คันรัญจวน

บทที่6



บทที่6

นีราไปถึงออฟฟิศด้วยอาการกระหืดกระหอบเพราะรีบมาให้ ทันเวลางาน แต่สุดท้ายหล่อนก็ยังสายไปถึงห้านาที หญิงสาวนัก ไปถึงสาเหตุที่ทำให้ตื่นสาย

ก็เพราะฝันนั่นแหละ!

นีราฝันถึงเรื่องเดียวกันมาสี่ห้าคืนติดกันแล้ว มันเป็นฝันที่ ทําให้เลือดในกายหล่อนแล่นพล่าน กระสันซ่านไปทุกอณู ความ รู้สึกรัญจวนยังค้างอยู่ในอารมณ์

และคนที่เธอฝันถึงทุกค่ำคืน ก็คือ อนันตยศ

หญิงสาวไม่เข้าใจตัวเองว่ากลายเป็นคนแบบนี้ไปได้อย่างไร หรือว่าเพราะคลิปนั่น… แต่เราก็ดูแค่ครั้งเดียว แล้วไม่เคยดูอีก เลย

ครั้งเดียวนั้นก็ติดตาเสียจนทุกครั้งที่นึกถึงเขา

ภาพบั้นท้ายสอบที่ขยับเข้าหาร่างเปลือยเปล่าอย่างกระแทก กระทั้นก็ปรากฏทุกที แล้วนี่ราก็จะรู้สึกหวิวๆ เหมือนมีผีเสื้อเป็น ร้อยเป็นพันกระพือปีกอยู่ในช่องท้อง

เมื่อก่อนหล่อนจะมีอาการอย่างนี้ก็ต่อเมื่อได้ยินเสียงคู่รักข้าง ห้องบรรเลงบทรัก ในยามค่ำคืน แต่เดี๋ยวนี้ถึงไม่ได้ยินเสียง ครวญครางของคู่นั้น หล่อนก็เกิดอารมณ์ร่านสวาท เพราะ…
ฝันพิศวาสระหว่างหล่อนกับอนันตยศ

ในฝันเขาปรนเปรอมอบความสุขให้ แต่ความสุขของเขาไม่ เคยมาหล่อนไปถึงปลายทาง ด้วยมักจะมีเหตุโน่นนี่เสมอ…ถ้า หล่อนไม่สะดุ้งตื่นมาเสียก่อน นาฬิกาปลุกก็มักจะดังขัดความสุข ทุกครั้ง

ในฝันหล่อนเสียวซ่านไปทั้งเนื้อทั้งตัวยามที่ลิ้นของเขาพลิก พลิ้วไปทั่วทุกอณูของร่างกาย โดยเฉพาะเมื่อเขาและเล็มขบเม้ม เกสรตูมเต่งกลางกลีบดอกไม้ หล่อนหายใจสะท้อนสะท้านไป ตามจังหวะอันชำนาญของเขา แต่พลันที่ลืมตาตื่น…อารมณ์ กระเจิดกระเจิงของหล่อนก็ค้างเติ่ง ไปไม่ถึงสวรรค์ที่เห็นอยู่รำไร มีรายอมรับว่าหลายวันมานี้หล่อนหงุดหงิดงุ่นง่าน เมื่อเช้าหล่อน จึงต้องจัดการให้ตัวเองไปถึงปลายทางที่ไปไม่ถึงในความฝัน เสียก่อน

“นีมาแล้วเหรอ” ภัทราถามเมื่อเห็นหล่อนเดินมาที่โต๊ะ

“อือ…” นีราตอบพลางรีบเอากระเป๋าสะพายเก็บ และหยิบ แฟ้มงานที่ทำค้างไว้ขึ้นมากาง

“เย็นนี้พวกพี่เขาจะไปเยี่ยมพี่ยักษ์กันอีก แกไปป่าว” คำถาม ของภัทราทำให้หล่อนชะงักมือ ทำท่าครุ่นคิดอยู่ครู่ก็พยักหน้า

“ไปสิ”

“เห็นว่าจะออกจากโรงพยาบาลพรุ่งนี้แล้ว”

“อ้าว นี่พี่ยักษ์ฟื้นแล้วเหรอ” นีราถามด้วยน้ำเสียงแปลกใจกึ่งดีใจ

นับแต่เกิดอุบัติเหตุ อนันตยศก็ยังไม่ฟื้น จนแพทย์ที่ดูแลเขาก็ ยังหาสาเหตุไม่ได้ว่าทำไมเขาถึงยังคงสลบไม่ได้สติ ทั้งที่สมอง ไม่ได้รับความกระทบกระเทือนอะไร

“ยังหรอก”

“ยังไม่ฟื้นแล้วทำไมถึงออกจากโรงพยาบาลล่ะ” นีราเป็นห่วง

“ก็หมอน่ะสิ บอกว่ากลับบ้านได้ ไม่มีอาการอะไรน่าห่วงแล้ว แค่รอให้ฟื้นเท่านั้น เลยให้ไปดูอาการกันต่อที่บ้าน พรุ่งนี้แม่พี่ ยักษ์จะพากลับแล้ว

บทสนทนาจบเพียงเท่านั้นเมื่อต่างคนต่างต้องแยกย้ายไป ทำงาน มีราก้มอ่านเอกสารในแฟ้มทั้งที่สมองยังคิดถึงเรื่องราวที่ คุยกับภัทราอยู่ไม่วาย และมันก็เลยเถิดไปถึงความฝันวิบวับ หวามหวานยามค่ำคืน ยิ่งคิดก็ยิ่งทำให้เกิดความรู้สึกวูบวาบ อย่างบอกไม่ถูก นีรานั่งหนีบต้นขาแน่นโดยไม่รู้ตัว…..

หญิงสาวอ่านเอกสารทั้งที่อ่านไปก็ไม่รู้เรื่อง หล่อนละสายตา จากแผ่นกระดาษตรงหน้า รู้สึกเหนื่อยทั้งที่นั่งอยู่เฉยๆ ลำคอแห้ง ผากเหมือนคนที่ยืนอยู่กลางแดดร้อนระอุ

นีราหยิบแก้วน้ำประจำตัวที่เก็บไว้ในลิ้นชักแล้วเดินไปที่ตู้น้ำ เย็นตั้งใจจะกดน้ำมาดื่มดับกระหาย จังหวะนั้นก็เห็นภัทราเปิด ประตูเดินออกไปพอดี ถ้าไม่ไปเข้าห้องน้ำก็คงไปกดน้ำมาดื่ม เหมือนหล่อนนั่นแหละ…หญิงสาวคิดในใจก่อนเดินตามออกไป
ทว่าเมื่อเปิดประตูออกมายืนตรงทางเดินก็ไม่เห็นวี่แววของ เพื่อน นีราเดาว่าภัทราคงไปเข้าห้องน้ำ หล่อนจึงเดินตรงไปที่ ห้องน้ำหญิงก่อน

ห้องน้ำนั้นอยู่สุดอาคารใกล้กับบันไดหนีไฟซึ่งต้องเปิดประตู ออกไปถึงเจอ นีราเดินเลี้ยวเข้าห้องน้ำหญิงแต่แล้วก็ชะงักเมื่อ แว่วเสียงบางอย่าง…

เท้าของนีราคล้ายถูกมนต์สะกด…หล่อนย่องไปยังประตูทาง หนีไฟ เมื่อเข้าไปใกล้จึงเห็นว่าประตูมิได้ปิดสนิท หญิงสาวค่อยๆ แง้มมองจากช่องที่เกิดขึ้น

แล้วก็เห็น…

ชายหนุ่มหญิงสาวคู่หนึ่งยืนพร่ำพรอดกอดจูบกันอยู่ตรงบันได ฝ่ายหญิงยืนพิงผนังหันหน้ามาทางหล่อน เราจึงเห็นเสี้ยวหน้า บางส่วนของอีกฝ่ายถนัดชัดเจน หญิงสาวตกใจเมื่อตระหนักว่า นั่นคือเพื่อนของหล่อน…ภัทรา แต่ที่น่าตกใจกว่าก็คือ…ฝ่ายชาย ที่แม้จะเห็นแค่ด้านหลัง แต่เราก็ยังจำได้แม่นเพราะผู้ชายที่มี เรือนร่าง ส้นสูงใหญ่พอฟัดพอเหวี่ยงกับอนันตยศมีอยู่แค่คน เดียว…

นลธวัช!

เห็นภาพที่ทั้งคู่คลุกเคล้านัวเนียกอดจูบอย่างดูดดื่มจนร่าง สองร่างแทบจะกลืนเป็นร่างเดียว ดีว่าร่างกายทั้งคู่ยังมีเสื้อผ้าอยู่ ครบถ้วน หญิงสาวเกิดคำถามในใจว่าภัทรากับนลธวัชไปคบหา กันตั้งแต่เมื่อไร
เสียงกระเส่าของภัทราดังพอที่หล่อนซึ่งแอบอยู่ตรงประตูหนี ไฟจะได้ยิน

“พอเถอะ นล เตี๋ยวใครมาเห็นเข้า”

“ไม่มีใครเห็นหรอกน่า…เขาทำงานกันอยู่ ภัทรจะให้พี่รอถึง เย็น รอไม่ไหวหรอก ภัทรน่ากินขนาดนี้

“แหม…พี่นล…อืมมมม…” ภัทราพูดต่อไม่ได้เมื่อนลธวัช ปิดปากของหล่อนด้วยจูบร้อนแรง มือไม้ของเขาไม่ได้อยู่นิ่งแต่ ลูบไล้ตามเนื้อตัวของหญิงสาวก่อนที่มือข้างหนึ่งจะกอบกุม ทรวงอกที่ยังอยู่ใต้เนื้อผ้าลื่น คลึงเคล้นเนื้อหยุ่นนุ่มเต็มมืออย่าง เมามัน เสียงครางหวานดังลอดจากริมฝีปากเป็นระยะ เจ้าของ ร่างบอบบางแอ่นอก ให้อย่างลืมตัวขณะที่ร่างกายท่อนล่างของ ทั้งคู่ก็เสียดายเข้าหากัน

ดูเหมือนนลธวัชจะไม่อาจหักห้ามใจให้หยุดเพียงแค่นั้น มือที่ คลึงเคล้นอกอวบอยู่เมื่อครู่เปลี่ยนมาปลดกระดุมเสื้อสามสี่เม็ด กระทั่งเนินอกที่ยังมีบราเซียลูกไม้สีขาวปกปิดอยู่ปรากฏให้เห็น

เขาจ้องมองความงามนั้นอย่างตะลึงลานก่อนดึงอาภรณ์ลูกไม้ ตัวเล็กจิ๋วที่ห่อหุ้มก้อนเนื้อขนาดพอดีมือลงมา เผยให้เห็นปทุม กันทั้งสองข้างที่มีผลเชอรี่สีชมพูเข้มอยู่บนสองยอด นลธวัชไม่รอ ช้า เขาซุกหน้ากับทรวงอกภัทราอย่างหลงใหล

เพื่อนของหล่อนแอ่นอกเงยแหงนพลางส่งเสียงครางอย่าง ลืมตัว สอดมือเข้าขยุ้มผมของนลธวัชเพื่อประคองศีรษะของเขา ไว้มิให้ถอยห่าง แม้จะมองเห็นไม่ชัดว่าฝ่ายชายทำอะไรแต่เราก็เดาได้ว่าปากของนลธวัชคงกำลังปรนเปรอความสุขให้กับเพื่อน ด้วยการดูดเม้มยอดปทุมทั้งสองข้างสลับกันไปมา ส่วนมือนั้นก็ มิได้หยุดนิ่งแต่โลมลูบคลึงเคล้นทรวงอกข้างที่มิได้ถูกครอบ ครองอย่างเมามัน อีกข้างหนึ่งก็ค่อยได้ลงมาเรื่อยๆ ก่อนจะผลุบ หายเข้ากึ่งกลางหว่างขา เสียงคนเป็นเพื่อนครางหวานด้วยรส สวาทที่นลธวัชปรนเปรอให้ นราเชื่อว่าตอนนี้ทั้งคู่คงลืมไปแล้ว ว่าอยู่ที่ใด


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ