ตอนที่ 11 ฉันรังเกียจขนาดไหน
ตอนที่ 11 ฉันรังเกียจขนาดไหน
ซูหญิงเวยรออยู่ที่โรงพยาบาลหนึ่งชั่วโมง รอจนกระทั่ง เห็นลู่หยาวช่วนเข้ามาในโรงพยาบาล และไม่รอให้โล่ว เฉิงเฉิงถูกเข็นเข้าห้องฉุกเฉิน
เพราะไม่คาดคิด หรือ ไม่ได้สนใจตั้งแต่แรก
แผนการล้มเหลว ลู่หยาวช่วนก็กลับมาแล้ว ซูหญิงเวยก็ ไม่อยากอยู่ที่โรงพยาบาลนานกว่านี้ ค่อยเดินไปที่หน้า ลิฬอย่างเงียบๆ
“หยุด!” มีเสียงอันเยือกเย็นของลู่หยาวชวนดังขึ้นมาจาก ด้านหลัง “ซูหญิงเวย เธอยังมาที่โรงพยาบาลอีกทำไม กัน”
นิ้วมือของเธอกำเข้าหากันแน่น แต่ไม่ได้หันกลับไปมอง รวมรวมสติและเอ่ยตอบ “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนาย”
เธอรีบเร่งฝีเท้า เดินให้เร็วขึ้น
“ซูหญิงเวย!” ลู่หยาวช่วนเรียกดังขึ้น เดินก้าวไปประชิด ที่ตัวเธอ “เธอไปหาเรื่องเฉิงเฉิงอีกแล้วใช่ไหมทําไมอยู่ดีๆเธอถึงได้ร้องไห้ขึ้นมา”
ซูหญิงเวยกัดฟันแน่น กลับหลังหันกลับมาอย่างมั่นใจ เอ่ยขึ้นเสียงแข็ง “นายน่าจะถามเธอก่อน ว่าไปทำเรื่อง อะไรผิดมาหรือเปล่า ถึงถูกผีตามหลอกหลอน จนตกใจ ร้องไห้!”
ลู่หยาวช่วนขมวดคิ้ว สีหน้าเคร่งขรึมอย่างน่ากลัว ซู หญิงเวยรู้สึกได้ว่าภายใต้สายตาของเขานี้ซ่อนความรู้สึก อะไรบางอย่างไว้ แต่พอมองดีๆ ก็เป็นแค่ไฟแห่งความ โมโหอย่างเยือกเย็น
“ซูหญิงเวย ฉันจะบอกอะไรเธอให้นะ เธอลืมไปแล้วหรอ ครั้งก่อนตอนที่เธอทำร้ายเฉิงเฉิง ฉันยังไม่ได้คิดบัญชีกับ เธอเลย ปล่อยให้เธอได้ใจเกินไปแล้ว”
ดวงตาของเธอบังคับไม่ได้ที่จะไม่ให้แดง น้ำตาไหลพรั่ง พรูออกมา เธอพยายามรวบรวมพลังทั้งหมด จึงสามารถ กลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมาได้
“ลู่หยาวช่วน ฉันสามารถไม่สนใจเรื่องที่โล่เฉิงเฉิง ทำลายครอบครัวของฉัน แต่เรื่องที่เขาฆ่าน้องสาวฉัน ฉัน ไม่อาจปล่อยไว้ได้ ไม่ว่าจะดีหรือร้าย ฉันไม่มีทางให้เขา ได้อยู่อย่างสงบแน่!” เอ่ยทิ้งท้ายเสร็จ ซูหญิงเวยก็จากไป อย่างรวดเร็ว
ลู่หยาวช่วนจ้องตามแผ่นหลังของเธอ ดวงตาเปร่ง ประกายความไม่สบายใจออกมาไม่น้อย
เขาเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ต่อสาย ถึงลูกน้อง และสั่งการอีกสองสามประโยค
ไม่นานซูหญิงเวยก็ออกมาจากตรงนั้นพ้น ในสมอง สับสนวุ่นวายไปหมด คิดเรื่องไม่ถูกต้องต่างๆนานา อยาก จะล้างแค้นโล่เฉิงเฉิง ขณะที่กลับไปถึงบ้านพ่อ เห็นของ ทุกอย่างระเกะระกะ
ของใช้ในบ้านแตกกระจัดกระจาย แม่นั่งอยู่กลางห้อง รับแขก กอดพ่อที่ตัวเต็มไปด้วยเลือดร้องไห้อย่างทุกข์
ระทม
“เกิดอะไรขึ้น” ซูหญิงเวยตกใจ รีบพุงเข้ามาหา คุกเข่า อยู่ข้างๆและเอ่ยถามขึ้น “เกิดอะไรขึ้นกับบ้าน พ่อโดน ใครทําร้าย”
แม่ร้องไห้พลางเอ่ยตอบ “เมื่อครู่มีคนชุดดำกลุ่มหนึ่งมา ที่นี่ จากนั้นก็ทำลายข้าวของในบ้าน จากนั้นก็บังคับให้ เซ็นหนังสือสัญญา! ไม่เซ็นพ่อก็โดนทำร้าย แม่ทำอะไร ไม่ได้ จึงจําต้องยอม น….
“อะไรนะ” ความคิดเธอยิ่งวุ่นวายขึ้นกว่าเดิม
คน ด า… เธอนึกถึงบอดีการ์ดที่อยู่ข้างกายลู่หยาว
วน
หรือว่า จะเป็นเขา
ต้องใช่เขาแน่ๆ!
ก่อนจะออกมาจากโรงพยาบาล เขายังขู่เตือนตนไว้!
ลู่เฉิงเฉิงก็อยู่ที่โรงพยาบาล มีแค่ลู่หยาวช่วนเท่านั้นที่ทำ แบบนี้กับตน อีกอย่าง นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรก!
“เวยเวย ใช่ฝีมือไอ้คนไม่มีมโนธรรม ลู่หยาวช่วนใช่ ไหม” แม่เดาถูก แม่โมโหจนกระทั่งไปหยิบมีดหั่นผักออก มาจากในห้องครัว “แม่จะไปเอาเรื่องมันเดี๋ยวนี้”
“แม่!”ซูหญิงเวยรีบไปห้ามไว้ “แม่ใจเย็นๆก่อน แม่พาพ่อ ไปส่งโรงพยาบาลก่อน เดี๋ยวหนูจะไปคุยกับเขาเอง!”
แม่จับข้อมือของซูหญิงเวยแน่น ตาทั้งสองข้างแดงก่ำ เอ่ยขึ้น “เวยเวย ลูกต้องไปคุยกับเขาให้ชัดเจน อย่าให้ เขามารังควานพวกเราอีก ไม่เช่นนั้น พวกเราก็ย้ายไป จากที่นี่กัน และก็จะไม่กลับมาที่นี่อีก”
“ค่ะ” ซูหญิงเวยกลับมาที่โรงพยาบาลอีกครั้ง เพื่อมาคุย กับลู่หยาวช่วนให้ชัดเจน
ลู่หยาวช่วนยืนอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน โรคหัวใจของโล่เฉิง เฉิงเกิดกำเริบขึ้นอีกครั้ง และกำลังทำการผ่าตัดอยู่
ตอนที่ หญิงเวยไปถึง สีหน้าของเขานิ่งสงบ มือกํา รูปภาพเหล่านั้นแน่น จากนั้นโยนใส่หน้าของซูหญิงเวย
“นี่คือเป้าหมายที่เธอต้องการครั้งสุดท้ายก่อนหย่าใช่
ไหม” เขาจ้องเธอด้วยสีหน้าที่ดุดัน เหมือนดั่งหมาบ้าที่ โกรธหนัก ที่พร้อมจะทำลายซูหญิงเวยให้สลายเป็นชิ้นๆ เธอกำมือแน่นและเอ่ยถามขึ้น “ดังนั้นนายจึงสั่งให้คนไป ทําแบบนี้กับพ่อแม่ฉันอย่างนั้นหรือ”
ลู่หยาวชวนโมโห “เธออย่ามานอกเรื่อง ฉันกำลังถาม เธออยู่ สิ่งที่เธอทำครั้งสุดท้าย ก็เพื่อต้องการรูปพวกนี้ใช่ หรือไม่!”
นอกเรื่องหรอ สําหรับเขาแล้วนั้น เธอ รวมถึงพ่อแม่ของ เธอ เป็นสิ่งที่ไม่ได้สำคัญอะไรเลยหรอ!
“ใช่แล้วจะทำไม” เธอตอบด้วยน้ำเสียงที่ดุดันเช่นกัน “นายไม่รู้หรอ ว่าตอนที่นายแตะต้องฉัน ฉันรังเกียจขนาด ไหน”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ