ตอนที่ 1
‘DACHA’ บ้านพักนอกเมืองของตระกูลอิสไมนอฟ มาร์คิ เดฟช่างงดงามและให้บรรยากาศน่าอภิรมย์เช่นเดิม ทิว แมกไม้ที่ปลูกเอาไว้ให้ความร่มรื่นได้อย่างสมบูรณ์ สวน ดอกไม้นานาพันธุ์ด้านหลังบ้านไม้สองชั้นกำลังแข่งขัน กันอวดความงดงามของตัวเองแบบไม่ยอมน้อยหน้ากัน ซึ่งภาพที่น่ามองเช่นนี้ก็ทำให้อิงบุญอดระบายยิ้มออกมา อย่างมีความสุขไม่ได้
“สวยจัง…”
“จะนั่งบี้ออยู่ทำไม ฉันไม่เปิดให้หรอกนะประตูรถน่ะ” เสียงกระด้างที่ดังผ่านกระจกรถเข้ามาทำให้อิงบุญต้อง
รีบตื่นจากความฝัน หล่อนสลัดศีรษะน้อยๆ ก่อนจะเพื่อ เรียกสติสตังของตัวเองให้กลับคืนร่างมาโดยเร็วที่สุด เพื่อสู้รบกับพ่อจอมมารร้ายอย่างนิโคไลอีกครั้ง
มือบางดันประตูรถให้เปิดออก และก้าวลงไปด้วยท่าทาง มีจริตมารยา จากนั้นก็จิกตามองคนตัวโตที่ยืนหน้าบูด ราวกับกินยาถ่ายเข้าไปด้วยตาหวานฉ่ำ
“อย่าทำเสียงดุแบบนี้สิคะ เดี๋ยวคุณลุงกับคุณป้าจะ ตกใจเอาได้”
“ดีสิ คุณพ่อกับคุณแม่จะได้รู้ว่าฉันเกลียดเธอแค่ไหน”
อิงบุญหน้าชา แต่ก็ยังฝืนยิ้ม ซ่อนความเจ็บเอาไว้แต่ใน อก ขณะก้าวเท้าเดินตรงเข้าไปหาคนตัวโตที่ยืนกอดอก อยู่ตรงหน้าในระยะใกล้ชิด
“คุณนิคไม่ได้เกลียดอิงหรอก อิงรู้…
นิ้วเรียวจิ้มลงบนแผงอกกว้างเบาๆ ยิ้มอย่างยั่วยวน
“สายตาที่คุณนิคมองอิง… เหมือนจะกลืนเข้าไปทั้งตัว”
นิโคไลผลักร่างอรชรออกห่างตัวอย่างไม่ปรานี
“ทุเรศ หลงตัวเองที่สุด ฉันไม่เคยมองว่าเธอดีไปกว่า กิ้งกือเลยอิงบุญจําเอาไว้!”
คนฟังหน้าชาแล้วชาอีก แต่บอกตัวเองให้ฝืนทน ต้องยิ้ม ยิ้มสู้เข้าไว้ ไม่อย่างนั้นความหวังอันแสนริบหรี่ของหล่อน จะต้องดับวูบลงในทันที
“อิงไม่เชื่อหรอกค่ะ…”
ยังอุตส่าห์ที่จะเดินกลับเข้าไปหาคนตัวโตอีกครั้ง ใน ขณะที่เขาถอยหลังหนีอย่างรังเกียจ
“อิงทั้งสวย… หุ่นก็ดี แถมอิ่มอีกต่างหาก”
นิโคไลถอนใจออกมาอย่างเบื่อหน่าย รําคาญแม่ผู้หญิง ตรงหน้าเป็นที่สุด
“ตั้งแต่เกิดมาฉันยังไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนร่านได้เท่า เธอเลยอิงบุญ อ้อ… ฉันลืมไป เธอมันอีตัวเก่านี่ ก็เลยร่าน มากกว่าผู้หญิงคนอื่น”
คราวนี้เจ็บจนหน้าซีดเผือด หญิงสาวกัดปากแน่น น้ำตา ซึม กลืนน้ำลายลงคอเบาๆ ก่อนจะฝืนยิ้มออกมา
“เอาเป็นว่าเราเข้าไปข้างในกันเถอะค่ะ คุณลุงกับคุณป้า คงกำลังรออยู่”
“ไม่ต้องมาบอก เพราะที่นี่บ้านของพ่อแม่ฉัน ในขณะที่
เธอเป็นแค่คนอาศัย”
หลังจากทิ้งถอยคำที่เต็มไปด้วยความเหยียดหยามใส่ หน้าของหล่อนแล้ว คนตัวโตก็ก้าวยาวๆ หายเข้าไปใน บ้านไม้หลังงามเบื้องหน้าโดยไม่ใยดีหล่อนอีก น้ำตาไม่ รักดีไหลออกมาทันทีที่อยู่ตามลำพัง เจ็บปวดกับวาจา ร้ายกาจของนิโคไลยิ่งนัก รู้หรอกว่าเกลียด รู้หรอกว่า ชิงชัง แต่หล่อนมีความจำเป็นที่จะต้องได้เขามาเป็นสามี มีความจำเป็นจริงๆ
มือบางยกขึ้นป้ายน้ำตาทิ้ง ก่อนจะฝืนยิ้ม และเดินตาม คนใจนําเข้าไปในบ้านไม้หลังงามตรงหน้าด้วยหัวใจที่ แสนจะกลัดหนอง
เข้ามาถึงห้องรับแขกก็พบว่ายูรินั่งอยู่บนโซฟา ในขณะ ที่เกรกอรี่ไม่ได้อยู่ด้วย หล่อนเดาว่ายูริคงไม่รู้เรื่องราว อะไรในอดีตของสามีตัวเองแน่ๆ ถึงยังคงยิ้มอย่างเป็น มิตรให้กับหล่อนแบบนี้ หล่อนเองก็จำต้องยิ้มตอบ ทั้งๆ ที่ เห็นสายตาดุกระด้างของนิโคไลที่นั่งอยู่ข้างๆ กับยูริตวัด มองมา
“นั่งก่อนสิหนูอิง….”
“ขอบคุณค่ะคุณป้า
อิงบุญเดินเข้าไปนั่งโซฟาที่ห่างไกลจากนิโคไลที่สุด แต่ กระนั้นเขาก็ยังไม่เลิกใช้สายตาเหยียดหยามมองหน้า หล่อน
“เอ่อ… แล้วคุณลุงไปไหนซะล่ะคะคุณป้า”
ยูริยังไม่ทันจะได้ตอบ นิโคไลก็ชิงพูดขึ้นมาเสียก่อน
“แหม… มาถึงก็ถามหาคุณพ่อของฉันเลยนะ คงจะคิดถึง กันมาก”
คนฟังหน้าชาเพราะรู้ดีว่านิโคไลกำลังคิดอะไรอยู่ในสม องฉลาดๆ ของเขา ในขณะที่ยูริไม่ได้คิดอะไรแบบนั้น แม้แต่นิดเดียว
“ไปว่าน้องแบบนั้นทำไมล่ะนิค ปากเสียนะเราเดี๋ยวนี้”
“ก็ผมพูดเรื่องจริงนี่ครับคุณแม่ ระวังเถอะสักวันจะถูก แย่งคุณพ่อไป”
นิโคไลพูดออกมาอย่างเหลืออด ขณะที่อิงบุญก้มหน้า นิ่งพยายามซ่อนความอัปยศอดสูเอาไว้ ไม่อยากจะเชื่อ เลยนิโคไลจะคิดแบบนี้กับหล่อนได้
“ไม่เอาน่านิค อย่าพูดเป็นเล่นไป หนูอิงเสียหายนะ”
“แม่นี่มีอะไรให้เสียหายอีกล่ะครับ ผมว่าเสียมาทั้งตัว
แล้ว”
นิโคไลผุดลุกขึ้นยืน ขณะจ้องหน้าหญิงสาวที่ทำเป็นนั่ง นิ่งสงบเสงี่ยมอยู่ข้างมารดาของตัวเองอย่างหมั่นไส้
“ผมไม่เข้าใจเลยว่าทำไมจะต้องบังคับผมให้แต่งงานกับ ผู้หญิงคนนี้ด้วย”
“ก็เพราะว่าพ่อมีเหตุผลยังไงล่ะ”
เสียงของเกรกอรี่ไม่ได้ทําให้นิโคไลมองไปยังร่างของ ชายสูงวัยเพียงคนเดียวเท่านั้น แต่อิงบุญก็เช่นกัน ผู้ชาย คนนี้ไงที่บีบคั้นให้หล่อนต้องขยี้ศักดิ์ศรีของตัวเองเพื่อ แลกกับการได้พบหน้ากับน้องชายอีกครั้ง
“คุณพ่อ”
“อย่าโวยวาย พ่อเบื่อนิสัยเอาแต่ใจของแกเต็มทีแล้วเจ้า
นิค”
เกรกอรี่เดินมาทรุดตัวลงนั่งข้างๆ กับภรรยา ก็โซฟาตัว เดิมที่นิโคไลลุกไปนั่นแหละ
“ใจเย็นๆ ค่ะคุณพี่”
ยูริปลอบสามีด้วยเสียงกังวลใจ หล่อนไม่อยากให้พ่อกับ ลูกทะเลาะกันเลย
“ผมจะเย็นได้ยังไงยูริ ไม่เห็นหรือว่าเจ้านิคมันอาละวาด ยังไง”
“ก็ผมไม่อยากแต่งงานกับผู้หญิงสำส่อนคนนี้นี่ครับ”
นิ้วแกร่งชี้มาที่หน้าของหล่อนอย่างไม่ปรานี อิงบุญกัด ปากแน่น นั่งก้มหน้าน้ำตาไหลพราก ความอัปยศอดสูวิ่งเข้าใส่ร่างอย่างอำมหิต
เกรกอรี่ปรายตามองหน้าอิงบุญชั่วอึดใจ ก่อนจะหันไป จ้องหน้าลูกชายคนเล็กแทน
“แต่แกต้องแต่ง ห้ามขัดคำสั่งของพ่อเด็ดขาด”
“เรื่องอื่นผมทำให้คุณพ่อได้ แต่เรื่องนี้.…….
นิโคไลโกรธจนหน้าแดงก่ำ เพราะเขาเกลียด เกลียดอิง บุญยิ่งนัก ผู้หญิงสารเลว ผู้หญิงแพศยา หล่อนต้องมีแผน ชั่วอยู่ในหัวแน่ๆ ถึงได้ใช้วิธีสกปรกจับเขาแบบนี้
“ผมจะไม่ทำ!”
“แต่แกต้องทำ… ถ้าแกไม่ทำฉันจะขับไล่แกออกจา กอิสไมนอฟ มาร์คิเดฟ แกจะไม่เหลืออะไรติดตัวเลย แม้แต่เหรียญเดียว”
เกรกอรี่ผุดลุกขึ้นยืน จ้องหน้าลูกชายอย่างไม่ยอมแพ้
“คุณพี่คะ อย่าใจร้อนค่ะ ค่อยๆ พูด…”
“คุณอยู่เฉยๆ ยูริ ผมจะจัดการกับไอ้ลูกดื้อด้านคนนี้ด้วย ตัวของผมเอง”
นิโคไลอึ้งไปนานกับคําพูดของบิดา นี่พ่อของเขาหลงผู้ หญิงอย่างอิงบุญมากจนยอมแม้กระทั่งจะตัดขาดจากลูก แท้ๆ อย่างเขาเชียวหรือ
ระยำ!
คนตัวโตกําหมัดแน่น ดวงตาสีเขียวมรกตลุกโชนไปด้วย กองไฟ
“ผมยังยืนยันคำเดิม ผมจะไม่มีทางแต่งงานกับอิงบุญ”
“ถ้าแกทำแบบนั้น แกจะไม่เหลืออะไรติดตัวเลยเจ้านิค”
เกรกอรี่ข่มขู่ และคิดว่าลูกชายจอมเอาแต่ใจจะต้อง หวาดกลัว แต่ผิดคาด ผิดคาดถนัดตา เพราะนิโคไลกลับ แสยะยิ้ม และพูดในสิ่งที่เขาไม่เคยคิดว่าจะได้ยินออกมา
“ผมยอมเป็นยาจก ดีกว่ามีเมียเป็นผู้หญิงสำส่อน”
“เจ้านิค!”
เกรกอรี่และยูริเต็มไปด้วยความตื่นตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน แต่คงไม่มีใครเจ็บปวด ช้ำใจเท่ากับอิงบุญอีกแล้ว ตอนนี้… ตอนนี้รู้อย่างชัดเจนว่าผู้ชายคนนี้เกลียดหล่อนมาก แค่ไหน และไม่ว่าจะทําอะไร จะทำยังไงเขาก็ไม่มีทาง ยอมแต่งงานด้วย ความหวังของหล่อนที่จะได้พบกับน้อง ชายอีกครั้งก็คงจะต้องจางหายไปชั่วนิรันดร์
ทําไมโลกใบนี้ถึงช่างโหดร้ายกับหล่อนนักหนานะ
อิงบุญร่ำไห้ออกมาเงียบๆ อย่างสุดจะกลั้น ในขณะที่เก รกอรี่ผู้เป็นพ่อก็เต็มไปด้วยความเป็นกังวลเพราะกลัวว่า สิ่งที่ตัวเองตั้งใจเอาไว้จะหลุดลอย
“แกพูดจริงหรือเจ้านิค”
“มันคือความจริงที่สุดเท่าที่ผมเคยพูดมาเลยแหละ เพราะถ้าคุณพ่อยังยืนยันว่าจะบังคับให้ผมแต่งงานกับผู้ หญิงมือสองคนนี้อีกล่ะก็ ผมจะเดินออกจากที่นี่ไป และจะ ไม่มีวันหวนกลับมาอีก ไม่ว่าจะเพราะเหตุอะไรก็ตาม”
“ไม่นะนิค อย่าทำแบบนี้นะ แม่ไม่ยอม
ยูริโวยวายเพราะรักลูกชายมาก หล่อนหันไปขอร้อง สามีเสียงสั่น
“คุณพี่คะ ในเมื่อนิคไม่อยากแต่ง เราก็อย่าไปบังคับ จิตใจลูกเลยค่ะ ให้ตาคิลล์แต่งแทนก็ได้ นะคะ อย่าให้นิค ต้องออกไปจากบ้านเลย
คําว่าให้พี่ชายแต่งงานกับอิงบุญแทนเขา ทำให้นิโคไล รู้สึกหัวใจกระตุกขึ้นอย่างรุนแรงอย่างไม่ทราบสาเหตุ
“พี่คิลล์ดีเกินไปที่จะมาสู้รบตบมือกับแม่นี่”
เกรกอรี่หรี่ตามองบุตรชายคนเล็ก มองอย่างรู้ทันใน ความคิด
“ก็ถ้าแกเลือกที่จะปฏิเสธ ฉันก็จะต้องเปลี่ยนเป้าหมาย เป็นเจ้าคิลล์”
นิโคไลอึ้งไปนาน เขาจ้องหน้าบิดา ก่อนจะหรี่ตาแคบ มองแม่ผู้หญิงที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตามองตักตัวเองอยู่ด้วย ความแค้นใจ นี่หล่อนคิดจะกวาดพวกเขาทั้งตระกูลเลย หรือไงนะ
“พี่คิลล์ไม่มีทางยอม
“นั่นมันเป็นเรื่องของฉันที่จะต้องจัดการ ส่วนแก… ฉันให้ เวลาคิดสามวันแล้วค่อยมาให้คําตอบ ถ้ายังยืนกราน เดิม ฉันจะได้ติดต่อเจ้าคิลล์”
กรามแกร่งของนิโคไลขบกันจนแน่น สองมือคําเป็น กำปั้นอยู่ข้างตัว ให้ตายเถอะ ทำไมจะต้องรู้สึกอึดอัดใจ แบบนี้นะ อิงบุญจะเปลี่ยนจากเขาเป็นคิริลก็ไม่เห็นจะเป็น อะไรเลย แต่ทำไมลึกๆ ภายในถึงรู้สึกกระวนกระวายแบบนี้นะ เพราะอะไร
“ผมขอตัวก่อนครับ”
เมื่อรู้ว่าความสามารถในการต่อสู้ลดลงนิโคไลจึงเลือก ที่จะหนีกลับขึ้นห้องพัก เขากระแทกเท้าเดินจากไปอย่าง หงุดหงิด เกรกอรี่มองตามไปด้วยความรู้สึกเบื่อหน่าย ใน ขณะที่อิงบุญเต็มไปด้วยความเจ็บปวดทรมาน
หรือว่าหล่อนควรจะล้มเลิกทุกอย่างลง และเดินจาก ตระกูลนี้ไปเสียที
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ