บทที่ 5 เสี่ยวจิ๋วเอ๋อ อย่ากลัวฉัน
“ฉันขอประกาศว่าฮั่วหมิงเชื่อและกู้จิ๋วฉือ หมั้นกันอย่างเป็น ทางการ!”
คุณปู่ฮั่วหยิบแหวนคู่หนึ่งที่เตรียมเอาไว้แต่แรกแล้วออกมา ส่ง ให้ทั้งสองคนอย่างจริงจัง
“เชอเอ๋อ ยังไม่สวมให้อาฉืออีก?”
“ครับ”
กู้จิ๋วถือกำลังมองมือของเธอที่ชั่วหมิงเชือยกขึ้นมาอย่างตก ตะลึง ค่อยๆ สวมแหวนที่นิ้วนางด้วยความอ่อนโยน เสียงปรบมือ ที่อบอุ่นจากรอบๆด้านดังขึ้นมาทันที
ชาตินี้ ในที่สุดเธอก็ได้หมั้นกับฮั่วหมิงเชื่ออย่างราบรื่นแล้ว ผู้ใหญ่เห็นด้วย ญาติมิตรและเพื่อนฝูงร่วมอวยพร
ตอนนี้เสียงเพลงที่โรแมนติกดังขึ้น ทุกคนต่างเชิญกันและกัน เข้าสู่ลานเต้นรำ โดยเป็นที่รู้กันกู้จิ๋วคือยังไม่ทันได้สติ บนเอวก็ เร่าร้อนขึ้นมา โดนแรงหนึ่งพาเข้าไปในอ้อมอกของฮั่วหมิงเชื่อ
มือซ้ายของเธอวางอยู่บนไหล่ของเขาเบาๆ ส่วนมือขวาทั้งสิบ นิ้วติดกันแน่น สัมผัสที่อบอุ่นแพร่เข้ามาที่ฝ่ามือ ทำให้เธอ ใจลอยขึ้นมาทันที
ชาติที่แล้วเธอกับฮั่วหมิงเชื่อ ในทุกวินาทีล้วนแต่เป็นสถานการณ์ที่ตึงเครียด ตอนนี้ไม่นึกเลยว่าจะได้กอดกันเต้นรำ เช่นนี้
ความทรงจำแต่ละฉากผุดเข้ามาในหัว ทั้งหมดเป็นสิ่งที่เธอ เอาแต่ทำตัวไม่มีเหตุผลกับฮั่วหมิงเชื่อ ส่วนเขาในช่วงแรกก็ ยอมรับได้ แต่ภายหลังก็เกินจะทนแล้ว ความอดทนพังทลาย
สุดท้ายจึงปล่อยมืออย่างผิดหวัง
“เธอไม่ตั้งใจเลยนะ”
จู่ๆเสียงเย็นยะเยือก ก็ลอยลงมาจากบนหัว วินาทีนั้นทำให้ ซาตานรู้สึกได้ถึงอารมณ์ที่เปลี่ยนไปของเธอ
กู้จิ๋วฉือหวาดกลัวจนติดเป็นนิสัย สัญชาตญาณของร่างกายสั่น ไหวเล็กน้อย
และอากัปกิริยาเล็กน้อย ทำให้บรรยากาศที่กดดันรอบๆ ด้านลดลงอย่างรวดเร็ว เย็นยะเยือกจิ๋วถือเงยหน้ามอง เขา กลายเป็นคนหัวแข็งคนนั้น กลายเป็นผู้ชายที่มาจากนรกอีกแล้ว
จู่ๆเสียงเพลงก็เปลี่ยนเป็นดนตรีแจ๊สที่โยกย้ายช้าๆ แล้วชาย หนุ่มก็ออกแรงอย่างฉับพลัน ดึงเธอเข้ามากระชับแน่นในอ้อม กอด ก้มหน้าพิจารณาเธออย่างถี่ถ้วน
“เธอกำลังกลัวฉัน?”
“จะเป็นไปได้ไง ฉันแค่นึกถึงเรื่องโง่ๆที่ตัวเองเคยทำ รู้สึกว่า ตนเองโง่มากก็เท่านั้น
กู้จิ๋วฉือแก้ตัวด้วยความลนลาน แค่เธอโกหก คำพูดก็พรั่งพรูออกมา
หลังจากโกหกเสร็จเธอก็เสียใจทันที นี่เป็นแค่ลูกไม้ตื้นๆ ตั๋วห มิงเซ่อมองออกตั้งแต่แปดร้อยปีก่อนแล้ว จะปิดบังเขาได้อย่างไร อย่างที่คิด ทั่วร่างของชายหนุ่มมีกลิ่นของความมืดมนปะทุขึ้น มาทันที แม้แต่แขกผู้มีเกียรติที่เต้นรำอยู่รอบๆก็หนีห่างออกไป
จากเขาเป็นเมตรด้วยจิตใต้สำนึก
กู้จิ๋วฉือเห็นแล้ว จึงเป็นฝ่ายเข้าไปกอดชายหนุ่มเอาไว้ หัวแนบ ไปกับหน้าอกของเขา
“ยิ่งพี่ดุ ไม่แน่ว่าฉันจะกลัวพี่จริงๆแล้วนะ!”
พูดออกไปตามความจริง ในใจของจิ๋วฉือจึงเต้นแรง แต่กลิ่น ของความมืดมนที่แทบจะควบคุมไม่ได้เมื่อครู่ ไม่นึกว่าจะหายไป ไม่น้อยเลย
“อย่ากลัวฉัน”
“อั้ม พี่ก็อย่าดุฉันนะ~”
กู้จิ๋วถือเอ่ยปากอย่างนุ่มนวล ในใจก็คลายกังวลลงด้วยเช่น กัน
ไม่นึกว่าแค่ไม่กี่ประโยค ออดอ้อนสักหน่อย ก็ทำให้ซาตานที่ หุนหันพลันแล่น กลายเป็นสัตว์ตัวใหญ่ยักษ์ที่แสนเรื่องไปใน ทันที สงบจนถึงกลับเปลี่ยนเป็นอ่อนโยน
แต่ก่อนทำไมเธอถึงเอาแต่ทะเลาะกับฮั่วหมิงเช่อล่ะ เพื่อเอาชนะเหรอ?
เวลานี้ จู่ๆจิ๋วถือก็รู้สึกได้ถึงสายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธ แค้นและอิจฉาริษยา แต่ก็ไม่ได้น่าสนใจตกอยู่ที่ด้านหลังของ ตนเอง
ไม่ต้องหันไป เธอก็รู้อยู่แล้วว่าสายตานี้เป็นของใคร
โค้วยู่นเอ๋อ เธออิจฉาจนจะบ้าแล้วสินะ?
บทเพลงเต้นรำจบลง แต่ชั่วหมิงเชื่อยังไม่ยอมปล่อยกู้จิ๋วคือ จนกระทั่งจ้านยิงผู้ช่วยคนสนิทของเขาพูดแค่ไม่กี่ประโยคที่ข้างหู เขาจึงยอมปล่อยมือ มีเพียงสายตาที่กำลังสำรวจยังคงไม่ห่างไป จากใบหน้าของเธอ
“พี่สบายใจเถอะ ฉันหมั้นกับพี่แล้ว ไม่หนีแน่นอน!!
กู้จิ๋วฉือทำท่าจะยกมือขึ้นสาบาน แต่ในหัวก็มีฉากฟ้าผ่าเพราะ สาบานเมื่อเช้าปรากฏขึ้นมาทันที จึงเก็บมืออย่างเคอะเขิน
ส่งสายตาให้ซาตานฮั่วหมิงเชื่อขึ้นบันไดไปชั้นสอง แล้วในใจ ของจิ๋วถือก็นับถอยหลังอยู่เงียบๆ
สาม สอง หนึ่ง!
“อาถือ! เธอไม่เป็นไรใช่ไหม !”
เสียงหวานดังขึ้นที่ด้านหลังพอดี อย่างที่คิดเลย โค้วยู่นเอ๋อ ต้องมาภายในสามวินาที มาหาตอนที่ตนเองอยู่ตามลำพังอย่าง แม่นยำ
มุมปากของจิ๋ว อยิ้มเยาะ ตอนที่หันกลับมา กำลังมองได้ว นเอ๋อด้วยสีหน้าสงบนิ่ง
“ฉันจะมีเรื่องอะไรได้?”
โค้วยู่นเอ๋อจับจ้องจิ๋วคือ รู้สึกอยู่ตลอดว่ามีอะไรแปลกๆ เธอ จับมือของจิ๋วถือเอาไว้ด้วยความไม่สบายใจเล็กน้อย พยายาม พิสูจน์ความสนิทสนมของพวกเธอ
“เมื่อกี้พี่ไม่ดีเอง พี่นึกข้ออ้างๆดีมาปิดบังการมาสายของเธอ ไม่ออกจริงๆ นึกออกแค่ข้ออ้างเรื่องเตรียมของขวัญเท่านั้น โชค ดีที่เธอแก้ไขสถานการณ์ได้ เธอคงไม่โทษพี่ใช่ไหม?
โค้วยู่นเอ๋อเอาท่าทางไร้เดียงสาที่เป็นเหมือนลักษณะเด่นของ ตนเองออกมา ดวงตาคู่หนึ่งที่เหมือนจะใสซื่อกำลังมองจิ๋วอ ชาติที่แล้วทุกครั้งที่กู้จิ๋วคือรู้สึกว่ามีอะไรแปลกไป เพียงแค่โค้วยู่ นเอ๋อแสดงสายตาอย่างนี้ออกมา เธอก็เลือกที่จะเชื่ออยู่เสมอ
ในใจของจิ๋วคือกำลังหัวเราะเยาะ ขอโทษที ชีวิตนี้ สติ ปัญญาของฉันทำงานแล้ว
“ฉันไม่โทษพี่อยู่แล้ว ฉันต้องขอบคุณพี่ต่างหากล่ะ!”
กู้จิ๋วถือเอ่ยปากอย่างแฝงไปด้วยความหมาย
เธอไม่ควรรีบเปิดโปงใบหน้าที่แท้จริงของโค้วยู่นเอ๋อ อย่าง นั้นจะง่ายสำหรับโค้วยู่นเอ๋อเกินไป! เธอมีเวลา ความทุกข์ที่เธอ เคยได้รับเมื่อก่อน ความเจ็บปวด โค้วยู่นเอ๋อต้องเอาคืนไป ทั้งหมดไม่ขาดแม้แต่นิดเดียว!
แม้โค้วยู่นเอ๋อจะรู้สึกว่าน้ำเสียงของเธอผิดปกติ แต่ก็ไม่มี เวลามาคิดมาก แล้วยังคงค่อนข้างภูมิอกภูมิใจอีกด้วย
จิ๋วอยังคงโง่เง่าเหมือนเมื่อก่อนสินะ เธอยังคิดว่าจิ๋วคือจะ เปลี่ยนเป็นคนฉลาดแล้วเสียอีก!
“งั้นพี่ก็สบายใจ แค่อาฉือไม่เข้าใจผิดพี่ก็พอ!
โค้วยู่นเอ๋อแสร้งทำเป็นยิ้มอย่างเบิกบาน
จริงๆจิ๋วฉือขี้เกียจจะแสดงละครที่ทั้งฉาวโฉทั้งยืดยาวอย่างนี้ เป็นเพื่อนเธอ จึงถามออกไปด้วยความรำคาญ
“พี่หาฉันมีเรื่องอะไร?
ที่เธอนิสัยแย่และเอาแต่ใจอย่างนี้ก็เป็นเพราะโดนโค้วนเอ อกับแม่ของเธอประจบสอพลอ น้ำเสียงอย่างนี้จึงไม่ทำให้โค้วยู่ นเอ๋อคลางแคลงใจ
อย่างที่คิด โค้วยู่นเอ๋อไม่ใส่ใจท่าทีของเธอเลยสักนิด มองไป รอบๆอย่างระวังตัว แล้วจู่ๆก็เข้ามาใกล้ พูดเบาๆที่ข้างหูของ จิ่วฉือ
“ทั้งวันโทรหาเธอไม่ติดเลย รุ่นพี่เจี้ยร้อนรนจะแย่อยู่แล้ว ตอนนี้เขารอเธออยู่ที่สวนดอกไม้ด้านนอก เธอรีบไปหาเขา เถอะ!”
ได้ยินประโยคนี้กู้จิ๋วฉือก็ยิ้มเยาะอยู่ในใจ คิดไว้แล้วเชียว นี่ โค้วยู่นเอ๋อ แผนแรกไม่สำเร็จก็ยังมีอีกแผนรอเธออยู่ จนกว่าจะ ทําลายเธอได้สําเร็จสินะ!
“อาฉือ! เธอยังลังเลอะไรอยู่อีก? ไม่ง่ายเลยที่จะหลุดพ้นจาก
คนเลวๆอย่างฮั่วหมิงเซ่อ นี่เป็นโอกาสสุดท้ายของเธอแล้วนะ! นี่
เธอไม่อยากอยู่กับรุ่นพี่เจี๊ยด้วยกันตลอดไปเหรอ? แม้แต่ตัว เครื่องบินเขาก็ซื้อไว้เรียบร้อยแล้ว!” เห็นจิ๋วฉือนิ่งเฉย โค้วยู่นเอ๋อจึงยุยงต่อ ถือโอกาสดึงมือของ จิ๋วถือเดินออกไปข้างนอก บังคับพาเธอไปถึงสวนดอกไม้
“พี่จะคอยจับตาดูด้านในแทนเธอเอง!
โค้วยู่นเอ๋อทิ้งท้ายเอาไว้ แล้วรีบหันหลังวิ่งกลับไป
กู้จิ๋วคือกำลังมองสวนดอกไม้มืดๆอย่างเย็นชา ฉากนี้กับเมื่อ ก่อนไม่มีอะไรแตกต่างกันเลยจริงๆ
หลังจากเธอก่อความวุ่นวายในงานหมั้น แต่ภายใต้ความเด็ด
เดี่ยวของคุณปู่ฮั่วกับฮั่วหมิงเช่อ ทั้งสองคนหมั้นกันแล้ว โค้วยู่น
เอ๋อก็เหมือนกับตอนนี้ แสร้งทำเป็นเจตนาดีส่งข่าวให้เธอรู้
จากนั้นเธอก็ดีใจอย่างบ้าคลั่งที่ได้มาเจอเจี้ยถังที่สวน ดอกไม้ เพราะลุ่มหลงจนโงหัวไม่ขึ้น เธอจึงสารภาพกับเจียยู่ถัง ทันที ถึงกับหนีตามเขาไป
แต่เรื่องทั้งหมดนี้ โดนชั่วหมิงเชื่อที่ตามมาทีหลังได้ยินเข้า ตั้งแต่ต้น จึงทำให้เกิดเรื่องที่น่ากลัวตามมา……..วฉือไม่อยาก จะกลับไปนึกถึงอีก
เธอรู้อย่างชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่เพื่อไม่ให้โค้วยู่นเอ๋อ สงสัย เธอจึงปฏิเสธไม่ได้
“อาฉือ! ”
อย่างที่คิด เสียงที่อ่อนโยนสดใสดังขึ้นท่ามกลางความมืด
แต่กลับทำให้จิ๋วฉือขนลุกขนชั้นไปทั่วทั้งร่างกาย คลื่นความ โกรธขนาดใหญ่ทําให้เธอตัวสั่นไหว อดไม่ได้ที่จะเข้าไปฉีกร่างผู้ ชายเลวๆคนนี้เป็นชิ้นๆ
แต่เวลานี้ เธอกลับต้องควบคุมตนเอง ฝนตนเองให้มองไป ตามเสียงอย่างสงบ
“นายมาทําไม?”
หลังจากได้ยินเสียงฝีเท้าที่เร่งรีบ ชายหนุ่มเดินออกมาจาก ความมืด แสงจันทร์อ่อนๆสองมาที่ใบหน้าของเขา ละเอียดอ่อน ราวกับหยก
หน้าตาของเลี้ยถังเหมือนกับชื่อของเขา ต้นยูคาลิปตัสที่ต้าน
ลม ภูมิฐานสง่าผ่าเผย
ไม่อย่างนั้นกู้จิ๋วฉือที่หลงรูปลักษณ์ภายนอกก็คงไม่รักเขา อย่างสุดจิตสุดใจหรอก แต่ทว่าคนบางคน ภายใต้ใบหน้าที่ สวยงาม กลับมีหัวใจที่สกปรก
“อาถือ ฉันรู้ว่าเธอเกลียดฉัน จริงๆแล้วฉันก็เกลียดตัวเอง ทำไมวันนี้ถึงไม่พาเธอหนีไป!” เลี้ยถังแสดงท่าทางเศร้าโศก เสียใจ
“หลังจากที่ฉันเห็นชั่วหมิงเชื่อ ฉันก็โทรหาเธอ อยากจะให้เธอ ย้อนกลับมาที่สนามบินแล้วพวกเราหนีไปด้วยกัน แต่มือถือของเธอ โทรไม่ติดเลย แต่ฉันก็ไม่ได้ยอมแพ้นะ!”
กู้จิ๋วคือกำลังดูการแสดงแย่ๆอย่างเย็นชา อย่างไรเสียด้าน นอกก็ไม่มีไฟ เขามองไม่เห็นสีหน้าท่าทางของเธออยู่แล้ว
เจี้ยถังไม่รู้เลยว่าตอนนี้กู้จิ๋วฉือคิดอย่างนี้ เขายังคงมัวเมาใน ฝีมือการแสดงของตนเองต่อไป กำลังมองจิ๋วฉือด้วยสายตา ที่รักใคร่ลึกซึ้ง
“ฉันรู้ว่าเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นในห้องโถงเมื่อกี้นี้ ไม่ใช่ความสมัคร ใจของเธอใช่ไหม? เธอแกล้งทำดีกับชั่วหมิงเชื่อขนาดนั้น ที่ หลอกทุกคน ก็เพื่อจะให้ทุกคนตายใจ ฉันเตรียมตัวเครื่องบินไว้ แล้ว ตอนนี้พวกเราไปกันเถอะ!!
เขาแสดงคําพูดที่เต็มไปด้วยความเร่าร้อนฮึกเหิมจิ๋วฉือฟัง จนอยากจะอาเจียนเต็มที่แล้ว กำลังจะเอ่ยปาก จู่ๆก็รู้สึกถึงความ เย็นวาบที่ด้านหลัง
ความรู้สึกที่ว่องไวของจิ๋วคือทำให้รู้สึกได้ถึงสายตาเย็นชาที่ กำลังจ้องตนเองอยู่ สายตาเคร่งขรึมที่คุ้นเคยคู่นั้น ที่มืดมิดยิ่ง กว่ายามค่ำคืน………หมิงเชื่อ!
ว่าแล้ว เขายังเป็นเหมือนเมื่อก่อน โดนโค้วยู่นเอ๋อชักจูงมาจน ได้!
เจี้ยถังเห็นเธอไม่ตอบ จึงซักไซ้ด้วยความร้อนรน
“อาฉือ เธอยังลังเลอะไรอีก? เห็นๆอยู่ว่าเธอรักฉันไม่ใช่เห รอ?”
เจี้ยยู่ถังเพิ่งจะพูดประโยคนี้ออกมาจิ๋วถือจึงรู้สึกถึงกลิ่น ความมืดที่ด้านหลังเดือดดาลขึ้นมาทันทีเหมือนกับเพียงเธอพูด ผิดแค่หนึ่งคำ ตนเองก็จะโดนกลืนกินลงไปอย่างถึงที่สุด ไม่เหลือ
ไว้แม้แต่กระดูก! แล้วในตอนนี้ ก็ไม่คิดว่าเจี้ยถังจะรนหาที่ตายเดินเข้ามาหา เธอ ถึงขั้นยื่นมือออกมาจะจูงมือของเธอ……..
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ