moneybags พ่อฉันเป็นเจ้าสัว

ตอนที่ 8 นาฬิกานาฬิกาปาเต๊ะ ฟิลลิป



ตอนที่ 8 นาฬิกานาฬิกาปาเต๊ะ ฟิลลิป

“ชลธิชา นายถือลูกระเบิดหรือไง! แม้ว่าจะถือลูกระเบิด จริงๆ นายก็อย่าคำรามลั่นขนาดนี้ ระเบิดไม่ทันได้ระเบิด พวกเราจะตกใจตายเสียก่อน!”

พนัสพูดแล้วก็ตบๆอกของตนเองเบาๆ ตกอกตกใจ อย่างชัดเจน

“นาฬิกาข้อมือ! ปาเต๊ะ ฟิลลิป รุ่น รุ่นไหน?”

ชลธิชากำลังมองจักรชัยด้วยใบหน้าที่งงงัน พูดได้ไม่ คล่องสักเท่าไหร่

จักรชัยคิดอยู่ครู่หนึ่ง ฟังจากที่คนขายบอกเหมือนจะ เป็นรุ่น ที่มีฟังก์ชั่นการจับเวลาที่ซับซ้อนเขาพูดเท่าที่จำ ได้

สำหรับด้านนี้เขาไม่เข้าใจอย่างแน่ชัด ก็มีครั้งหนึ่งตอน ที่ทั้งสี่คนกินข้าวด้วยกันได้ยินพวกเขาพูดว่าถ้าชีวิตนี้ได้ นาฬิกาปาเต๊ะ ฟิลลิปสักเรือนก็ไม่เสียใจที่ได้เกิดมาแล้ว

ชลธิชามองค้อน ก็เกือบจะลงไปนอนบนพื้นแล้ว อีก สองคนก็รีบหยิบที่เหลือออกมาดู กล่องเป็นแบบเดียวกัน หมด แค่เปิดออกทั้งสามเรือนก็คือปาเต๊ะ ฟิลลิป เพียงแต่ รูปแบบไม่เหมือนกัน

สามคนกลับหายใจเข้าลึกๆอีกครั้ง ครอบครัวของจักร ชัยสถานการณ์เป็นอย่างไร ในใจของพวกเขาเข้าใจเป็น อย่างดี เพื่อให้ของขวัญวันวาเลนไทน์แก่อลินดา หลังเลิกงานช่วงเย็น กลางคืนดึกดื่นก็ยังต้องไปส่งอาหารอีก

เอาเงินจากไหนมาซื้อนาฬิกาพวกนี้ นาฬิกาหนึ่งเรือน สำหรับพวกเขาก็ราคาสูงเสียดฟ้าแล้ว ยิ่งกว่านั้นยังซื้อ ตั้งสามเรือนในคราวเดียวกันอีก

“จักรชัย ฟังพี่นะ ไม่จำเป็นต้องนึกถึงพวกเราอยู่ตลอด เวลา จะมีเดี๋ยวก็มีเอง ไม่ถึงกับต้องชดเชยเพื่อผู้หญิงคน หนึ่งตลอดไปหรอก มีเรื่องอะไรพวกเราจะแบกมันด้วย กัน เอาของพวกนี้คืนเขาไปเถอะนะ”

พนัสไม่รอให้จักรชัยพูด ก็ยัดของกลับเข้าไปในถุงแล้ว วางไว้ที่ด้านหน้าของจักรชัยทันที

“ทำตามที่บอก คืนของกลับไป กลับมาแล้วจะพานาย ไปนวดที่ห้างลอร่า ที่นั่นมีแต่ของเกรดคุณภาพ”

เห็นท่าทางที่จริงจังของทั้งสามคน ดวงตาของจักรชัยก็

ร้อนผ่าวขึ้นมา

“ที่ดินของครอบครัวฉันโดนประเทศเกณฑ์ไปใช้แล้ว ต่อไปอยากจะทำการเกษตรก็ทำไม่ได้แล้ว เงินนี้เป็นเงิน ที่ในครอบครัวให้ฉันไว้ใช้จ่าย”

ต่อมาด้วยความเงียบเชียบที่ยาวนานราวกับหนึ่ง ศตวรรษ สามคนนั้นก็ไม่เคลื่อนไหว ไม่มีใครพูดอะไร ไม่รู้ว่าคำพูดนี้จริงหรือหลอก จักรชัยยิ้มแล้วหยิบของ

ออกมาวางไว้บนโต๊ะ “ถ้ายังช้าอีกก็ทำได้เพียงต้องเลือกอันที่คนอื่นเหลือเอาไว้แล้วนะ แม้ว่ายี่ห้อจะเหมือนกัน แต่ยังมีความแตกต่าง อยู่ ถ้าไม่ได้เลือกอันที่ตัวเองชอบผมก็ไม่รับผิดชอบนะ”

หนึ่งวินาที สองวินาที สามวินาที หลังจากนับถึงสาม วินาทีในใจเงียบๆ อย่างที่คิดเอาไว้ทั้งสามคนก็มีปฏิกิริยา แล้ว แต่ละคนหันไปแย่งคนละกล่องทันที

“ฉันจะเอาอันนั้น อันนี้เหมาะสมกับนาย ฉันอายุมาก สุด!”

“เฮอะ ต่อไปฉันจะเรียกนายว่าพี่ ไม่เปลี่ยน!”

รอจนกระทั่งหอพักเงียบสงบลงแล้ว ดารินลูบไล้นาฬิกา ที่อยู่บนข้อมือของตนเองแล้วมองไปที่จักรชัย

“เรื่องนี้ อลินดารู้ไหม?”

“เธอไม่ได้โชคดีขนาดนั้น”

ชลธิชาเบะปากอย่างดูถูก สำหรับผู้หญิงประเภทนี้เขา ไม่รู้สึกเสียดายสักนิด ยังดีที่ไม่รู้ มิเช่นนั้นคงไม่ระเบิด อารมณ์ใส่น้องชายเขาอย่างนั้น ยังกลัวว่าจะไม่ยอมแพ้ อย่างง่ายดายด้วยซ้ำ

พูดถึงเรื่องที่เกี่ยวข้องกับอลินดาเพียงเท่านี้ ทุกคนก็ไม่ พูดถึงเธอขึ้นมาอีก

“ไม่ค่อยจะได้มีความสุขอย่างวันนี้กันสักเท่าไหร่นัก แล้วจักรชัยก็เตรียมของขวัญที่ดีขนาดนี้มาให้พวกเรา อย่างไรก็ต้องไม่เมาไม่กลับ ใช่ไหมล่ะ?”
“ไปกันเถอะ!”

ตามเสียงร้องด้วยความดีอกดีใจของพวกเขา เมื่อออก จากหอพักก็เดินไปที่ตลาดกลางคืนที่อยู่ไม่ไกล ที่นี่มี ประชาชนคนธรรมดาอาศัยอยู่มากมาย ตอนกลางคืน ไม่มีอะไรทำก็มักจะออกมาเดินเล่น ริมถนนก็มีของกิน หลากหลาย

เมื่อดื่มเหล้าไปแล้วถึงสามรอบ ชลธิชาก็กอดคอจักร ชัยเอาไว้

“จักรชัย ต่อไปนายก็เป็นคนที่มีเงินเยอะที่สุดในบรรดา พวกเราแล้วนะ แต่ถ้านายกล้าทำตัวแบบจำรัสที่เป็น คนรวยแต่ไร้ประโยชน์ต่อหน้าฉันก็อย่าตำหนิที่พี่ชายตี นายแล้วกัน”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ