ซุปเปอร์โกสต์ ด็อกเตอร์

ตอนที่ 10 ตามหายาเพียงลำพัง



ตอนที่ 10 ตามหายาเพียงลำพัง

ครั้นกินดอกของว่านสามใบส้มจนหมด เธอก็ทิ้งใบกับ ก้านไป ก่อนจะขุดต้นเหมยติดดินออกมาจากผืนดินอย่าง ระมัดระวัง ทว่าเธอที่นั่งยองอยู่บนพื้นกลับไม่รู้ ในพุ่มหญ้านั้น มีงูพิษตัวสีขาวสลับดำกำลังเลื้อยมาหา

ยามงูพิษเข้าใกล้เธอ มันก็ยกหัวขึ้นแล้วเปล่งภาษา ส่ง เสียงขู่ฟ่อเบาๆ ในชั่วพริบตานั้นมันกระโจนตัวออกไปทันที เขี้ยวงูที่แยกออกมุ่งกัดเข้าตรงน่องขาของเพิ่งจิ๋วที่นั่งอยู่

สีหน้าท่าทางของเพิ่งจิ๋วพลันเปลี่ยนไป แผ่รังสีอำมหิต ออกมาในพริบตานั้น ดวงตาทั้งสองดุดันขึ้นกว่าเดิมมาก เมื่อ หันตัวอย่างรวดเร็ว มือข้างหนึ่งก็จับจุดตายที่หลัง แล้วใช้นิ้ว ออกแรงกดเข้าเนื้อ มีเสียงพ่อตั้งขึ้นมา มือที่จับบริเวณหัวใจ จิกเข้าไปอย่างแข็งที่อ

“พ่อ” งูพิษส่งเสียงร้อง หลังจากตัวชักกระตุกสองสาม ครั้งก็อ่อนยวบลงไป

“อ้อ? ไม่นึกว่าจะเป็นงูปล้องเงิน?” เหมือนว่าความดุดัน ก่อนหน้านี้เป็นแค่ภาพลวงเพียงชั่ววูบ เธอในตอนนี้มีท่าทาง เรื่อยเปื่อย จ้องงูพิษในมือแล้วยิ้มขึ้นมา “ไม่มีทั้งกระต่ายป่าทั้ง หมูป่า งั้นก็เอางูตัวนี้มาย่างเต็มท้องแล้วกัน” แต่พอพูดไปรอยยิ้มบนใบหน้าก็แข็งที่อ

เพราะเธอพบกับปัญหาใหญ่มากข้อหนึ่ง…เธอไม่มีไฟ

ในป่าที่ชื้นแฉะนี้ จะก่อไฟขึ้นมาด้วยแรงเสียดสีนั้นไม่ใช่ เรื่องง่าย และเธอต้นไม่มีกระบอกจุดไฟ ถึงจะมีเนื้องูก็ไม่มีทาง เอามาย่างกินได้อยู่ดี

“ช่างมันเถอะ ช่างมันเถอะ ฉันจะพยายามอีกแล้วกัน อย่างน้อยก็ต้องหาที่แห้งๆ หน่อยถึงจะหาทางก่อไฟได้” เธอ พึมพำเสียงเบา จะทิ้งงูปล้องเงินในมือไปก็รู้สึกเสียดาย ดังนั้น จึงจัดการเท่าที่สะดวกจะทำได้

เธอตัดหัวงูไป ลอกหนังทิ้ง คว้านดึงออก แล้วค่อยน่งที่ มองรูปลักษณ์เดิมไม่ออกมาแขวนพันไว้บนกิ่งไม้ เธอเช็ดกลิ่น เลือดที่คลุ้งเต็มมือบนผืนหญ้า ก่อนจะเลือกสมุนไพรที่กลิ่นค่อน ข้างแรงมาตรงมือ พอกำจัดกลิ่นคาวบนนั้นได้ก็เดินต่อไปข้าง หน้า

ด้วยเหตุนี้ หากอยู่ในป่านี้ก็จะเห็นขอทานน้อยคนหนึ่งที่ สวมเสื้อผ้าโทรมๆ ร่างกายสกปรกเดินคนเดียวในป่าเก้า หมอบที่สุดแสนอันตราย บนไหล่แบกกิ่งไม้ไว้ และด้านหลัง ของกิ่งไม้จะมีงูที่ลอกหนังออกแล้วเสียบไว้แกว่งไปมาอยู่ตรง

เวลาตลอดทั้งวัน เธอตามหาสมุนไพรแก้พิษในป่านี้เพียง ลำพัง ค่อยๆ เดินจากรอบนอกเข้าไปด้านใน โดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว จนในที่สุดก่อนท้องฟ้าจะมืดลงเธอก็รวบรวมสมุนไพรแก้พิษที่ต้องการมาได้

เธออาศัยท้องฟ้าที่ยังพอมองเห็นหาไม้แห้งๆ มาใช้เริ่มขึ้น ตอนการจุดไฟแบบดั้งเดิมที่สุด แต่เพราะความชื้นของในป่า เธอจึงใช้เวลาเต็มๆ กว่าหนึ่งชั่วยามถึงจะจุดไฟขึ้นมาได้ มือทั้ง สองข้างเป็นแผลพุพองก็เพราะเหตุนี้ แต่ทั้งหมดนี้ ในที่สุดหลัง จากเธอได้กินเนื้อย่างแล้วก็คิดว่ามันช่างคุ้มค่า

สมุนไพรแก้พิษก็หามาแล้ว ยังได้เต็มท้องจนอิ่ม เพิ่งจิ๋ว ขยำพวกสมุนไพรที่เก็บมาเมื่อตอนบ่ายก่อนถูไว้บนร่าง ก่อนจะ ดับกองไฟ แล้วปีนขึ้นไปบนต้นไม้ใหญ่เพื่อหาที่สบายๆ สักที่ ไว้พักผ่อนดีๆ สักคืน

เพราะอยู่ในที่แบบนี้ตัวคนเดียว เธอจึงไม่สามารถจุดไฟ

ไว้เช่นปกติได้ ไม่อย่างนั้นพอตกกลางดึกจะกลายเป็นเป้าของ พวกสัตว์ร้าย ตอนนี้เธอไม่มีแรงต่อกรกับสัตว์ร้ายขนาดนั้น แล้ว ดังนั้นถึงแม้บนต้นไม้จะหนาวนิดหน่อยและไม่มีเปลวไฟ ให้ความอบอุ่น แต่ก็ปลอดภัยกว่าไม่ใช่หรือ?

เป็นจริงอย่างที่คาดไว้ พอกลางคืนยิ่งมืดลง ในป่าก็มี เสียงหมาป่าเห่าหอนดังมาแว่วๆ เสียงมันดังกึกก้องอยู่ใน ค่ำคืน ทำให้คนตื่นตกใจได้เป็นพิเศษ

ทว่าตอนนี้เพิ่งจิ๋วกลับนอนหลับตาได้สนิท และปล่อยให้ เสียงเห่าหอนนั้นกลายเป็นดั่งเสียงเพลงกล่อมเด็กท่ามกลาง คําคืนในป่าไป

จึงเป็นเรื่องปกติที่เธอจะไม่รู้ว่าบนต้นไม้ไม่ไกลมีเงาร่างสีที่มองเห็นการเคลื่อนไหวทั้งหมดของเธอในป่านี้อยู่


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ