Cradle Snatcher คบกับเด็กหนุ่ม

บทที่ 8



บทที่ 8

ไม่เสน่หานคือมาตรฐานของคนหลงทิศ เดินมาถึงทางที่การ จราจรสะดวกสบาย แต่การรับรู้ถึงทิศทางก็ยังเป็นศูนย์

เหยียน ฝางขับรถตามหลังไม่เสบู่หานอย่างช้า รักษาระยะ ห่างสิบเมตรอยู่ตลอด แต่ก็ไม่เรียกเธอให้ขึ้นรถ

โม่เสน่หานรู้ว่าเขาอยู่ด้านหลัง แต่ก็ไม่หันหลังกลับไป เธอ โมโหที่หมู่บ้านที่คนรวยพวกนี้อยู่ใหญ่ขนาดนี้ ใส่ส้นสูงเดินเท้า เจ็บจนจะตายแล้ว แต่ก็ลดฐิถีของตัวเองที่จะเรียกเขาไม่ได้

สุดท้าย โมโหจนทนไม่ไหวแล้ว ถอดรองเท้าส้นสูงเดินเท้า เปล่าไม่รักษาภาพพจน์ตัวเองแล้ว

เดินอยู่ครึ่งชั่วโมงเต็ม ๆ ออกมาจากหมู่บ้านนี้สักที โมเส หานหิวจนท้องร้องจ๊อก ๆ ท้องฟ้าก็มืดสนิทแล้ว เหยียนอี้ฝางที่อยู่บนรถกลั้นหัวเราะไว้ไม่ได้แล้ว ผู้หญิงคนนี้

หัวแข็งพอใช้ได้ ตายก็ไม่มีทางเปิดปากขอความช่วยเหลือ เขาตั้งใจบีบแตรอยู่ข้างหลัง โม่เสน่หานมองตาบน แล้วเดิน ต่อไปข้างหน้า

เหยียนฝางตามขึ้นมา ลดกระจกลงแล้วขับคู่กับเธอ โม่เสว่ หานโมโหแต่ก็ไม่สลัดเขาทิ้ง

เหยียนฝางถามขึ้น “ไม่ขึ้นรถจริง ๆ เหรอ?”
โมเสน่หานกัดฟันตอบกลับ “ลูกชายของประธานเหยียน รถ ของคุณชายบริษัทเหยียนชื่อ ผู้สืบทอดบริษัทรายต่อไป ฉันจะไป กล้านั่งรถนายได้ยังไง!

“เหอะ เธอยังกล้ามีอะไรด้วยเลย จะมีอะไรอีกไม่กล้า?”

“นาย!” โม่เสน่หานโมโหจนหายใจไม่ทัน หยุดเดินแล้วหัน หน้ามามองเขา ส่วนเหยียนฝางก็หยุดเดินหน้ารถ ยิ้มมองเธอ

ทั้งสองคนจ้องตากันสิบวินาทีเต็ม ๆ

เหยียนฝางอดไม่ได้จึงพูดขึ้น “ขึ้นรถเถอะ!ดูจากวิธีการเดิน ของเธอแล้ว เกรงว่าจะต้องเดินจนถึงเที่ยงคืน แต่ประการแรกคือ เธอต้องไม่เดินหลงทาง”

ท้ายที่สุด ไม่เสน่หานอดกลั้นความโกรธไว้แล้วขึ้นรถ ท้องส่ง เสียงร้องจ๊อก ๆ ไม่หยุด ในรถเสียงดังชัดเป็นพิเศษ เธออึดอัดใจ จึงหันหน้าไปทางข้างหน้าต่าง

เหยียนฝางขับรถอยู่เกือบจะครึ่งชั่วโมง สุดท้ายก็จอดรถที่ ประตูร้านอาหารฝรั่งเศส

โม่เสว่หานรีบลงจากรถ จะเดินไปทางฝ่ายตรงข้ามถนน เหยีย นฝางดึงเธอเอาไว้ “ไปไหน?”

โม่เสน่หานฝีมือของเขาให้หลุดออก “ร้านบะหมี่พะโล้เนื้อฝ่าย ตรงข้ามดูแล้วไม่เลว!”

เหยียนฝางสีหน้าเคร่งขรึม
“อ้อ ใช่ คุณชายแบบนายต้องไปร้านอาหารหรูอยู่แล้ว อาหาร ฝรั่งเศสอาหารยุโรปอะไรทำนองนั้น ไม่เป็นไร นายกินอาหารหรู ฝรั่งเศสของนาย ฉันกินบะหมี่พะโล้เนื้อของฉัน ลาก่อน!

โมเสน่หานพูดเยาะเย้ยไม่รู้ร้อนไม่รู้หนาว สะบัดมือของเขา ออกแล้วเดินไปฝ่ายตรงข้าม

เมื่อเข้ามาในร้าน โมเสน่หานหาที่นั่งแล้วนั่งลง “พี่คะ บะหมี่ พะโล้เนื้อชามนึงค่ะ ชามใหญ่นะคะ ขอบคุณค่ะ”

คิดไม่ถึงขณะเธอที่หยิบตะเกียบขึ้น เหยียนฝางก็นั่งลงตรง ข้ามเธอ ใช้คำพูดเหมือนกัน “พี่ครับ บะหมี่พะโล้เนื้อชามนึงครับ ชามใหญ่นะครับ ขอบคุณครับ”

โม่เสว่หาน ” ” เขาสมองฟันเฟือนเหรอ?

เมื่อคิดได้ ก็ตัดสินใจไม่สนใจเขา ทายาทคนรวยพวกนี้แหย่ ไม่ได้ หลบได้รีบหลบ!

โม่เสน่หานก้มหน้ากิน แม้กระทั่งตั้งใจส่งเสียงดังมากออกมา ตั้งใจที่จะสะอิดสะเทือนไอ้ชั่วคุณชายทายาทร่ำรวยคนนี้

“เฮ้ เสว่หาน อี้ฝาง พวกเธอทำไมถึงอยู่ด้วยกันได้?” เสี่ยวจู่ ๆ ก็เข้ามาทักทาย โม่เสบู่หานตกใจจนสำลักจนไออย่างรุนแรง

เหยียนอี้ฝางรีบหยิบแก้วน้ำที่อยู่บนโต๊ะส่งให้เธอ ไม่เสน่หาน รีบรับมาดื่ม

เสียวยักคิ้วขึ้นนิดนึง นั่งลงตรงข้างเหยียนฝาง แกล้งทำ เป็นถามขึ้น “เสบู่หาน เธอบอกว่ามีธุระจึงลางานเดือนนึงไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงได้อยู่ที่นี่กับฝาง……

“แค่ แค่ก……… ………. โม่เหานสำลักอีกครั้ง รีบจิบ น้ำคำนึงแล้วค่อยยังชั่วลง แล้วรีบพูดขึ้น “เสี่ยว เธออย่าเข้าใจ ผิด ฉันกับเขาไม่มีความสัมพันธ์อะไรกันทั้งสิ้น!

“เมื่อคืนเธออยู่บนเตียง ไม่ได้พูดแบบนี้นะ!” เหยียนฝางพูด ประโยคนี้ออกมา ทำให้เสี่ยวตกใจจนถลึงตาโต มองพวกเขา สลับไปมาอย่างคาดไม่ถึง

“นายพูดมั่วอะไร?” โม่เสบู่หานลุกขึ้นยืน ถ้าหากเสี่ยวไม่ได้ มองอยู่ เธออยากจะคว่ำ โต๊ะแล้ว

“หรือว่าไม่ใช่เหรอ? พี่สาว พี่กินพี่ลูบคลำคนอื่นจนหมด เปลือกแล้วก็ทำเป็นไม่รู้จักกัน ท่าทางแบบนี้ไม่ค่อยดีเลยนะ!” เห ยียนฝางยิ้มมุมปาก ตากระพริบระยิบระยับแฝงด้วยการเยาะ เย้ย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ