ตอนที่ 4 คุณใส่แบบนี้เหมือนอะไรกัน
ในขณะที่ชุดนอนคลุมหลุดลงบนพื้น ฉันหลับตาอย่างแน่นๆ คิด ว่าเขาคงรีบเข้ามากอดฉันหรือทับฉันลงไป
แต่หลังจากเงียบไปพักหนึ่ง ฉันได้ยินเขาตะโกนอย่าง โมโห ทิพย์สุดา เธอบ้าหรือไง ใครให้เธอใส่แบบนี้ เธอไม่อาย เขาบ้างหรือไง”
“รีบใส่เสื้อขึ้นทันที น่าหมั่นไส้
น่าหมั่นไส้
ฉันลืมตา มองเห็นความรังเกียจชัดๆ ในดวงตาของวินัย ราวกับน้ำเย็นถังหนึ่งราดลงจากหัว ฉันสั่นไปทั้งตัว มองเขาอย่าง ไม่กล้าเชื่อ
“ตัวเอง….”ฉันเดินไปถึงข้างหน้าเขาอย่างไม่ยอมแพ้ ยื่นมือ อยากจะกอดเขา
แต่มือฉันยังไม่ทันได้แตะเสื้อของเขา เขาก็หลบไปข้างหนึ่ง พูดด้วยสีหน้ารังเกียจ “ทิพย์สุดา คุณเป็นภรรยาของฉัน ไม่ใช่ ออกมาขายบริการ คุณใส่เป็นแบบนี้มันดูเหมือนอย่างไรกัน รีบ ถอดลงมาเอาไปทิ้งเลย
สีหน้าและคำพูดของเขา ทำให้ฉันหนาวจนตัวสั่นเทา
รู้จักกันมาสิบกว่าปี วินัยดีต่อฉันมาตลอด คาดไม่ถึงเลยว่าเขาจะว่าฉันแบบนี้
ฉันรู้สึกอาบอายไปนิด แต่ก็พุ่งเข้าข้างหน้าเขาและกอดเขาไว้ อย่างไม่สนใจใยดี “ตัวเอง ฉันเป็นภรรยาของคุณ ฉันใส่แบบนี้ก็ แค่ให้คุณดูเท่านั้นนี่นา”
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมา เหมือนกับในฝัน ทำให้ฉันคาดไม่ถึง
วินัยเตะฉันออกไป ด่าเปิงฉัน ว่าฉันอาบอายขายขี้หน้า ว่า ฉันคิดแต่ผู้ชายมาตลอด เอาแต่คิดเรื่องนั้น ว่าฉันเทียบหญิงขาย บริการก็ไม่ได้ ว่าเขาไม่อยากเอาภรรยาแบบนี้ ให้ฉันไสหัวไป
ฉันเคยเห็นวินัยแบบนี้มาสักที่ไหน
สายตาที่เขามองฉัน ทำให้ฉันรู้สึกว่าตนเองเหมือนเนื้อเน่าที่ เหม็นๆ เขารังเกียจจนแม้แต่ตาเดียวก็ไม่อยากมอง
ฉันคว้าชุดนอนคลุมแล้วลุกขึ้นจากพื้นอย่างสั่นเทา สวมชุด นอนคลุมแล้วป้องหน้าวิ่งออกไป
ฉันคิดว่าเขาต้องมาตามฉัน แต่เขาไม่ได้มา
ลมในฤดูใบไม้ร่วงพัดมาทำให้ฉันตัวสั่นเทา ฉันไม่ได้ใส่ รองเท้า คลุมเสื้อคลุมอาบน้ำ เดินอยู่บนถนนอย่างอกสั่นขวัญ
หาย
น้ำตาโดนลมพัดแห้งไปครั้งแล้วครั้งเล่า ฉันไม่รู้ว่าเรื่องมัน กลายเป็นแบบนี้ได้ยังไง ฉันแค่อยากจะเซอร์ไพรส์ให้เขา ให้ เขามีความแปลกใหม่ในตัวฉัน แต่……
ในขณะเคริบเครื้ม แสงไฟที่สว่างตาก็ส่องมายังฉัน ต่อไป ฉัน ก็ได้ยินเสียงเบรครถที่แสบแก้วหู ก้มหน้ามองรถที่ห่างตัวฉันแค่กี่ชม. ฉันจึงรู้ตัวว่าตนเองเกือบ
โดนรถชน
ต่อมา ในรถก็มีคนหนึ่งลงมา ยื่นมาผลักฉันล้มลงบนพื้นผู้ หญิงบ้า ถ้าอยากฆ่าตัวตายก็ไปกระโดดตึก กระโดดลงทะเลเลย อย่ามากลางถนนชนรถพัวพันคนอื่น ”
ฟังเสียงดุดาลของคนนั้น ฉันนั่งอยู่บนพื้นทั้งกลัว ทั้งตกใจ ทั้ง เสียใจจนกอดหัวร้องไห้ออกมา
ถ้าฉันไม่ได้ฟังข้อเสนอของเพ็ญแขละก็ วินัยก็ไม่โมโห ฉันก็ไม่ ต้องเดินอยู่บนถนน แถมยังเกือบโดนรถชนไปด้วย
ยิ่งคิดยิ่งเศร้าใจ ฉันร้องไห้จนควบคุมตัวเองไม่ได้
“เกิดอะไรขึ้น”
เสียงอันสุขุมหนักแน่นดังขึ้นมา เสียงนี้คุ้นนิดๆ
“ประธานอนุสิทธิ์ หญิงบ้าคนนี้อยากฆ่าตัวตาย เกือบพัวพัน ถึงเรา”
ประธานอนุสิทธิ์ ฉันเงยหน้าขึ้นมา แสงไฟรถที่แสบตาสว่าง จนฉันลืมตาไม่ได้ ยิ่งมองไม่ชัดเจนคนนั้น
“เธอนี่หรอ เอาตัวเธอขึ้นรถ
ต่อไปฉันก็ถูกคนลากลุกขึ้นจากพื้นแล้วยัดเข้าไปในรถ
ฉันกอดเสื้อคลุมนอนให้แน่น ขดตัวในที่นั่งข้างหลัง มองดู ผู้ชายที่นั่งข้างหน้าอย่างหวาดกลัว
“ท่าน ท่านประธานอนุสิทธิ์”
อนุสิทธิ์พยักหน้าเล็กน้อย ริมเหล้าแก้วหนึ่งยื่นให้ฉัน
ฉันสั่นเทายื่นมือไปรับ ดื่มไปหมด ในคำเดียว
เหล้าเป็นของดี มันสามารถทำให้ประสาทของคนชาลง ทำให้ ฉันลืมเรื่องคืนนี้ไป ทำให้ฉันลืมสายตาอันเหยียบหยามของวินัย ที่ใช้มองฉัน
เหล้านั้น ดื่มไปแก๊วแล้วแก๊วเล่า แต่ฉันกลับไม่เมา ในสมองยัง จําตอนที่ฉันอาบอายขายขี้หน้าต่อหน้าวินัยอย่างชัดเจน
จับแก้วเหล้านั้น ฉันตะโกนร้องไห้ขึ้นมา
“ทะเลาะกับสามีหรอ”อนุสิทธิ์อ้าปากถาม
ฉันเช็ดน้ำตาและพยักหน้า ในใจรู้สึกน้อยใจเป็นอย่างมาก
“ทำไม” อนุสิทธิ์ถามขึ้นมาอีก
ทำไม ฉันจับผมอย่างปวดใจ รู้สึกมึนงงมาก ความน้อยใจเต็ม ท้องแต่กลับไม่มีที่ที่จะระบายออกมา
ฉันจะไปพูดกับคนแปลกหน้าได้ยังไง ว่าสามีฉันรังเกียจฉัน
และจะพูดกับคนอื่นได้ยังไงว่าสามีฉันไม่อยากแตะต้องฉัน ดังนั้น ฉันที่แต่งงานมาหนึ่งปี ยังเป็นสาวพรหมจารี แต่ก็ไม่รู้ความกล้าที่มาจากไหน ฉันเงยหน้า หลับตาให้สนิทใช้มือที่สั่นเทาแกะสายที่รัดเสื้อคลุมอยู่ แล้วถอดลงมา
“ทิพย์สุดา”ฉันได้ยินเสียงสูบหายใจของอนุสิทธิ์
ฉันไม่รู้ว่าในสายตาคนอื่น รูปร่างฉันมันเป็นยังไง แม้จะรู้สึก อาบอาย แต่ฉันก็กัดฟันอดทนไว้
“ท่านประธานอนุสิทธิ์ ท่านรู้สึกเป็นยังไง รูปร่างฉันยังพอ ได้ไหม ฉันหลับตาสนิท ถามอย่างติดอ่าง
จากอายุสิบสามถึงยี่สิบสี่ ในชีวิตฉันมีแต่วินัยเป็นผู้ชายคน เดียวเท่านั้น ฉันต้องการผู้ชายคนอื่นให้คำตอบให้ฉัน ว่าฉัน เหมือนที่วินัยบอกจริงๆไหม เป็นผู้หญิงที่ทำให้คนอื่นรู้สึกหมั่นไส้
ทันใดนั้น กลิ่นหญ้าจางๆนั้นบุกเขาจมูกของฉัน
ฉันลืมตาด้วยความประหลาดใจ พบว่าอนุสิทธิ์เข้าใกล้ตัวฉัน มากไม่รู้ตอนไหน
“ท่าน ท่าน ท่านประธานอนุสิทธิ์
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ