คุณภรรบยา อย่าดื้อรั้นสิ

บทที่9 เพื่อนสนิทตะลึงงัน



บทที่9 เพื่อนสนิทตะลึงงัน

วันจันทร์ตอนที่หลินหยูเยียนเข้าออฟฟิศไปทำงานนั้น ก็ได้รับ ข่าวว่าสถานที่ทำงานได้ถูกบริษัทเหลิ่งชอบช่วงซื้อไปแล้ว

วันนี้จะต้องย้ายไปรายงานตัวที่สำนักงานใหญ่

ในสถานที่ทำงานของเธอนั้นมีทั้งหมดสี่คน นอกจากเถ้าแก่

แล้ว พวกเธอก็ต้องถูกย้ายไปด้วย ยกเว้นใบหน้าที่รู้สึกมึนงงของหลินหยู่เขียน นักออกแบบสาว

อีกสามคนก็รู้สึกจะพากันตื่นเต้นจนตัวจะลอยขึ้นฟ้าไปอยู่แล้ว

“พระเจ้า! ตั้งแต่เด็กจนโต มีเพียงเรื่องเดียวที่ฉันเลือกถูก! นั่น ก็คือเลือกเข้ามาทำงานที่สตูดิโอของเราเนี่ยแหล่ะ ตอนนี้ถูก บริษัทเหลิ่งชื่อรับช่วงซื้อต่อไปแล้ว ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าได้ แต่งงานกับเศรษฐีผู้สูงส่งและกำลังจะได้เดินไปถึงจุดที่สูงสุดของ ชีวิตเลย!” นักออกแบบตู้เสี่ยวเหม่ยเก็บของไปพลางเพ้อฝันไป

หลินหยู่เยียนไม่ได้เอ่ยพูดอะไรออกมา เก็บของอย่างเงียบๆ เธอกลับไม่ได้มองแบบนั้น

มีคำพูดที่ว่า ยอมที่จะเลือกเป็นหัวไก่ ดีกว่าหางหงส์ ไปยัง บริษัทเหล่งซื้อครั้งนี้ เธอภาวนาขอให้อย่าได้รับผิดชอบเพียงแค่ เด็กที่คอยถ่ายเอกสารเลย

ถึงช่วงเวลากลางวัน หลังจากที่ทั้งสี่คนทานข้าวกล่องกันที่ ออฟฟิศเสร็จเรียบร้อยแล้วนั้น เถ้าแก่คนเดิมก็มาที่บริษัทใบหน้านั้นเหมือนกับกำลังดีใจที่ได้เงินก้อนใหญ่มาอย่างไร อย่างนั้น

“สาวๆ ครั้งนี้บริษัทเหลิ่งชื่อรับช่วงซื้อสตูดิโอของพวกเราไป นับว่าเป็นเรื่องดีมากๆ สำหรับพวกเราทุกคนเลยนะ! พวกเรามี โชคชะตาที่ได้มาเป็นเพื่อนร่วมงานกัน เดือนหน้าผมก็จะย้ายไป อยู่ออสเตรเลียแล้ว คืนนี้ผมเลี้ยงเอง ขอให้ทุกคนไปที่ตงกงที่หรู ที่สุด คืนนี้สองทุ่มตรง ทุกคนต้องไปให้ได้นะ!”

เห็นจางปืนเถ้าแก่ของพวกเธอมีความเกรงใจขนาดนี้ ทุกคน ต่างก็พากันตกลง

จางปืนขับรถให้พวกเธอเอง พาพวกเธอไปส่งถึงที่บริษัทเหลิ่งอ

มองดูตึกสูงตั้งตระหง่านเฉียดฟ้า เซียดานดานคนที่มีความ สัมพันธ์นับว่าไม่เลวกับหลินหยู่เยียนนั้นร้องออกมา : “ต่อไปที่นี่ ก็คือสนามรบที่ใหม่ของพวกเราแล้วนะ!”

รอจนพวกเธอทั้งสี่คนถือกล่องกระดาษเดินเข้าไปยังด้านใน ตึกแล้วนั้น จางปืนก็รั้งหลินหยู่เยียนเอาไว้เพื่อคุยกับเธอเป็นการ ส่วนตัว : “หญ่เยียน ตอนแรกคุณเซ็นสัญญากับผมเป็นระยะเวลา ห้าปี ยังเหลืออีกสามปีถึงจะครบสัญญา อย่าลาออกนะ! ไม่อย่าง นั้นเงินค่าชดเชยในการยกเลิกสัญญาคุณจะชดใช้ไม่ไหวแน่……

หลินหยู่เยียนมองดูเถ้าแก่คนเดิมที่ขับรถออกไปไกล รู้สึกไม่ เข้าใจอยู่เล็กน้อย ว่าทำไมเถ้าแก่ถึงได้เตือนเธอคนเดียวเช่นนี้ เธอส่ายหน้า และไม่ได้คิดอะไรอีก เซียดานดานที่อยู่ทางด้านหน้าเรียกเธอ : “หมู่เขียน เร็วเข้า ทุกคนรอเธออยู่นะ!”

หลินหยู่เยียน ใส่รองเท้าส้นสูงวิ่งตามไป

ทั้งสี่คนเข้าไปในลิฟต์ของพนักงาน ตอนนี้ยังเหลือเวลาอีก ประมาณสองชั่วโมงถึงจะเป็นเวลาเลิกงาน พวกเธอจะต้อง รายงานตัวก่อนเลิกงาน

ถึงฝ่ายบุคคลแล้วนั้น ขั้นตอนในการเข้าเริ่มงานได้ถูกจัดการ

ไปอย่างราบรื่น

ทั้งสี่คนได้ถูกจัดให้อยู่ในฝ่ายออกแบบของบริษัทเหล่งซื้อ

จากช่วงก่อนหน้านี้ที่เป็นนักออกแบบตัวหลักของสตูดิโอ ตอน นี้พวกเธอได้ถูกให้จัดเป็นผู้ช่วยนักออกแบบเพียงเท่านั้น

ฝ่ายออกแบบนั้นมีนักออกแบบทั้งหมดสิบคน มีสามคนในนั้น ที่เป็นหัวหน้าดีไซเนอร์

เสี่ยวเหม่ย เซียดานดานและไปเสวกลายเป็นผู้ช่วยของ หัวหน้านักออกแบบทั้งสามคนนั้น แต่มีหลินหยเยียนเพียงคน เดียวเท่านั้นที่ถูกจัดให้ไปอยู่ในทีมธุรการ นั่นก็คือทีมที่คอยทำ เรื่องจิปาถะของฝ่ายออกแบบนั่นเอง

ทีมธุรการนี้จะคอยชงกาแฟให้นักออกแบบทุกคน สั่งอาหาร คอยรับ-ส่งพัสดุ มีงานก็จะต้องคอยแก้ไขแบบ รวบรวมข้อมูล และเรื่องจิปาถะอื่นๆ อีกด้วย

หลินหยู่เยียนวางของลงบนโต๊ะตัวเองอย่างอารมณ์ไม่ดีจนถึง ขีดสุด เธอเองก็รู้ ว่าการได้เข้ามาในบริษัทที่มีการลงทุนมากที่สุดในเอเชียนี้ได้จะมีประโยชน์อะไรกัน!

ตอนนี้ก็ได้กลายมาเป็นคนที่อยู่รอบนอกแล้ว ไม่เพียงแต่เงิน เดือนไม่เพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่กลับยังลดลงกว่าเมื่อก่อนอีกแปดร้อย ด้วย!

เธอรอเวลาเลิกงานด้วยความอึดอัด

ไม่ใช่เรื่องง่ายกว่าจะรอจนถึงเวลาเลิกงานแบบนี้ เล่อโยวโยว เพื่อนสนิทของเธอโทรเข้ามา : “หมู่เขียน ฉันอยู่ใต้ตึกบริษัทใหม่ ของเธอนะ คืนนี้เราไปฉลองกัน ยินดีกับที่เธอได้เปลี่ยนสามี แล้ว ก็ได้เปลี่ยนงานใหม่ด้วย! เรื่องดีๆ ทั้งสองอย่างเลย!

เวลานี้ได้มาเผชิญหน้ากับสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย พอได้ ยินเสียงของเพื่อนสนิทก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาจริงๆ

“รอฉันก่อนนะ จะลงไปเดี๋ยวนี้แหละ!

หลินหยู่เยียนคว้ากระเป๋าแล้วเดินไปที่ลิฟต์ เซียดานดานที่อยู่ ทางด้านหลังตะโกนขึ้นมา “หนูเยียน อย่าลืมนะคืนนี้สองทุ่ม เจอกันที่ตงกง!”

“รู้แล้วล่ะ!”

ออกมาจากบริษัทเหลิ่งชื่อแล้ว หลินหยู่เยียนก็ขึ้นรถสปอร์ต พอร์เซอคันสีแดงของเล่อโยวโยวไป

ฉากนี้ มีนักออกแบบคนหนึ่ง ในฝ่ายออกแบบเห็น จึงถ่ายรูปในตอนนั้นเอาไว้
บนรถ เล่อโยวโยวเอ่ยถามชื้น : “บอกมาตรงๆ เมื่อคืนนี้ที่เธอ ทิ้งฉันเธอไปเจอใครมา? เมื่อคืนนี้ฉันถามอะไรเธอเธอก็ไม่ยอม พูดอะไรออกมาเลย! เธอยังเห็นฉันเป็นเพื่อนสนิทอยู่รึเปล่าเนี่ย!

เมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับคำถามของเพื่อนสนิทตัวเองอีกครั้ง หลินหยู่เยียนจึงถอนหายใจออกมา รู้ว่าถึงอย่างไรก็คงจะอ้อม ค้อมต่ไปไม่ได้แล้ว จึงเอ่ยพูดขึ้นอย่างตรงไปตรงมา : “โยวโยว เธอต้องสัญญานะว่าถ้าฉันบอกเธอไปแล้ว เธอจะไม่หัวเราะเยาะ ฉัน! แล้วก็ไม่ต้องวิพากษ์วิจารณ์อะไรฉันด้วย……

เล่อโยวโยวมือหนึ่งขับรถ และอีกมือหนึ่งก็กำลังสูบบุหรี่อยู่ พลางหันมาเหลือบมองเธอ เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ดูประหลาดใจ : “โย่ว เห็นหน้าเธอจริงจังแบบนี้หรอกนะ โอเค ฉันสัญญาว่าจะไม่ หัวเราะเธอ แล้วก็สัญญาด้วยว่าจะไม่วิจารณ์เธอ โอเคไหม?”

สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้ว หลินหยู่เยียนจึงพูดความจริงออกมา : “วันนั้นที่ฉันรู้ว่าเซียวหรานออกนอกลู่นอกทาง ตอนนั้นความ รู้สึกฉันแย่มาก….ก็เลยไปที่Insanity Nightclub

“เชรด!” เล่อโยวโยวตะลึงงันไปเล็กน้อย แล้วชิงพูดขึ้นมา “เธออย่าบอกฉันนะว่าเธอไปหาผู้ชายเพื่อมาระบายอารมณ์ของ เธอนะ!”

“โยวโยว เธอสัญญาแล้วนะว่าจะไม่มาวิจารณ์ฉัน”

เล่อโยวโยวโยนก้นบุหรี่ออกไปทางนอกหน้าต่าง แล้วรีบ ยกมือขึ้นมา : “ขอโทษๆ ฉันผิดไปแล้ว! ฉันสัญญาว่าจะไม่พูด เหลวไหลอีกแล้ว เธอพูดต่อเลย…..
เรื่องของมุมมองที่ทำให้เธอตกตะลึงได้นั้น เล่อยวโยวยอมที่ จะเอาเงินแสนออกมาเพื่อฟังเรื่องนี้เลย

หลินหยู่เยียนหันหน้าออกไปทางนอกหน้าต่าง ในหัวนั้น ปรากฏใบหน้าสมบูรณ์แบบของชายหนุ่มขึ้นมา เธอเอ่ยขึ้น “ฉันเอาเงินปันผลของบริษัทเชียวหรานไปให้โฮสต์ผู้ชายคนนั้น ห้าล้าน”

เล่อโยวโยวเหยียบเบรกจอดลงตรงข้างทางในทันที รีบยื่นมือ ออกมาสัมผัสหน้าผากของหลินหยู่เขียน : “หลินหยู่เยียน! เธอไม่ เป็นอะไรจริงๆ ใช่ไหม? เธอบ้าหรือเปล่า? ไม่คิดว่าเธอจะใช้เงิน ห้าล้านไปกับโฮสต์ผู้ชายแบบนี้? เธอใช้จ่ายเงินไปแบบนี้ จะ ทำให้ตลาดแบบนี้วุ่นวายนะ ต่อไปพวกฉันที่อยากจะไปบ้างจะ จ่ายกันได้ยังไงล่ะ?”

หลินหยู่เยียนถูกหยอกล้อกึ่งเล่นกึ่งจริง : “โยวโยว ไม่ใช่ว่า เธอเคยไปหามาแล้วหรอกหรือ?”

“ใครบอกเธอว่าฉันเคยไปหามาแล้ว! เธอคิดว่าวันที่ผู้ชาย สารเลวอย่างเหอเย่างออกนอกลู่นอกทางในวันนั้น ฉันจะไปหา ผู้ชายคนอื่นจริงๆ หรือ? เปล่าเลย! ตอนนั้นที่ลูกพี่ลูกน้องของเธอ ป่วยเป็นไส้ติ่งอักเสบ เธอไปโรงพยาบาล ฉันก็เลยเรียกรถกลับ บ้าน” เล่อโยวโยวอธิบายด้วยท่าทางปกติ

หลินหยู่เยียนหน้าแดงขึ้นมา เดิมที่คิดว่าจะเป็นแบบเดียวกัน กับเธอ แต่จู่ๆ กลับมาพบว่าคนที่ออกนอกลู่ไปนั้นมีเพียงเธอคน เดียวเสียอย่างนั้น จึงรู้สึกเสียใจขึ้นมาทันที
แต่ที่ทำให้เธอรู้สึกเสียใจในภายหลังจริงๆ นั้นเป็นเพราะเธอ ถูกเขาซื้อไม่เลิกต่างหาก

“อา ทำไมเธอไม่บอกเร็วกว่านี้ล่ะ ถ้าหากฉันรู้ก่อนว่าเธอไม่ได้ ไปหาผู้ชาย บางทีตอนนั้นฉันก็จะไม่วามไปแบบนี้ก็ได้..….….…..

เห็นหลินหยู่เยียนมีอาการเสียใจแบบนี้แล้ว เล่อโยวโยวจึงรีบ ปลดเข็มขัดนิรภัยออก สองมือดึงเธอมา “อย่าเสียใจไปเลยนะ ไปหามาแล้วก็คือหามาแล้ว ผู้ชายในInsanity Nightclubก็ยัง พอเข้าท่าอยู่นะ เธอเองก็ไม่เสียเปรียบหรอก ห้าล้านนี้พวกเราคง ไม่ได้ใช้มากเกินไปหรอกมั้ง?”

หลินหยู่เขียนถอนหายใจออกมา : “โยวโยว ฉันรู้ว่าเงินห้า ล้านเป็นเงินก้อนใหญ่ เงินนี้เป็นเงินปันผลที่เซียวหรานให้ฉัน ในตอนนั้น แต่ในใจของฉันรู้สึกมาตลอดว่านั่นเป็นเงินของเขา ฉันไม่อยากเสียเปรียบเขา! ถ้าหากเอาเงินคืนเขาไป ไม่แน่ว่าเขา ก็คงเอาให้ลู่เสี่ยวเถา! ตอนนั้นฉันก็คิดว่า ถึงแม้ว่าฉันจะเอาเงิน ไปให้คนขอทานก็คงจะไม่เป็นการเสียเปรียบลู่เสียวเถาเหมือน กัน!”

เมื่อเอ่ยพูดถึงเซียวยี่หราน ขอบตาของหลินหยู่เขียนก็ยังคง แดงรื้นขึ้นมาอีก เล่อโยวโยวตบไหล่เธอเบาๆ : “เอาล่ะ เราไม่ ต้องไปเสียใจให้กับพวกผู้ชายสารเลวคนนี้เลย เดี๋ยวฉันพาเธอ ไปกินของอร่อยดีกว่า หลังจากนั้นพวกเราก็ไปช้อปปิ้งในห้างกัน วางใจได้ เดี๋ยวฉันเลี้ยงเอง!”

“โยวโยว คืนนี้คงไม่ได้หรอก เถ้าแก่คนเก่าของพวกเรานัดให้พวกฉันไปที่ตงกงนะ จริงๆ แล้วก็คืองานเลี้ยงส่งนั่นแหล่ะ” เล่อโยวโยวยิ้มพลางเอ่ยขึ้นมาในทันที : “ฉันไปด้วยได้ไหม?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ