ปลดล็อกความลับของคุณ

ตอนที่ 5 ผลสอบ



ตอนที่ 5 ผลสอบ

หลินตรวจดูประวัติของฉันหร่านมาก่อนหน้านี้แล้ว

เด็กสาวคนนี้เละเทะสุดๆ ผลการเรียนแย่ที่สุดในโรงเรียน

ตีรันฟันแทงมานับครั้งไม่ถ้วน แถมช่วงเวลาหนึ่งปีที่ว่างไปก็ไม่ ได้มีเหตุอันควร

โรงเรียนอีจงเคร่งครัดกับการสอบเลื่อนชั้นของนักเรียน ในโรงเรียนเป็นอย่างมาก ประวัติการเรียนของฉันหร่านมันแย่ เกินไปจนผู้อำนวยการดึงไม่สามารถรับเธอเข้าเรียนได้

เขารู้ว่าฉันหร่านอาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีนัก แต่ก็ไม่ได้คาด คิดว่าจะแย่ถึงขนาดที่อาจารย์ยังรับไม่ได้

หลินฉีจึงคิดหาโรงเรียนเอกชนที่อื่นให้แทน

แต่ตอนนี้เรื่องซักแปลกๆ

ฉันอวพ่นหัวเราะ ขณะที่หันหน้าไปหาพี่สาว “พี่บอกว่ามี จดหมายรับรองจากอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนงั้นเหรอ

โรงเรียนอีจงเป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียงเกียรติประวัติมา ยาวนาน คนที่สามารถไต่เต้าจนเป็นถึงอาจารย์ใหญ่ได้ ต้อง เป็นคนที่มีอำนาจเยอะทีเดียว

แม้แต่หลินเองก็ยังทำได้เพียงติดต่อผู้อำนวยการยิง
พื้นเพของฉันหร่านไม่ได้เป็นความลับอะไร เด็กผู้หญิงที่ไม่ ได้มีเส้นสายหรือรางวัลอะไรเลยจะรู้จักกับอาจารย์ใหญ่ โรงเรียนดังได้อย่างไรกัน

“ใช่” ฉินหร่านเงยหน้าขึ้นมามองน้อง แล้วตอบห้วนๆ

เธอเอี้ยวตัวไปด้านหลัง แล้วหันไปคว้ากระเป๋าที่ห้อยบน เก้าอี้เพื่อดึงซองจดหมายสีขาวออกมา

“พอได้แล้ว” หนิงฉิงตบโต๊ะแล้วตะโกนออกมา “ใครสอน ให้โกหก ไม่อายตัวเองมั่งหรือไง

ผู้เป็นแม่ทำให้ตัวเองต้องมาขายหน้าเพราะไปขอร้องสามี ให้ช่วยลูกเจ้าปัญหา โดยไม่คิดว่าลูกสาวเธอจะเลวร้ายขนาด

ลูกคนนี้ยังไร้ค่าเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลยจริงๆ

“คุณแม่ ระวังสุขภาพด้วยค่ะ” ลูกสาวคนเล็กหันหน้าไป หน้าไปทางหนึ่งฉิงและลูบหลังให้ผู้เป็นมารดา เธออีกอักๆก่อน จะพูดขึ้นว่า “บางทีพี่อาจมีจากอาจารย์ใหญ่

หนิงฉิงพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน “พี่ของลูกทำเรื่องไร้สาระ ไว้เยอะ อย่ามาแก้ต่างให้สิ

หญิงผู้นี้ไม่เคยลืมเรื่องที่สามีเก่าเคยขู่ให้รับตัวลูกสาวคน

โตมาเลี้ยง

หลินจิ้นเซวียนกลับมาพอดี เขาสัมผัสได้ถึงบรรยากาศมา ครอบๆ ตัว ชายหนุ่มยิ้มก่อนถามขึ้นว่า “มีเรื่องอะไรกันเหรอครับ”

ฉินอวี่รีบแจ้นไปหาพี่ชายที่แสนดี แล้วเล่าเรื่องให้เขาฟัง

เป็นเรื่องที่ฟังแล้วไม่ค่อยเข้าท่าเลย

ฉันหร่านทานโจ๊กจนหมด แล้วถือจดหมายไว้ในมือ หยิบ กระเป๋า จากนั้นก็ลุกขึ้นยืน “หนูจะไปโรงเรียนแล้ว

เด็กสาวสวมใส่เสื้อสีขาวเรียบๆ หลวมกว่าขนาดตัว

แล้วเดินออกจากบ้านไปโดยไม่รีบเร่ง

พูดง่ายๆ ว่า สมาชิกใหม่คนนี้ไม่สนใจกับเรื่องที่เพิ่งเกิด

ขึ้นในบ้านเลย

หนิงฉิงถูกทิ้งให้นั่งหัวเสียอยู่ตรงนั้น

“พี่เขาจะไปไหนคะ” ฉันอวถาม “ที่จริง แค่ยอมรับผิดก็จบ

ไม่ใช่เรื่องญะ…”

หลินจิ่นเซวียนพูดตัดบทขึ้นมาทันที “พี่เธอไม่ได้โกหก หรอก”

ทั้งหลิน ฉันอและคนอื่นๆ ต่างไม่เข้าใจสิ่งที่เขาพูด

ชายหนุ่มจำตราประทับที่อยู่บนจดหมายได้ ในขณะที่ กำลังนวดขมับตัวเอง “นั่นเป็นตราประทับส่วนตัวของอาจารย์ ใหญ่สวีครับ ผมเคยเห็นก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่ในสภานักเรียน

ทุกคนต่างเงียบพูดไม่ออก
หลินไม่ได้ปริปากพูดอะไร แต่ในใจเขารู้สึกอึ้งกับเรื่องนี้ เช่นกัน

ส่วนหนึ่งจึงรู้สึกช็อก เธอกำลังพยายามทำความเข้าใจสิ่ง

ที่ลูกชายคนโตของบ้านเพิ่งพูดไป ก่อนที่ภรรยาจะอารมณ์เย็นลง ผู้เป็นสามีถามขึ้น “หร่านห

ร่านรู้จักกับอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนอีจงด้วยเหรอ

น้องเล็กของบ้านคว้ากระเป๋า ทำปากมุบมิบๆ ก่อนจะเดิน จากบ้านเพื่อไปเรียน ท่าทางของเธออ่านได้ยาก

**

ณ โรงเรียนอีจง

ในห้องอาจารย์ใหญ่

ชายสูงวัยสวมแว่นคนหนึ่งนั่งอยู่บนโต๊ะ เสื้อผ้าของเขา เนี้ยบทุกกระเบียดนิ้ว ภายใต้กรอบแว่นตาคู่นั้นคือดวงตาของ ชายที่เต็มไปด้วยความสุขุมนุ่มลึก

ผู้หญิงและผู้ชายอีกคนที่ดูมีอายุมากกว่าเธอเล็กน้อยเดิน เข้ามาในห้องอาจารย์ใหญ่ ครูหญิงกล่าวทักทายอย่างสุภาพ “อาจารย์ใหญ่สวี”

คิ้วของเธอพันกันยุ่ง แววตานิ่งไร้ความรู้สึก มุมปากตกลง เล็กน้อย หน้าตาของเธอดูบูดบึง และเห็นได้ชัดว่าเธอเป็นคน ขวานผ่าซาก
นี่คืออาจารย์ประจำชั้นห้องมัธยมสามทับหนึ่ง อาจารย์หล ไอ้ทรง เธอเป็นครูประจำชั้นผู้หญิงคนเดียวในโรงเรียนจง

อาจารย์ใหญ่สวีวางปากกาลง แล้วมองไปยังเด็กผู้หญิงที่ ชันขาขึ้นมาอย่างไร้มารยาท ซึ่งนั่งอยู่ตรงมุมห้อง “อาจารย์หล เด็กนักเรียนที่นั่งอยู่ตรงโน้นนะ ผมอยากให้เธอเข้าเรียนห้อง อาจารย์”

ชายอาวุโสกล่าวสั้นๆ

เป็นเรื่องที่พบเห็นได้ยากที่จะเห็นนักเรียนใหม่เข้ามาเรียน ชั้นมัธยมสาม

หลี่ไอ้ทรงรับข้อมูลมาสองชุด เธอหรี่ตาลงหลังเห็น ประวัติการเรียนของเด็กคนนั้น

“เด็กคนนั้นจะมาเป็นนักเรียนที่นี่เหรอคะ ผลการเรียน แบบนี้จะปล่อยให้เข้ามาเรียนในระบบเราได้เหรอคะ” อาจารย์ หญิงคัดค้านอย่างเต็มที่ “อาจารย์ใหญ่กำลังโยนมาให้ห้อง ดิฉันอยู่นะคะ แม่เด็กนี่จะพานทำบรรยากาศการเรียนในห้อง เสียหมด อาจารย์ใหญ่คงล้อดิฉันเล่นกระมัง

“อาจารย์หลี่ เด็กก็นั่งอยู่ตรงนี้ พูดจาระวังคำพูดด้วย ครับ” ชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่ข้างเธอทำหน้าไม่พอใจ

อาจารย์ชายคนนั้นรูปร่างท้วมเล็กน้อย ดวงตาเขามีขนาด เล็ก ใบหน้าเหมือนจะยิ้มอยู่ตลอดเวลา

นี่คืออาจารย์ประจำชั้นห้องมัธยมสามทับเก้า อาจารย์เกาหยาง

อาจารย์ชายรู้แล้วว่าเด็กที่นั่งตรงมุมห้องคงเป็นเด็กที่พวก เขาพูดถึงอยู่เป็นแน่

การถูกเรียกว่า “” ต่อหน้าไม่ใช่เรื่องที่นัก

“อาจารย์เก่าดูแลเด็กห้องทั่วไปก็พูดง่ายสิคะ ถ้าเราให้ เด็กคนนั้นไปเรียนห้องอาจารย์แทน อาจารย์ยังจะนิ่งเฉยอยู่ ไหมล่ะคะ ถ้าอาจารย์มีเวลาว่างเยอะนักละก็ เอาเวลาไปคิดว่า ทำยังไงนักเรียนอาจารย์ถึงจะเกรดดีขึ้นดีกว่านะคะ

ห้องเรียนของเธอเป็นห้องพิเศษเนื่องจากนักเรียนเป็นเด็ก ท็อปร้อยของโรงเรียน

หล่ไอ้ทรงอยากได้รับรางวัลหนึ่งใน “ครูดีเด่นสิบคนของ มณฑล” และโควตาที่ให้เมืองนี้มีเพียงหนึ่งที่เท่านั้น หากเธอ ต้องรับเด็กที่เสี่ยงต่อการทำให้ผลการเรียนห้องตกแล้ว นั่นจะ ทำให้โอกาสได้รางวัลของเธอลดลงไปอีก

“หากนี่เป็นนักเรียนผม ผมจะดูแลเธอเต็มที่” เกาหยางไม่ เคยชอบวิธีแย่ๆ ของเธอที่เลือกที่รักมักที่ชังเด็กเพราะผลการ

เรียน

อาจารย์ใหญ่ยังคงนั่งนิ่งเงียบ

ชายสูงวัยเหลือบมองไปยังเด็กผู้หญิงที่อยู่ตรงมุม เป็น

นัยว่าจะถามความเห็นเธอ

ฉันหร่านมองกลับมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย
เธอดูนิ่งมากจนทำให้อ่านไม่ออก ถ้าใครเห็นก็คงไม่รู้ถึง ความหัวขบถและดื้อรั้นของเด็กคนนี้

อาจารย์ใหญ่ถอนสายตากลับมา

เขาต้นกรอบแว่นขึ้น และทำท่าทางให้อาจารย์หลีส่ง เอกสารให้อาจารย์ชายแทน “อาจารย์เก่าครับ คุณยินดีรับเด็ก คนนี้เข้าเรียนไหม

เกาหยางอ่านประวัติเด็กสาวผ่านๆ อาจารย์ชายรู้สึกถึง ประกายภายในตัว

เขาอยากจะช่วยเหลือเด็กน้อยผู้หลงทางคนนี้

เมื่อเห็นว่าอาจารย์อีกคนตกลง อาจารย์หลี่จึงถอนหายใจ ด้วยความโล่งอก ฉินหร่านหยิบกระเป๋าแล้วเดินตามอาจารย์ชายไป เป็น

ภาพเงาของเด็กสาวหุ่นเพรียวกับครูหุ่นท้วมนิดๆ ตอนที่ครู

ถาม เธอเพียงตอบเขาสั้นๆ

น้ำเสียงเธอเรียบนิ่ง

ช่างเป็นนักเรียนที่ว่าง่ายและน่าเอ็นดูอะไรอย่างนี้

อาจารย์ชายคิดในใจ

อาจารย์สาวเดินนำหน้าพวกเขา รองเท้าส้นสูงของเธอส่ง เสียงฉับๆ ครูคนนั้นไม่ได้หันกลับมามองเด็กนักเรียนสาว แต่ ชำเลืองมองอาจารย์ชาย แล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเหยียดหยัน “ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหน้าที่การงานอาจาร์ยเกาถึงไม่ก้าวหน้าทั้งที่ทำงานมายี่สิบปี

เมื่อได้ยินอย่างนั้น เกาหยางเพียงส่งยิ้มให้นักเรียนใหม่ “ฉันหร่าน ห้ามยอมแพ้เป็นอันขาด มีเวลาอีกตั้งปี อะไรๆ ก็ เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น

นักเรียนสาวพยักหน้ารับ

“ช” อาจารย์สาวปรายตามองเด็กใหม่โดยแทบจะไม่ปิด

อาการเย้ยเยาะของเธอแม้แต่น้อย

อาจารย์เกาต้องเสียสติไปแล้วแน่ๆ เมื่อคิดได้แบบนั้น หลี่ไอ้ทรงก็รีบเดินเชิดสะบัดหน้าไป

“อาจารย์หลี่ก็เป็นแบบนี้แหละ เธอสอนภาษาอังกฤษให้ ชั้นเรียนเราด้วย เกาหยางขมวดคิ้วมั่น เขาพยายามทำเป็นไม่ ใส่ใจอาจารย์หญิงจอมเหยียดคนนั้น ในขณะที่พาฉันหร่านไป รับชุดนักเรียนกับหนังสือ

เด็กน้อยถามอาจารย์ประจำชั้นว่าห้องพยาบาลอยู่ที่ไหน

พวกเขาทั้งคู่เดินคุยกันไปตลอดทาง

เกาหยางกังวลใจจริงๆ เพราะผลการเรียนของเด็กคนนี้ ต่ำมาก เขานึกไม่ออกเลยว่าจะเริ่มช่วยเธอจากตรงไหนก่อนดี

“เดียวครับ อาจารย์เกา” เสียงอาจารย์ใหญ่ลอยมาจาก ด้านหลัง “ผมมีข้อสอบนี้ด้วย คุณช่วยตรวจให้ผมที


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ