ตอนที่ 9 เธอคงชัดเจนกว่าฉัน
ใจฉันเกือบเต้นออกจากลำคอ ฉันเหมือนถูกอะไรบางอย่างต่อย รีบกระโดดไปอีกข้างหนึ่ง
“ประ ประธานอนุสิทธิ์..……..
ห่างออกสองก้าว อนุสิทธิ์มองฉันด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
ฉันไม่สามารถมองทะลุดวงตาของเขา แค่รู้สึกว่าสายตาที่เขา มองฉัน ทำให้ฉันตื่นเต้นจนหายใจไม่ออก
ในห้องออฟฟิศที่ใหญ่โต ทันใดนั้นก็คับแคบขึ้นมาจนอยู่สอง คนไม่ได้ ออกซิเจนก็น้อยลง
ฉันตัวสั่นเทาและถอยหลังไปอีกสองก้าว อยากลากระยะ
ระหว่างเราให้ออกห่างไป
แต่ฉันถอยไปสองก้าว เขาก็เดินเข้ามาสามก้าว พริบตาเดียว ฉันก็โดนเขาบีบไปถึงข้างหน้าโซฟารับแขก ยังอยู่ระหว่างกลาง เขากับแผ่นหลังโซฟา ไม่มีช่องว่างเลยแม้แต่น้อย
ร่างที่สูงใหญ่ของเขา ทำให้ฉันมีความรู้สึกกดขี่ที่แน่นหนา ฉัน ใช้มือผลักเขาออกไป พูดอย่างหวาดกลัว“ประ ประ ประธานอนุ สิทธิ์….
“นอกจากประธานอนุสิทธิ์ เธอยังพูดอะไรได้อีก”
เสียงของอนุสิทธิ์ดังอยู่บนหัว ลมหายใจที่ร้อนๆของเขาพนออกมา เส้นผม เส้นของฉันขยับไปนิด ทำให้หน้าผากฉันดันไป นอดอยากยกมือขึ้นไปเกา
ทันใดนั้น บนหน้าผากก็มีมือใหญ่โผล่ขึ้นมา นิ้วปลายที่เย็นๆ ทำให้ฉันรู้ว่าหน้าฉันตอนนี้ร้อนขนาดไหน
วินัย…….
ในสมองมีภาพทวินัยดวงตาแดงโผล่ออกมาอย่างกะทันหัน ฉันทั้งอายทั้งโกรธถึงสุดขีด ไม่รู้แรกที่มาจากไหนทำให้ฉันได้ ผลักอนุสิทธิ์ออกไป แล้วรีบหลบไปข้างหลังโซฟา มองเขาอย่าง ระมัดระวัง
“ประธานอนุสิทธิ์ ผู้จัดการอานนท์ให้ฉันมารายงานกับคุณ
“สามีเธอเลื่อนตำแหน่งแล้ว อนุสิทธิ์ตัดบทคําพูดของฉัน ยืนอยู่ที่เดิม เลิกคิ้วมองมายังฉัน คำพูดของฉันเหมือนบ้านอยู่ในคอ
“เธอไม่มีอะไรอยากจะพูดแล้ว” พูดจบ อนุสิทธิ์ก็นั่งไปโซฟา คนเดียวที่อยู่ตรงข้าม นั่งไขว่ห้างมองยังฉัน
ฉันมองกลับเขาอย่างเงียบ
ที่จริงตอนที่ได้ยินเรื่องที่วินัยได้เลื่อนตำแหน่งฉันก็รู้ว่าเพราะ เหตุใด เพียงแต่ฉันยังมีความหวังที่เปราะบาง………
“ประธานอนุสิทธิ์ ขอบพระคุณมากที่บริษัทให้ความเชื่อถือและความสำคัญต่อวินัย เขามีความสามารถมากในการทำงาน ฉันคิดว่าเขาต้องขยันทำงานกว่าเดิม ไม่ให้บริษัทผิดหวังแน่ๆ
อนุสิทธิ์หัวเราะเยาะขึ้นมา และการแสร้งทำเป็นนิ่งสงบของฉัน ก็ถูกเสียงหัวเราะนี้มีพังไป
เขามองฉันด้วยสายตาอันเสียดสี “พูดกับฉันด้วยน้ำเสียง ทางการแบบนี้ ทิพย์สุดา เธอคงไม่คิดจริงนะว่าสามีของเธอมี ความสามารถเก๋งถึงขนาดที่เพิ่งเข้ามาทำงานหนึ่งปีก็สามารถรับ หน้าที่ตำแหน่งรองหัวหน้าแผนกบุคคลไปแล้วมั้ง
นิ้วมือสั่นเทา ฉันหยิบโซฟาที่อยู่ข้างหน้าอย่างแรงๆ เม้มปาก มองไปยังเขา “ท่านประธานอนุสิทธิ์ ท่านหมายความว่ายังไง
“ทิพย์สุดา อย่าแสร้งทำโง่เลย ทำไมเขาถึงได้ตำแหน่งนี้ เธอ
คงชัดเจนมากที่สุด”
ความหวังที่เปราะบางราวกับฟองสบู่ ถูกอนุสิทธิ์เจาะแตก สลายไปอย่างโหดเหี้ยม
ฉันรู้สึกมือเท้าเย็นยะเยือก มองไปยังเขาอย่างที่อแข็ง ท่าน ประธานอนุสิทธิ์ ท่านคงเข้าใจผิดบางอย่างไปแล้ว……..
“เข้าใจผิดหรื เมื่อคืนเธอถอดเสื้อผ้าต่อหน้าฉัน ก็เพื่อนไงไม่ ใช่หรื หรือว่าฉันเข้าใจผิดไปแล้วจริงๆ งั้นฉันเรียกคืนการแต่งตั้ง ตำแหน่งครั้งนี้ไป ให้วินัยใสหัวออกไปจากบริษัทฉัน ยังไง
“อย่า “ฉันรีบตะโกนด้วยเสียงดังออกมา
ทั้งบริษัทล้วนรู้ว่าวินัยได้เลื่อนขึ้นตำแหน่งแล้ว ถ้าอนุสิทธิ์เรื่อง
คืนการแต่งตั้งจริงๆ งั้นหลายชั่วโมงที่สั้นๆนั้นก็กลายเป็นเรื่องที่ ขบขันที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขา แล้วคนอื่นจะมองเขายังไง ถ้าโดนไล่ออก เขาจะได้รับการโจมตีแรงขนาดไหน ไม่ได้…ฉันจะให้เขาได้รับความไม่เป็นธรรมแบบนี้ได้ยังไง
เขาไม่ได้ทำผิดอะไร คนที่ทำผิดคือฉัน
“ท่านประธานอนุสิทธิ์” ฉันไม่รู้ควรพูดอะไร แค่อยากจะขอร้อง ให้อนุสิทธิ์ปล่อยเรื่องนี้ท่านทำแบบนี้ไม่ได้ วินัยเป็นคนที่ขยัน มาก ท่านทำแบบนี้…ท่านจะเสียพนักงานที่ดีไป…..
“ทุกคนที่ในบริษัทฉันล้วนขยัน คนที่เข้าบริษัทเช้ากว่าเขาตั้ง ห้าปี ตอนนี้ยังขยันทำงานอยู่ตำแหน่งเล็กๆเลย “อนุสิทธิ์พูดเย็น ชา
ใจของฉันเย็นยะเยือกไปหมด
“อนุสิทธิ์ ตกลงคุณอยากจะเอายังไง ฉันอดต่อไม่ได้จึงตะโกน ออกมา
อนุสิทธิ์ลุกขึ้นมาอย่างกะทันหัน ร่างที่สูงใหญ่ของเขาพาความ กดขี่มาทันที อารมณ์ที่หวั่นไหวของฉัน ในเมื่อราวกับพบเจอ ผนังเลหล็ก เหมือนควันหายไปทันที
“ดูไม่ออกเลยนะ เธออารมณ์ก็โหดด้วย”เขาพลางไปพลาง เดินเข้าใกล้ฉัน
ฉันตื่นเต้นและจับพนักพิงของโซฟาอย่างแรงๆ มองดูเขาเดินถึงข้างหน้าฉัน
“ท่าน ท่านประธานอนุสิทธิ์ ท่านอยากจะทำอะไร”ลักษณะพลัง ของหายหมด ถามไปอย่างติดอ้าง ฉันยังได้ยินเสียง ของฉันที่ไป
“เธอว่า”พูดจบ อนุสิทธิ์ก็ยกแขนขึ้นยังฉัน
เย็นซาลง ถ้า เธอหลบอีก ตำแหน่งรองหัวหน้าฉันจะให้คนอื่นไป
ฉันจึงทำแต่เม้มปากและยืนแข็งอยู่นั่น มองฉัน แล้วลูบมือนำพา ความอ่อนแอทําให้คนหวาดกลัวมา ฉันอดกลืนน้ำลายลงได้
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ