ตอนที่ 9 การกลับมาของเด็กน้อยน่ารัก
5ปีต่อมาในสนามบิน
คนหนึ่ง โตคนหนึ่งเล็กปรากฏตัวอยู่ในสนามบินของผู้โดยสาร ขาเข้า
ชุดสูทสีขาวใส่สบายทั้งๆที่แต่งตัวเป็นทางการแต่พอสวมไป บนตัวของหลิวเซียนเซียนแล้วก็เต็มไปด้วยเสน่ห์ทั้งน่ารักและ สวยหวาน
เด็กชายตัวน้อยๆที่เดินอยู่ข้างเธอก็น่ารักเหมือนอย่างกับ ตุ๊กตายังแต่งตัวธีมเดียวกัน
คู่แม่ลูก
หรือว่าจะเป็นคู่พี่น้อง
หลิวเซี้ยวหนิงเดินลากกระเป๋าเดินทาง ใบเล็กเหมือนเทวดา น้อยที่กำลังเดินอยู่เมื่อเทียบกับหลิวเซียนเซียนแล้วน่าดึงดูดทั้ง
“าวเด็กน้อยคนนั้นช่างน่ารักจริงๆ พอเห็นเขาฉันถึงกับอยาก
มีลูกคนที่สองเลย”
“มีก็กลัวว่าลูกคนที่สองนั้นจะเหมือนกับคนแรกเสียใจแน่
เธอ”
“อยากจะไปถามซะจริงๆว่าพ่อแม่ของเขานั้นคลอดเขาออกมายังไงทําไมถึงได้น่ารักขนาดนี้”
“ยังจะต้องถามอีกหรอคงจะต้องเป็นเพราะพื้นฐานที่ดีพ่อแม่ ของลูกเขาหน้าตาดี
“อืมหน้าตาพี่สาวของเขาก็สวยดีเห็นที่คนบ้านนั้นคงจะดูดีกัน ทั้งบ้านน่าอิจฉาจัง”
หลิวเสี้ยวหนึ่งที่ลากกระเป๋าเดินทางอยู่ก็หยุกชะงักหันหัวไป พร้อมท่าทางเท่ๆมองไปที่กลุ่มผู้หญิงที่กำลังซุบซิบเรื่องของเขา กับม้าเธอไม่ใช่พี่สาวของผม
ถึงแม้ว่าจะเรียกพี่สาวซึ่งก็แปลว่าหลิวเซียนเซียนนั้นยังสาว มันก็เป็นเรื่องดีแต่ว่าถ้าเรียกไม่ถูกมันก็ไม่ดี
“ถ้างั้นเธอก็คือ…….”ผู้หญิงสองคนนั้นถามกลับด้วยความ อยากรู้คงจะไม่ใช่แม่ลูกหรอกมั้งผู้หญิงคนนั้นดูยังไงก็ยังวัยรุ่น อยู่เลย
เป็นไปไม่ได้
“ผมไม่บอกคุณหรอก” หลิวเซียวหนิงเกาบนหัวเขาไปมาพร้อม ลากกระเป๋าเดินทางแล้วรีบตามหลิวเซียนเซียนไปแป๊ปเดียวก็ ออกไปจากในสนามบิน
หลิวเซียนเซียนยกกระเป๋าเดินทางขึ้นไปไว้ตรงหลังรถหลิว เสี้ยวหนิงก็ยกกระเป๋าตัวเองขึ้นมาเขย่งปลายเท้าแล้วโยนกระ เป๋าเข้าไป “มาเรียบร้อยครับพวกเราไปกันครับ
หลิวเซียนเซียนลูบหัวลูกชายเอาด้วยความรักจูงมือเล็กๆของเขาเดินเข้าไปนั่งรถแท็กซี่
“มหาวิทยาลัย เธอแจ้งที่อยู่ของมหาวิทยาลัยไป
รถแท็คซี่เริ่มขับเคลื่อนออกไปรถไมบัดสีดำคันหลังก็ขับเข้า มาจอด
ลี่หลินเย่เดินลงจากรถสายตาเหลือบมองไปที่รถแท็คซี่นั้น เขาคงตาฝาดไปใช่ไหมที่รู้สึกว่าผู้หญิงที่เพิ่งขึ้นรถแท็กซี่ไปนั้น เหมือนเป็นคนเดียวกับผู้หญิง ในเมื่อ5ปีก่อนที่เขาเคยจับเธอไป ส่งตำรวจ
ไม่ใช่ว่าเธอนั้นออกไปจากเมืองแล้วไม่ใช่หรอ? กลับมาครั้งนี้หรือว่ามีแผนอะไรจะมายุ่งกับน้องชายของเขา
อีก?
“คุณและmarkกำลังจะไปแล้วนะครับ”ลั่วเพิ่งเข้ามาบอกไม่รู้ อะไรเลยพูดเตือนลี่หลินเยอีกครั้ง
ลี่หลินเยถึงค่อยเร่งฝีเท้าเดินเข้าไปในสนามบิน
รถแท็คซี่ที่หลิวเซียนเซียนนั่งมาก็จอดตรงหน้าประตูที่ มหาวิทยาลัย
“หนิงหนิงไปนั่งเล่นบนพื้นหญ้านั้นก่อนเดี๋ยวม้าไปโทรศัพท์ เรียกคนมารับพวกเราเข้าไปกันอาจจะต้องรออีกสักพัก มหาวิทยาลัย ใหญ่มากขับรถยังต้องวนอยู่นานถ้าเดินหาตาม หาคนนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึง
คนที่จำทางไม่เก่งอย่างหลิวเซียนเซียนนั้นไม่รู้จะเข้าไป อย่างไรด้วยซ้ำจึงได้แค่โทรศัพท์ขอความช่วยเหลือ
ยืนรออยู่ที่หน้าประตูใหญ่ของมหาวิทยาลัย ในใจเธอเต็มไป ด้วยความโศกเศร้า
5ปีก่อนเธอนั้นอยากจะเป็นส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัย แต่ สุดท้ายก็พลาดโอกาสนั้นไป
แต่พอหันไปมองหลิวเสี้ยวหนึ่งเธอก็ไม่รู้สึกผิดหวัง
ถึงแม้ตอนนั้นไม่ได้เข้ามหาวิทยาลัย แต่ตอนนี้เธอก็สามารถ มาชดเชยโอกาสเมื่อ5ปีก่อนที่เธอพลาดไปให้เอากลับคืนมา
มหาวิทยาลัย เธอกลับมาแล้ว
เพียงแค่ว่าเธอไม่สามารถเป็นนักศึกษาปีหนึ่งอีกแล้วแต่เป็น
นักศึกษาปริญญาโท
ไม่กี่นาทีผ่านไปรถรับส่งสีขาวของทางมหาลัยขับเข้ามาผู้ชาย คนขับรถนั้นก็เห็นสองคนแม่ลูกยืนอยู่แต่ไกลและยังเห็นสายตาที่ เพ่งเล็งไปที่สองคนนั้นจากที่ไกลและกำลังมุ่งหน้าเข้ามารีบร้อน จอดรถไว้ข้างๆหลิวเซียนเซียน”หลิวเซียนเซียนใช่ไหม?”
“คุณคือลู่สาวหลีใช่ไหม?”
ลู่สาวหลียกกระเป๋าเดินทางของเธอขึ้นรถ”ยิ้มคนนี้คือ……. จ้องมองไปที่เด็กน้อยชนหลิวเสี้ยวหนึ่งซึ่งกำลังวิ่งเข้ามาทางนี้ สาวหลีตะลึงเล็กน้อย
…..หลวเยวหนิงพูดถึงตรงนี้ก็ต้องหยุดชะงักไป “เธอคือแม่…… เพราะว่าเขาได้รับแววตาตักเตือนมาจากทางหลิวเซียนเซียน
ไหนพูดกันแล้วไงว่าถ้าอยู่ในมหาลัยนี้จะต้องเรียกพี่สาวเขา เป็นผู้ชายลูกผู้ชายรับปากแล้วก็ต้องทำให้ได้ เธอคือลูกสาวของ
แม่พี่สาวของผมส่วนผมชื่อหลิวเซี้ยวหนิงครับ”
หลิวเซี้ยวหนิงไม่รีบไม่หนพูดต่อไป
พูดจบหลิวเซี้ยวหนิงบิดหัวหันไปหยีตายิ้มให้หลิวเซียนเซียน
เด็กน้อยนั้นกำลังขอคำชม
เขาฉลาดมากใช่ไหมหล่ะ?
เขาไม่พูดผิดเลยสักนิด
หลิวเซียนเซียนก็ให้รอยยิ้มที่ชมลูกชายของเขา “เด็กดีพวกเรา เข้าไปกันเถอะ”
“หลิวเซียนเซียนน้องชายของเธอก็จะเข้าพักกับเธอใช่ไหม?” สาวหลีนึกถึงสิ่งที่อาจารย์สั่งไว้ให้เขาจัดการทุกอย่างให้กับหลิว เซียนเซียนแต่ว่าเขานึกไม่ถึงว่าหลิวเซียนเซียนนั้นพาเด็กน้อย คนหนึ่งตามมาเข้าเรียนด้วย
นี้มันเป็นเรื่องที่น่าแปลกจริงๆ
ถึงแม้ว่านักศึกษาปริญญาโทจะแต่งงานมีลูกได้แต่ถึงจะมีลูกก็ หยุดเรียนไปแอบคลอดคลอดเสร็จก็เอาให้ผู้ใหญ่ช่วยเลี้ยงดูไม่ เคยเห็นว่ามีใครคนไหนมามาเรียนด้วย
แน่นอนหลิวเซียนเซียนนี้อาจจะเป็นข้อละเว้นเพราะเป็นแค่
น้องชายของเขา
“ผมเป็นเด็กดีนะครับผมจะไม่สร้างความวุ่นวายให้พี่สาว หรอกครับพี่ชายก็วางใจเถอะครับ”หลิวเสี้ยวหนึ่งทำตาโตมอง นั้นทีมองนั่นที่จับนั้นบิดนั้นบรรยากาศรอบๆของที่นี่ก็ไม่เลวก็ ถือว่าเขาก็ชอบ
ในเมื่อเป็นที่ที่หลิวเซียนเซียนจะต้องมาให้ได้ลืม ในเมื่อเขา เป็นคนในครอบครัวคนเดียวของเธอเขาสนับสนุนเธอ
“หนิงหนิงช่างเป็นเด็กดี”สาวหลีพยักหน้าชื่นชมและชอบเด็ก น้อยคนนี้มาก
รถรับส่งสีขาวของมหาลัยจอดอยู่หน้าสวนของตึกเดี่ยว
นี่คือก่อนที่หลิวเซียนเซียนจะกลับประเทศและได้ให้อาจารย์
ช่วยเธอติดต่อไว้ได้
สะอาดเป็นระเบียบก็ไม่เลว
สองแม่ลูกจัดของเสร็จเรียบร้อยฟ้าก็มืดแล้ว
หลิวเสี้ยวหนึ่งที่ยังคงกระตือรือร้น
“มามีผมอยากออกไปเดินเที่ยว” ตั้งแต่เล็กจนโตเขาก็อยู่แต่ที่ ยุโรปถึงแม้ว่าเขาก็เป็นคนหัวเหลืองแต่พอเห็นทั้งโลกนี้เต็มไป ด้วยคนหัวเหลืองก็ยังแอบรู้สึกแปลกประหลาด
ก็คือการนอนหลับบนเครื่องบินหนึ่งตื่นพอลงมาก็มาถึงในโลกที่ไม่คุ้นเคยแล้ว
น่าสนุกจริงๆ
“ไม่ได้นั่งดูการ์ตูนอยู่ที่นี่ม้ามียังมีงานที่ต้องทำพรุ่งนี้ค่อยพา ลูกออกไปดีไหม?”หลิวเซียนเซียนส่ายหัวเธอยุ่งมาก
แต่ถ้าไม่ยุ่งนี้คงจะแย่ถ้าไม่รีบชีวิตความเป็นอยู่ของสองแม่ ลูกนี้ก็คงจะเป็นปัญหา
“ม้าผมออกไปเดินเล่นเองก็ได้ครับผมว่าบรรยากาศที่นี่ก็ไม่ เลวความปลอดภัยก็ดีวางใจเถอะครับผมไม่ได้ซื้อจนให้คนร้าย ลักพาตัวหรอกครับอีกอย่างผมก็มีนาฬิกาส่งสัญญาณจีพีเอ สด้วยนะครับ”หลิวเซี้ยวหนึ่งพูดอยู่ก็ชนาฬิกาที่ใส่ไว้ในข้อมือขึ้น มาโชว์
หลิวเซียนเซียนหลุดหัวเราะแล้วส่ายๆหัวเด็กคนนี้เธอไม่เคย จะเถียงเขาได้เลย
“งั้นต้องเป็นเด็กดีนะอีกครึ่งชั่วโมงต้องกลับมาบ้านนะเดี๋ยว
พรุ่งนี้มาจะหาหนูไปหาอนุบาลเรียน
“พรุ่งนี้ก็จะต้องไปเรียนแล้วหรอครับ? “เด็กน้อยทำปาก สีหน้าไม่ค่อยมีความสุข
“ไม่อยากไปเรียนงั้นเหรอ?”
“ผมอยากจะคุ้นชินกับที่นี่ก่อนมะรืนค่อยไปเรียนอนุบาลได้ ไหมครับ?”พรุ่งนี้เขาอยากจะไปหาคนนั้นที่เป็นแดดดี้ของเขา ก่อนอยากจะสั่งสอนเขาสักหน่อย
แดดดี้ที่ไม่เอามามีก็คือแดดดี้ที่ไม่ดี
แต่ว่าเขาก็แค่อยากเห็นเท่านั้นเอง
“โอเคเอาตามที่หนิงหนิงว่าเลยแต่ว่าพรุ่งนี้จะต้องไปหา อนุบาลไว้ก่อนอย่างนี้วันมะรืนก็จะได้ส่งไปที่นั่นได้ตั้งแต่เช้าเลย เป็นไง?”หลิวเซียนเซียนสีหน้าจริงจังที่กำลังขอความคิดเห็นจาก เด็กน้อยคนนี้
หลิวเซี้ยวหนิงนิ่งเงียบไปสักพักพอคิดได้ว่ายังพอมีเวลาอยู่ หนึ่งวันเขาน่าจะจัดการเรื่องที่เขาอย่างทำได้สำเร็จ ตกลงครับ งั้นก็ตามนี้ครับ”
รีบวิ่งออกไปเด็กออกไปจากห้องไปเล่นที่สวนในมหาลัยแล้ว หลิวเซียนเซียนเปิดเอกสารหนังสือในโทรศัพท์และเริ่มทำงาน
เธอรับงานแปลภาษาเวลานั้นไม่ได้เร่งรีบอะไรแต่เน้นภาษา และคุณภาพของงาน
นี่ก็คือสิ่งที่ทำให้เธอสามารถประทังชีวิตเลี้ยงตัวเธอเองและ หนิงหนิง
อยู่ฝรั่งเศสมาหลายปีนี้ทำให้เธอได้เป็นทั้งภาษาอังกฤษฝรั่ง เศษและภาษาสเปนบางครั้งก็รับงานแปลสด ในงานแค่นี้ก็ สามารถหาค่าใช้จ่ายในบ้านได้แล้ว
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ