บทที่ 6 ท้ายที่สุดแล้วเธอยังมีใจอยู่ไหม
“ซ่งหมิงเยี่ย ทุกๆครั้งที่ถึงเวลาแบบนี้ฉันสงสัยมา โดยตลอดว่าคุณยังมีใจอยู่ไหม”เสิ่นฉ่ายเวยเอ่ยถาม แผ่วเบา
ข่ายเจ่เห็นสถานการณ์แบบนี้จึงเอ่ยชักชวน “เวยเวย ไม่ต้องฟังเขา เธอต้องพักอยู่ที่นี่ ฉันเป็นหมอ ก็ถือว่า ฉันรักษาอาการป่วยของเสิ่นฉ่ายหมุยไม่ได้ แต่ฉัน สามารถหาคนมาช่วยรักษาได้”
พูดจบเขาก็ลุกขึ้นยืน ไม่ได้เกรงกลัวต่อสายตาที่มอง มาของซ่งหมิงเยี่ยเลยแม้แต่น้อย ชี้ไปยังประวัติคนไข้ ที่วางอยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียงแล้วพูด “นายดูดีๆ ถ้า ไม่ใช่เป็นเพราะว่าพวกเราสนิทสนมกันมานานหลายปี ขนาดนั้น ฉันก็อยากจะต่อยนายจริงๆ”ชายหนุ่มคลาย มือที่บีบเสิ่นฉ่ายเวยไปแล้ว เขาหันไปสบาดมือแล้ว บอดี้การ์ดหลายคนที่รีบเข้ามาจากด้านนอก ดูท่าทาง น่าเกรงขาม ทำให้คนหวาดเกรง
“พาเขาออกไป”ซ่งหมิงเยี่ยสั่ง
ข่ายเจ๋คิดไม่ถึงว่าที่เขาจะทำเช่นนี้ เพียงครู่เดียว ก็รู้สึกโมโหจนต้องเอ่ยสกัดกั้นเอาไว้”ซ่งหมิงเยี่ยสรุป แล้วนายมันเกิดอะไรขึ้น? ตอนแรกที่เวยเวยแต่งงาน กับนายก็ไม่ได้เป็นแบบนี้นี่ นายดูสิเธอตอนนี้ถูกนาย ทรมานจนกลายเป็นแบบนี้! ถ้านายไม่ชอบเธอแล้วก็ ปล่อยเธอไปซะสิ!”
“ฉันจะทำอะไรกับเธอแล้วนายเกี่ยวอะไร ด้วย?”ซ่งหมิงเยี่ยหรี่ตาลง พูดต่อด้วยน้ำเสียงที่เต็มไป ด้วยความอันตราย “เธอคือภรรยาของฉัน เป็นสิ่งของ ของฉัน”
ใช่แล้ว เธอเพียงสิ่งของของเขา
เสิ่นฉ่ายเวยที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยได้ยินเขาพูดเช่น นี้ มุมปากก็อดไม่ได้ที่จะคว่ำลง ลำคอคล้ายกับมีของมี ก้อนสะอื้นมาจุกอยู่จนพูดไม่ออก
ตั้งแต่ต้นจนจบซ่งหมิงเยี่ยไม่เคยเห็นเธอเป็นคนที่ มีเนื้อมีเลือด เธอเป็นนกขมิ้น ตนเองกลับเอาตนเอง ไปผูกมัดไว้กับฐานะคุณผู้หญิงซ่งในกรงขัง ทุกๆวันที่ ร้องจนคอเสียหาย ก็ยังไม่ได้รับการเหลียวมองจาก เจ้าของกรงอยู่ดี
ไม่ว่าข่ายเจ๋จะต่อสู้ดิ้นรนยังไง ก็ไม่มีทางต่อต้านกลุ่ม บอดี้การ์ดผู้กล้าหาญไปได้
สักพักหนึ่งภายในห้องพักผู้ป่วยก็เหลือเพียงแค่พวก เขาสองคน ทันใดนั้นบรรยากาศในห้องก็เงียบลง
“ฉันจะไม่กลับกับคุณ”เสิ่นฉ่ายเวยก้มมองไปที่ ปลอกผ้านวมสีขาว “คุณให้ฉันดูแลเสิ่นฉ่ายหมุย คงไม่ กลัวแล้วว่าฉันจะทำร้ายเธอ?”
“เธอกล้า?”
คำง่ายๆเพียงสองคำก็ทำให้จมูกของเธอเริ่มแสบขึ้น มา
ซ่งหมิงเยี่ยพูดขึ้นเบาๆ”ฉ่ายหมุยกลับมาครั้งนี้เป็น เพราะเธอตั้งครรภ์ คือลูกของฉัน”
หญิงสาวรู้สึกงงงันจนต้องเงยหน้าขึ้นมา ปากอ้าค้าง ด้วยความตะลึงจนไม่มีท่าทีว่าจะปิดเข้าหากัน
“หมอบอกว่าสภาพของครรภ์ยังไม่ค่อยมั่นคง ต้องมี คนคอยดูแล ฉ่ายหมุยยังไว้ใจเธอ ไม่อย่างนั้นเธอคิดว่า ฉันจะยอมให้ผู้หญิงโหดร้ายอย่างเธอมาดูแลเขาหรอ? อย่าเพ้อฝันไปหน่อยเลย ฉันจะเตือนเธอไว้ก่อนนะ ฉัน ส่งคน…..”
ประโยคหลังที่เขาพูด เสิ่นฉ่ายเวยก็ไม่ได้ยินแล้ว ทั้งสมองของเธอเหลือไว้เพียงแค่คำคำนั้น~~~เสิ่นฉ่า ยหมุยมีลูกของเขาแล้ว บนใบหน้าของเธอนั้นทั้ง ร้องไห้ทั้งหัวเราะในเวลาเดียวกัน ราวกับเป็นคนบ้าเสีย สติ พวกเขาทั้งสองทำแบบนี้กับเธอได้อย่างไร?! ความ เจ็บปวดของเธอแทบทำให้เธอหายใจไม่ได้ ในคอทำได้ เพียงแค่ส่งเสียงกระซิกสะอื้นออกมา หัวสมองเต็มไป ด้วยความสับสน
“คุณทำเรื่องบ้าบออย่างนี้ให้ใครดูกัน?”ซ่งหมิงเยี่ย พบว่าเธอต่างออกไปจากเดิม ขมวดคิ้วพูดใส่เธอ
ในที่สุดน้ำตาของเสิ่นฉ่ายเวยก็ไหลรินออกมา เธอ เอ่ยถามด้วยเสียงสะอึกสะอื้น “ซ่งหมิงเยี่ย ทำไมคุณถึงทรยศฉัน? ทำไมถึงให้เสิ่นฉ่ายหมุยท้องลูกของคุณ? ฉันเป็นภรรยาของคุณนะรู้หรือเปล่า!”
“เธอมันไม่คู่ควร!”ซ่งหมิงเยี่ยตะโกนออกมาด้วย ความเดือดดาล เส้นเลือดบนขมับเต้นโป่งขึ้น “ตอนที่ปู่ ของฉันจากไป เธอทำอะไรเอาไว้เธอก็รู้ดีอยู่แก่ใจ!”
พ่อแม่ของเขาจากไปตั้งแต่ก่อนแล้ว มีเพียงคุณปู่ซ่ง เลี้ยงเขามาจนโตด้วยตัวเอง หลังจากที่คุณท่านซ่ง จากไปก็ได้ทิ้งจดหมายฝากฝังเอาไว้ ด้านในเขียนไว้ว่า ถ้าหากว่าซ่งหมิงเยี่ยอยากได้คุณสมบัติของตระกูลซ่ง ก็ต้องแต่งงานกับเสิ่นฉ่ายเวย
ในตอนนั้นเขายังตกอยู่ในภวังค์ของความเจ็บปวดนั้น จึงไม่ได้คิดให้รอบคอบ หลังจากแต่งงานผู้หญิงคนนี้ แล้ว จึงได้รู้ความจริงจากเสิ่นฉ่ายหมุย
เสิ่นฉ่ายหมุยเป็นผู้ก่อกวนทั้งสิ้น!
เป็นเธอที่บังคับให้คุรปู่เขียนจดหมายฉบับนั้นลงไป!
พอนึกถึงตนเองที่ใกล้จะเดินทางก็ยังไว้วางใจฝาก คุณปู่ให้เธอดูแล ซ่งหมิงเยี่ยก็ตบตนเองของสองที่แล้ว
นี่คือผู้หญิงที่เขาเคยไว้วางใจมาก่อน!
เนฉ่ายเวยบนเตียงผู้ป่วยไม่เข้าใจว่าทําไมเขาถึง กล่าวถึงเรื่องของคุณท่าน ง แล้วถามขึ้น “คุณปู่
เสียงโหวกเหวกของผู้หญิงดังขึ้น “หมิงเยี่ย คุณยังอยู่ ทีนี่หรอ?”
คนที่ยืนอยู่ปากประตูนั่นไม่ใช่เสิ่นฉ่ายหมุยหรอ?
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ