้อย่างไร แกล้งเป็นคนแปลก หน้ากันถึงจะถูก ยังไงซะเราก็เป็นคนแปลกหน้ากันอยู่ แล้วตั้งแต่ต้น

“คุณตุงคิน พวกเรายังไม่ได้สนิทกันถึงขั้นนั้นรึเปล่า”

“เรียกผมสามีหรือตุงคิน”

ผู้หญิงไม่รู้จักกาลเทศะ ตอนนี้เพิ่งจะหลอกเขาให้ตายใจ มันไม่สายไปหน่อยหรือ

บนถนนที่เต็มไปด้วยแสงไฟสว่างไสว คนสองคนทั้ง สองมองหน้ากัน ท่ามกลางคืนที่มืดมืดยิ่งทำให้ใบหน้า เธอดูโค้งมนสวยงามขึ้น

และผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้ กำลังหนาวจน อดไม่ได้ที่จะกระชับเสื้อผ้าของเธอแน่นขึ้นและย่นคอ ลง รู้สึกว่าความหนาวแผ่จากเท้าขึ้นมาจนทั่วร่างกาย

สามี? ตุงคิน? ทั้งสองสนิทกันตั้งแต่ตอนไหนกัน แม้ว่าตอนนี้เขาจะเป็นเจ้าหนี้และคู่แต่งงานแล้ว แต่เขา ก็ควรจะมีขอบเขตหน่อยไหม

“นี่ นี่ อย่างนี้ไม่ดีมั้ง”

“ไม่ดียังไงหรอ” จับมือเธอขึ้นมาแล้วพูดว่า “คุณเป็นผู้ หญิงที่ผมเลือก ยังจะกล้าหนีอีกหรือ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ