ความลับระหว่างผมกับพี่สะใภ้ 18+

บทที่ 6 เพื่อนเก่า



บทที่ 6 เพื่อนเก่า

แต่การที่จะพบ “ฉู่เจียวเจียว”คนนั้นที่ผมไม่รู้จักในเร็วๆนี้คงเป็น เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ผมเริ่มคิดถึงฉู่เฉียวเจียวที่ผมรู้จักขึ้นมาแล้ว จึงได้หยิบมือถือขึ้นมาและกดโทรหาฉู่เจียวเจียว ก่อนเรียนจบ พวกเราได้แลกเบอร์กันไว้ แต่เราก็ไม่เคยติดต่อกันมาก่อน ไม่ใช่ ว่าไม่กล้าติดต่อ แต่เพราะหลังจากเรียนจบแล้วก็ไม่รู้ว่าควรจะ คุยอะไรกันดี

“ฮาโหล เฉินเฉียงหรือเปล่า ไม่ได้คุยกันตั้งนานเลย”

ฉู่เฉียวเจียวรับสายอย่างรวดเร็ว การที่ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยนั้น ของเธออีกครั้ง มันทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นมาก จนไม่รู้ว่าควรจะพูด อะไรดี

“ฉันเอง ไม่ได้คุยกันตั้งนานเลย ก็ไม่มีอะไรหรอก แค่อยู่ๆก็

นึกถึงเธอขึ้นมา ก็เลยอยากคุยกับเธอ” ผมพูดไปอย่างเก้งก้าง

น้ำเสียงของฉู่เจียวเจียวดูดีใจไม่น้อย เพราะเราไม่ได้ติดต่อ กันนานมากแล้วจริงๆ แต่วินาทีต่อมาเธอกลับถามคำถามหนึ่งที่ ทำให้ผมนิ่งเงียบไปเลย

“ตอนนี้ฉันอยู่ในโรงเรียนที่ตอนนั้นเราบอกว่าจะสอบเข้าด้วย กันแล้วนะ แต่ทำไมฉันไม่พบนายในโรงเรียนเลยล่ะ ครูบอกว่า จากคะแนนสอบของนาย การจะเข้าโรงเรียนนี้น่าจะเป็นเรื่องที่ ง่ายมากนิมา”
ในน้ำเสียงของฉู่เฉียวเฉียว ผมฟังออกว่าเธอมีความเชื่อมั่นใน ตัวผมมาก เพราะเราได้เคยเรียนในห้องเดียวกันและพบกันทุก วันตั้งหนึ่งปี เธอก็ถือว่าค่อนข้างรู้จักผมดี และผมเองก็อยากไป ในโรงเรียนที่เธออยู่มากจริงๆ แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้เป็นไปตาม ที่คิด หลายๆครั้งสิ่งที่ตัวเองอยากทำกับความเป็นจริงมันจะแตก ต่างกันเสมอ

สำหรับเรื่องสถานการณ์ภายในครอบครัวของผม ตอนที่ผม อยู่ม.ต้นก็เคยเล่าให้เธอฟังไปบ้าง แต่ในรายละเอียดปลีกย่อย นั้นเธอก็ไม่รู้ ผมครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจบอกความ จริงเธอได้ ฉู่เจียวเจียวเป็นคนที่ไว้ใจได้ ต่อให้รู้เรื่องพวกนั้นของ ผม เธอก็ไม่หัวเราะเยาะผมหรอก

“ตอนแรกฉันก็ตั้งใจจะไปโรงเรียนนั้น แต่พ่อกับพี่เลี้ยงฉันไม่ เห็นด้วย พ่อของฉันกะจะไม่ให้ฉันเรียนต่อด้วยซ้ำ ฉันก็เลยใช้ ความตายมาขู่พวกเขา สุดท้ายพวกเขาจึงจำใจยอมให้ฉันเรียน ต่อม.ปลาย แต่แม่เลี้ยงของฉันกลับกำหนดว่าต้องมาเรียนที่ โรงเรียนมัธยมห่วยแตกแห่งนี้ ตอนแรกฉันก็ไม่เข้าใจ สุดท้าย ก็ได้รู้ว่าที่เธอขายฉันมาอยู่ในโรงเรียนนี้ก็เพื่อทุนการศึกษาห้า หมื่นหยวน โรงเรียนที่ฉันอยู่ตอนนี้เป็นโรงเรียนขยะที่มีแต่พวก อันธพาล มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถอยู่ร่วมกับฉันดีๆได้ แต่คนที่ รังแกฉันกลับมีไม่น้อยเลย………….

ผมพูดความในใจทั้งหมดออกมารวดเดียว คำพูดเหล่านี้เก็บ ไว้ในใจมานานมากแล้ว นานๆทีจะมีคนหนึ่งที่สามารถระบายได้ ผมก็ต้องไม่ปล่อยโอกาสอันล้ำค่านี้ไปอยู่แล้ว
“ว่าไงนะ แม่เลี้ยงกับพ่อของนายถึงกลับร่วมมือกันทำเรื่อง แบบนี้ ท่าเกินไปจริงๆ นายวางใจเถอะ เรื่องพวกนี้ปล่อยให้เป็น หน้าที่ฉันก็พอ ฉันจะชำระแค้นแทนนายเอง ส่วนนายแค่ตั้งใจ เรียนก็พอ เด็กชนบทอย่างเราจะให้คนอื่นดูถูกไม่ได้เด็ดขาด เดี๋ยวสองสามวันนี้ฉันจะหาโอกาสไปโรงเรียนของนาย นาย หยุดคิดมากได้แล้ว”

ถึงแม้ว่าผมจะตื้นตันใจมาก ฉู่เฉียวเจียวก็เหมือนเป็นพี่สาวคน หนึ่ง ผมดีใจมากที่เธอพูดคำพูดพวกนี้กับผม จึงได้กล่าวขอบคุณ เธอไปหลายครั้ง ต่อด้วยพูดเรื่องจิปาถะอีกเล็กน้อย ก่อนที่ผมจะ กดวางสาย

หลังวางสายแล้ว อารมณ์ของผมก็เริ่มสงบลง และนึกถึงเรื่องที่ นัดผมพี่สะใภ้เอาไว้ในวันเสาร์ขึ้นมา พี่สะใภ้รับปากกับผมแล้ว ว่าวันเสาร์ผมสามารถมีอะไรกับเธอได้ เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ผมก็รู้สึก ตื่นเต้นสุดๆ ตอนที่อยู่ในโรงเรียนเธอถึงกลับกล้าร่วมมือกับหวัง เหลยมาทำร้ายผม วันเสาร์นี้ผมจะจัดการเธอ ให้เธอร้องคราง สุดเสียง ใต้ร่างของผม จากนั้นอัดวิดีโอความร่านของเธอเอาไว้ แค่คิดผมก็ตื่นเต้นแล้ว

ผมเข้าไปดูคู่มืออำลาความพรหมจรรย์ของผู้ชาย ค้นดูอยู่ หลายเว็บ จนสิ่งที่ควรจะทำเกือบทั้งหมดไว้ในใจแล้ว จากนั้น ไปร้านของใช้สำหรับผู้ใหญ่อีกรอบหนึ่ง หลังจากได้เตรียมความ พร้อมพอสมควรแล้ว ก็ได้ทำการปิดมือถือและเล่นเกมในร้าน คอมต่อ

พอตกดึกขณะที่หลับอยู่นั้น เหมือนว่า ในร้านคอมจะเกิดเรื่องพอผมลุกมาก็พบมีคนกำลังชกต่อยกันอยู่ไม่เหมือน กันเกิดอะไรขึ้น จึงได้วิ่งไปหลังจากถามคนอื่นอยู่ใน เหตุการณ์ เหมือนว่าทะเลาะกันเพราะแย่งคอมกัน และหนึ่งนั้นเหมือนจะคนพูดถึงเจียวเจียว วันนี้ด้วย ดูแลกำลังห้ามปรามอยู่ด้านข้าง ทว่ากลับไม่เกิดประโยชน์เลย

หลังจากชกต่อยกัน

เลือดอาบจมูกหมด ทว่ากลับยังยอมหยุด คู่ต่าง

โทรศัพท์เรียกพวกของตนเองมา เหมือนจะต่อยกันร้าน

คอม จากผู้คนก็แยกย้ายกัน ผมก็กลับนอนต่อ พอ

นอนไปได้

เสียงจากด้านนอก ไม้เสียงเหล็กปะทะกันดังขึ้นเป็น

ระยะ ท่าทางดุเดือดมาก ตอนแรกผมก็จะออกแต่พอคิด

ไปคิดมา การพวกตีกันแบบจะโดนลูกหลงได้ง่าย

สมัยมต้น เพื่อนคนหนึ่งของโดนลูกหลงจนต้องส่งโรง พยาบาล เพราะดูเขายกพวกตีกันแหละ ทั้งๆได้ เกี่ยวข้องอะไรกับเขาๆ แต่กลับถูกสองฝ่ายรุมจนขาหัก ต้องรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลขาก็ไม่ค่อยแล้ว เหมือนข้างเคียงอะไรนี่แหละ นับแต่นั้นเป็นต้นมาเขาก็กล้าไทยมุงอะไรอีกเลย ผมยิ่ง ไม่อยากเดินรอยเขา

ผมสะลึมสะลือหลับไปอีกครั้ง ทีหลับเช้าวันรุ่งเลย คืนตอนสายเรียกเข้าจากพี่สะใภ้ โทรมาตั้งสามสิบสายเต็มๆ รีบร้อนขนาดเชียวหรือ ปกติไม่เห็นใส่ใจอะไรผมอย่าว่าแต่ โทรศัพท์มาเลย แค่ส่งข้อความมาเป็นเรื่องที่แทบจะไม่มีต้องเรื่องอะไรขึ้นอีกถึงได้โทรเข้าหลายสาย ขนาด

นอกสายเรียกเข้าจากพี่สะใภ้แล้ว ก็ข้อความอีกสอง ข้อความจากจ้าวชิงชิงด้วย ถามผมปิดเครื่องทำไม เกิด อะไรหรือเปล่า หากเรื่องอะไรต้องบอกนะ

ผมข้อความของจ้าวชิงชิงแล้วรู้สึกอบอุ่นมาก เธอยังคงเป็น ห่วงผมมากมายขนาดแต่ไก่อ่อนอย่างผมสามารถได้รับ ความห่วงใยขนาดจากสาวสวยถือว่าคุ้มแล้ว ผมได้รีบตอบ ข้อความเธอหลายข้อความ จะกินครูของพวกเราอยู่แล้ว ซึ่งแน่นอนประโยคหลังผมได้

หลังส่งข้อความหาจ้าวชิงชิงเรียบร้อยแล้ว สายจากพี่สะใภ้ โทรมาอีกครั้ง ทันทีที่ผมกดปุ่มรับสาย เสียงของพี่สะใภ้ดัง ขึ้นทันที

ฮาโหลเฉินเฉียงตอนนายอยู่ไหนพี่สะใภ้เอ่ยถาม

“พี่ไม่ต้องสนใจผมอยู่ที่ไหน แค่รอผมบ้านพักของพี่ พอแล้ว ผมไปเดี๋ยวนี้หญิงแบบหน้าเธอมากไม่ได้

หลังพูดผมก็ไม่เปิดโอกาสให้เธอโต้แย้งใดๆ ตัดสาย ทิ้งทันที จากนั้นดื่มน้ำอีกหนึ่ง และดึงการ์ดออก ก่อนเดินตรงไปยังประตูทางออกของร้านเกม

หลังวางสายผมก็ออกมาจากร้านเกม วิ่งยองๆไปทางโรงเรียน สุดท้ายมาหยุดอยู่ที่ประตูบ้านพักของพี่สะใภ้ ตลอดทางที่วิ่งมา ในสมองผมเต็มไปด้วยภาพของพี่สะใภ้ที่นอนอยู่บนเตียง ผม เคาะห้องเธอครู่หนึ่ง และประตูก็ถูกเปิดออกอย่างรวดเร็ว ผมไม่ ให้โอกาสในการพูดด้วยซ้ำ พุ่งเข้าใส่ร่างเธอทันที ก่อนจะใช้ เท้าถีบประตูปิดลง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ