ทางใครทางมัน! เราหย่ากันแล้ว!

1.หนังสือหย่านช้าลงนามให้ท่าน



1.หนังสือหย่านช้าลงนามให้ท่าน

1 หนังสือหย่านช้าลงนามให้ท่าน ยามชื่อ [1]ภายในห้องทำงานเรือนว่านโซวง [2]

บุรุษหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งในอาภรณ์ยาวสีฟ้าอ่อน เรือนผมสี น้ำตาลเข้มจนเกือบดำที่บางส่วนปล่อยยาว บางส่วนเกล้าขึ้น แล้วปักด้วยปืนสีเงิน เจ้าของใบหน้าขาวมนดั่งหยกเนื้อดี คิ้วที่ โค้งขึ้นเล็กน้อย แสดงถึงความอ่อนโยน อันเป็นเอกลักษณ์ ประจำตัว จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากสีแดงที่รับกับรูปหน้า ทุก อย่างราวกับผลงานศิลปะที่ทางสวรรค์ได้สรรค์สร้างมาอย่าง ลงตัว

นามของเขาคือ ‘ซือหยวนซา” ผู้เป็นบุตรชายคนสุดท้องใน บรรดาบุตรชายทั้งสามคนของ ซื้อห้าวโจว” และฮูหยินเพียงหนึ่ง เดียว ซื้อเหลียนฮวา” ที่ล้วนเก่งกาจกันไปคนละด้าน

หนึ่ง… กระบี่ระบือนาม คุณชายใหญ่ซื้อหยางซี แม่ทัพ

ชายแดนบูรพาผู้เก่งกาจ…

สอง… เสื้อแพรล่องหน คุณชายรองซื้อหยิน องครักษ์หน่วย เสื้อแพรผู้ว่องไว….

สาม… พู่กันฟ้าประทาน คุณชายสามซื่อหยวนซา อัจฉริยะ ด้านการวาดภาพ ที่ฉายแววออกมาตั้งแต่เริ่มหัดเดินเตาะแตะ ก็สามารถใช้นิ้วเขี่ยดินหน้าเรือน ให้กลายเป็นภาพผีเสื้อได้

แม้ชื่อเสียงของทั้งสามคนจะลือลั่นไปทั่วสารทิศ แต่น้อยคนที่ จะเคยพบเจอตัวจริงของพวกเขา ซึ่งผู้ที่เข้าหาง่าย มีความเป็น มิตร และทุกคนรู้จักหน้าค่าตามากที่สุดในบรรดาพี่น้องก็คือ คุณชายสามนั่นเอง!

ตอนนี้ร่างสูงกำลังนั่งทำงานด้วยท่วงท่าสบายๆ ที่ให้ความ รู้สึกเรียบง่าย หากแต่แฝงไปด้วยเสน่ห์ที่ผู้ใดมาเห็นก็ยากจะละ สายตาไปได้ โดยเฉพาะนัยน์ตาเรียวสีนิลที่ดูมีชีวิตชีวาคู่นั้น

มุมปากทั้งสองข้างยกยิ้มอย่างอารมณ์ดี ขณะที่กำลังใช้พู่กัน จุ่มหมึกแล้วตวัดลายเส้นลงไปยังกระดาษแผ่นเล็กๆ ที่อยู่ตรง หน้า ซึ่งจะถูกนำไปเย็บรวมกับภาพอื่นๆ ที่กองอยู่ทางขวา กะ ด้วยสายตาแล้วมีประมาณสิบกว่าแผ่น อันเป็นงานที่ลูกค้าจ้าง ให้วาด เพื่อจะนำไปเก็บสะสม

โดยมีบ่าวชายคนสนิทยืนอยู่ข้างๆ คอยรับใช้ เพื่อคุณชาย ของตนขาดเหลือสิ่งใด อีกนัยหนึ่งคืออยากดูสิ่งที่คุณชายของตน กําลังวาดด้วย

คุณชายสามท่านช่างสุดยอดจริงๆ เพียงแค่ตวัดพู่กันไปมาไม่ กี่ที ก็กลายเป็นมังกรตัวใหญ่แล้ว แถมนับวันฝีมือก็ยิ่งพัฒนาขึ้น เรื่อยๆ สมกับเป็นศิลปินที่ใครๆ ต่างต้องการตัว แม้แต่วังหลวง ยังเคยเชิญให้ไปเป็นอาจารย์ขององค์หญิงองค์ชาย แต่คุณชาย ก็ปฏิเสธด้วยชอบรับงานแบบอิสระ ทุกอย่างในชีวิตคุณชายสาม นับว่าสมบูรณ์แบบยิ่ง ทั้งความสามารถ หน้าตา ฐานะทั้งการเงินและทางสังคม

เสียอย่างเดียว….!

“คารวะท่านพี่เจ้าค่ะ” เสียงหวานใสของร่างบางในอาภรณ์ผ้า โปร่งสีเปลือกไข่ เรือนผมสีดำสลวยดุจไม้มะเกลือที่ถูกเกล้าขึ้น แล้วปักด้วยปืนสีทอง ใบหน้ารูปไข่งดงามหมดจดเอ่ยพร้อมกับ ย่อตัวลง โดยมีบ่าวคนสนิทของนางเดินตามมาข้างหลัง

สวรรค์! นึกถึงคุณหนูผู้นี้ก็มาเลย….

สตรีผู้ที่คุณชายสามรังเกียจถึงขั้นที่ว่าเปลี่ยนชื่อเรือนหนี เพื่อ ไม่ให้ใกล้เคียงกับเรือนของนาง แถมยังพ่วงด้วยชื่อเสียงด้าน ความร้ายกาจและเจ้ามารยาที่ลือลั่นกันไปทั่วเมืองเปีย

(เดิมเรือนว่านโซ่วจนี้มีชื่อว่าหวงหลาน[3] ส่วนเรือนของสตรี

นางนั้นชื่อไปหลานฮวา[4])

ถึงข้าจะไม่รู้ว่าสมญานามเหล่านั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่ แต่จาก การที่ทำให้คุณชายสามผู้อ่อนโยนของข้าบันดาลโทสะได้ เห็นที คงจะจริงกระมัง

การมาของสตรีตรงหน้าทำให้อารมณ์สุนทรีย์ของซื้อหยวนซา มลายหายไปทันที แววตาร่าเริงเมื่อครู่แปรเปลี่ยนไปเป็นเย็นชา ราวกับเป็นคนละคน

“ออกไปจากเรือนของข้า!” ร่างสูงเอ่ยด้วยน้ำเสียงกระด้างที่ แสดงถึงความเกลียดชังออกมาชัดเจน ในใจนึกคาดโทษบ่าวที่ เป็นเวรเฝ้าประตูเรือน ทั้งที่เขากำชับนักหนาแล้วว่าห้ามให้สตรีตรงหน้าเข้ามาใกล้เรือน ไยวันนี้จึงปล่อยให้นางเดินเข้ามาถึงใน ห้องทำงานของเขาได้

ขาไม่รู้หรอกว่าวันนี้เวรใคร แต่เจ้าโดนตัดเบี้ยหวัดแน่

ร่างบางเดินเข้ามาหาซื้อหยวนซาราวกับไม่ได้ยินสิ่งที่เขาพูด เมื่อครู่ พร้อมกับวางหนังสือฉบับหนึ่งลงตรงหน้าเขา

ปีก!

เมื่อเห็นว่ามันคืออะไร คิ้วกระบี่ของซื้อหยวนซาก็เลิกขึ้นด้วย ความประหลาดใจ ก่อนจะคว้าเข็มเงินขึ้นมาทดสอบพิษเบื้องต้น เพื่อความปลอดภัย รอกระทั่งผลออกมาไม่พบอะไร เขาจึงกล้า คว้ามันขึ้นมาเปิดดู…

หนังสือหาที่มีลายมือของนางเขียนอยู่!!

ของจริงเสียด้วย!!!

พลันภายในหัวของเขาก็มีคำถามผุดขึ้นมามากมาย ด้วย ความไม่เข้าใจ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ เขาทั้งขอร้อง ข่มขู่ ยื่นคำขาดให้ นางยอมลงนามมอบอิสรภาพคืนให้เขาเท่าใด ร่างบางก็ไม่เคย แยแส นี่นางกลับเป็นคนลงนามนำมามอบให้เขาด้วยตนเอง

ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎยิ่ง! แต่ในเมื่อเอามาให้ก็ดีแล้ว

เขาก็แค่แปลกใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับนางกัน!? ยังไม่ทันที่ร่างสูงจะได้พูดอะไร เซียวหลินหลิง” ก็ชิงพูดขึ้น

ก่อน
“ขอเวลาเพียงสองราตรีเพื่อเก็บของกับสะสางธุระส่วนตัว แล้วข้าจะกลับจวนสกุลเขียวทันที” หลังกล่าวจบแววตาทระนง ของนางก็เปลี่ยนมาเป็นขอความเห็นใจ จากนั้นจึงเอ่ยต่อ

“เพียงแต่… มีเรื่องสุดท้ายที่อยากขอ ก่อนที่คุณชายสามจะ ไม่ใช่ท่านพี่ของข้าอีกต่อไปเจ้าค่ะ”

“ว่ามา… ซื้อหยวนซาเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ดีขึ้นกว่าตอนแรก หลายส่วน แต่ก็ยังให้ความรู้สึกห่างเหินราวกับเป็นคนแปลก หน้าที่ไม่สนิทชิดเชื้อ

“วันนี้ ช่วยมาร่วมโต๊ะทานมื้อค่ำกับข้าได้หรือไม่เจ้าคะ?”

“แค่นี้?” คำขอของนางทำให้เขารู้สึกฉงนใจยิ่ง ร่างบางพยัก หน้าเบาๆ ก่อนตอบว่า

“เจ้าค่ะ ก่อนที่เราจะแยกย้ายกัน ข้าเพียงอยากให้คุณชาย สามได้ลิ้มรสฝีมือการทําอาหารของข้าสักครั้ง…

ท่านจะได้รู้ว่าหากไม่มีข้าแล้ว… ท่านก็จะไม่สามารถหาของ อร่อยเช่นนี้มาทานได้จากที่ไหนอีกแล้ว เซียวหลินหลิงพูดต่อใน ใจ ด้วยความมั่นใจในฝีมือของตน

ร่างสูงนิ่งไปสักพักพลางครุ่นคิด นั่นสิ จะว่าไปเขาก็ยังไม่เคย แตะต้องอาหารของนางเลย ไหนๆ นางก็มอบหนังสือหย่าให้เขา แล้ว ถือว่าเมตตานางหน่อยละกัน

“ได้”

“เช่นนั้นยามซวี [5]เจอกันเจ้าค่ะ” กล่าวเพียงเท่านั้นร่างบางสะบัดชายกระโปรงหมุนตัวกลับไปเอ่ยกับสาวใช้คนสนิทว่า

“ชิงบี้ พวกเรากลับเรือนกันเถิด”

“เจ้าค่ะคุณหนู” ชิงปรับค่

แล้วเชียวหลินหลิงก็เดินออกไปด้วยท่วงท่าสง่างามดุจ นางพญา โดยไม่เหลียวหลังมามองซื้อหยวนซาเลยแม้แต่น้อย… กฎที่มีมาแต่โบราณกล่าวว่าภรรยาไม่มีสิทธิ์หย่าสามี…

ถ้าจะให้ถูกต้องตามระเบียบธรรมเนียมนางต้องแจ้งซื้อหยวน ชาว่าต้องการหย่า แล้วให้อีกฝ่ายเป็นคนจัดการ ไม่ใช่หาหนังสือ มาลงนามเองเช่นนี้

แล้วอย่างไร? ในเมื่อนางต้องการตบหน้าเขาด้วยหนังสือฉบับ

นี้! ผู้ใดก็ห้ามนางไม่ได้!!

“ขอบใจมาก” ร่างบางเอ่ยกับบ่าวชายสองคนที่เป็นผู้เฝ้า ประตูเรือน ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็ถูกคุณชายสามเรียก เข้าไปหา ก่อนที่เซียวหลินหลิงจะมุ่งหน้ากลับไปยังเรือนไปหลาน ฮวาของตนซึ่งอยู่ห่างจากเรือนของซื้อหยวนซาพอสมควร

อย่าว่าแต่เรือนของซื้อหยวนซาเลย ถ้าจะพูดให้ถูกคืออยู่ท้าย จานห่างจากเรือนของคนสกุลซื้อทุกคนเลยต่างหาก! คล้ายไม่ถูก นับว่าเป็นสมาชิกในครอบครัว…

…เซียวหลินหลิงเดินเชิดหน้าไปด้วยท่าทางสบายๆ

ในขณะที่ชิงนั้นก้มหน้าด้วยความรู้สึกอายยิ่ง
คุณหนูของข้าจะรู้ไหมหนอ….

ว่าระหว่างทางกลับเรือน สายตาแต่ละคนที่มองมายังท่านกับ ข้าเป็นอย่างไร

และตอนนี้นางก็เป็นห่วงความรู้สึกคุณหนูเหลือเกิน ทว่าไม่

กล้าปริปากออกไป…

“ข้าไม่เป็นไรซิง” เมื่อถึงเรือนของตน เซียวหลินหลิงก็โพล่ง ออกมาราวกับรู้ว่าบ่าวคนสนิทที่เปรียบดังสหายของตนกำลังคิด สิ่งใด

“โธ่… คุณหนู… ชิงเอ่ยเสียงเครือด้วยความรู้สึกเจ็บปวด แทนผู้เป็นนาย ไยนางจะไม่รู้ว่าคุณหนูของตนรักคุณชายสาม มากแค่ไหน ตอนที่เห็นคุณหนูลงนามในหนังสือหย่า นางก็แทบ อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง…

คุณหนูต้องใจแข็งขนาดไหนกัน จึงจะบังคับมือของตนให้จับ พู่กันจุ่มน้ำหมึกตวัดลงบนกระดาษแผ่นเล็กๆ แต่กลับมีอำนาจใน การตัดความสัมพันธ์ของคุณหนูกับคุณชายผู้นั้นได้

“ข้าตัดสินใจดีแล้ว… จึงได้ลงมือทำ” ร่างบางกล่าวสำทับ จากนั้นก็หยิบกระดาษที่มีรายการวัตถุดิบต่างๆ เขียนไว้พร้อมถุง เงินยื่นให้ชิง
“เดี๋ยวเจ้าช่วยไปซื้อของพวกนี้ที่ตลาดให้ข้าหน่อยนะ”

ใจจริงเซียวหลินหลิงก็อยากไปซื้อของด้วยตัวเองหรอก แต่ถ้า นางไปเองคงไม่ได้อะไรติดมือกลับมา เพราะไม่มีใครอยากรับ เงินจากนางมารร้ายกาจเช่นนาง…

“เจ้าค่ะ” ซึ่งรับคำ ก่อนรับของในมือคุณหนูแล้วเปิดประตู เดินออกไป

เมื่อสาวใช้คนสนิทออกไปแล้ว เซียวหลินหลิงก็ล้มตัวลงนอน บนเตียง ก่อนจะยิ้มเยาะให้ตนเอง

ที… นางมารร้ายกาจงั้นหรือ!?

น่าขันยิ่งนัก!

เห็นแล้วใช่หรือไม่หลิงเอ๋อร์!?

ผลลัพธ์ที่เจ้าได้… จากการเทใจให้คนผู้นั้นมาตลอดสิบกว่าปี นอกจากถูกเขาและคนอื่นในจวนเกลียดแล้ว…

อ้อ! เว้นพี่ซื้อหยางซีกับพี่ซื่อหยินซูสักสองคนละกัน แต่สองคน นั้นวันๆ ชีวิตก็ผูกติดอยู่กับหน้าที่การงานข้างนอก แทบไม่ได้ กลับบ้านกลับช่องเลย เช่นนี้ควรนับว่าเป็นคน ในจวนหรือไม่!?

แม้แต่ผู้คนข้างนอกก็ยังพลอยรังเกียจเจ้าไปด้วย เพราะ กิตติศัพท์ความร้ายกาจของเจ้าที่ลือเลื่องไปทั่วเป่ย

เอาเถอะ… เซียวหลินหญิงคนนี้ถือคติเลือกทำสิ่งใดไปแล้ว ย่อมไม่เสียใจภายหลัง
ตั้งแต่เล็กจนโตนางก็ไม่เคยเอาเวลามานั่งรำพึงรำพันถึงเรื่อง ราวในอดีตหรอก

เวิ่นเว้อไปก็ย้อนกลับไปแก้ไขไม่ได้ หาเรื่องทุกข์ใจใส่ตัว เปล่าๆ

กับเรื่องนี้ก็เช่นกัน นางไม่คิดหรอกว่าหากย้อนเวลากลับไปได้ นางจะทําอย่างนั้น นางจะทำอย่างนี้ แม้จะมิอาจห้ามหัวใจของ ตนไม่ให้เจ็บปวดได้ก็ตาม

ที! ถ้าควักหัวใจของตัวเองมาเปลี่ยนเป็นดวงใหม่ได้นางคง ทำไปแล้ว จะได้สิ้นเยื่อใยต่อคนผู้นั้นทันที ไม่ต้องรอให้เวลามา เยียวยา

นี่คิดกันจริงๆ หรือว่านางลงนามยื่นหนังสือหย่าให้เขาได้ โดยที่ไม่รู้สึกอะไรเลย แต่ถ้าเทียบกับความเจ็บที่นางต้องทนซื้อ ความสัมพันธ์ลมๆ แล้งๆ ไปวันๆ

และใจของนางต้องมาคอยรักเขาไปเรื่อยๆ แล้ว… สู้ยอมตัดใจเจ็บตอนนี้มีดีกว่าหรือ…

กลับจวนสกุลเซียวไปรักษาแผลใจ เมื่อฟื้นตัวแล้วหาคนใหม่ๆ ให้ชีวิตดีกว่า!

[1] ยามชื่อ = เวลา 09.00 – 10.59 น. โดยประมาณ

[2] ว่านโซ่วจวี่ = ดอกดาวเรือง

[3] หวงหลาน = ดอกจําปา
[4] ไปหลานฮวา = ดอกจําปี

[5] ยามซวี = เวลา 19.00 – 20.59 น. โดยประมาณ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ