ความรักของเราควรจะจบลงยังไง

บทที่ 4 คุณเพียงแค่เก็บรักษาให้เท่านั้น



บทที่ 4 คุณเพียงแค่เก็บรักษาให้เท่านั้น

“คุณนีรา ต้องการให้ช่วยไหมครับ?” สายตาของทยุติ ตกอยู่ที่ข้อมือของนีรา ผิวที่ปกติเป็นสีขาวเปลี่ยนเป็นสี แดง

“ไม่ต้องหรอกครับ” โฆษณก้าวเท้าไปอยู่ด้านหน้า ของ ราหนึ่งก้าว แล้วตอบอย่างเย็นชา

นีรามองไปที่โตษณอย่างมึนงง ภาษาฝรั่งเศสของเขา มีมาตรฐานที่สูงกว่าเธอ

“คุณนีรา คุณไม่ต้องการจริงๆใช่ไหมครับ?” ทยุติ ตามมาถามกับนีรา ดวงตาทั้งคู่ของนีราเบิกโพลงไปที่ ทยุติ เมื่อสักครู่นี้เขาใช้ภาษาจีนได้อย่างถูกต้องตาม มาตรฐาน

เมื่อคิดถึงว่าทยุติเข้าใจคำพูดของโฆษณที่ดูถูกเธอ ก่อนหน้านี้ทั้งหมด แก้มของนีราก็ร้อนผ่าวยิ่งกว่าข้อมือ

ในขณะที่เธอไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรดี เสียงเคาะ ประตูที่ดังขึ้นอย่างฉับพลันก็ดึงดูดความสนใจคนทั้ง สาม

“ขออภัยค่ะ ท่านประธานโฆษณ นี่คือล่ามฝรั่งเศสคน ใหม่มารายงานตัว ส่วนท่านนั้น…” โมลียืนหดตัวอยู่ด้าน นอกประตู ไม่กล้าเข้ามา

หญิงสาวใส่แว่นยืนที่ยืนอยู่ข้างๆเธอ มองโฆษณตาไม่กะพริบ

ถึงแม้ว่านีราจะเห็นใจหล่อน แต่พอคิดถึงว่าตัวเองก็ จะสามารถออกไปได้แล้วนั้น สิ่งที่รักเธอมือไว้แน่นก็ คลายออก

“พาออกไปเลย หล่อนถูกไล่ออกแล้ว และแจ้งฝ่าย บุคคลด้วยว่าคุณนีราคนนี้ได้เข้ามาร่วมงานกับเราอย่าง เป็นทางการแล้ว” เมื่อเห็นสีหน้าของนีราเปลี่ยนเป็นซีด เผือดในพริบตา โฆษณฉีกยิ้มอย่างจงใจ

“ได้ค่ะ” โมลีแอบดีใจอยู่ลับๆ โชคดีที่เธอช่วยผู้หญิง ที่ชื่อนีราคนนี้แต่งหน้าแต่งตัวเสียใหม่ ทำให้ประธาณ โตษณเลือกจะเก็บหล่อนไว้ ไม่อย่างนั้นคนที่โดนไล่ ออกในวันนี้คงเป็นเธอเสียแล้ว

“คุณนีรา ผมขอเชิญคคุณร่วมรับประทานอาหาร กลางวันด้วยกัน เพื่อขอบคุณที่คุณช่วยเหลือในการ แปล”

ปฏิกิริยาแรกของนีราที่มีต่อคำเชิญของทยุติ คือการ ปฏิเสธ แต่เมื่อคิดถึงว่าหลังจากที่ทยุติไปแล้วเธอจะ ต้องอยู่กับโตษณเพียงลำพัง เธอจึงรีบตอบตกลงทันที

“ห้ามออกไปข้างนอกในเวลางาน นี่คือกฎระเบียบของ บริษัท”

ในตอนที่นีราลุกขึ้นนั่นเอง โฆษณก็ค่อยๆเอ่ยปาก สองมือของเธอยังคงวางอยู่บนที่เท้าแขน จะนั่งก็ไม่ใช่จะไปก็ไม่เชิง

“ถ้าหากผมมองไม่ผิด ตอนนี้น่าจะเป็นเวลาเลิกงาน แล้วนะครับ” ทยุติช่วยนีราให้หลุดพ้นจากความอึดอัด ใจอีกครั้ง คล้ายว่าตัดสินใจที่จะเป็นผู้คอยปกป้องนีรา

ก่อนหน้าที่จะกลับมายังประเทศจีน ทยุติได้เคย ทําการตรวจสอบโตษณ ยกเว้นแฟนสาวที่หายตัวไป ของโตษณแล้ว ทยุติก็ไม่พบจุดอ่อนข้ออื่นของเขาเลย

จนกระทั่งการปรากฏตัวของนีราในวันนี้ เขาถึงได้มี ความคิดที่แตกต่างออกไป

“พนักงานของผม คำพูดผมคือสิทธิ์ขาด” โฆษณดึงนี ราออกจากห้องประชุม

บนรถ นีราหดตัวนั่งใกล้กับขอบประตู ต้องการรักษา

ระยะห่างจากโฆษณอย่างเห็นได้ชัด

เธอไม่รู้ว่าโฆษณกำลังจะพาเธอไปที่ไหน แล้วก็ไม่ กล้าถามอีกด้วย ได้แต่หวังว่าเขาจะหลับตาเช่นนี้ไป ตลอดทาง

ขนตาของเขางอนยาวราวกับปีกของนางฟ้า ดวงตาที่ เป็นวงรีแคบ จมูกเป็นสันแข็งแรง ดูประณีตงาดงามรา วกับงานศิลปะ คิ้วที่ขมวดอยู่เล็กน้อย ทำให้เธออดไม่ ได้ที่จะอยากเอื้อมมือออกไปและจัดให้มันราบเรียบ

ในตอนที่นีราอายุสิบหก ได้ไปงานเลี้ยงงานหนึ่งกับคุณพ่อ

ทุกคนต่างพยายามสร้างความสัมพันธ์อันไร้ซึ่งความ จริงใจ มีแต่เขาคนเดียวที่นอนเหยียดกายหลับตาอยู่ บนโซฟาตรงมุมของดาดฟ้า เหมือนอย่างเช่นตอนนี้

ในชั่วขณะนั้น นีรารู้สึกหลงเสน่ห์ใบหน้านี้ โดยเฉพาะ ใบหน้ายาม ผ่อนคลายของเขา

แต่น่าเสียดาย เธอก็ไม่ได้เห็นใบหน้าที่ผ่อนคลายของ เขาอีกเลย

“คุณมองพอรึยัง?”

“พอ พอแล้วค่ะ” นีราตอบอย่างเงอะงะ เมื่อกี้นี้เธอยัง มองเห็นเทวดาอยู่เลย แต่พอโตษณตื่นขึ้นมาก็หายไป แล้ว

นีรารีบก้มหน้าลง เพื่อซ่อนแก้มที่ร้อนผ่าวของตัวเอง

“ตอนที่ไปพบคุณยาย คุณรู้นะว่าควรทำอย่างไร ถ้า หากว่าคุณพูดหรือทำอะไรผิดพลาด บริษัทบีเอ็มเอสจะ ถูกทำลายด้วยมือของคุณ”

ก่อนลงจากรถ โฆษณไม่ลืมที่จะเตือนนีรา เดิมทีเขา คิดว่าจะกลับไปที่บ้านเดิมในวันพรุ่งนี้ แต่ทันใดนั้นเขาก็ เปลี่ยนใจ

“คุณวางใจเถอะค่ะ ฉันรู้ว่าควรทำอย่างไร
นีราใช้มือคล้องแขนโตษณ แล้วเดินเข้าไปในบ้านกับ เขาพร้อมรอยยิ้ม

ในตอนที่ผู้อาวุโสแห่งตระกูลภูลพิพัฒน์พบเธอครั้ง แรกนั้น ก็ชื่นชอบเธออย่างมาก ตอนนี้นีรากลายเป็น หลานสาวของเธอแล้ว ก็ยิ่งรักหล่อนมากยิ่งขึ้น

“หนูนีรา ไม่สบายหรือเปล่า? ทำไมใบหน้าเล็กๆนี้ถึงดู เหนื่อยล้าอย่างนี้ล่ะ? เด็กคนนี้รังแกหนูหรือเปล่า บอก ยายมาเถอะยายจะจัดการให้หนูเอง”

ผู้อาวุโสจับมือเธอไว้อย่างทะนุถนอม สายตา แหลมคมนั้นมองไปทางชายหนุ่ม

“คุณยาย บอกความจริงกับผมาเถอะครับ ตอนที่คุณ แม่คลอดผมนั้นอุ้มผิดคนใช่ไหมครับ ที่จริงแล้วเธอเป็น หลานสาวของคุณยายสินะครับ?”

นีราหันไปมองโฆษณที่กำลังอิจฉา ทันใดนั้นก็รู้สึกว่า เขาน่ารักมาก แต่เมื่อคิดได้ว่าเขาเองก็กำลังแสดงละคร อยู่ ก็เกิดรอยยิ้มที่มุมปากของเธอ

“ถ้าหากหนูนีราเป็นหลานของยายจริงๆหล่ะก็ ยายก็ ไม่ให้แต่งงานกับผู้ชายอย่างเราหรอกนะ จำไว้นะ ถ้า เราทำตัวไม่ดีกับเธอหล่ะก็ไปแต่ตัวได้เลย อย่าคิดว่าจะ ได้เงินจากตระกูลฯแม้แต่เหรียญเดียว”

โฆษณรู้ว่าคุณยายไม่ได้พูดเล่นกับเขา ไม่อย่างนั้น เมื่อคืนนี้เขาคงไม่ค้างอยู่ที่คฤหาสน์
“คุณยายมั่นใจเถอะครับ ผมจะต้องรักนีรามากขึ้น ให้เธอช่วยผลิดอกออกผลให้กับตระกูลของเราเร็วๆ” ทันใดนั้นก็มีสร้อยคอห้อยอยู่ที่มือของโตษณ มันเรียบ ง่ายและหรูหรา มีจี้เป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษ ฝังด้วย เพชรสีม่วงที่หาได้ยาก

ทันใดนั้นเขาก็เดินวนไปยังด้านหลังของนีรา แล้วสวม ให้เธอด้วยตัวเอง

ในขณะที่สวมสร้อยคอ โตษณเผลอปลดกระดุมคอ เสื้อ “โดยไม่ตั้งใจ” ที่คอสีขาวของนีรามีรอยแดงเข้ม ข้นเต็มไปหมด

นีราเลือกชุดกระโปรงนี้เพื่อปกปิดรอยเหล่านี้โดย เฉพาะ แต่เป็นเพราะความสนใจอยู่บนสร้อยคอเท่านั้น ดังนั้นทั้งสองยายหลานจึงไม่ได้สังเกตเห็น

โตษณเตรียมสร้อยคอไว้เมื่อไหร่กัน จะเป็นก่อน แต่งงานหรือเปล่า? ตัวอักษรนี้จะหมายถึงตัวอักษรเริ่ม ต้นชื่อของเธอในภาษาอังกฤษใช่ไหม?

ในระหว่างทางกลับ นีรานึกจะพูดอยู่หลายครั้ง เธอ อยากรู้ว่าสร้อยคอนี้ได้เตรียมเอาไว้ให้เธออยู่แล้วใช่ หรือไม่ แต่เธอก็กลัวจะได้คำตอบในด้านลบ

“จอดรถ” คนขับจอดรถที่ริมถนน และโฆษณก็บอก ให้คนขับลงจากรถ

นีรารู้สึกหวั่นวิตกอยู่ลับๆ เธอรู้ว่าโฆษณต้องการจะพูดกับเธอ และเป็นสิ่งที่ไม่สามารถให้คนอื่นได้ยินได้

ทันใดนั้นโตษณก็จู่โจมเข้ามาใกล้ทันที มองเห็นนีรา ที่หลับตาปี่โดยไม่รู้ตัวแล้ว มุมปากของเขาก็มีรอยยิ้ม เยาะเย้ย

“คุณคงไม่คิดว่าผมจะจูบคุณหรอกนะ? นอกเหนือ จากความต้องการทางกายภาพแล้ว ผมไม่มีความรู้สึก ทางเพศใดๆกับคุณหรอกนะ”

ดวงตาของนีราเบิกกว้าง ถ้าหากว่าตัวของเธอไม่ได้ ติดอยู่กับประตูเช่นตอนนี้ เธอก็คงไม่อาจจะเหยียดกาย อย่างมั่นคงไว้ได้

โตษณเอื้อมมือไปจับสร้อยคอตรงหน้าอกของเธอ แววตาของเขานุ่มนวลกว่าเดิมอย่างมาก

“ผมขอเตือนสติคุณไว้ว่า คุณไม่ใช่เจ้าของตัวจริง ของสร้อยคอเส้นนี้ คุณเพียงแค่เป็นคนเก็บรักษาให้ เท่านั้นเอง”

ตัวของนีราอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสั่นไหว ถึงแม้ว่าเธอจะรู้ คำตอบนี้มานานแล้ว แต่ป็นเธอเองที่อดไม่ได้ที่จะเพ้อ ฝัน

ชิตชไม ตัวอักษรภาษาอังกฤษนี้คือสร้อยที่สั่งทำเป็น พิเศษเพื่อหล่อน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ