บทที่ 8 ตบหน้าพี่สาวที่เลวบริสุทธิ์
“อาฉือ เธอไม่เป็นไรใช่ไหม? เป็นหวัดดีขึ้นหรือยัง?
จิ๋วอเพิ่งจะออกมา โค้วยู่นเอ๋อก็รีบพุ่งเข้ามาดึงมือของเธอ เอาไว้ ท่าทางเป็นห่วงเธอเหลือเกิน เหมือนกับเมื่อครูไม่มีอะไร เกิดขึ้นอย่างนั้น
ทักษะการเปลี่ยนสีหน้านี้ คงต้องได้รางวัลออสการ์แล้ว
กู้จิ๋วฉือนึกขึ้นได้ทันที ชาติก่อนโค้วยู่นเลือกลายเป็นนักแสดง หญิงที่มีชื่อเสียงจริงๆ ก็มิน่าล่ะเธอถึงหลอกตนเองได้ ต่อหน้า ผู้ชายหลายคนที่กำลังห้อมล้อมอยู่
“ฉันไม่เป็นไร เมื่อกี้แค่รู้สึกหนาวก็เท่านั้น”
กู้จิ๋วคือหลบมือของโค้วนเอื้ออย่างไม่มีพิรุธ ตอบกลับไปนิ่งๆ “พี่เป็นห่วงจะแย่ เมื่อกี้ซาตานก็ด เขาไม่ได้รังแกเธอใช่ไหม?
โค้วยู่นเอ๋อทำเหมือนเอ่ยปากถามอย่างเอาใจใส่ แต่คำที่ใช้ บรรยายฮั่วหมิงเช่อ มีแต่ด้านลบทั้งนั้น
ชาติที่แล้วกู้จิ๋วฉือไม่ได้สังเกตเห็นเลย จริงๆแล้วเริ่มแรกชั่วห มิงเชอไม่ได้ทําเรื่องอะไรมากมายกับเธอเลย ในทางกลับกันเป็น คำพูดของโค้วยู่นเอ๋อ ที่ตั้งใจทำให้เธอมีอคติกับฮั่วหมิงเชื่อ เวลาผ่านไปเนิ่นนานเธอกับฮั่วหมิงเชือก็ยิ่งเข้าใจผิดกันมากขึ้น เรื่อยๆ….ครั้งนี้เธอจะไม่ทำให้ยัยไร้เดียงสาสมปรารถนาหรอก!
“ไม่มีนะ ฉันรู้สึกว่าเขาก็ไม่ได้ขนาดนั้น แล้วยังเอาเสื้อมา คลุมให้ฉันด้วย”
จิ๋ว อพูดๆแล้ว ยังหันข้างตั้งใจให้โค้วนเอ๋อเห็นสูทที่อยู่บน ร่างของตนเอง
โค้วยู่นเอ๋อเบิกตาโพลงทันที ไม่คิดว่าจิ๋วคือจะมีปฏิกิริยา อย่างนี้ นี่เธอไม่ควรจะเชื่อฟังตามคำพูดของตนเองเหรอ เหมือน แต่ก่อนที่ชอบแขวะยั่วหมิงเซ่อน่ะ?
ทันทีที่ได้เห็นสูทผู้ชายตัวนั้นบนร่างของจิ๋วคือ แววตาของ โค้วยู่นเอ๋อก็เปล่งประกายความริษยาออกมาชัดเจน แต่ทว่า เพียงชั่วครู่ เธอก็สลายอารมณ์นั้นไปได้อย่างดี
แต่ชาตินี้กู้จิ๋วถือก็ไม่พลาดแววตาของโค้วยู่นเอ๋ออีกแล้ว เธอ ต้องชื่นชมความสามารถของ โค้วยู่นเอ๋อที่มีความอด งอดทนและ ปิดบังได้อย่างยอดเยี่ยม ชาติก่อนตนเองเป็นคนโง่เง่าไร้เดียงสา อย่างไรก็คิดไม่ได้ว่าโค้วยู่นเอ๋อจะเป็นผู้หญิงสวยใสที่ไม่ ธรรมดาไปได้
ตอนนี้เห็นพี่สาวเสียหน้า อารมณ์ของจิ๋วคือก็เบิกบานมากขึ้น มาทันที
โค้วยู่นเอ๋อ พวกเรายังมีเวลาอีกนาน………
“ยนเอ๋อ อาฉือหมั้นกับหมิงเชื่อแล้ว ต่อไปจะพูดอะไรก็ระวัง หน่อย”
พี่ใหญ่ผู้เขียนที่เงียบมาโดยตลอดกำลังจ้อง โค้วยู่นเอ๋อด้วย สายตาลุ่มลึก น้ำเสียงตักเตือนอยู่ล่างๆ
“ฉันผิดไปแล้วค่ะพี่ใหญ่ ฉันเป็นห่วงอาถือ จึงขาดความ รอบคอบอยู่บ่อยๆ……
โค้วยู่นเอ๋อพลางก้มหน้ายอมรับผิด แล้วก็เบ้าตาแดงขึ้นมา อย่างรวดเร็ว ประจวบกับที่กู้ชิงหยวนและโซวฝูทรงเดินมาจาก ฝั่งตรงข้ามพอดี
เห็นสถานการณ์ตอนนี้ กู้ชิงหยวนจึงขมวดคิ้วมองจิ๋วถือแล้ว
พูดขึ้นอย่างเอือมระอา
“หมั้นแล้วนะยังไม่รู้จักโตอีก รังแกนเอ๋อพี่สาวของแกอีก แล้ว!”
ในใจของจิ๋วฉือโมโหจนเกือบจะกระอักเลือด หลังจากที่เสีย แม่ไป พ่อกู้ชิงหยวนก็เมินเฉย ใส่เธอมาโดยตลอด ตั้งแต่หลัง จากโชวฝูหรงแม่ลูกคู่นี้เข้ามาในตระกูล ในสายตาของชิง หยวน เธอค่อยๆไร้ความหมายลงอย่างรวดเร็ว ตอนนี้แค่เห็น โค้วยู่นเอ๋อร้องไห้ ก็เป็นความผิดของเธอแล้ว
“พ่อครับ! โค้วยู่นเอ๋อร้องไห้เอง เกี่ยวอะไรกับอาฉือด้วย!” พี่รองฉียพูดด้วยความไม่พอใจ
“คิดว่าฉันไม่รู้เหรอ ว่าแกเอาแต่ปกป้องน้องสาวแก ไม่ แยกแยะผิดถูก!”
กู้ชิงหยวนยังคงดึงดันกับความคิดของตนเอง ในสายตาของเขากู้จิ๋วฉือทำได้แต่เรื่องแย่ๆเท่านั้น
“คนที่ไม่แยกแยะผิดถูก น่าจะเป็นพ่อมากกว่าไหม? พ่อรู้หรือ เปล่าว่าเมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?
กู้จิ๋วฉือมองกู้ชิงหยวนอย่างเย็นชา แล้วก็กวาดสายตาชำเลือง มองโชวฝูทรงที่ยืนอยู่กับพ่อด้วยความสนิทสนม
ชาติที่แล้วตอนเธอกำลังจะตายอยู่ในคุก โค้วนเอื้อมา โอ้อวด ใส่เธอด้วยท่าทางของผู้ชนะ
“กู้จิ๋วคือ ไม่เพียงแต่อยู่ถังของเธอที่อยู่ใต้กระโปรงฉัน แม้แต่ พ่อของเธอ ก็เป็นของแม่ฉัน วันนี้เป็นวันแต่งงานของพวกเขา สองคน…..”
นึกถึงคำพูดของโค้วยู่นเอ๋อ มือทั้งสองของจิ๋วฉือที่ตกอยู่ข้าง นําตัว ก็กําหมัดแน่น
เพราะอะไร? กู้ชิงหยวน
บอกเอาไว้ว่าชีวิตนี้จะรักแม่เพียงคนเดียว จะไม่แต่งงานใหม่
ไม่ใช่เหรอ?
“อาถือ พ่อเธอก็เป็นห่วงเธอนะ…….
โชวฝูทรงแสร้งทำเป็นออกมาพูดอย่างใส่ใจอีกแล้วจิ๋วอ ได้สติกลับมา ไม่ปกปิดท่าทางสะอิดสะเอียนเลยสักนิด น้ำเสียง เหน็บแนม
“คุณสองคนจะเข้ามาใกล้ขนาดนี้ทำไม? ใกล้มีเรื่องดีๆเกิดขึ้นแล้วงั้นเหรอ? คิดจะจัดงานแต่งเมื่อไหร่ล่ะ? จะแต่งก่อนฉัน หรือ พร้อมฉันเลยล่ะ?”
อย่างไรก็ตามเธอโดนโค้วยู่นเอ๋อกับแม่ของเธอเข้ามา ประคองเอาไว้ตามอำเภอใจ พูดขนาดนี้กลับเหมาะสมกับภาพ ลักษณ์พาลๆเอาแต่ใจของเธอ
เธอพูดจบ โค้วยู่นเอ๋อที่อยู่ข้างกายก็คลายกังวลลงทันที
ยังคิดอยู่ว่าจิ๋วฉือจะสำนึกตัวได้แล้ว ไม่คิดว่าจะยังเป็นยัยโง่ ไร้สมองอยู่อีก ก่อนหน้านี้เธอคงคิดไปเองสินะ
“เด็กบ้า! แกพูดอะไรของแก!!
พ่อกู้ชิงหยวน โดนยั่วโมโหขึ้นมาทันที เขายกมือขึ้นจะตบเธอ กู้จิ๋วคือก็ดื้อดึงขึ้นอยู่กับที่ ไม่หลบไม่หนี รอให้เขาตบลงมา
“พ่อตบมาเลย! ที่หนูพูดไม่ใช่เรื่องจริงเหรอ? แม่กำลังมอง
จากบนสวรรค์อยู่นะ!”
“พ่อ! พ่อจะทำอะไร? พ่อไม่เคยมีอาถือมาก่อนเลยนะ! ตอนนี้ เพราะคนนอกถึงกับจะตบเธองั้นเหรอ?”
พี่ชายทั้งสองคนปกป้องเธอไว้ที่ด้านหลัง ที่รองฉียโมโหยิ่ง กว่าตำหนิออกมาต่อหน้าทุกคนทันที
“พ่อครับ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับอาถือเลยจริงๆ
กู้เชียนพี่ใหญ่น้ำเสียงนิ่งเฉย ในสายตาก็ไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่พ่อท่า
“ในสายตาของพวกแก พ่อก็เป็นคนอย่างนี้สินะ!”
สุดท้ายแล้วชิงหยวนก็ทำไม่ได้ ค่อยๆลดมือลง แสดงสายตา ที่อ้างว้างออกมา
“ชิงหยวน คุณอย่าโมโหเลยค่ะ อาจอยังเด็กไม่เข้าใจ…….
ในใจของโชวฝูหรงดีใจอยู่เงียบๆ รีบเอ่ยปากแสดงท่าทางมี เมตตาออกมาทันที ไม่คิดว่ายังพูดไม่ทันจบ กู้ชิงหยวนก็โบกๆ มือ พูดอย่างเย็นชา
“ผมเป็นแค่พี่เขยของคุณเท่านั้น ต่อไปอย่าทำให้เด็กๆเข้าใจ ผิดอย่างนี้อีก”
ในใจของโซวฝูทรงโมโหจนจะกระอักเลือด อยากจะจับ จิ่วฉือฉีกปากเหลือเกิน แต่บนใบหน้ายังแสร้งทำท่าทางน่า สงสาร
แต่ทว่าครั้งนี้กู้ชิงหยวนไม่ได้มอง เดินขึ้นรถไปทันที
ในใจของจิ๋วฉือเห็นแล้วอยากจะอาเจียน ไม่แปลกเลยที่โค้ว ยื่นเอ๋อจะแสดงได้เก่งขนาดนี้ ที่แท้ก็ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นนี่เอง “พวกเราก็ไปเถอะ”
กลับมาถึงตระกูลที่คุ้นเคยกู้จิ๋วถือพุ่งเข้าไปในห้องนอนที่รู้จัก กันเป็นอย่างดีทันที ล้มตัวลงนอนบนเตียงอย่างแรง
เธอมุดหัวลงไปในหมอน ในที่สุดก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
เมื่อครู่ เธอกลัวว่าตนเองจะร้องไห้ออกมาต่อหน้าทุกคนอย่าง อดไม่ได้ อย่างนั้นพวกพี่คงรู้สึกว่าแปลกๆ โค้วยู่นเอ๋อก็คง คลางแคลงใจสินะ……..
เพียงแค่ตอนที่ยังตนเองอยู่ในห้องตามลำพัง เธอจึงกล้า ระบายความรู้สึกที่ได้กลับมาอีกครั้งออกมา ทั้งดีใจและสับสนที่ ได้เกิดใหม่
จิ๋วฉือนอนคว่ำอยู่พักใหญ่ แล้วจึงลุกขึ้นมานั่งบนเตียง
พิจารณาห้องนอนของตนเอง
ภาพโครงกระดูกใหญ่ๆที่อยู่บนเพดาน ผ้าปูที่นอนสีดำมีลาย โครงกระดูกที่ด้านล่าง พรมเป็นรูปนิ้วกลาง
“พระเจ้า ชาติที่แล้วฉันเป็นบ้าเหรอ?”
กู้จิ๋วถือเข้าไม่ถึงด้านสรีรวิทยาเลย ลูบๆหน้าอกเกือบจะ อาเจียนออกมาแล้ว
ก๊อกๆๆ……
“คุณอาฉือ อยากดื่มนมไหมคะ?”
ด้านนอกประตูเสียงที่ระมัดระวังของอาดังขึ้น เหมือนกลัวว่า แค่ประโยคเดียวก็จะทำให้เธอโมโหได้
กู้จิ๋วฉือเศร้าใจ เรื่องราวในอดีตที่ผ่านไป…..
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ