นายซาตานบอฉันแต่งงาน!

ตอนที่ 10 กินไอศกรีม



ตอนที่ 10 กินไอศกรีม

ภายในรถยกมือขึ้นมาดูนาฬิกาพร้อมพูด “ตอนนี้ยัง ไม่ดึก ไปห้างซื้อของสักหน่อยไหม”

แก้วใจที่เพิ่งออกมาจากอำเภออารมณ์ไม่ได้ดีสักเท่า ไหร่ รู้สึกเหมือนขายอยู่ตลอด ฉะนั้นไม่ว่าเรื่องอะไรเธอ ก็ไม่สนใจทั้งนั้น เธอเอนหลังลงบนเบาะอย่างขี้เกียจ พร้อมพูดอย่างอ่อนแรง “คนไปเองเถอะ ฉันไม่อยาก

ตุงคืนบีบจมูกเธอ และพูดด้วยน้ำเสียงดูเยาะเย้ย “ที่แท้คุณก็ชอบใส่เสื้อผ้าของผม ใช้ของของผม”

เธอลุกขึ้นมานั่งทันที ใช่สิ ตอนนี้เธออยู่คอนโดควร ซื้อของใช้ประจำวันสักหน่อย แต่ว่าไปแล้วเขาก็เป็นคน เอาใจใส่ดีเหมือนกันนะ แก้วใจพยักหน้าลง ตอบอย่าง แน่วแน่ “ซื้อเตียงหลับมาได้ไหม”

เธอถูกเคาะหัวทันที เธอหน้ายู่ มองเขาทันที แค่ซื้อ เตียงเอง ขี้งก คำนี้หนีไม่พ้นจริงๆ

“อย่าได้แม้แต่จะคิด

แก้วใจยื่นปากออกมาอย่างเศร้าใจ เธอไม่อยากนอน กับเขาจริงๆ เมื่อคืนก็รู้สึกแปลกๆมากพอแล้ว ถ้าให้นอน ต่อไปเธอคิดไม่ออกจริงๆว่าจะเป็นยังไง แต่ทั้งสองคนก็ แต่งงานกันแล้ว จะต้องมีอะไรเกิดขึ้นจริงๆใช่ไหม
คำพูดนั้นช่างอันตรายจริงๆ แต่จะสามารถหลีกเลี่ยง ได้ยังไง ตอนแรกเป็นเธอที่เข้ามาก่อกวนเขา แต่ตอนนี้ กลับอยากหนีให้ตาย ช่างย้อนแย้งจริงๆ

ห้างใหญ่ข้างๆคอนโด สองคนเดินเข้ามาในห้าง คน หนึ่งเดินนํา คนหนึ่งเดินตาม แก้วใจเดินตามหลังเขา อย่างไม่มีทางเลือก เพราะเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ในห้าง จึงมีคนเยอะมากๆ

ทันใดนั้นตุงคินก็หันมาจับมือเธอ เขาพูดน้ำเสียง เหมือนพูดอยู่กับเด็ก “จับมือผมไว้ ผมไม่อยากเดินเสร็จ แล้วต้องตามหาคุณอีก”

เธอไม่ใช่เด็กสามขวบสักหน่อย จะหายไปง่ายๆได้ยัง ไง

“แก้วใจ ช่วยผมหยิบกางเกงในหน่อย”

กางเกงใน เธอเบิกตากว้าง เหมือนจะถามยืนยันเขา อีกครั้ง ดวงตาคมเข้มของเขา มองมาที่เธออย่างหนัก แน่นไม่มีท่าทางเปลี่ยนแปลง อย่าบอกนะว่า…

เขาพูดจริงๆหรอ

“ไม่ต้องแกล้งแล้ว”

“ตอนนี้ผมหยิบไม่ได้

นี่มันบ้าอะไร เธอร้องลั่นอยู่ในใจ เขาต้องตั้งใจจับมือเธอไว้เพื่อให้เธอมาเอากางเกงในแน่ๆ น่าอายมาก

“งั้นคุณก็ปล่อยมือสิ” เธอพูดกลับ

เขาไม่แสดงอาการใดๆ เหมือนจะบอกว่าเขาไม่ยอม ทำตามที่เธอพูด

“โอเค คุณชนะแล้ว” เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ รีบหยิบ กางเกงในสองตัววางไว้ในรถเข็น

“ที่รัก เหมือนคุณจะไม่รู้ไซส์ผมนะ”

เขาพูดเบาๆข้างหูเธอ เธออดไม่ได้ที่จะเหลียวมอง สายตาที่เต็มไปด้วยการเล่นสนุกของเขา ก็มั่นใจได้ ทันทีว่าเขาจงใจแกล้งเธอ

“ไซส์ของคุณ”

ยังพูดไม่ทันจบก็รู้สึกไม่ถูกต้อง คนบ้า เราสองคนยัง ไม่สนิทกันถึงขั้นรู้ไซส์เล็กใหญ่นะ แถมยังอยู่ท่ามกล่ง คนมหาศาลขนาดนี้ น่าขายหน้าจริงๆ

แม้ว่าเขายังคงตีหน้านิ่งอยู่อย่างเดิม แต่จากตาของ เขาก็ยังมองออกถึงความสนุกในนั้น จิ้งจอกน่าเกลียด

“ฉันไม่ต้องการให้คุณจับมือฉัน ฉันไม่ใช่เด็กแล้ว”

ตุงคืนมองขึ้นลง ก่อนจะพยักหน้ายอมรับ จริงด้วย ไม่ใช่เด็กแล้ว”
คำพูดของเขาทำให้เธอหน้าแดงขึ้นมา คนบ้า ต้องให้ เธออายตลอดเลยรึไง

เธอดึงมือออกมา พร้อมดันรถเข็น “ฉันเข็นรถเอง”

ตุงคินยิ้มแล้วเดินไปหยิบกางเกงในสีขาวสองตัวออก มา พร้อมเดินไปโซนชุดชั้นในสตรี ทำให้แก้วใจแทบ อยากเอามือขึ้นมาปิดหน้า เธอไม่รู้จักเขา ไม่รู้จัก

“คุณผู้ชาย ต้องการแบบไหนคะ ซื้อให้ภรรยาใช่ไหม คะ” พนักยิ้มยิ้มหวานเดินเข้ามาถาม

ตุงคินกวาดสายตาไป ก่อนจะหยิบชี้ไปที่ยกทรง สีชมพูอ่อนชิ้นหนึ่ง “ตัวนั้น แล้วก็ข้างๆตัวนั้น

พนักงานแปลกใจและมองเขาอีกครั้ง นำสองตัวนั้นมา “คุณผู้ชาย ทราบไซส์ของภรรยาไหมคะ”

“ไม่ทราบ แต่เธอมาด้วย” เขาหันไปหาแก้วใจที่หลบ เอามือบังหน้าอยู่มุมหนึ่ง

แก้วใจอยากจะแกล้งเป็นมองไม่เห็น แต่สุดท้ายก็ทำ อะไรไม่ได้นอกจากเดินไป พอเห็นของที่อยู่บนมือเขา ใบหน้าเธอก็ค่อยๆแดงลามไปจนถึงคอ “ตุงคิน คุณนี่มัน จริงๆเลย”

หน้าขายหน้าจริงๆ เธอรู้สึกราวกับว่าคนรอบๆกำลัง มองพวกเขาอยู่ ความรู้สึกนี้ช่างน่าอายจริงๆ
ตุงคุนมองเปรียบเทียบอยู่ครู่หนึ่ง เหมือนจะตัดสินใจ อะไร “ตัวนี้แหละครับ”

แก้วใจรีบเข็นรถเดินไป อยากจะเทเขาซะจริงๆ ผู้ชาย คนนี้ช่างทำขายหน้า แทบไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว

พอเลี้ยวมุมมา ก็บังเอิญชนกับรถเข็นอีกคันเข้าพอดี และเพราะเข็นรถแรงเกินไป ทำให้รถเข็นคันนั้นล้มลง ของที่อยู่ในรถเข็นหล่นกระจายเต็มพื้น

“ขอโทษค่ะ ขอโทษค่ะ”

คนที่โดนชนเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ผมของเธอยาวตรง รูปร่างสูงสมส่วน หน้าตาดูดี พอเธอเห็นรถเข็นล้มลงก็ ไม่ได้โมโหแต่อย่างใด แต่กลับก้มลงมาช่วยแก้วใจเก็บ ของที่หล่นลงบนพื้น

“ดมสา เกิดอะไรขึ้น”

เสียงผู้ชายคนหนึ่งดังออกมาจากท่ามกลางฝูงคน แต่ ทำให้แก้วใจที่นั่งยองๆเก็บของบนพื้นหันกลับไปมอง ลมหายใจเธอสั่นไหวอย่างรุนแรง น้ำเสียงคุ้นนี่คือ

“ตาบ้า ฉันอยู่นี่”

ดมสาลุกขึ้นพร้อมกวักมือไปมา และเธอก็ไม่ได้ สังเกตเลยว่าผู้หญิงที่ช่วยเธอเก็บของเมื่อสักครู่ได้หาย ไปแล้ว
“ทําไมของตกหมดเลยล่ะ”

“คนเยอะน่ะ อ้าว ผู้หญิงคนนั้นล่ะ” ดมสามองข้างๆ อย่างแปลกใจ รถเข็นก็ยังอยู่นี่นา คนหายไปไหนซะ แล้วล่ะ

“ผู้หญิงอะไร”

เธอส่ายหน้า “ไม่มีอะไร

แก้วใจก้มหน้ากุมหัววิ่งออกมาอย่างรวดเร็ว จนกระทั่ง วิ่งมาถึงข้างนอกที่คนไม่พลุกพล่าน เธอถึงได้เดินอย่าง ผ่อนคลายลง

ทำไมถึงมาบังเอิญเจอที่นี่

เธอหัวเราะอย่างขมขื่น น้ำตาค่อยๆไหลออกมา เธอ พยายามกดตรงตำแหน่งหัวใจอย่างเจ็บปวด ธรรศ ทำไมเราเจอกันอีกครั้งเร็วขนาดนี้

เสียงโทรศัพท์ที่คุ้นเคยดังขึ้นมาขัดจังหวะความ คิดของเธอ เธอมองเบอร์ที่ปรากฏบนมือถือ ขมวดคิ้ว เข้าหากันแน่น ก่อนสุดท้ายเธอจะเลือกเพิกเฉย เดิน ออกจากห้างตามฝูงชนมหาศาลอย่างรวดเร็ว

ตุงคินที่ยืนอยู่โซนบำรุงผิวรู้สึกตึงเครียดขึ้นมาทันที ปล่อยให้คลาดสายตาแปบเดียวก็ไม่เจอเธอซะแล้ว แถมยังไม่รับโทรศัพท์อีก
หลังจากโทรไปมากกว่าสามสิบสาย ในที่สุดเธอก็รับ สาย เสียงตามสายเป็นเสียงอันเกียจคร้านของแก้วใจ “แก้วใจค่ะ”

“เธอไปตายที่ไหน”

เสียงตุงคนหงุดหงิดอย่างรุนแรงในขณะที่เดินออก จากห้างสรรพสินค้า ก่อนจะมองเห็นผู้หญิงที่ยืนอยู่ริม ถนนฝั่งตรงข้าม เธอใส่ชุดออกกำลังกายสีชมพู มัดผม รวบขึ้นสูง ในมือถือไอศกรีม

เธอดูเหมือนเป็นเด็กมหาลัยที่บริสุทธิ์ ยังไม่เคยแปด เปื้อนอะไรมาก่อน ทำให้คนอดไม่ไหวที่จะอยู่ใกล้ๆ อยากเก็บความบริสุทธินั้นไว้ตลอดไป

และเธอก็มองเห็นเขาในที่สุด เธอวิ่งไปพร้อมกับ โบกมือให้เขาอย่างมีความสุข จนไม่ได้สังเกตเลยว่ามี รถกำลังขับมาอยู่ตรงหน้าเธอ ก่อนที่รถจะเบรกอย่าง รุนแรง

“นี่ อยากตายหรือไง อยากตายก็ไปตายไกลๆ หน่อยๆ” คนขับรถเปิดกระจกลงมาด่าเธออย่างโกรธ เกรี้ยว

“คุณ”

ก่อนที่แก้วใจจะทันได้เถียงกลับ ไหล่ของเธอก็ถูกจับ ไว้ ร่างสูงใหญ่บังเธอไว้จนอยู่ใต้เงา “แก้วใจ เธอโง่หรอ เธอเป็นคนโง่หรอ ทําไมไม่รู้จักทาง”
“เธอกลัวจนโง่ไปแล้วไง พูดส์”

“แก้วใจ พูด”

“แก้วใจมองเขาอย่างโง่งม ตาของเธอส่องประกาย อย่างไร้เดียงสา “ไอศกรีมฉันตกแล้ว”

ตุงคินได้ยินก็แทบบ้า เธอเกือบจะโดนรถชนแล้ว แต่ ประโยคแรกที่พูดออกมากลับเป็นไอศกรีม เขาอยากจะ แงะสมองเธอออกมาดูจริงๆว่าข้างในนั้นสร้างด้วยอะไร ช่างเป็นผู้หญิงที่ไม่สนใจโลกสนใจราว พระเจ้าเท่านั้นที่ รู้ว่าตอนที่เขาเห็นฉากที่หน้าตกใจนั้น เขารีบวิ่งมาจนใจ แทบกระเด็น

“เธอมันผู้หญิงโง่”

ตุงคินเดินไปเร็วๆ ไม่พูดตลอดทาง และเธอก็ก้าวเท้า เล็กๆตามเขาอย่างรวดเร็ว เขาเหมือนจะโกรธใครสัก คนอยู่ ถึงได้ไม่สนใจเธอเลย

ตะกี้คนที่เกือบโดนรถชนคือเธอ เขาจะโกรธอะไร แก้วรีบวิ่งไปขวางหน้า พร้อมพูด “ท่านอัยการ คุณ

“อะไร”

สายตาของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชา เหมือนกำลัง คุยกับคนแปลกหน้า คนบ้านี่ จะเอาอย่างนี้หรอ

“ผมทําไม”
“เปล่า ไม่มีอะไรแล้ว” เธอเม้มริมฝีปาก ใบหน้า แสดงออกอย่างไร้เดียงสา

ตุงคินเหมือนจะพ่ายแพ้ต่อเธอแล้วจริงๆ เขาเองก็ รู้สึกว่าตัวเองแปลกขึ้นอย่างหาคำอธิบายไม่ได้ เธอมี อิทธิพลต่อเขามาก ทั้งๆที่ทั้งสองคนก็ไม่ใช่คนสนิทกัน ทำไมเขาต้องห่วงเธอขนาดนั้น

“จะกินไอศกรีมอยู่ไหม” เขาถามด้วยใบหน้านิ่ง พอดี กับที่เขาหยุดยืนอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อ

“ได้หรอ”

เขาถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ เดินเข้าไปในร้าน

สะดวกซื้อซื้อไอศกรีมให้กับเธอ แต่เธอกลับไม่รับ ตา จ้องตะลึงค้างอยู่ที่ไอศรีมเท่านั้น

“ไม่ต้องซึ้งเกิน” เขาเปิดปากพูด แปลสายตานั้นของ

เธอเป็นการซาบซึ้ง

ใครบอกว่าเธอซาบซึ้งกัน เธอมองเขาด้วยสายตา หงุดหงิด “คุณอัยการ ไอศกรีมมีตั้งหลายแบบ แต่คุณ กลับชื้อบลูเบอรี่ที่ฉันเกลียดที่สุดมา โชคของคุณ น่า จะซื้อล็อตเตอรี่ถูกนะ

ใบหน้าของตุงคินตึงขึ้นมาทันที โอเค ที่เธอแสดงออก เมื่อกี้ไม่ใช่ซึ้งใจ แต่เป็นตำหนิ วันนี้เขาโมโหจนแทบบ้า ยังต้องมาซื้อไอศกรีม แถมยังต้องโดนตำหนิอีก
“ฉันอยากกินรสกล้วย”

“ไปซื้อเอง” เขาพูดอย่างโมโหแล้วก้าวยาวๆเดินออก

ไปทันที

แก้วใจยังคงยืนอยู่ที่เดิม ด้วยใบหน้าหดหู่ “คุณ อัยการ จริงๆคุณก็เป็นคนพูดแล้วคืนคําเหมือนกัน”

เขาก้าวเท้าหนักๆเดินไป ก่อนจะค่อยๆหันไปมอง ใบหน้าที่หยิ่งยโสของแก้วใจ กำลังกำมือแน่น กัดฟัน เดินไปซื้อไอศกรีมรสกล้วย”

ตอนนี้เขาถูกควบคุมโดยผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างสมบูรณ์ ผลลัพธ์แบบนี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ

แก้วใจกินไอศกรีมอย่างมีความสุข ขาเล็กๆเดินก้าว ตามหลังเขา และเขาก็ไม่ได้สังเกตเลยว่าใบหน้าของ เธอเต็มไปด้วยหยดน้ำตา

กลับมาถึงคอนโด แก้วใจมองเห็นประตูที่พังอยู่และ ยังไม่ได้ซ่อม เธอก็ชะงักค้างขึ้นมาทันที “คุณตุงคิน นี่ จะทำยังไง”

“ไม่ต้องสนใจเรื่องเล็กๆเหล่านี้” ตุงคินนั่งลงบนโซฟา แล้วหยิบนิตยสารขึ้นมาอ่าน มุมปากเผยรอยยิ้มขี้เล่น ออกมา

จะไม่สนใจได้ยังไง เธอไม่ชินที่จะถูกคนแอบมองนะ ไม่ ไม่แอบมอง แต่เป็นการมองตรงๆ
“ชิ ไม่ต้องสนใจเรื่องเล็กๆหรอ ได้ งั้นเราก็ดูแบบเปิด เผยเลยนะกัน ฉันจะรอดูว่าคุณจะเข้าห้องน้ำยังไง” พูด แล้วแก้วใจก็หยิบแอปเปิ้ลขึ้นมากัดระบายความโกรธข องเธอ

สำหรับตุงคินแล้วคำพูดของเธอไม่ได้ทำให้เขารู้สึก อะไรเลย “ยังไงผมก็ไม่กลัวคุณดูผมแก้ผ้าอยู่แล้ว”

“นี่คนตัณหากลับ” แก้วใจมองประตูที่หลุดออกมาทั้ง บาน นี่จะไม่ให้มีอะไรปิดเลยสักนิดเชียวหรอ เธอต้อง อาบน้ำ ต้องเข้าห้องน้ำ ไม่มีประตูไม่อันตรายไปหน่อย หรือ

ใช่ คืนนี้เธออันตรายมาก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ