ทําไมต้องรักนาย

ตอนที่ 8 เลิกกันแล้ว



ตอนที่ 8 เลิกกันแล้ว

ตอนที่ 8 เลิกกันแล้ว

หลังจากทุกอย่างเสร็จสิ้น ทำเอาซูหญิงเวยหมด เรี่ยวแรง

ทั้งสองเริ่มต้นจากห้องน้ำ และมาจบลงที่เตียงนอน เธอ ขดตัวอยู่ในผ้าห่มนุ่มๆ เหนื่อยล้าจนอยากจะนอนต่ออีก สักหน่อย

ลู่หยาวช่วนที่อยู่ข้างๆ กำลังจัดแจงเสื้อผ้า สายตามอง มาที่ร่างเล็กบาง ที่ถูกผ้าห่มห่อหุ้มไว้อยู่

ในความทรงจำของเขา เมื่อก่อนผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ผอบ ขนาดนี้ เธอเหมือนดั่งน้ำหนักลดไปเกือบครึ่ง นัยน์ตาสี ดำมืดมิด จนเขาต้องรีบละสายตาออกจากเธอ

ผู้หญิงคนนี้จะผอมหรือไม่ผอม มันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับ

เขา

“ใส่เสื้อผ้า แล้วไปโรงพยาบาลกัน” เขาติดกระดุมเม็ด สุดท้าย เอ่ยขึ้นเสียงเรียบ

ซูหญิงเวยหลับตาลง ข่มใจบังคับตนให้ลุกขึ้นมา
แต่วินาทีที่ลงจากเตียงเท้าเหยียบถึงพื้นนั้น อาจเพราะ ขาสองข้างที่อ่อนแรง จนทำให้เธอล้มคุกเข่าอยู่ที่พื้น

มือของเขาขยับเล็กน้อย วินาทีนั้นอยากจะพยุงเธอขึ้น มา แต่ซูหญิงเวยกลับไม่รอให้เขาได้ช่วย รีบพยุงตัวเอง ขึ้นมาที่ขอบเตียง จัดแจงตัวเอง

เธอกัดริมฝีปากแน่น รู้สึกเหนื่อยไร้เรี่ยวแรง แต่กลับ ต้องรีบใส่เสื้อผ้าทั้งที่ยังไม่แห้งชุดนั้นอย่างคล่องแคล่ว

ลู่หยาวช่วนเกิดความรู้สึกแปลกประหลาดขึ้นในใจ เขา ไม่ทันได้พิจารณาอะไร เพียงแค่เอ่ยขึ้นเสียงเรียบ “ช่าง มันเถอะ พรุ่งนี้เช้า ฉันจะส่งคนมารับเธอ”

ให้คืนนี้เธอได้พักก่อน

“ไม่ต้องหรอก” ซูหญิงเวยนั่งอยู่บนเตียง ใส่กางเกง ใบหน้าที่ซูบผอมไม่มีอารมณ์ความรู้สึกใดๆ เอ่ยขึ้นอย่าง เย็นชา “ไปโรงพยาบาลตอนนี้เลย ฉันเอาไตให้นาย นาย เอาเงินให้ฉัน”

เขายืนขึ้น เอ่ยขึ้นอีก “ยังมีข้อตกลงใบหย่า..

เอ่ยขึ้นมาได้ไม่กี่คำ ใจของเธอกลับรู้สึกเจ็บปวดเกินจะ ร่ำร้อง ชะงักไปครู่หนึ่ง เธอกลืนน้ำลายลงคออย่างกล่ำ กลืน จากนั้นพูดด้วยน้ำเสียงที่สงบ “ฉันจะเซ็นให้ตอนนี้ หลังจากคืนนี้ไป ฉันและคุณ เราขาดกัน ไม่มีอะไร เกี่ยวข้องกันอีก!”

เธอรักเขามากถึงขนาดนี้ ต่อให้ถูกเขาทำร้ายอย่างหนัก ถึงเพียงนี้ แต่เธอก็ยังอยากรั้งเขาไว้อยู่

ก้าวออกจากห้องไปแล้ว ซูหญิงเวยจึงยอมให้น้ำตาของ ตัวเองไหลออกมา ไหลได้และรีบเช็ดออกอย่างไว

ข้างในห้อง ลู่หยาวช่วนคิ้วขมวด จ้องไปตามทางที่หญิง สาวเดินจากไป เขากำมือแน่น

ตัดขาดกันอย่างนั้นหรอ

มันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ที่ผู้หญิงคนนี้ กล้าพูดคำพูด แบบนี้กับเขา

สีหน้าเขานิ่งสงบ เต็มไปด้วยความเยือกเย็น และเดิน ตามออกจากห้องไป

ซูหญิงเวยออกมารอข้างนอกโรงแรมนานแล้ว แสงไฟ สลัวๆตามท้องถนน สาดส่องให้เห็นร่างที่ผอมบางของเธอ ผอมจนหากมีลมพายุพัดผ่านร่างบางๆนี้คงจะถูกพัดไป ตามลม
นัยน์ตาของลู่หยาวชวนดูเยือกเย็นมากยิ่งขึ้น เขาสัมผัส ได้ถึงความโกรธแค้นและไม่พอใจอยู่เสมอ แต่ไม่รู้ว่า อารมณ์ความรู้สึกนี้ เกิดขึ้นมาได้อย่างไร

ทั้งสองเข้าไปนั่งเงียบๆในรถ ซูหญิงเวยจ้องมองดูวิว

นอกหน้าต่าง เอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “หนังสือ สัญญาหย่าล่ะ”

ลู่หยาวช่วนขมวดคิ้ว เอ่ยขึ้นเสียงเบา “นี่เธออยากเลิก กับฉันจนอดใจรอไม่ไหวเลยหรอ”

เมื่อวันก่อน ผู้หญิงคนนี้ยังกัดฟันร้องบอกว่าให้ตายก็ไม่ ยอมหย่าอยู่เลย แต่ตอนนี้กลับเปลี่ยนไปแบบไม่ทันตั้ง ตัว ดูเหมือนว่าความจริงใจในเมื่อก่อน เกรงว่าจะเป็นแค่ ละครฉากหนึ่งแค่นั้น!

ซูหญิงเวยยิ้มออกมา เอ่ยอย่างเยาะเย้ย “ฉันกลัวว่าถ้า ยังไม่หย่า ต่อไปพ่อแม่ของฉันคงไม่ได้ตายดีเป็นแน่”

ภาพพ่อที่โดนตัดมือ มันชัดเจนอยู่ในหัว และคอยย้ำ เตือนเธอทุกเวลา ซูหญิงเวย ผู้ชายคนนี้ จริงๆแล้วเยือก เย็นไร้เยื่อใยได้ถึงเพียงไหน

ลู่หยาวช่วนสีหน้าถอดสี แต่ก็ไม่ได้มีคำพูดใดเอ่ยต่อ และก็ไม่ได้บอกว่าหนังสือหย่าจะส่งมาให้ตอนไหน
พอมาถึงที่โรงพยาบาล ซูหญิงเวยก็ถูกพาไปเจาะเลือด ตรวจร่างกายขั้นพื้นฐาน

เธอนั่งอยู่ในห้องพักผู้ป่วยอย่างสงบ ไม่ได้เอ่ยอะไร และก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ แข็งทื่อราวดังกลับรูปปั้นไม้ ที่ไม่มีชีวิต

ผ่านไปไม่นาน เลขาก็ปริ้นสัญญาหย่าส่งมาให้

ซูหญิงเวยจึงได้ขยับตัว เขายื่นมือผ่านหน้าลู่หยาวส่วน ไป รับเอกสารมาจากมือของเลขา จากนั้นคุกเข่าลง เปิด เอกสารเตรียมจะเซ็น

ลู่หยาวชวนขยับปาก อยากจะพูด แต่เวลานั้น หมอก็ถือ ผลการตรวจร่างกายออกมาพอดี

“ตอนนี้สภาพร่างกายของคุณซูยังไม่ค่อยดีนัก ถ้าจะ ผ่าตัดตอนนี้ เกรงว่าจะเป็นอันตราย จะพักให้ร่างกาย ฟื้นตัวอีกสักระยะค่อยว่ากันดีไหม” คุณหมดเอ่ยถามย้ำ ความมั่นใจ

ซูหญิงชวนฟังคุณหมออย่าไร้ความรู้สึก ได้แต่รอดู ปฏิกิริยาของเขา ในขณะเดียวกันมือก็ยังคงเซ็นชื่อต่อจน เสร็จ

ลู่หยาวชวนมองดูเธอเซ็นใบหย่าอย่างไม่ลังเลใดๆ เอ่ยขึ้นแบบโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ไม่ต้อง ผู้หญิงคนนี้จะเป็น หรือจะตายก็ไม่ต้องสนใจ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ