บทที่ 07 พบเรื่องอันตราย
“อะไรนะ?” เจนอารีเบิกตากว้าง “ชนคนตายต้องเข้าคุก นะ” คนนี้มันเป็นบ้าอะไรหรือเปล่าเนี่ย?
เบรย์เดน “แล้วทำไมคุณยังไม่เลี้ยวรถล่ะ?”
เจนอารี
คนนี้ไม่ได้เป็นบ้า แต่ร้ายกาจเหลือเกิน
อยากให้เธอเลี้ยวรถทำไมไม่พูดตรงๆ จําเป็นต้องพูด
คําที่ทําให้คนอื่นตกใจแบบนี้หรือไง?
และอีกอย่าง ถ้าไม่ใช่เขามาดึงดูดความสนใจเธอจาก ทางด้านหลังแบบนี้ จากฝีมือการขับรถที่ได้ใบขับขี่มา หลายปีของเธอแค่เลี้ยวรถจะเลี้ยวไม่เป็นหรือไง? เจน อารีขับอ้อมผ่านด้วยความตกใจและความกลัว รถขับ เร็วเกินไปทําให้เธอตื่นเต้นจนมือเหงื่อออก เพราะปกติ เธอแทบจะไม่ค่อยขับรถเลย
“คุณมาขับรถเองได้ไหม พวกเราอย่าเอาชีวิตคนมาล้อ เล่นกันได้ไหม?” เธอไม่อยากตาย ไม่อยากจริงๆ ถึงแม้ ชีวิตเธอตอนนี้จะตกต่ำสุด แต่ยังไม่ถึงขั้นที่อยากตาย
“ขอร้องฉันสิ!” เบรย์เดนเข้าใกล้ ความร้อนรนจากจมูก
ได้พ้นไปที่หน้าเจนอารี
มาแบบนี้อีกแล้ว?
ขออะไรบ้าบอคอแตก!
ในใจเจนอารีทั้งอายทั้งโมโห แต่ก็สูบหายใจเข้าลึกๆ ละพูดอย่างจริงจัง “ฉันคิดว่าคุณกำลังเข้าใจผิดความ สัมพันธ์ระหว่างเราสองคน คืนนั้นอาจจะเกิดเรื่องที่ ไม่มีกาลเทศะแบบนั้น จนทำให้คุณเข้าใจผิดว่าฉันเป็น ผู้หญิงเอาไปเรื่อย แต่ว่าฉันไม่ใช่จริงๆ นั่นมันเป็น ครั้ง……..สรุปก็คือฉันไม่อยากเล่นกับคุณ ถ้าคุณอยาก เล่นก็เชิญไปหาผู้หญิงคนอื่นนะ”
“ครั้งแรก” สองประโยคนี้เจนอารีพูดไม่ออกมา เพราะ ไม่มีคนเชื่อแน่นอน ถึงพูดออกไปก็มีแต่จะทำให้ตัวเอง ขายหน้าเสียเปล่า
“คุณขึ้นบนรถแล้ว ถือว่าเกมเริ่มแล้วล่ะ” เสียงของ เบรย์เดนมีเสน่ห์แต่ก็อันตราย “มีที่ไหนกันที่คุณบอกไม่ อยากเล่นแล้วจะหยุดได้เลยน่ะ?”
เหยียบคันเร่งใต้เท้าจนถึงที่สุด…..….……
สุดท้าย เจนอารีไม่รู้ว่าตัวเองลงจากรถยังไง การชิงรถที่สะเทือนใจแบบนี้เป็นประสบการณ์ที่เธอไม่เคยมี มาก่อน ความกดดันทั้งร่างกายและจิตใจถึงขั้นสูงสุด ทำให้เธอรู้สึกได้ว่าเซลล์บนร่างกายเธอทุกส่วนเหมือนจะ ระเบิดออก
ความตื่นเต้นเกินไปและแรงสั่นสะเทือนทําให้เจนอารี ขาอ่อนหลังจากลงจากรถไปแล้ว แถมยังกระเพาะปั่น ป่วนอีกด้วย
“อ้วก……… เจ.อารีนั่งอยู่ข้างทางมีอาการคลื่นไส้ไปพัก ใหญ่ เธอไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เมื่อวานจนถึงตอนนี้ และก็อ้วกอะไรไม่ออก แต่อาการคลื่นไส้แบบนี้ทำให้คน รู้สึกไม่สบายมาก
เบรย์เดนกอดแขนไว้แล้วพิงที่ประตูรถ ทำหน้าเหมือน จะยิ้มพลางมองไปที่เจนอารีเอาแต่คลื่นไส้ไม่หยุด “คิด ว่าคุณจะเก่งแค่ไหนเชียว ที่แท้ก็แค่นี้เองเหรอ?”
เจนอารีเงยหน้าขึ้นมา ก่อนจะจ้องไปที่ผู้ชายคนนั้นด้วย ความโกรธแค้น “ใช่ ฉันก็ได้แค่นี้เองแหละ รบกวน คราวหลังคุณอย่ามาให้ฉันเจอหน้าอีก คุณมันกากเกิน
ไป” รังแกผู้หญิงถือว่ามีความสามารถอะไรล่ะ?
สีหน้าผู้ชายนั้นเคร่งขึ้นมาทีนที
เบรย์เดนถ่อมตัวลงมาจับหน้าเจนอารี นัยน์ตาสีดำเหล่ มอง สายตาคมกริบที่มีความรุกราน “รู้ไหม? ตอนนี้คุณ ทำให้ฉันรู้สึกสนใจจริงๆ ความหยิ่งในศักดิ์ศรีแบบนี้ฉัน อยากค่อยๆทําร้ายมัน ขั้นตอนแบบนี้น่าจะสนุกดี”
มองดูสายตาคมกริบของผู้ชายคนนั้นที่ราวกับเจอเหยื่อ เจนอารีตัวสั่นขึ้นมา นี่แค่เมาคืนเดียว แต่เธอไปยั่วยุ ผู้ชายอะไรมาเนี่ย?
มาถึงขั้นนี้แล้ว เธอต้องรีบผลักตัวออกมา
เจนอารีสะบัดมือของผู้ชายออกแล้วหัวเราะ คืนนั้น คุณถามฉันว่าอยากเกาะคุณกินหรือเปล่าใช่ไหม? ตอนนี้ ฉันแค่อยากถามคุณว่าคุณไม่กล้าเล่นด้วยใช่ไหม?”
ใบหน้าเบรย์เดนเต็มไปด้วยความเยือกเย็น
เจนอารีพูดต่อ “วันนี้อยู่ๆคุณก็โผล่มาที่โรงเรียนที่ฉัน ทำงานอยู่ งั้นก็หมายความว่าไปสืบหาฉันมาใช่ไหม? คุณผู้ชายคนนี้ พวกเราแค่เคยเล่นด้วยกันครั้งเดียว แต่คุณกลับมายุ่งตามติดฉันแบบนี้ มันดูไร้ค่าเกินไป ขอร้องเถอะ ทุกคนก็โตๆกันแล้ว พบเจอกันก็จากกัน โดยดีได้ไหม?”
หน้าอกเบรย์เดนกระตุกรุนแรง
คำพูดของเจนอารีทั้งดูถูกทั้งหยิ่งยโส เดิมแรกนี่เป็น ประโยคที่เขาชอบพูดเมื่อก่อน แต่ตอนนี้กลับให้ผู้หญิง คนนี้มาพูดแทน แต่ท่าทีกับน้ำเสียงเฉยชายิ่งกว่าอดีต ของเขาอีก
“คุณรอเถอะ สักวันคุณต้องมาขอร้องฉัน” ยังไงเบรย์ เดนก็เป็นคนเย่อหยิ่ง เจนอารีพูดขนาดนี้แล้วเขาก็คงไม่ ไปยุ่งเหยิงตามติดอีก หันหลังขึ้นรถโดยไม่ลังเลและขับ รถไปทันที
เจนอารีรีบถอดหายใจทันที
แต่แค่แป๊บเดียวเธอก็เครียดขึ้นมา เพราะเธอถูกทิ้ง และตอนนี้ข้างหน้าก็ไม่มีหมู่บ้านข้างหลังก็ไม่มีร้าน เธอ ไม่รู้ว่าที่นี่คือที่ไหน
ยังดีที่เธอเอากระเป๋าที่ลินคอล์นคืนมาให้ก่อนหน้านี้ไว้ กับตัว รีบคว้าโทรศัพท์ออกมาแต่ไม่คาดคิดว่าแถวนี้มัน บ้านนอกเกินไป ทำให้ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์
เจนอารีเลยต้องพึ่งความทรงจำแล้วเดินกลับทางเดิม แต่ไม่คิดว่าเดินไปแล้วหลายชั่วโมงจนกระทั่งท้องฟ้าเริ่ม มืด บนถนนยังไม่เห็นรถสักคนหรือแม้แต่คนเลย ใน ใจเจนอารียิ่งอยู่ยิ่งกลัว
แต่ยังดีที่โทรศัพท์ดังขึ้นมาตอนนี้พอดี
เจนอารีตกใจ มีสัญญาณแล้วเธอเลยรีบโทรศัพท์ขึ้น มา มาทิลด้าเป็นคนโทรมานี่เอง
“อารีที่รักคุณอยู่ไหนเนี่ย โทรไปก็ขึ้นว่าเบอร์โทรไม่มี สัญญาณ คุณไม่เป็นไรใช่ไหม?”
“ทิลด้า ……….. พอได้ยินเสียงของมาทิลด้าที่เต็มไป ด้วยความกังวล ความรู้สึกน้อยใจและความกลัวที่สะสม มาเรื่อยๆหลายชั่วโมงและในตอนนี้ก็ทนไม่ไหว ยัง ไม่ทันได้พูดขาดคำก็เสียงสะอึก
“อารีที่รัก คุณเป็นอะไร คุณเกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือ เปล่า คุณรีบบอกฉันก่อนว่าคุณอยู่ตรงไหน?” เสียงใน โทรศัพท์ของมาทิลด้าดูออกว่ารีบร้อนมาก
“ฉัน ฉันไม่รู้ว่าฉันอยู่ที่ไหน ที่นี่ไม่มีคนเลยขนาดแสง ไฟข้างถนนก็ไม่มี ฟ้าก็ไกลมืดแล้ว ฉันกลัว…… เจน อารีมีความลับอีกอย่างที่ทุกคนไม่รู้ นั่นก็คือเธอกลัว ความมืดและกลัวมากด้วย
“อารีที่รักคุณไม่ต้องกลัวนะ คุณฟังที่ฉันพูดก่อนส่งที่ อยู่ของคุณมาให้ฉันแล้วเปิดไฟฉายโทรศัพท์ไว้ ยืนรอ ฉันอยู่ที่เดิมนะ เดี๋ยวฉันรีบขับรถไปหาคุณ”
“ได้………. เจ.อารีพยักหน้า ท้องฟ้ายิ่งอยู่ยิ่งมืด บริเวณรอบตัวก็ยิ่งอยู่ยิ่งดำทำให้เธอแทบจะหายใจไม่ออก
หลังจากส่งที่อยู่ไปเสร็จ เจนอารีก็เปิดไฟฉายโทรศัพท์ วางไว้ข้างหน้าแล้วแขนสองข้างกอดเข่าตัวเองไว้ หดตัว อยู่ตรงพุ่งหญ้าข้างทาง
แต่ว่ารอแล้วรออีก รอจนเปิดไฟฉายนานเกินทำให้ แบตเตอรี่โทรศัพท์ใกล้หมด รอบตัวเงียบไปหมดแต่มาทิ ลด้าก็ยังไม่มา
ลมกลางคืนหนาว เจนอารีปิดตาแน่นแล้วกอดตัวเอง แน่น ทั้งตัวสั่นไปหมด เธอทั้งหนาวทั้งกลัว
ในใจลึกๆเธอกลัวความมืดมนจะค่อยๆกลืนทุกเส้น ประสาท เลือดทุกหยดของเธอ ความทรงจำไม่ดีของ ตอนเด็กฉุดขึ้นมาเรื่อยๆทำเอาสติเธอใกล้พัง
และพอดีกับที่มีแสงส่องไปที่ตัวเจนอารี ทางไม่ไกลมี รถคันเล็กๆคันหนึ่งกำลังขับมา
ได้ยินเสียงรถ เจนอารียกหัวขึ้นมาแล้วใช้มือปิดตา ทันใดนั้นรู้สึกดีใจจนน้ำตาเกือบไหล
ในที่สุดมาทิลด้าก็มาสักที
แต่ไม่คิดว่ารถคันเล็กคันนี้ขับผ่านตัวเธอไป
ได้หยุด
เจนอารีมึนงง
รถคันเล็กคันนั้นขับออกไปประมาณสิบกว่าเมตรอยู่ๆก็ หยุด มีชายหนุ่มหัวทองสองคนที่มีรอยสักด้วยสองคน ออกมาจากในนั้น
เจนอารีถอยหลัง
“ว้าว สาวสวย ทำไมถึงอยู่ตรงนี้คนเดียวล่ะ”
“จะขึ้นรถไหม เดียวพี่ไปส่ง
ชายหนุ่มหัวทองสองคนมีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์อยู่บนหน้า แต่ กำลังกวาดมองเจนอารีตั้งแต่บนจนล่าง
เจนอารีหันหลังรีบวิ่งออกไป
เธอรู้ว่าตัวเองเจอคนร้ายถ้าไม่วิ่งหนีอีก ผลกระทบไม่
คาดคิด
ชายหนุ่มหัวทองสองคนนี้ไม่คิดว่าเจนอารีจะมีท่าทีเร็ว ขนาดนี้ พวกเขายังไม่ทันเข้าใกล้ คนก็วิ่งหนีไปไกลแล้ว ทั้งสองคนเห็นแบบนี้ก็รีบวิ่งตามไป
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ