สุลต่านร้ายขังรัก ชุด ทัณฑ์ทราย

ตอนที่ 1



ตอนที่ 1

ในค่ำคืนที่เงามืดกลืนกินแสงสว่างรอบตัวจนหมดสิ้น แสงไฟจากพุ่มไม้ประดับที่ถูกปลูกเอาไว้เป็นแนวยาวส่อง ให้เห็นสองร่างที่กำลังกอดรัดกันนัวเนีย

ริมฝีปากของคนที่บังเอิญมาพบเห็นเผยอค้างเติ่ง ไม่ต่าง จากดวงตาที่แทบจะถลนออกมากับภาพที่ได้เห็น แม้จะ ไม่ชัดเจนนัก แต่ก็สามารถบอกได้เต็มปากเต็มค่าเลยว่า สองร่างนั้นคือผู้ใด

มือเรียวเล็กขาวสะอาดขององค์หญิง มารีอาห์ บิน ชารีฟ อัล ซานัล น้องสาวแท้ๆ ขององค์สุลต่าน ลูฟาส บิน ชารีฟ อัล ซานัล ผู้ปกครองนคร ฟาดิลาห์อันยิ่งใหญ่ไพศาล ยก ขึ้นปิดปากเพื่อไม่ให้เสียงอุทานด้วยความตกใจเล็ดลอด ออกมา

ฮันนา ลูกสาวคนสวยของอัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้าย กำลังนั่งกอดจูบพลอดรักอยู่กับ ฮูเซ็น พี่ชายบุญธรรม ของตนเอง

ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดเรื่องนี้ขึ้นมาได้ เพราะฮันนาคือว่าที่ องค์สุลตาน่าแห่งนครฟาดิลาห์ ซึ่งจะเข้าพิธีอภิเษกสมรส อันแสนยิ่งใหญ่กับเสด็จพี่ของหล่อนในอีกสองอาทิตย์ ข้างหน้า
องค์หญิงมารีอาห์รีบเร้นตัวห่างออกไปอย่างระมัดระวัง ความตกใจยังคงอัดแน่นอยู่ภายในอก หากค่ำคืนนี้ หล่อนไม่ได้ลอบหนีออกจากตำหนักเพื่อปลอมตัวไป เที่ยวนอกวัง หล่อนก็คงจะไม่บังเอิญมาเห็นเหตุการณ์น่า สะอิดสะเอียนในครั้งนี้ มือขาวสะอาดกำเข้าหากันแน่น และแน่นอนว่าหล่อนจะต้องนำเรื่องที่พบเจอไปบอกพี่ ชายของตนเอง

เรือนร่างสูงใหญ่ราวๆ หกฟุตสามนิ้วก้าวออกมาจากห้อง ประชุม ใบหน้าหล่อจัดเคร่งเครียดไม่ต่างจากทุกครั้ง ดวงตาสีสนิมรียาวหรี่แคบมองเรือนร่างอรชรของน้องสาว ที่มาดักรออยู่ถึงหน้าห้องประชุมด้วยความแคลงใจ

หลังจากที่บิดาและมารดาสิ้นพระชนม์ไปในเวลาไล่เลี่ย กัน ตั้งแต่เขาอายุได้เพียงแค่สิบห้าปี ทิ้งให้เขาต้องแบก รับภาระอันยิ่งใหญ่นั่นก็คือการปกครองนครฟาดิลาห์ และก็ดูแลน้องสาวเพียงคนเดียวนั่นก็คือเจ้าหญิง มารี อาห์ผู้แสนซุกซน

“วันนี้ไม่มีเรื่องสนุกอะไรให้เจ้าทำแล้วหรือ เจ้าถึงได้ดั้น ด้นมาหาพี่ถึงห้องประชุมน่ะ มารีอาห์”

มารีอาห์ฉีกยิ้มประจบประแจง ก่อนจะเดินเข้าไปกอด แขนล่าสันของพี่ชาย “หม่อมฉันคิดถึงเสด็จพี่นี่เพคะ”
“เจ้าอย่ามาปากหวานเลย มีอะไรก็ว่ามา”

“แหม เจ้าพี่น่ะ ทำไมรู้ทันหม่อมฉันเสมอเลยเพคะ” องค์ หญิงแสนงามกล่าวกับพี่ชายด้วยความหมั่นไส้ พร้อมกับ ทําจมูกย่นใส่ “เสด็จพี่ฉลาดในการมองคนเสมอ แต่ว่า ทำไมถึงมองฮันนาไม่ออกเพคะ”

“เจ้าพูดแบบนี้อีกแล้วนะ มารีอาห์” น้ำเสียงของลูฟาส เต็มไปด้วยความเบื่อหน่าย

“ก็หม่อมฉันรู้จักนิสัยนางดียังไงล่ะเพคะ”

คนเป็นพี่ชายดันร่างน้องสาวออกห่าง และจ้องลึกเข้าไป ในดวงตาหวานซึ้งของหญิงสาว “เจ้าน่ะไม่ชอบนาง เพราะเจ้าเป็นเพื่อนกับน้องสาวขี้อิจฉาของนาง อย่าคิดว่า พี่ไม่รู้นะมารีอาห์”

มารีอาห์ได้ยินผู้เป็นพี่ชายกล่าวถึงเพื่อนของตนเองแบบ นั้นก็อดที่จะกางปีกปกป้องไม่ได้ “เสด็จพี่ตรัสแบบนี้ไม่ ถูกต้องนะเพคะ จินนี่ไม่ได้เป็นคนขี้อิจฉาสักหน่อย มีแต่ ถูกพี่สาวขี้ริษยารังแกเสียมากกว่า”

มารีอาห์ทำหน้าไม่พอใจ เพราะหล่อนยังจำรอยฟกช้ำที่ ต้นแขนของจิรัชยาได้เป็นอย่างดี

“เจ้าน่ะหูเบารู้ไหม มารีอาห์”
“เสด็จพนั่นแหละเพคะที่พระกรรณแสนเบาหวิว ฮัน นาทูลอะไรหน่อยก็ทรงหลงเชื่อ ทั้งๆ ที่ทุกคนในวังนี้ก็รู้ กันทั้งนั้นว่า ฮันนาและแม่ของนางกลั่นแกล้งจินนี่กับแม่ เสมอ”

ลูฟาสส่ายหน้าไปมา ชื่อของจิรัชยาทำให้เขารู้สึก หงุดหงิดขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ

ดวงตากลมโตที่เต็มไปด้วยความเศร้าหมองตลอด เวลา กลีบปากอิ่มเต็มที่ดูหนาเกินไปเล็กน้อย ปลายจมูก โด่งเชิด และท่าทางสงบเสงี่ยมเจียมตัวที่หล่อนมักจะ แสดงออกมา ซึ่งเขารู้ทันว่ามันก็แค่ภาพลวงตาเท่านั้น

ฮันนาโชว์รอยเขียวช้ำให้เขาดูหลายครั้ง รอยฟกช้ำที่ ฮันนาบอกว่าถูกจิรัชยารังแก

“พี่ว่าเจ้าถูกหลอกแล้วละ มารีอาห์”

“หม่อมฉันทูลเสด็จพี่ตามความจริงเพคะ ฮันนาน่ะไม่ ได้สวยและแสนดีอย่างที่นางแสดงออกมาให้เจ้าพี่ทอด พระเนตรหรอกเพคะ”

ลูฟาสแค่นยิ้มหยัน “พี่ว่าเพื่อนของเจ้ามากกว่าที่ไม่ได้ แสนดี และน่าสงสารอย่างที่พยายามเสแสร้งแสดงออก มา”
“เสด็จ เพคะ… ทําไมตรัสแบบนี้ล่ะเพคะ”

ลูฟาสกระแทกลมหายใจออกมาแรงๆ อย่างเบื่อหน่าย และยกมือขึ้นเป็นเชิงห้ามปราม

“เจ้าหยุดพูดก่อนเถอะ พี่ปวดหัว”

“แต่ว่า…”

“ถ้าหากการที่เจ้ามาดักรอพี่ที่หน้าห้องประชุมแบบนี้ คือ แค่จะมาใส่ร้ายใส่ไฟฮันนา และก็ยกยอเพื่อนรักของเจ้า ให้พี่ฟังละก็ พี่ไม่ว่างฟังหรอกนะ มารีอาห์

“มันไม่ใช่อย่างนั้นเพคะเสด็จพี่”

“แล้วมันอย่างไหน”

“เอ่อ…” มารีอาห์หยุดพูดเล็กน้อย เพื่อตั้งหลัก หล่อนจะ ต้องเรียบร้อยคำพูดให้ดี เพราะลูฟาสเชื่อมาเสมอว่าฮัน นาเป็นหญิงงามแสนดีราวกับนางเอกในนิยาย

“เจ้ามีอะไรก็ว่ามา แต่ถ้าไม่มี พี่จะไปแล้วนะ”

“เดี๋ยวเพคะเสด็จพี่” มือเล็กของมารีอา รีบคว้าแขน ของพี่ชายเอาไว้
“คือ เมื่อคืน…”

ดวงตาสีสนิมหรี่แคบมองใบหน้าหวานอ่อนเยาว์ของผู้ เป็นน้องสาวนิ่ง อย่างรอคอยฟัง

“หม่อมฉันออกไปนอกวัง…”

“นี่เจ้าหนีออกไปเที่ยวเล่นอีกแล้วหรือ มารีอาห์!”

“เอ่อ หม่อมฉันยอมรับผิดเพคะ เสด็จพี่ค่อยด่าว่าหม่อม ฉันทีหลัง แต่ได้โปรดฟังเรื่องที่หม่อมฉันจะเล่าก่อน”

กรามแกร่งของลูฟาสขบกันแน่น ดวงตาสีสนิมมืดดำ เพราะไม่พอใจกับการกระทำของน้องสาว เขาต้องใช้ ความอดทนสูงเลยทีเดียวกว่าจะยืนนิ่งรอฟังคำพูดต่อไป ของมารีอาห์ได้

“งั้นก็รีบพูดมาให้จบ โดยเร็ว”

มารีอาห์หน้าซีดเผือด คิดอยู่แล้วว่าจะต้องถูกตำหนิ หรือดีไม่ดีอาจจะถูกทำโทษด้วยการกักบริเวณ แต่กระนั้น หล่อนก็ต้องเสี่ยงพูดออกมา เพราะหล่อนไม่ต้องการให้ผู้ เป็นพี่ชายได้ภรรยาเป็นคนไม่ดี มีราคีมลทิน
“คือ… ตอนกลับมา หม่อมฉันพบเห็นชายหญิงคู่หนึ่ง กำลังพลอดรักกันอยู่ท้ายอุทยานเพคะ”

“แล้วเจ้าเห็นไหมว่าใคร”

“เห็นเพคะ” มารีอาห์ช้อนตาขึ้นมองหน้าพี่ชาย “และก็ เห็นชัดเจนเสียด้วย”

“งั้นเจ้าก็บอกพี่มาเสียทีสิว่าใคร เพราะการแสดงความ รักกันในที่สาธารณะเยี่ยงนั้น แม้จะเป็นในยามค่ำคืน แต่ ก็มีความผิดทางอาญา พี่จะได้เรียกคนพวกนั้นมาลงโทษ”

“ฮันนากับพี่ชายบุญธรรมของนาง ฮูเซ็น เพคะ”

สีหน้าของลูฟาสเต็มไปด้วยความตกใจ ก่อนจะเปลี่ยน เป็นความพิศวง

“เจ้ารู้ไหมว่าพูดอะไรออกมา มารีอาห์”

“หม่อมฉันพูดความจริงเพคะ และหม่อมฉันก็ยืนยัน นอน ยันได้เลยว่าเป็นนางและพี่บุญธรรมของนางจริงๆ”

แทนที่พี่ชายของหล่อนจะเชื่อ เขากลับแค่นยิ้มหยัน ก่อนจะโต้ตอบออกมา
“พี่ว่าผู้หญิงที่เจ้าเห็นน่าจะเป็นเพื่อนรักของเจ้ามากกว่า นะ มารีอาห์”

“เสด็จพี่หมายถึงอะไรเพคะ” มารีอาห์ไม่เข้าใจสิ่งที่พึ่ ชายตอบกลับมาเลย

ลูฟาสจ้องหน้าน้องสาว ก่อนจะเค้นเสียงเล็ดลอดไรฟัน ขาวสะอาดออกมา

“นี่เจ้าเป็นเพื่อนรักกับจิรัชยาได้ยังไงกัน ถึงไม่รู้ว่านาง แอบคบหากับพี่ชายบุญธรรมของตัวเอง”

มารีอาห์อ้าปากค้างเติ่ง ก่อนจะส่ายหน้าดิก “ไม่จริง เพคะ จินนี่ไม่ได้คบหากับฮูเซ็น ฮันนาต่างหากล่ะเพคะ หม่อมฉันเห็นกับตาจริงๆ นะเพคะเสด็จพี่

“เลิกทำให้พี่กับฮันนาแตกแยกกันได้แล้วละมารีอาห์” ลูฟาสบอกน้องสาวอย่างอ่อนอกอ่อนใจ “เพราะยังไงซะ ในนครฟาดิลาห์ก็มีเพียงฮันนาคนเดียวที่เหมาะสมที่จะ เป็นองค์สุลตาน่าของพี่ และที่สำคัญ พี่มีใจให้นาง”

“เสด็จพี่เพคะ… แต่นางไม่เหมาะสมกับเสด็จพี่ด้วย ประการทั้งปวงนะเพคะ”

“แล้วเจ้าคิดว่าใครเหมาะสมกับพี่ล่ะ เพื่อนรักของเจ้า อย่างนั้นหรือ มารีอาห์”
“เพคะ จินนี่เป็นคนดี นางสวย และนางก็นิสัยดีมากๆ”

“แต่พี่เกลียดนาง

“เสด็จพี่น่ะ ทำไมทรงตรัสแบบนี้เพคะ” มารีอาห์ทำเสียง

กระเง้ากระงอดใส่พี่ชายอย่างไม่พอใจ แต่ลูฟาสกลับไม่ สนใจจะฟังอะไรอีก เขาโบกมือไล่

“เจ้ากลับตำหนักได้แล้ว อย่ามายุ่งกับเรื่องส่วนตัวของพี่

อีก เพราะถึงยังไง ฮันนาก็คู่ควรกับพี่ที่สุด”

“แต่นางลักลอบคบหากับฮูเซ็นนะเพคะ”

ลูฟาสมองน้องสาวอย่างอ่อนอกอ่อนใจนับครั้งไม่ถ้วน “แล้วเจ้าก็เลิกใส่ร้ายนางได้แล้ว เพราะพี่ไม่เชื่อหรอก”

“เสด็จพี่”

“เจ้าไปได้แล้ว”

มารีอาห์อ้าปากจะพูดต่อ แต่ผู้เป็นพี่ชายตัดสินใจเดิน หนีไปเสียเอง

“เสด็จพี่นะ ทำไมไม่เชื่อกันบ้างเลย” องค์หญิงผู้สูงศักดิ์ ถอนใจแรงๆ อย่างกลัดกลุ้ม
“แล้วนี่เราจะทำยังไงดี ถึงจะช่วยให้เสด็จพี่ไม่หลงกลผู้ หญิงร้ายกาจอย่างฮันนา”

มารีอาห์ก้าวเดินกลับตำหนัก ตลอดทางก็พยายาม ขบคิดหาทางออกให้กับพี่ชาย แต่จนแล้วจนรอดก็ยังคิด ไม่ออก

หล่อนถอนใจออกมาแรงๆ

“คิดไม่ออก ทำยังไงดีนะเนี่ย”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ