ตอนที่ 8 ความหวังในการอยู่รอด
เมื่อคุณชอบใครสักคน บนตัวเขาจะมีกลิ่นพิเศษบางอย่างที่ไม่ สามารถอธิบายด้วยคําพูดได้
ซึ่งกลิ่นพิเศษที่วนเวียนอยู่รอบกายพิณนี้ ฟุ้งกระจายไปทั่วใจ เธอ ไม่ยอมจางไปสักที
ในคฤหาสน์ของธนาธร ที่เมืองเขตใต้
พิณกอดหมอนขดตัวอยู่บนโซฟาห้องรับแขก เอาหน้ามุด เข้าไปในหมอน ถามธนาธรข้างๆ ด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง “คุณรู้ ไหมว่าวันนี้ฉันเจอใคร”
“หืม?” ธนาธรยื่นน้ำมาให้แก้วหนึ่ง “กินน้ำก่อน
พิณเอาหัวตัวเองไปอยู่ใต้หมอนแล้วส่ายหัว “ไม่อยากกิน ธนาธรวางแก้วน้ำไว้บนโต๊ะ สะกิดเธอ “สรุปเจอใครมาหละ เหมือนโดนขโมยวิญญาณไปอย่างงั้นแหละ
“ปรเมษฐ” เสียงจ๋อยๆ ของพิณดังขึ้นจากใต้หมอน ธนาธรที่กำลังกินน้ำชะงักไป
สักพักพูดขึ้น “สุดท้ายก็เจอสินะ” ธนาธร ไม่ได้ตกใจมาก เขา วางแก้วในมือกลับไปบนโต๊ะ
“คุณรู้ว่าเขามาเมือง Aนานแล้วเหรอ” พิณเงยหน้าขึ้นมาถาม ธนาธร
“ยิ้ม วันที่เขามาพวกเราออกไปสังสรรค์กันนิดหน่อย อีกอย่าง ต่อให้พวกเราไม่ได้อยู่ในแผนกเดียวกัน แต่ก็ยังอยู่ในโรง พยาบาลเดียวกัน บางครั้งก็จะเจอกันในห้องผ่าตัดบ้าง” ธนาธร ตอบตามความจริง
“ไม่บอกฉันนี่กลัวฉันคิดมากหรอ?”
ธนาธรผายมือออก ตอบโดยปริยาย
พิณมุดหน้าตัวเองเข้าไปลึกมากขึ้น แลดูลนลานอย่างยิ่ง “ฉัน ไม่อยากให้เขารู้ว่ามีกันตะอยู่
“เธอกลัวแม่เขาจะรู้หรอ?”
“แม่เขาคงไม่ยอมปล่อยกันตะไปหรอก ไม่สิ นางโหดเหี้ยม ขนาดนี้ คงจะเอากันตะถึงตายแน่” แทบไม่กล้าคิดเลยว่าถ้า อัมพรรู้ว่ามีหลานคนนี้อยู่จะมีจุดจบแบบไหน
“เธอไม่ต้องห่วง เขาไม่รู้หรอก” ธนาธรตอบกลับอย่างแน่วแน่ พิณเงยหน้าขึ้นมามองเขา
“เขารู้ว่าเธอเคยแต่งงานแล้ว ต่อให้เขาเจอกันตะ ก็จะคิดว่า กันตะ เป็นลูกผม”
พิณชะงักไป ก็จริงที่เธอเคยแต่งงาน ซึ่งก็คือผู้ชายที่อยู่ข้างๆ คนนี้ ณ ตอนนี้นั่นเอง
แต่ พวกเขาก็หย่ากันแล้ว เพราะพวกเขาเป็นคู่สามารถภรรยา ชั่วคราวที่มีแต่เปลือกแค่นั้นเอง เหตุผลในการแต่งงานเป็นเพียงให้กันตะมีทะเบียนบ้านอย่างถูกต้องแค่นั้นเอง
“จริงๆ คิดกลับกันแล้ว การปรากฏตัวของเขาอาจจะนำพา ความหวังใหม่ให้กันตะนะ”
“คุณหมายความว่า…” พิณตั้งตัวขึ้นมา สายตาเปล่งประกราย
“ใช่ เขาเป็นพ่อแท้ๆ ของ เปอร์เซ็นต์การจับคู่ไขกระดูกของ เขามีความเป็นไปได้มากกว่าคนแปลกหน้าอื่นๆ ซึ่งนั่นคือความ หวังในการอยู่รอด”
พิณเผยแววตาแห่งความหวัง ตื่นเต้นจนลุกขึ้นจะไปเดี๋ยวนี้ “เดี๋ยวฉันไปหาเขาเดี๋ยวนี้เลย
ธนาธรรีบดึงตัวเธอไว้ “พิณอย่าเพิ่งรีบ ฟังผมพูดจบก่อน”
“อีกสองสามวัน โรงพยาบาลเราจะทำการตรวจรายปีทั้งหมด ถึงตอนนั้นแผนก โลหิตจะรับผิดชอบตรวจเลือดให้หมอทุกคน เดี๋ยวผมจะเอาตัวอย่างเลือดเขาออกมาเพื่อไปจับคู่กับ กันตะถ้า จับคู่ได้แล้วเธอค่อยไปหาเขาก็ไม่สายหน
“ใช่ๆๆ ดี งั้นจะดีมากเลย
พิณ ตื่นเต้นจนเรียบเรียงคำพูดไม่ถูก เขาจับมือธนาธรไว้ แสดงความขอบคุณ “ขอบคุณนะ ขอบคุณที่คุณช่วยฉันไว้ครั้ง แล้วครั้งเล่า”
เขาเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอ ซึ่งเป็นหมอที่ดูแลกันตะอีกด้วย ถ้าไม่ได้เขาคอยช่วยเหลือเขาสองแม่ลูก เผลอๆ พวกเขาคงรอดมาถึงตอนนี้ไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นโรคของ กันตะหรือว่าสภาพ จิตใจของเธอ
ธนาธรตบหลังมือเธอเบาๆ “คนกันเองไม่ต้องพูดเยอะ อีก อย่าง ผมแค่ทำในสิ่งที่เพื่อนคนหนึ่งควรทำแค่นั้นเอง”
หลังน้องสาวเข้าโรงบาล พิณก็ยิ่งยุ่งมากขึ้น
พอถึงช่วงปลายสัปดาห์ก็ไม่มีเวลาไปทำพาร์ทไทม์เป็นเซลล์ ขายของ วิ่งขึ้นๆ ลงๆ อยู่ในโรงบาลทั้งวัน ตอนเช้าอยู่กับน้อง ตอนบ่ายอยู่กับลูกชาย
“เจ้ยังไม่บอกหนูเลยว่าคุณหมอเมษฐเป็นไงบ้าง” เพ็ญ นอนกินส้มอยู่บนเตียงแล้วถามพิณญา
พิณมือที่กำลังปอกส้มอยู่ ชะงักไปครู่หนึ่ง
“อะไรเป็นยังไง” ท่าทางเธอค่อนข้างเย็นชา
“ก็เป็นน้องเขยเจ้หนะเป็นยังไง
พิณเงยหน้าขึ้นมามองน้องสาวที่ดูไร้เดียงสา “ไม่ค่อยเท่าไหร่ นะ”
“เจ้… เพ็ญณีทำปากขึ้นอย่างไม่พอใจ
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ