สุลต่านร้ายขังรัก ชุด ทัณฑ์ทราย

ตอนที่ 2



ตอนที่ 2

ทะเลทรายโซฟีเรียเป็นทะเลทรายที่ใหญ่ที่สุดในโลก และก็เป็นที่ตั้งของนครกลางทะเลทรายมากมาย แต่ถ้า พูดถึงมหานครอันยิ่งใหญ่ไพศาลก็ต้องมีนครฟาดิลาห์ติด โผไปด้วยเสมอ

นครฟาดิลาห์ คือดินแดนทรายอันยิ่งใหญ่ไพศาลซึ่งตั้ง อยู่ในทิศเหนือของทะเลทรายโซฟีเรีย โดยที่ทิศใต้ของ ทะเลทราย โซฟีเรียคือที่ตั้งของนครซาเรียอันยิ่งใหญ่ ทิศ ตะวันออก และทิศตะวันตก คือที่ตั้งของนครความาร์ และ เฮตินีตามลำดับ

ตามธรรมเนียนที่ถือปฏิบัติสืบทอดกันมาช้านาน องค์ สุลต่านแห่งฟาดิลาห์จะไม่อภิเษกกับผู้หญิงที่ไม่ใช่เชื้อ สายฟาดิลาห์ ดังนั้น ส่วนมากลูกสาวของเสนาอำมาตย์ ชั้นผู้ใหญ่จึงถูกแต่งตั้งขึ้นเป็นองค์สุลตาน่านับครั้งไม่ถ้วน และในสมัยขององค์สุลต่าน ลูฟาส บิน ชารีฟ อัล ซานัล ก็ไม่ต่างไปจากบรรพบุรุษของตนเอง ซึ่งองค์สุลต่านหนุ่ม หล่อได้เลือกสตรีนางผู้เหมาะสมสำหรับตำแหน่งองค์สุล ตาน่าเอาไว้เรียบร้อยแล้ว นั่นก็คือ ฮันนา ลูกสาวของอัคร มหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายนั่นเอง

ฮันนาสาวงามที่ได้รับสมญานามจากชาวฟาดิลาห์ว่าคือ กุหลาบแห่งทะเลทราย หล่อนคือผู้มีวาสนาที่จะได้เป็น องค์สุลตาน่าลำดับต่อไป ซึ่งผู้หญิงทุกคนต่างใฝ่ฝันที่จะ ได้ครอบครองตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้ ฮันนาเองก็ไม่ต่าง จากผู้หญิงพวกนั้นนัก แต่ติดปัญหาอยู่นิดเดียวนั่นก็คือหัวใจของหล่อนเกิดผูกพันกับพี่ชายบุญธรรมที่ เห็นกันมาตั้งแต่สมัยเยาว์วัยเสียแล้ว

“ท่านพ่อเรียกฉันมาพบ มีอะไรกับฉันหรือคะ”

ฮาริสนั่งอยู่บนเก้าอี้นวม มองลูกสาวคนโตที่เขา ประคบประหงมมาอย่างดีด้วยความไม่พอใจนัก

“เมื่อคืนเจ้าออกไปไหนมา

ฮันนาหน้าซีดเผือด แต่เพราะสมองที่ชาญฉลาดของ หล่อน ทำให้แก้ตัวได้อย่างทันท่วงที “ฉันออกไปเดินเล่น น่ะท่านพ่อ”

“ดึกดื่นขนาดนั้น เจ้าออกไปเดินเล่นคนเดียวทําไม มัน อันตรายมาก ไม่รู้หรือไง”

ฮันนาลอบเป่าปากด้วยความโล่งอก เมื่อบิดาไม่ได้สงสัย อะไรอีก นอกจากตำหนิเพราะความเป็นห่วง “ฉันจะไม่ทำ อีกแล้วค่ะท่านพ่อ”

ฮาริสระบายลมหายใจออกมา ชายชราลุกขึ้นจากเก้าอี้ เดินมาหยุดตรงหน้าลูกสาวคนสวย

“เจ้าต้องรักษาเนื้อรักษาตัวให้ดี อีกเพียงไม่นาน เจ้าก็จะได้เป็นใหญ่เคียงคู่กับองค์สุลต่านแล้วนะ”

“ฉันรักษาตัวดีเสมอค่ะท่านพ่อ ท่านไม่ต้องเป็นห่วงฉัน หรอก”

“ดีแล้วละ พ่อไม่อยากให้เกิดความผิดพลาดอะไรขึ้น เพราะถ้าเจ้าได้ขึ้นเป็นองค์สุลตาน่า ตระกูลของพวกเราก็ จะยิ่งใหญ่มากยิ่งขึ้นจนไม่มีใครในฟาดิลาห์กล้าต่อกร”

“ค่ะท่านพ่อ ฉันเข้าใจดีเสมอ”

ฮันนาระบายยิ้มตอบรับบิดา หล่อนรักฮูเซ็น ทั้งรักทั้ง ผูกพัน แต่กับองค์สุลต่านลูฟาส หล่อนก็ไม่อาจจะปล่อย มือจากพระองค์ได้เช่นกัน เพราะพระองค์ทั้งหล่อ ทั้งมี อำนาจ ดังนั้นหล่อนคงต้องเหยียบเรือสองแคมแบบนี้ไป

อีกนาน

“แล้วนี่เจ้าจะออกไปไหนเหรอ ฮันนา”

“ฉันจะไปเข้าเฝ้าองค์สุลต่านน่ะค่ะ จะนำสำรับฝีมือของ ฉันไปถวายพระองค์

ฮาริสส่ายหน้าน้อยๆ มองลูกสาวคนโตที่เกิดจากวีณา เมียเอกอย่างรู้ทัน
“เจ้าทำเอง หรือว่าจินนี่ทำกันแน่”

จิรัชยา หรือว่า จินนี่ หล่อนเป็นลูกสาวอีกคนหนึ่งของ เขา แต่เขาไม่ได้ยกย่องหล่อนเกินกว่าค่าว่าลูกสาวนาง บำเรอ เพราะแม่ของหล่อนคือเมียทาส ที่เขาพลั้งเผลอมี ความสัมพันธ์ด้วยเพียงครั้งเดียวและก็เกิดตั้งท้อง

เขาเลี้ยงดูจิรัชยาไม่ต่างจากทาสในเรือนเบี้ย หล่อน ต้องทำงานหนักไม่ต่างจากคนรับใช้ ซึ่งหน้าที่ที่จิรัชยาได้ รับมอบหมายจากเขา นอกเหนือไปจากการทำงานบ้านก็ คือตามรับใช้ฮันนาลูกสาวคนโปรดของเขานั่นเอง

หลายต่อหลายครั้งที่จิรัชยาหน้าตาบวมเจ่อ ปากแตก เนื้อตัวเขียวช้ำ เพราะถูกฮันนาระบายอารมณ์ใส่ แต่เขา ก็เลือกที่จะเข้าข้างลูกสาวคนโปรดมากกว่าลูกสาวเมีย ทาสอย่างจิรัชยา เพราะฮันนาคือความหวังทุกอย่างของ ตระกูลนั่นเอง

“แหม ท่านพ่อน่ะ ทำไมท่านถึงคิดว่าฉันทำสำรับพวกนี้ ไม่ได้ล่ะคะ”

ฮาริสหัวเราะออกมาอย่างขบขัน “ก็เพราะว่าตั้งแต่เจ้า เกิดมา เจ้าไม่เคยเข้าครัวแม้แต่ครั้งเดียว และอาหารทุก อย่างไม่ว่าจะเป็นของคาวหรือว่าของหวาน รวมถึงผลไม้ ที่แกะสลักอย่างสวยงาม ที่เจ้านำไปถวายองค์สุลต่านก็ เป็นฝีมือของจินนี่ทั้งนั้น”
ฮันนาหน้าตาบูดบึ้ง โมโหบิดาไม่น้อยที่ท่านพูดเหมือน ชื่นชมนังลูกไพร่อย่างจิรัชยา “นี่ท่านพ่อชื่นชมนังจินนี่เห รอคะ”

“เปล่า พ่อก็แค่พูดตามความจริง เจ้าไม่ต้องทําหน้าบูด

หรอก เพราะจินนี่มีหน้าที่ทำค่าสั่งของเจ้าอยู่แล้ว” ใบหน้าหวานที่บูดบึงค่อยผ่อนคลายลงเล็กน้อย แต่ก็ยัง

กระเง้ากระงอดบิดาอยู่

“แล้วท่านพ่ออย่าเอาความนี้ไปแพร่งพรายนะคะ ฉันไม่ ต้องการอับอายคนอื่น โดยเฉพาะองค์สุลต่าน

“พ่อไม่ทําอะไรให้เจ้าเดือดร้อนเยี่ยงนั้นหรอก เจ้าสบาย ใจได้ฮันนา”

“ขอบคุณค่ะท่านพ่อ งั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ”

“ไปเถอะ แล้วอย่าลืมใส่จริตลงไปในกิริยาของเจ้าให้ เยอะๆ นะ องค์สุลต่านจะได้ยิ่งลุ่มหลงเจ้า”

“ท่านพ่อไม่ต้องบอกฉันหรอก เพราะฉันทำประจำอยู่ แล้ว” ฮันนาระบายยิ้มอย่างจองหอง “และตอนนี้พระเนตร ขององค์สุลต่านก็มีแต่เพียงฉันคนเดียวเท่านั้น”
“เก่งมากลูกพ่อ ไม่เสียแรงที่พ่อรักและทุ่มเทกับเจ้า”

ฮันนายิ้มให้บิดา ก่อนจะเดินลงจากเรือนพักมา หัวใจ ลิงโลดไปด้วยความสุข แต่แล้วก็ต้องชะงักเท้ากึก เมื่อ เห็นฮูเซ็นยกมือขึ้นลูบศีรษะของจิรัชยาเบื้องหน้า

หล่อนก๋ามือแน่น ความหึงหวงแล่นพล่านแน่นอก ตอน แรกหล่อนตั้งใจจะเดินเข้าไปอาละวาด แต่ความร้ายกาจ ในอกร้องเตือนให้ทำอย่างอื่นแทน

ฮันนารีบหมุนตัวเดินกลับขึ้นไปบนเรือน และรีบตรงไป หาบิดา แสดงท่าทางร้อนรน

“ทำไมเจ้าหน้าตาตื่นแบบนั้นล่ะ ฮันนา”

“ก็ฉันมีเรื่องบัดสีจะมาบอกท่านพ่อน่ะสิคะ”

“เรื่องอะไรเหรอ”

ฮันนายังคงแสดงทำหน้าตื่นตกใจ ขณะก้าวเข้าไปดึง แขนบิดาให้เดินออกไปยังระเบียง ก่อนจะชี้ไปตรงข้าง หน้า

“นังจินนี่มันอ่อยพี่ฮูเซ็นค่ะ” น้ำเสียงของฮันนาเต็มไป ด้วยความหึงหวง เพราะอะไรที่เป็นของตนเอง หล่อนจะหวงแหนยิ่งกว่าไข่ในหินเสียอีก

“ไหนล่ะ พ่อไม่เห็นเลย…

“นั่นไงคะท่านพ่อ”

ฮาริสมองตามนิ้วเรียวของลูกสาวคนโตไป ก็เห็นว่าฮูเซ็น ลูกชายบุญธรรมที่เขารับมาเลี้ยงตั้งแต่แบเบาะกำลังยืน คุยอยู่กับจิรัชยา

“พ่อก็ไม่เห็นมีอะไรบัดสีสักหน่อย เจ้าคิดมากไปเองหรือ เปล่าฮันนา”

“ฉันไม่ได้คิดมากนะท่านพ่อ แต่ฉันรู้จักนิสัยของนังจิน นี่ดี มันก็นิสัยเหมือนแม่ของมันนั่นแหละ อยู่ใกล้ผู้ชาย คนไหนก็เลื้อยไปทั่ว หรือว่าท่านพ่อลืมเรื่องที่มันแอบหนี ออกไปเที่ยวกับผู้ชายแล้วคะ”

ความจริงจิรัชยาไม่ได้หนีออกไปเที่ยวกับผู้ชายคนไหน หรอก แต่หล่อนต่างหากเป็นคนจัดฉากให้เกิดเรื่องขึ้น แบบนั้น เพื่อทำให้น้องสาวต่างมารดาได้รับความอับอาย และชื่อเสียงเสียหายป่นปี้

“พ่อไม่ลืมหรอกว่าจินนี่นิสัยแย่แค่ไหน แต่นั่นมันฮูเซ็น พี่ชายของจินนี่นะ พ่อคิดว่าคงไม่ใช่อย่างที่เจ้าคิดหรอก ฮันนา”
“พี่ชายที่ไหนกันคะ พี่ฮูเซ็นเป็นแค่พี่ชายบุญธรรม เท่านั้น คนละสายเลือดกัน” ฮันนาโต้เถียงออกมา และนั่น ก็ทำให้ฮาริสอดที่จะมองลูกสาวคนโตด้วยความแคลงใจ ไม่ได้

“นี่เจ้าคิดเสมอหรือว่าฮูเซ็นไม่ใช่พี่ชายของเจ้า ฮันนา”

“ปละ เปล่านะท่านพ่อ ฉันก็แค่… พูดในสิ่งที่ฉันรู้ว่านั่งจิน นี่มันจะคิดเท่านั้นเองค่ะ”

ฮันนารีบแก้ตัว และกลบเกลื่อนด้วยการเร่งเร้าบิดให้ ทําโทษจิรัชยา

“ไม่รู้แหละ ท่านพ่อจะต้องทำโทษมันนะคะ”

“แต่พ่อยังไม่เห็นความผิดของจินนี่เลยนะฮันนา”

“ก็อย่างที่ฉันบอกท่านพ่อยังไงล่ะคะ นังจินนี่มันอ่อยพี่ฮู เซ็น มันร่านมันแรดเหมือนแม่ของมันไม่มีผิด

“เจ้าพอได้แล้ว ยิ่งเจ้าพูดแบบนี้ พ่อก็ยิ่งคิดว่าตัวเองโง่ ที่ ไปเผลอเกลือกกลั้วกับผู้หญิงคนนั้น”

ฮาริสขอร้องลูกสาวด้วยสีหน้าเคร่งเครียด และนั่นก็ทำ ให้ฮันนาถอนใจออกมา แต่ก็ยังไม่หยุดความคิดที่จะทำร้ายจิรัชยา

“นังไพร่ชั้นต่ำพวกนี้ มันอ่อยเก่งค่ะ ท่านพ่อไม่ทัน เล่ห์เหลี่ยมมันหรอก”

“โอเค เราจะไม่พูดถึงเรื่องในอดีตแล้วนะฮันนา”

“ก็ได้ค่ะท่านพ่อ แต่ถ้าท่านพ่อไม่จัดการนังจินนี่ ฉันขอ อนุญาตจัดการมันเองนะเจ้าคะ”

ฮาริสส่ายหน้าไปมา แต่ก็ไม่อยากจะขัดใจลูกสาวคน โปรด “ก็แล้วแต่เจ้าเถอะ แต่อย่าทําให้นางตายในบ้าน ของพ่อก็เป็นพอ”

“ฉันไม่ทำมันตายหรอกเจ้าค่ะ แค่ให้ตายทั้งเป็นก็พอ ฉัน ขอตัวก่อนค่ะท่านพ่อ”

ฮันนาแค่นยิ้มอย่างริษยา ก่อนจะเดินลงไปจากเรือน อีกครั้ง พร้อมกับมุ่งหน้าไปหาจิรัชยาที่ตอนนี้กำลังกวาด ถนนหน้าบ้านพักอยู่ตามลำพังด้วยความโทสะแรงกล้า

“นังจินนี่!”

จิรัชยาสะดุ้งโหยง หันมองพี่สาวต่างมารดาด้วยความสายตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว หล่อนถอยร่นออก ห่าง แต่ฮันนาก็ก้าวตามไปจิกเส้นผมเอาไว้เต็มแรง

“โอ๊ย… พี่ฮันนา ปล่อยฉันเถอะค่ะ ฉันเจ็บ…”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ