บทที่ 7 รักหรือว่าไม่รัก
เช้ารุ่งขึ้น ฮันอี้ตื่นขึ้นมาด้วยอาการปวดหัว
เมื่อลืมตาขึ้น สมองยังคงมีความมึนงงเล็กน้อยก่อน ยกมือขึ้นและมองไปที่นาฬิกาข้อมือ เป็นเวลาเก้าโมง เช้าแล้ว เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยเพราะไม่ได้ตื่นตามเวลาที่ เคยชิน
ผู้หญิงคนนั้นทำไมเกียจคร้านอย่างนี้?!
“เยนลี่ซู ทำไมถึงไม่ปลุกฉัน…?”
เมื่อลุกขึ้นนั่ง แล้วเห็นซุนลู่ซินผลักประตูเข้ามา สมอง ที่มึนงงของฮันอี้ก็ทำงานขึ้นทันที และนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้ ตัวเองอยู่ที่บ้านของซุนลู่ซิน ไม่ใช่บ้านของเขา
“พี่ฮัน….……”
ใบหน้าของซุนลู่ซินหมองลงเล็กน้อย และเก็บความ หึงหวงไว้ในใจ ก่อนส่งนมในมือของเธอให้: “ดื่มนมสัก แก้วก่อนไปทำงานเถอะคะ ฉันอุ่นให้พี่เป็นพิเศษเลย นะ….. ”
ฮันอี้ไม่เคยมีนิสัยชอบดื่มนม ปกติช่วงที่เพิ่งตื่นนอน ท้องของเขาไม่ค่อยดีนัก ดังนั้นที่ผ่านมาในช่วงเวลาที่ เขาแต่งงานกับเยนลี่ซู แม้ว่า เยนลี่ซู จะทำอาหารเช้าที่ หลากหลายสำหรับเขาทุกเช้า แต่มีเพียงอย่างเดียวที่ ไม่มีคือนม นานมาแล้วนะ ที่เขาชินกับแบบนั้น
ให้ตายเถอะ นึกถึงผู้หญิงคนนั้นได้อย่างไร?
ฮันอี้รับนมมาและถูเข้าที่ขมับ เขาไม่รู้ว่าเขาหงุดหงิด ใคร ก่อนจะดื่มนมหมดแก้วในรวดเดียว
หลังจากที่บอกลาซุนลู่ซินและหลินซูเจิน ฮันอี้ก็ออก มาจากบ้านพักต่างอากาศและขับรถไปทางตระกูลเยน แม้ว่าเขาจะมาสายเล็กน้อย แต่ในฐานะผู้อำนวยการ บริษัท มีหรือจะมีคนกล้าแสดงสีหน้าใส่เขา?
“ประธานฮัน อรุณสวัสดิ์”
หลิวหยู่หนิงที่คุยเล่นกับเลขานุการ เมื่อเห็น ฮันอี้ออก มาจากลิฟต์ ก็เดินเอ้อระเหยเข้าไปทักทาย: “เฮ้……ฉัน ไม่คิดเลยนะว่าประธานฮัน ที่ทำงานเนียบมาตลอด ก็มา สายเป็นเหมือนกัน”
หลิวหยู่หนิงทายาทมหาเศรษฐีซึ่งเป็นเพื่อนร่วมชั้นกับ ฮันอี้ตั้งแต่มัธยมต้นจนถึงมหาวิทยาลัยและยังเป็นทั้ง เพื่อนเป็นเพื่อนตายของฮันอี้
“ฉันมาสายในบริษัทของตัวเอง นายเกี่ยวอะไรด้วย”
ฮันอี้เหลือบไปเห็นเลขาส่วนตัวของเขา แล้วพูดขึ้น “ที่ หลังออกห่างจากเลขาของฉันหน่อย”
“ทำไมล่ะ?
“ฉันกลัวว่าเธอจะท้อง บริษัทของฉันไม่มีลาคลอดนะ”
หลิวหยู่หนิงรู้สึกขัดใจเมื่อถูกขัด แต่เมื่อเห็นฮั่นอี้ กำลังจะเปิดประตูห้องทำงาน เขาก็รีบจับไปที่ข้อมือนั้น ทันที
“ไหนๆก็ไหนๆแล้ว………สายสักหน่อยจะเป็นไร ไป?”
ฮันอี้ก้มมองข้อมือที่ถูกจับแน่นของเขา และพูดด้วย เสียงเย็นชา: “หลิวหยู่หนิง นายจะยังไม่จบใช่ไหม?”
บรรยากาศรอบๆดูเหมือนจะไม่ค่อยดีนัก หลิวหยู่หนิง ไม่มีทางเลือกนอกจากกระซิบบอกว่า “เยนลี่ซูอยู่ที่นี่ เธอนั่งอยู่ในห้องทำงานของนาย”
ผู้หญิงคนนั้นอยู่ที่นี่?
ฮันอี้ชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ไม่นานก็กลับยิ้มขึ้นเย้ยหยัน ดูเหมือนว่าเธอจะมีปัญหาที่บ้านไม่พอ ถึงได้วิ่งมาสร้าง ปัญหาถึงบริษัท!
เมื่อคิดได้อย่างนั้น ฮันอี้ก็ปัดมือของหลิวหยู่หนิงออก และผลักเปิดประตูห้องทำงานของตัวเอง
ในห้องทำงานที่สว่างไสว เยนลี่ซูนั่งอยู่คนเดียว บนเก้าอี้ตรงข้ามโต๊ะทำงาน เธอที่เคยทำตัวราวกับ เจ้าหญิง ตอนนี้เหลือแต่ความสงบเสงี่ยมและความ สงบเสงี่ยมนี้ กลับทำให้ผู้คนรู้สึกสงสาร
สงสาร?
ทันทีที่นึกถึงคำนั้น ฮันอี้ก็รีบสะบัดมันออกไป ผู้หญิงที่ เลือดเย็นอย่าง เยนลี่ซู มีอะไรให้น่าสงสารกัน?
เขาเยาะเย้ยขึ้น ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ของโต๊ะทำงาน และหยิบเอกสารที่ซ้อนกันขึ้นมาที่โต๊ะ ก้มหัวลงเปิดดู เอกสารอย่างตั้งใจราวกับว่าเยนลี่ซูไม่มีตัวตนอยู่ในนั้น เลย
เยนลี่ซูที่มารอตั้งแต่เจ็ดโมงครึ่ง ในตอนเช้าจนถึง ตอนนี้ มองไปที่ชายที่นั่งทำงานอยู่อีกด้านหนึ่งของโต๊ะ ความเศร้าในดวงตาของเธอก็หายไป
เธอควรจะรู้ได้ตั้งนานแล้วว่าเขาจะมีท่าทางแบบนี้ ไม่ใช่เหรอ?
เธอสูดลมหายใจเข้าให้ตัวเองสงบลง ก่อนหยิบ เอกสารออกมาจากกระเป๋าของเธอและลุกขึ้นไปวางไว้ ตรงหน้าฮันอี้
ข้อตกลงการหย่า
เมื่อเขาเห็นคำทั้งห้าบนเอกสารนั้น “ตึง!” เสียงฮันอี้ โยนปากกาในมือแล้วเงยหน้าหัวเราะเยาะขึ้น
“เยนลี่ซู เธอจะมาไม้ไหนอีก?”
เยนลี่ซูอยากจะมองเขาให้นานกว่านี้ แต่เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมองเธอ เธอก็ก้มหน้าลงจ้องแก้วกาแฟที่อยู่ตรง หน้าโดยไม่รู้ตัว
เธอกลัวว่าเธอจะร้องไห้ออกมาด้วยความสิ้นหวัง
ความเจ็บปวดที่สะสมอยู่ในอก ทำให้เธออยากจะ อาเจียนออกมา เธอต้องกลั้นกลืนอยู่หลายครั้ง ก่อนที่ จะพูดขึ้นเบาๆ “คุณจะอ่านให้หมดก่อนแล้วค่อยเซ็นชื่อ ก็ได้นะ”
ฮันอี้มองย้อนกลับไปอย่างดูถูกเหยียดหยาม และอ่าน ข้อตกลงการหย่าที่อยู่ตรงหน้า จากนั้นการดูถูกเหยียด หยามในสายตาเขาค่อยๆ หยุดชะงักหายไป
บนใบนี้ระบุอย่างชัดเจนว่า ตราบใดที่ฮันอี้เซ็นชื่อหย่า ร้าง หุ้นทั้งหมดของตระกูลเยน รวมถึงทรัพย์สินส่วนตัว และอสังหาริมทรัพย์ของตระกูลเยนนั้นเป็นของฮันอี้
นั้นหมายความว่า เยนลี่ซูจะออกไปแต่ตัว เงินสักบาท ก็ไม่สามารถเอาไปได้!!
“ฮันอี้ ฉันเหนื่อยแล้ว เหนื่อยแล้วจริงๆ..….………
เมื่อชันอี้เห็นว่าลายเซ็นของ เยน ได้เซ็นตรงผู้โอน เรียบร้อยแล้ว เสียงของ เยนลี่ซู ก็ไหลเข้ามาในหูของ เขาเหมือนลำธารที่กำลังจะแห้งอย่างไรอย่างนั้น
“ฉันรู้ว่าคุณไม่ชอบฉัน และฉันก็รู้ว่าคุณเกลียดฉัน ฉันไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับคุณอีกต่อไปแล้ว ปล่อยตัวคุณก็เหมือนว่าได้ปล่อยตัวเอง……. เซ็นชื่อเถอะนะ”
ฮันอี้ค่อยๆเงยหน้าขึ้นอย่างช้าๆ ในอดีตที่เคยเหยียด หยามดูถูกเหล่านั้น……..อยู่ๆก็หายไปหมด
เขาเห็นว่า เยนลี่ซูจงใจใส่เสื้อคอเต่าวันนี้ เพราะเธอ ต้องการปกปิดรอยแผลของเมื่อวาน แต่ใบหน้าของเธอ ที่ดูซีดเซียวไร้เลือดนั้นทำไมถึงได้ดูแย่อย่างนั้น….….……
แม้ว่าเธอจะนั่งอยู่หน้าเขา แต่เขากลับดูเหมือนเป็น ภาพลวงตา ราวกับว่าเธอจะระเหยหายไปจนไม่อาจพบ เจอได้อีก
“เยนลี่ซู เธอ……”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ