ทัณฑ์ราคี

ตอนที่ 1



ตอนที่ 1

ด้านหน้าปากซอยแห่งหนึ่งเป็นที่ตั้งของตลาดสดขนาดใหญ่ มีแผงขายสินค้ามากกว่าสองร้อยแผง และรอบๆ มีอาคารห้อง แถวให้เช่ามีผู้เช่าเต็มทุกห้อง เจ้าของตลาดและห้องแถวในย่าน นี้มีคฤหาสน์หลังงามอยู่ท้ายซอย

“ป้าครับ รู้จักบ้านคุณนายแพรพรรณกับคุณสมเกียรติใหม

ครับ”

รถกระบะคันหนึ่งแล่นมาจอด แล้วเปิดกระจกฝั่งคนขับหยุด ถามแม่ค้าขายกล้วยทอดหน้าทางเข้าตลาด

“ขี่รถไปจนสุดซอยนั้นเลยค่ะ บ้านหลังใหญ่ๆ ตรงนั้นแหละ บ้านคุณแพรพรรณกับคุณสมเกียรติ

“ขอบคุณครับป้า ออ ผมขอกล้วยทอดกับมันทอดร้อยนึงครับ

คำขอบคุณมาพร้อมกับธนบัตรสีแดงถูกส่งให้แม่ค้า เมื่อได้รับ ถุงกล้วยทอดรถกระบะกลางเก่ากลางใหม่คันนั้น ก็แล่นเข้าไปใน ซอยตามทางที่แม่ค้าบอก แล้วไปจอดอยู่ข้างรั้วบ้านไม่ไกลจาก ประตูทางเข้า รถจอดนิ่งอยู่แบบนั้นนานร่วมสิบนาที ก็เห็นประตู บ้านเปิดออก รถยนต์หรูสีดำคันหนึ่งแล่นออกมาจากด้านในจอด รออยู่หน้าบ้าน ใบหน้ารกครึ้มด้วยหนวดเคราของคนมอง ปรากฏรอยเหยียดบนมุมปากเล็กน้อยก่อนจะคลายลง ดวงตา คมกริบใต้เรียวคิ้วดกหนาจ้องมองอย่างตั้งใจ ครูต่อมาร่างระหง ของหญิงสาวคนหนึ่ง ในชุดกระโปรงยาวสีขาวก็ออกมาจากด้านใน พร้อมกับหญิงวัยกลางคนเดินตามมาด้วย ทั้งสองหยุดพูดคุย อะไรกันหน้าบ้านครู่หนึ่ง ก่อนที่หญิงสาวคนนั้นจะขึ้นรถที่จอดรอ อยู่ออกไป คนซุ่มมองรีบขยับลงจากรถเดินตรงมาหาคนที่กำลัง จะปิดประตูบ้าน

“ป้าครับ ขอถามอะไรหน่อยครับ

คนพูดมองสภาพของชายหนุ่ม ที่สวมเสื้อเชิ้ตเก่ากับกางเกง ยีนส์สีซีด ด้วยสายตาระแวง ท่าทางอีกฝ่ายดูไม่น่าไว้ใจ

“ที่นี่ บ้านคุณนายแพรพรรณกับคุณสมเกียรติใช่ไหมครับ” “ใช่ ที่นี่ไม่ซื้อของเร่ขายหรอกนะ”

แกโบกมือปฏิเสธเมื่อคิดว่าอีกฝ่ายมาขายของ ผลักประตูรั้ว ปิดเตรียมหันหลังกลับเข้าไปในตัวบ้าน แต่ชายหนุ่มเรียกไว้อีก ครั้ง

“เดี๋ยวก่อนสป้า ผมไม่ได้มาขายของ ผมมาสมัครงานครับ

เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงสุภาพ

“ออ ที่นี่คนงานเต็มแล้ว ไม่รับเพิ่มหรอกจ้าพ่อหนุ่ม

“ผมได้ยินคนที่ตลาดบอกว่า ถ้าอยากได้งานให้มาลองสมัคร ดู” เขายังไม่ละความพยายาม

“ที่นี่คนงานเต็มแล้วจริงๆ ไปหางานที่อื่นเถอะ แถวอู่รถหน้า ปากซอยเหมือนติดป้ายรับสมัครคนงาน ลองไปถามดูสิ บอกว่า ป้าแววแนะนำมาก็ได้
ท่าทางหวาดระแวงคลายลง เมื่อเห็นท่าทีซื่อๆ ของของฝ่าย ตรงข้าม นางแววแม้บ้านของที่นี่ จึงแนะนำด้วยความหวังดี “น่าเสียดาย ผมอยากทำงานที่บ้านใหญ่ๆ แบบนี้ คงอยู่สุข

สบายดี” คำพูดนั้นทำให้คนฟังยิ้มในความซื่อ “เป็นคนใช้เขาจะสบาย ได้ยังไง แม้แต่หลานในไส้คุณนายแก ยังเรียกใช้หัวไม่วางหางไม่เว้น

ในสายตาคนภายนอกอาจคิดว่าการได้ทำงานในคฤหาสน์ หลังใหญ่สบาย แต่ความจริงแล้วคนงานที่นี่มีน้อยมากเพียงสาม คนเท่านั้น ประกอบด้วยตัวนางเองที่มีหน้าที่เป็นแม่บ้าน นายมั่น สามีของนางทำหน้าที่เป็นคนขับรถและควบตำแหน่งคนสวน และมีเด็กชาวเขาชื่ออาหมคอยช่วยทำความสะอาดในบ้าน รวม ถึงหลานสาวของเจ้าบ้านที่โดนใช้งานราวกับคนรับใช้อีกคน พอ เรียนจบมัธยมก็ไม่ยอมให้เรียนต่อบอกว่าสิ้นเปลือง แต่ลูกสาว ตัวเองกลับส่งให้เรียนมหาวิทยาลัยเอกชน คิดแล้วน่าเวทนานัก

“เห็นว่าคุณนายแพรพรรณแกมีลูกสาวสวย ผมอยากเห็นเป็น บุญตา” คนพูดชะเง้อมองเข้าไปในบ้าน

“ก็เพิ่งออกไปเมื่อกี้ไม่เห็นหรือไง หน้าอย่างเอ็งได้แค่มองไฟ ท้ายรถก็บุญหัวแล้ว อย่าคิดไปหมายปองดอกฟ้าเลย เพราะคุณ หนูของฉัน เธอกำลังจะแต่งงานกับเศรษฐี นี่เดือนหน้าที่จัดงาน แล้ว เห็นว่าเจ้าบ่าวเตรียมงานใหญ่โต”

นางแววพูดข่มเกทับเจ้าหมาข้างถนนให้เลิกฝันกลางวัน เมื่อ ครูคุณหนูของนางกำลังจะออกไปข้างนอก จึงเรียกนายมั่นคนขับรถไปส่ง นางเลยขอให้พาคุณมัสลินไปส่งที่หน้าปากซอยด้วย ไม่ อยากให้เดินตากแดดร้อนๆ ออกไปเก็บค่าเช่าให้คุณนาย

“อ้อ คนเมื่อกี้ในรถ” เขาพยักหน้าที่ท่านึกออก

“ฉันจะเข้าบ้านแล้ว จะไปไหนก็ไปเถอะ”

พูดจบนางแววก็พาร่างค่อนข้างท้วมของตนเดินกลับเข้าไปใน ตัวบ้าน ปล่อยให้ชายหนุ่มคนนั้นมองอยู่นอกรั้ว โดยไม่รู้เลยว่า อีกฝ่ายหยิบโทรศัพท์มาเปิดดูภาพที่เพิ่งถ่ายไปเมื่อครู่

“นี่สินะลูกสาวนายสมเกียรติ นางแพรพรรณ หีสวยน่ารัก ขนาดนี้ ช่างเลือกไม่เบานี่ ไอ้ภานุ

ร่างสูงใหญ่หมุนกายเดินออกมาจากหน้าประตูรั้ว เดินกลับมา นั่งบนรถกระบะก่อนจะสตาร์ทเครื่องขับออกมา เมื่อบรรลุเป้า หมายในการสืบดูประวัติของว่าที่เจ้าสาวของภานุ อัศวนาวิน ใบหน้าคร้ามคมรกเรื้อด้วยหนวดเคราหนา มีรอยยิ้มหยันเมื่อ ปรายตามองหญิงสาวในรูป

“ไอ้ภานุ เกมของเรากำลังจะเริ่มต้น ฉันไม่ปล่อยให้แกมีความ สุขหรอก”

รถยนต์หรูคันงามแล่นมาจอดหน้าปากซอย ประตูด้านข้างคน ขับเปิดออกพร้อมกับร่างของหญิงสาวก้าวลงมา ไม่ทันจะเดิน ออกไปกระจกรถตรงที่นั่งด้านหลังก็เปิดออก

“ยายมัส ฝากซื้อพายมะพร้าว เอามาสองกล่องนะ แช่ตู้เย็นไว้ให้ด้วยเตี๋ยวเย็นจะกลับมากินธนบัตรสีเทายื่นส่งให้ ค่ะ พี่ป่าน” มัสลินยื่นมือรับธนบัตรของสาวเก็บ

ลินินปรายตามองไปยังตึกแถวข้างตลาดนิดหนึ่ง หนุ่มร่างสูงเปิดประตูร้านขายขนมออกมาก็สั่งคนรถขับออกไปทันที

สงสัยวันฝนจะยายคุณป่านยอมให้รถมาด้วย

พอดีพี่ธุระเลยให้มัสติดรถมาด้วย พี่ปอนด์แขวะพี่ป่านเลยค่ะ ป่านเข้าพาลเกลียดหน้าพี่ปอนด์ มากกว่าเดิม”

มัสลินรีบเกรงว่าปรัชญ์จะเหน็บแนมสาวเธอมากกว่านี้ เขากับลินินเป็นไม้เบื่อเมามาแต่เรียนมัธยม ปรัชย์อายุ มากกว่าลินินสามแก่มัสลินห้าย้ายมาเรียนเดียวกับเธอและพี่สาว เขาย้ายพร้อมกับมารดาเช่าตึกเปิดร้านขนมตลาดทรัพย์เจริญปรัชญ์เป็นลูกศิษย์เก่าของยายของมัสลิน จึงพาลูกชาย แวะหา

เผาหมด”

ปรัชญ์เปิดประตูร้านหญิงสาวเดินเข้าไปด้านใน กลิ่นหอม ของขนมปังลอยฟุ้งชวนน้ำลายสอทันทีเข้าท้องร้องเสียงดัง
“หิวใช่ไหม มานั่งตรงนี้ก่อน เดี๋ยวพี่เอาอะไรมาให้กิน

ลูกชายเจ้าของร้านได้ยินเสียงท้องร้องก็จูงมือมัสลินมานั่งที่ เก้าอี้ แล้วเดินหายเข้าไปด้านใน ก่อนจะกลับมาพร้อมข้าวผัด และน้ำหวานมาวางตรงหน้า

“ข้าวผัดไส้กรอกของชอบของมัสไง แม่พี่ทำไว้ให้ นี่น้ำกระ เจี๊ยบเย็นๆ จะได้สดชื่น”

“ขอบคุณค่ะ น่ากินมากเลย มัสกันก่อนนะคะ

มัสลินเอ่ยขอบคุณแล้วลงมือจัดการกับอาหารตรงหน้าอย่าง เอร็ดอร่อย ตั้งแต่เช้าเธอได้กินข้าวต้มไปชามเดียว หลังจากป้อน ข้าวป้อนยาให้คุณยายที่นอนป่วยอยู่ ก็ต้องมาช่วยเด็กอาห ทำความสะอาดบ้าน กว่างานจะเสร็จก็บ่ายคล้อย ไม่ทันจะได้กิน อะไรคุณป้าแพรก็ใช้ให้มาเก็บค่าเช่า โชคยังดีที่นางแววฝากเธอ ติดรถของพี่สาวออกมาด้วย หากปั่นจักรยานออกมาเหมือนทุก ครั้งคงลําบากกว่านี้

“พี่สงสารมัสเหลือเกิน ทำไมต้องทนให้เขาใช้งานราวกับทาส แบบนั้น มัสเรียนจบมีวุฒิปริญญาน่าจะหางานทำแล้วย้ายออก มาอยู่ข้างนอก”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ