บทที่ 7 นอกจากผมแล้ว จะมีใครกล้าขอเธอแต่งงานอีก
บทที่ 7 นอกจากผมแล้ว จะมีใครกล้าขอเธอแต่งงานอีก
หลังจากที่ทั้งสามคนคุยกันได้สักพัก เห้ออี้ลั่วก็วางแก้ว ชาลง “คุณลุงคุณป้าครับนี่ก็ดึกมากแล้ว ไม่รบกวนเวลา พักผ่อนของพวกคุณแล้ว ผมขอลากลับก่อนนะครับ”
ลั่วหมิงเม่ยรีบพูดด้วยรอยยิ้ม: “ให้เฉียวเมิ่งเยว่ไปส่งนะ ถนนในหมู่บ้านเราแถวนี้เวลากลางคืนนั้นหลงทางได้ง่าย”
“ถ้าอย่างนั้นผมก็ต้องรบกวนด้วยนะครับ”
เฉียวเมิ่งเยว่แอบหยิกลั่วหมิงเม่ยไปเบาๆ กัดฟันหยิบคีย์ การ์ดแล้วเดินออกไป
ถนนในชุมชนของพวกเขาซับซ้อนกว่าตอนกลางวัน หากเป็นคนที่ไม่คุ้นเคยอาจจะหลงทางได้ง่าย
เฉียวเมิ่งเยว่เดินห่างจากหลังของเห้ออี้ลั่วประมาณสาม ก้าว บางครั้งก็มองที่แผ่นหลังของเห้ออี้ลั่ว ผ่านโคมไฟ สลัวบนถนน
ไม่รู้ว่าฟ้าลำเอียงหรือเปล่าแม้แต่แผ่นหลังและเงาด้านหลังของเขาก็ยังดูดีกว่าคนอื่น
เห้ออี้ลั่วที่เดินอยู่ด้านหน้าก็หยุดเดินกะทันหัน แววตาที่ ลึกนั้นมองมาทีเฉียวเมิ่งเยว่
ยืนอย่างมั่นคงภายใต้แสงไฟบนถนนดูสายคล้ายกับ เป็นภาพวาดในทันที
เห็นอย่างนั้นเฉียวเมิ่งเยว่ก็หยุดลงด้วย
เห้ออี้ลั่วเลิกคิ้ว “คุณผู้หญิง อย่าฝืนอีกเลย แต่งงานกับ ผมดีแค่ไหน”
“เหตุผล?” เฉียวเมิ่งเยว่เพิ่งถูกแม่ของเธอยุยงมา พอได้ ยินเห้ออี้ลั่วพูดแบบนี้อีก สีหน้าก็ไม่ตกใจอีกแล้ว
“นอกจากผมแล้ว จะมีใครกล้าขอเธอแต่งงานอีก!”
“คุณกลับไปได้แล้ว”
นอกจากเห้ออี้ลั่วจะไม่ไปแล้วเขายังเดินมาทางเฉียว
เมิ่งเยว่อีกด้วย
เฉียวเมิ่งเยว่เดินถอยหลังไปสองก้าวอย่างไม่รู้ตัว
เห้ออี้ลั่วเดินไปหยุดยืนนิ่งอยู่ต่อหน้าเฉียวเมิ่งเยว่
เขาเป็นคนที่หน้าตาแจ่มใสมาก แต่คำพูดนั้นไม่แจ่มใส เหมือนหน้าตาเลย
“ผมทั้งหล่อ และมีเงินมากขนาดนี้ แล้วยังมาตามจีบคุณ อีก หากคุณแต่งงานกับผมแล้ว ผมสามารถยกทุกอย่าง ของบริษัทเห้ออทั้งหมดให้คุณได้นะ ทำให้คุณกลาย เป็นผู้หญิงที่ร่ำรวยได้ภายในไม่กี่วินาทีเลย เรื่องดีๆแบบ นี้ คุณจะไปหาที่ไหนได้อีก?”
เฉียวเมิ่งเยว่จ้องไปที่เขาอย่างเหลืออด รู้สึกว่าเห้ออี้ลั่ว คนนี้กับเห้ออี้ลั่วคนที่เจอกันเมื่อสองครั้งก่อนแตกต่างกัน ราวกับเป็นคนละคนกัน
เธอเคยได้ยินเสี่ยวอันบอกว่า เห้ออี้ลั่วเวลาเซ็นสัญญา กับคนอื่นนั้น
เห้ออี้ลั่วจะทำหน้าเย็นชา แล้วโยนสัญญาไปให้อีกฝ่าย “หกต่อสี่ ผมหกคุณสี่ จะเซ็นไหม?”
สุดท้าย สัญญาหลายพันล้านก็เซ็นจบไปแบบนี้
ผลการประเมินเห้ออี้ลั่วของสื่อออนไลน์ ก็ออกมาเป็น “เย็นชา และเงียบขรึม” เวลาประชุมก็ไม่ค่อยพูด มักจะเงียบขรึม
ในการประชุมก็มักจะเป็น “เริ่มได้!” “จบการประชุม”
นอกเหนือจากนี้ก็ไม่พูดอะไรอีก
แต่เห้ออี้ลั่วที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอตอนนี้ ไม่เหมือนกับใน ข่าวลือเลยสักนิด
เฉียวเมิ่งเยวมองไปที่ใบหน้าหล่อเหลากระชากใจสาว ของเขาแล้วพูดขึ้น: “เรื่องดีๆแบบนี้ คุณหาคนอื่นก็ได้ ทำไมต้องเป็นฉัน?”
“ใครใช้ใช้เด็กน่ารำคาญของบ้านฉันคนนั้นชอบเธอหละ คนเป็นพ่อก็ต้องยอมเสียสละไง”
เฉียวเมิ่งเยว่พยายามอดทนไว้ แต่ก็ทนไม่ไหว “กลับไป
ซะ!”
เห้ออี้ลั่วฉวยโอกาสตอนที่เฉียวเมิ่งเยว่กำลังโกรธ รีบ หอมแก้มเธอไปสองที
ก่อนที่เฉียวเมิ่งเยว่จะรู้ตัว ก็เดินจากไปแล้ว เดินไปด้วย พูดไปด้วยว่า: “พรุ่งนี้ผมจะให้คนตัดชุดแต่งงานให้คุณ เลย เมื่อชุดแต่งงานตัดเสร็จ คุณก็แต่งงานกับผมเลย”
เฉียวเมิ่งเยว่ก็ถูกเห้ออี้ลั่วที่ไร้ยางอายทำให้รู้สึกท้อแท้ อีก
เธอก็เป็นแค่แพทย์ประจำบ้านธรรมดาๆคนหนึ่งเท่านั้น ทำไมถึงไปดึงดูดสายตาของผู้ชายที่เป็นที่หมายปองของ ผู้หญิงทุกคนในเมืองเยว่เฉิงได้ยังไง
**
หลังจากที่พ่อกับแม่กลับมา คุณภาพชีวิตของเฉียว เมิ่งเยว่ก็พุ่งสูงขึ้นทันที
ก่อนที่แม่ของเธอจะแต่งงาน เธอเป็นแม่ครัวร้านขนม เค้ก หลังจากแต่งงานก็ไม่ทำงานอีก คอยอยู่บ้านท่า หน้าที่ภรรยาที่ดี ดูแลชีวิตประจำวันของเฉียวเมิ่งเยว่
ก่อนที่เฉียวเมิ่งเยว่จะบรรลุนิติภาวะ แม่ของเธอก็ได้ฝาก ชีวิตไว้กับพ่อของเธอแล้ว
พ่อของเธอเป็นวิศวกรก่อสร้าง และมักจะเดินทางอยู่
บ่อยๆ
ทั้งสองมักจะเก็บกระเป๋าแล้วออกเดินทางเลย ออกไปที ก็ประมาณสามสีเดือน หรือไม่ก็ครึ่งปี จนเฉียวเมิ่งเยว่ก็ อดไม่ได้ที่จะอิจฉา
หลังจากได้รับการดูแลจากแม่มาสองวัน สีหน้าของเฉียว เมิ่งเยว่ก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
พอไปทำงานในวันจันทร์ เสียวอันก็รู้สึกประหลาดใจเมื่อ เห็นเธอ “พี่เฉียว พลังแห่งความรักนี่ช่างยิ่งใหญ่ขนาดนี้ เลยหรอ?”
“คิดไปถึงไหนกัน แม่ฉันกลับมาแล้วต่างหาก” เฉียว เมิ่งเยว่พูดไป แล้วโดนถุงขนมและกล่องนมไปบนโต๊ะ ของเสี่ยวอัน
“ฝากขอบคุณคุณป้าด้วยนะคะ” ดวงตาทั้งคู่ของเสี่ยว อันมองไปที่ขนม กินมันทีละคำทีละชิ้น พูดไปด้วยและ พูดไปด้วย: “นั่นอะไรหรอ ความสัมพันธ์ของประธานเห้อ ของฉันกับคุณเป็นยังไงกันแน่ สงสัยจังสงสัยจัง”
“เรื่องที่นอกเหนือจากเรื่องงานไม่ต้องมาถามฉัน!”
“คนอื่นก็แค่สงสัยเอง ได้ยินมาว่าประธานเห้อของฉันไม่ ใกล้ชิดกับผู้หญิง เว็บออนไลน์พวกนี้ก็ไม่เคยถ่ายรูปของ ประธานเห้อเวลาอยู่กับผู้หญิงได้สำเร็จเลย แต่อยู่ดีๆเขา ก็จับมือกับพี่ จะไม่ให้สงสัยได้ยังไง!”
“ตอนที่เขาจับมือกันเขาต้องบอกเธอด้วยหรอ? รีบไป เตรียมเอกสารเลย”
“รับทราบรับทราบ” เสี่ยวอันพยักหน้าอย่างครุ่นคิด “อ้อ ใช่แล้ว เกือบลืมไปแล้วศาสตราจารย์หลินบอกว่าถ้าคุณ มาแล้วให้ไปพบเขาที่ห้องทํางานด้วย
“ได้บอกหรือเปล่าว่ามีเรื่องอะไร?”
“ไม่มี ฉันเดาว่ามันน่าจะเกี่ยวกับหัวข้อที่เขาจะพูด”
“ฉันรู้แล้ว เดี๋ยวตามไป
“อืมอืม”
เฉียวเมิ่งเยว่วางกระเป๋าลงบนเก้าอี้ ก็ที่ไปห้องทำงาน ของศาสตราจารย์หลินเลย
ศาสตราจารย์หลินชื่อจริงคือหลินจื้อ ปีนี้อายุสามสิบ
สอง เขาเป็นนักศึกษาปริญญาเอก
หลังจากจบปริญญาเอกจากต่างประเทศกลับมาเขาก็ เข้าทำงานที่โรงพยาบาลหย่าเต๋อ และได้ทำวิจัยเกี่ยวกับ หลอดเลือดหัวใจและสมอง
ด้วยโครงการที่หลินจื้อเคยวิจัยทั้งในและต่างประเทศ แล้ว เขาสามารถไปทำงานในโรงพยาบาลที่ใหญ่และดี กว่า แต่เขากลับเลือกที่จะอยู่ที่โรงพยาบาลหย่าเต๋อ
หลายปีที่ผ่านมาโรงพยาบาลหย่าเต๋อก็เริ่มมีชื่อเสียง มากขึ้น เพราะว่ามีเขาเข้ารวมด้วย และดึงดูดบุคลากร ทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมหลายคนเป็นกำลังสำรองของ โรงพยาบาล
เฉียวเมิ่งเยว่เคาะประตูห้องทำงานของหลินจื้อ “สวัสดี ค่ะศาสตราจารย์หลิน ฉันคือเฉียวเมิ่งเยว”
“คุณหมอเฉียวเชิญครับ”
เฉียวเมิ่งเยว่ผลักประตูเข้าไป
หลินซื่อกำลังยืนหันหลังจัดเอกสารบนชั้นหนังสือให้ เฉียวเมิ่งเยว่ “เชิญคุณนั่งลงก่อน ผมหาเอกสารสักครู่”
เฉียวเมิ่งเยวนั่งลงบนโซฟา รอให้ หลินจื้อเสร็จเรื่องใน มือของเขาก่อน
ผ่านไปสักพัก หลินจื้อก็เดินมา
เขาเป็นผู้ชายที่สุขุมและอบอุ่นคนหนึ่ง
ในมือหลินจื้อถือหนังสืออยู่หนึ่งเล่ม “คุณลองเอา หนังสือเล่มนี้กลับไปอ่านดู”
“นี่คือ….” เฉียวเมิ่งเยว่เหลียวมองก็รู้แล้วว่าคือหนังสือ
วรรณกรรมการแพทย์ภาษาอังกฤษ
“นี่เป็นเล่มล่าสุดที่เป็นแนวคิดเกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจ และหลอดเลือดสมองมันเป็นหัวข้อที่ฉันจะพูดในวันพุธนี้ ในสองสามวันนี้ฉันต้องคัดแยกเอกสารและวัสดุอื่นๆ ทาง ด้านการแปลฉันต้องขอรบกวนคุณช่วยเหลือหน่อย คุณมี ปัญหาอะไรไหม?”
“ปัญหานั้นไม่มีหรอก แต่รอบตัวคุณ ก็มีทีมแพทย์และ ผู้ช่วยจาก บริษัท อุปกรณ์การแพทย์ต่างๆ อยู่แล้วไม่ใช้ หรอคะ? เรื่องการแปลพวกเขาคงจะทำได้ดีกว่าฉันอยู่ แล้ว”
“พูดตามตรง ตอนนี้ฉันไม่ค่อยพอใจกับการทำงานของ คนรอบตัวฉันเท่าไหร่ แต่ถ้าให้ส่งพวกเขากลับไป ก็จะ มีคนใหม่ส่งมาอีก คนใหม่ที่ส่งมาอาจจะทำงานได้แย่ กว่าคนเก่าก็ได้ ฉันไม่มีเวลามากพอที่จะรับความเสี่ยงนี้ หรอก”
เฉียวเมิ่งเยว่คิดไม่ถึงเลยว่า หลินจื้อจะพูดออกมาตรงๆ แบบนี้ ยิ้มตอบ: “ถ้าอย่างนั้นฉันก็ไม่ขอถอนตัวแล้วนะ คะ ฉันกำลังคิดอยากจะศึกษาแนวคิดใหม่เกี่ยวกับหลอด เลือดหัวใจและหลอดเลือดสมองอยู่พอดี”
“ถ้ามีหัวข้อและการประชุมเกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดสมองอีกฉันจะพาคุณไปเข้าร่วมด้วย ใน เครือข่าย ได้มีการขยายตัวและเทคโนโลยีก็ยังง่ายต่อ การเรียนรู้
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ