Dark Pan อ้อมกอดแห่งแพน

4



4

ปริศนาแห่งเมืองอันห่างไกล

รุ่งเช้าเดินทางมาถึงพร้อมหมอกหนา ดูราวกับผ้าห่มผืน ใหญ่ที่โอบกอดเมืองอาคุระเอาไว้

“ว่าอย่างไรนะ หายไปอย่างลึกลับ!?”

น้ำเสียงประหลาดใจของคุณแม่ทําให้ฝีเท้าเล็กที่ก้าวลง บันไดของเซเวียร์สะดุดกึก “หรือจะแค่หมาจิ้งจอกคาบไป ละมั้ง!?”

คุณพ่อ “เป็นไปไม่ได้หรอก พวกหมาจิ้งจอกกลัวตระกูล นายพรานอย่างบ้านซาซากิจนไม่กล้าเข้าใกล้ น่าจะเป็น ปีศาจทานูกิหรือไม่ก็ปีศาจอื่นเพราะที่นี่มีปีศาจเต็มไป หมด”

ป้ามิโดริโบกมือ “ไม่ใช่ปีศาจทานุกิแน่ค่ะ เพราะตรง ผนังบ้านมีรอยฝ่ามือเปียกน้ำลากเป็นทางยาวลงมาจาก เพดานด้วย อาจเป็นวิญญาณของคนตายก็ได้ที่ชิงศพ กระต่ายพวกนั้นไป

“ผีเหรอคะ” เซเวียร์ขนลุกซู่เมื่อได้ยิน ร่างเล็กในชุดนอน ยืนที่อกลางบันได เธอรักกระต่ายพวกนั้นที่เด็กๆ บ้าน นายพรานฆ่าไปแล้ว แต่ศพของพวกมันหายไหน? “ผี ขโมยกระต่ายไปจริงๆ เหรอคะ”
“โอ๋ๆ ไม่มีอะไรหรอกจ้ะ อาจจะเป็นแค่สัตว์ที่ไหนมาแอบ เอาไปก็ได้” คุณแม่รีบบอก “นี่แน่ะไปเที่ยวในเมืองกันดี กว่า อาจจะมีของเล่นหรือขนมที่เด็กโตเกียวอย่างลูกไม่ เคยเห็นมาก่อนก็ได้นะจ๊ะ”

ช่วงสายวันนั้นคุณพ่อคุณแม่พาเซเวียร์ออกไปทําเรื่อง ย้ายทะเบียนบ้านจากโตเกียวมายังอาคระ สมัครเรียน อนุบาลให้ และทําอีกหลายสิ่งที่จําเป็นสําหรับการย้ายที่ อยู่ใหม่ ก่อนที่ตกบ่ายจะพากันไปเดินเล่นในเมือง

ถึงอาคุระจะไม่ใช่เมืองใหญ่แต่เซเวียร์ชอบที่นี่ ชาวเมือง อัธยาศัยดีและต้อนรับครอบครัวใหม่อย่างอบอุ่นและ เต็มใจ ร้านรวงดูราวกับเมืองในอดีตที่ชวนให้เดินชมอย่าง เพลิดเพลินจนตกเย็น

“อาคุระเป็นเมืองที่น่ารักมากแต่ว่าเงียบจริงๆ คงเพราะ เป็นเมืองเล็กมากละมั้ง” คุณแม่พึมพำ สูดอากาศสดชื่น อย่างสบายใจ

“สวัสดีครับ พวกคุณคือครอบครัวที่มาอยู่ใหม่ใช่ไหม” เมื่อผ่านร้านขายของ ร้านหนึ่งเจ้าของร้านเอ่ยทัก

คุณแม่ “ใช่ค่ะ แต่คุณรู้ได้อย่างไรคะ”

“เมืองเล็กแบบนี้ไม่รู้ไม่ได้หรอกครับ และพวกเราดีใจกัน มากที่มีเพื่อนใหม่มาอยู่ด้วย
คุณลุงพ่อค้าใจดีเดินตรงมาหาเซเวียร์ที่เกาะแน่นบน

หลังพ่อเหมือนหมีโคอาล่า

“สวัสดีครับเจ้าหญิงน้อย ลูกสาวของคุณน่ารักจัง วันนี้ มาซื้ออะไรหรือครับ”

“ดูไปเรื่อยเปื่อยค่ะ” คุณแม่ตอบด้วยรอยยิ้ม “แต่กำลัง อยากได้ขนมกับของเล่นให้ลูกสาวอยู่เหมือนกัน”

“อยากชิมดังโงะสูตรร้อยปีของที่นี่ไหมล่ะครับ ขายแต่ที่ ร้านนี้เท่านั้น” พ่อค้าหยิบดังโงะสองไม้ในตู้ยื่นให้เซเวียร์

ดู

“น่ากินจัง งั้นขอไม้ละสีรวมเป็นห้าไม้นะคะ” คุณแม่ดูจะ อยากกินกว่าเซเวียร์เสียอีก “แล้วก็…

วูบ…!

จู่ๆ สายลมพัดแรง

“นี่จะมืดแล้วหรือ ไวจริง” พ่อค้าสะดุ้งนิดๆ ค้อมหัว “ขอโทษนะครับ ผมคงต้องปิดร้านแล้ว ไม่อยากเป็นคน สุดท้ายแถวนี้”

พลางเร่งรีบหยิบขนมใส่ถุงให้ลูกค้า
“ผมแถมให้หมดนี่เลยครับ ถือเป็นการต้อนรับจากผมก็ แล้วกัน แต่วันนี้ขอตัวก่อน พวกคุณก็ควรรีบกลับเหมือน กัน เดินดีๆ และระวังตัวนะครับ”

คุณพ่อและคุณแม่จึงเอ่ยลา เมื่อลูกค้าลับตาพ่อค้ารีบ เร่งเก็บของเข้าร้าน ปิดประตูลงกลอนแน่นพลางสวมเสื้อ คลุมกันลมก่อนเร่งรุดกลับบ้าน

F…!

ทว่าจู่ๆ ลมแรงกรรโชก กระชากกันสาดผ้าใบหน้าร้าน

ตกลงมาเสียนี่

“แย่จริง แบบนี้จะได้กลับบ้านเมื่อไหร่กันล่ะ” พ่อค้าบ่น อุบ รีบวกกลับมาเก็บกันสาดม้วนแล้วตั้งขึ้น พรุ่งนี้ค่อยปืน ขึ้นใส่ใหม่ก็แล้วกัน

เคร้ง!

แต่พอจะไปไม้ที่ใช้ดันเปิดประตูก็ล้มกลิ้งปลิวไปเสียอีก “อะไรกันนักกันหนาละนี่! ยิ่งกลัวๆ อยู่”

“เปิดร้าน” จู่ๆ เสียงทุ้มเยือกเย็นเสียงหนึ่งเอ่ยสั่ง
“อะจ๊าก!” คนขายสะดุ้งโหยง “นะ…นั่นใคร!”

เงียบ

แอด…

“เหวอ!”

มีแต่ประตูร้านที่เปิดออกเอง

“เมื่อกี้ข้าลั่นกลอนแล้วนี่ แล้วมือล่องหนที่ไหนมาปลด กลอนข้า หรือว่าผะ..ผะ..ผะ..ผะ..ผี…!!

จู่ๆ หมาร้องโหยหวนซะอีก

“จ้าก!”

“ซื้อของหน่อย เร็ว” เสียงทุ้มลึกลับสั่ง ไร้ตัวตน ราวกับ

ดังมาจากหลังคา!

วันซวยอะไรอย่างนี้ เมื่อเช้าเพิ่งได้ข่าวผีขโมยศพ กระต่ายจากบ้านนายพรานอย่างลึกลับ แล้วตอนนี้ยังมา

โดนผีหลอกเองอีก! ผีเนี่ยนะมาซื้อของ!?
“จะ…จะซื้ออะไรขอรับท่านผี”

“ถุงมือ”

“ถะ….ถะ…ถุงมือแบบไหนดี มีหลายขนาดหลายสี

ขอรับ”

แต่ทำไมเขาต้องถามผีด้วยล่ะ! ฮีย! นึกเกลียดตัวเอง เพราะสัญชาตญาณการขายบ้าๆ นี่แท้ๆ !

“จงขายถุงมือเด็กผู้หญิงที่สวยที่สุด เด็กผู้หญิงชอบสี อะไร จงบอกข้า”

ผีช่างถามดีแท้ แต่ทำไมเขาต้องตอบผีด้วยล่ะ

“สะ…สีชมพูขอรับ แน่นอนที่สุด ชะ…เชื่อข้าได้เลย”

วุ้ย! นึกอยากเขกกะโหลกตัวเองที่หัวจะโกรุ่นอยู่แล้วยัง ไม่เลิกขายของอีก “ดะ…เด็กผู้หญิงเห็นต้องกระโดดกอด คนให้แน่ๆ”

“แน่ใจหรือ”

“นะ….แน่ใจสิขอรับ” กลัวจนจะบ้า
“แล้วถ้าเด็กไม่ชอบ?”

“ไม่ชอบร้านผมรับเปลี่ยนหรือคืนขอรับ” ว้าก นี่เขาจะ ชวนผีกลับมาทำไมกัน!!?? “แต่ไม่มีทาง ต้องชอบจนกร็ด แน่ๆ ชะ…เชิญพิจารณา”

มือสั่นกระตุกยกถุงมือขึ้นเหนือหัว คุกเข่าและก้มหน้า ผี ตนนี้ช่างอยู่นานเสียจริง คงจะเฮี้ยนมาก

“เชื่อได้เลยครับ คู่นี้สวยที่สุดในอาคุระแล้ว”

วูบ!

สายลมกรรโชกแรงจนพ่อค้ากลิ้งไปกับพื้น หมาหอนลั่น

“หวา! กะ…กลัวแล้ว กลัวแล้วขอรับ ได้โปรดไว้ชีวิตข้า!”

เงียบ

สายลมหยุดเมื่อลืมตา เหลือแต่เพียงฟ้ามืดที่โรยตัวลง มา พ่อค้าลุกขึ้นมองหาลูกค้าไม่มี

หายไปแล้ว!

มีแต่ถุงมือที่อันตรธานไปจากมือของเขา ทิ้งไว้เพียง เหรียญทองแวววาวบนโต๊ะเบื้องหน้า เหรียญซึ่งมีมูลค่า มากกว่าถุงมือคู่นั้นหลายร้อยหลายพันเท่านัก

“ทะ….ทำไมใจดีจัง ท่านผี…

แต่ก็กลัวอยู่ดี

“ผีหลอก ว้าก!!!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ