ตอนที่ 5 การเป็นอยู่ของมหาเศรษฐี
ฉินเจี้ยนหาวกระแอมเสียงแล้วพูดว่า “งั้นก็ทำตามความ เห็นของอาจูนเถอะ! ยังไงก็ดีกว่าไม่แต่งงาน!ฉินเจี้ยน หาวรู้จักนิสัยของลูกชายตัวเองดี ถ้าบีบบังคับเกินไป แม้แต่เด็กผู้หญิงคนนี้เขาก็จะไม่แต่งด้วย ไม่ยิ่งแย่กว่าเห รอ!
ทุกอย่างจบลงด้วยการตัดสินชี้ขาดของฉันเจี้ยนหาว สามวันต่อมา ฉินจูนก็จะพาเสี่ยวซิงไปแต่งงานที่ประเทศ ซูดาน
เช้าของวันนี้ ฉินจุ้นถือเป็นกรณีพิเศษที่ไม่ได้ไปทำงาน ที่บริษัท แต่กลับพาเสี่ยวซิงไปห้างสรรพสินค้าซื้อของที่ เธอต้องใช้
เสี่ยวซิงนั่งรถโรลส์รอยซ์ของฉินกู้นออกมาจากบ้านพัก ตระกูลฉิน ข้างหลังยังตามด้วยรถคันหรู สี่คนที่นั่งอยู่ข้าง ในด้วยคือบอดี้การ์ดของฉินกู้น
เสี่ยวซิงกับฉินจูนนั่งแถวหลังสุดของรถที่กว้างใหญ่คัน นี้ เสี่ยวซิงแอบมองรถคันนี้มีที่นั่งสี่แถว พบว่าคันนี้ใหญ่ กว่าห้องที่บ้านของเธออีก
“ต่อไปเธอจะได้เห็นของอีกหลายอย่างที่เธอไม่เคยเห็น มาก่อน! ไม่ต้องตกใจขนาดนี้ก็ได้!” ฉินจูนเหล่มองเสี่ยว ซิงที่กำลังอ้าปากค้างเพราะความตื่นเต้น
มองไปหาฉินจุ้นที่นั่งอยู่ข้างๆเธอในใจเต็มไปด้วยความ ตื่นเต้น แล้วค่อยหันหน้าไปที่หน้าต่างชมวิว
ประมาณยี่สิบนาที รถก็ขับเข้ามาในลานจอดรถของ ห้างสรรพสินค้าตึกใหญ่
หลังจากลงจากรถ ฉินจูนสาวเท้ายาวๆเข้าห้างสรรพ สินค้า เสี่ยวชิงต้องวิ่งตามอยู่ด้านหลัง ข้าง
หลังเสี่ยวซิงคืออาเจี๋ย ข้างหลังอาเจี๋ยคือบอดี้การ์ดสูง ใหญ่ที่ใส่สูทดำและแว่นกันแดดสี่คน พวกเขาสามารถ ดึงดูดสายตาคนมองได้ดีทีเดียว
ฉินจูนเดินเข้าแผนกชุดชั้นในก่อนอันดับแรก มาถึง แผนกชุดชั้นในที่ใหญ่ที่สุดและหน้าเคาน์เตอร์ตกแต่ง สไตล์บูติกอย่างหรูหรา เสี่ยวซิงหลบอยู่ข้างหลังฉินจู น คิดในใจอย่างตื่นเต้น : เขาพาเรามาซื้อชุดชั้นในหรอ? ขายหน้าจริงๆเลย! ให้เธอเลือกต่อหน้าผู้ชายเยอะแยะ ขนาดนี้เนี่ยนะ? เสี่ยวซิงหันไปมองผู้ชายที่สูงใหญ่ทั้งห้า คน รู้จักกาลเทศะดี ยืนอยู่ห่างจากพวกเขาไม่กี่เมตร
“คุณผู้ชายคะ มิทราบว่าต้องการอะไรคะ?” พนักงานส่ง รอยยิ้มหวานสุดๆ
“คุณดูๆให้หน่อยเธอควรใส่ชุดชั้นในไซส์ไหน?” ฉินจูน ยื่นมือดึงเสี่ยวซิงที่อยู่ข้างหลังให้มาอยู่ข้างหน้า
แววตาคมชัดของพนักงานจ้องหุ่นที่ยังโตไม่เต็มที่ของ เสี่ยวซิงประมาณเจ็ดแปดวินาที ทำให้เสี่ยวซิงอึดอัดมาก แต่มือใบใหญ่ของฉินจุ้นจับไหล่เธอไม่ให้ขยับไปไหน ได้ แต่หน้าแดงก้มศีรษะลง
“คุณผู้ชายคะ คุณผู้หญิงท่านนี้ควรใส่ไซส์เล็กสุดค่ะคุณผู้หญิงคะ ท่านสามารถเข้าไปเลือกด้านในได้นะคะ!” พนักงานหันมา ที่เคาน์เตอร์ข้างใน
ไม่รอที่เสี่ยวชิงตอบ ฉินจูนก็พูดขึ้น : “เอาคอลเลคชั่น ใหม่ที่สุดของปีนี้ทุกรูปแบบจัดให้เธออย่างละชุด!”
“อะไรนะคะ?” พนักงานตาโตทันที สักพักก็ตอบรับที่ ฉินจูนพูด รีบยิ้มแย้มแล้วตอบกลับไปว่า : “คุณผู้ชายคะ สินค้าของเราคือแบรนด์ที่รู้จักกันดี เป็นสินค้าระหว่าง ประเทศที่มีชื่อเสียง ปีนี้เรามีทั้งหมดยี่สิบแปดรูปแบบ! แต่ละรูปแบบมีทั้งหมดสี่สี ไม่ทราบว่าท่าน..……………. พนักงาน อธิบายอย่างชัดเจนเพื่อเตือนให้ฉินจูนเข้าใจว่าแบรนด์ที่ พวกเธอขายอยู่ราคาไม่ธรรมดา
แต่ฉินจุ้นไม่ปล่อยให้พนักงานสงสัยนาน หยิบกระเป๋า สตางค์ออกมา ดึงบัตรยื่นให้เธอหนึ่งใบ “เอาสีละหนึ่งชุด ทั้งหมดร้อยสิบสองชุด รีบจัดให้เสร็จ! ผมรีบ”
“อา ท่าน…….รอสักครู่ค่ะ!” จะรีบจัดให้เสร็จเดี๋ยวนี้ค่ะ” พนักงานถึงกับตะลึงตกใจรีบเรียกเพื่อนร่วมงานมาช่วย กันหาชุด ดีใจเหมือนสวรรค์มาโปรด วันนี้ครั้งเดียวก็ขาย ได้ตั้งร้อยสิบสองชุด ต้องรู้ว่าแบรนด์นี้ของพวกเธอแพง จนน้อยคนที่จะถามถึง เป็นอย่างนี้แล้วไม่รู้ผลงานเธอจะ ได้ขึ้นกี่ขั้น!
เสี่ยวซิงยืนขมวดคิ้วหน้าเคาน์เตอร์ คิดในใจ : “มีที่ไหน ซื้อของเยอะขนาดนี้! แต่แอบเงยหน้าขึ้นมองไปที่ฉินจู น เธอรู้กาลเทศะไม่แสดงความเห็นอะไรออกมา เพราะ ใบหน้าที่เย็นชาของเขาไม่แสดงความรู้สึกใดๆ
ทางที่ดีเธออย่าไปถอนหนวดเสือดีกว่า!
ไม่นาน พนักงานหลายคนจัดชุดที่เขาเลือกไว้เสร็จแล้ว ใส่เข้าไปในกระเป๋าหิ้วสี่ใบใหญ่เต็มไปหมด เสี่ยวซิงก๋า ลังคิดจะไปรับกระเป๋าหิ้วจากพนักงานมา อาเจียกับบอดี้ การ์ดคนหนึ่งแย่งตัดหน้ารับไปก่อน
“คุณผู้ชายคะ! ทั้งหมดราคาเก้าแสนแปดหมื่นหกพัน บาทค่ะ กรุณารับบัตรเครดิตคืนค่ะ!” พนักงานยื่นบัตร ด้วยสองมือคืนให้ฉินจูน
หน้าฉินจุ้นยังคงไร้ความรู้สึกรับบัตรเครดิตกลับมา หลัง จากนั้นสาวเท้าออกไปแผนกเสื้อผ้าผู้หญิงชั้นบน เสี่ยว ซิงทำได้เพียงรีบเดินตามหลังเขาไปเหมือนเดิม บ่นพึมพำ ในใจว่า คนๆนี้ทำไมถึงเป็นแบบนี้นะ? คิดเองทำเองอย่าง ตามใจตัวเอง ไม่ถามความเห็นของคนอื่นเลยสักนิด! อีก อย่างหน้าของเขาก็บึ้งตึงมาก!
ตามด้วยวิธีการเหมือนเดิม ฉินจุ้นซื้อทั้งเสื้อผ้า เครื่อง สำอาง กระเป๋าและรองเท้า ขณะที่พวกเขาขึ้นไปนั่งบน รถ ที่นั่งสองแถวตรงกลางที่กว้างใหญ่ถูกวางด้วยกระเป๋า หิ้วจนกองเป็นภูเขาแล้ว
เสี่ยวซิงถูกฉินจูนพามาอยู่ที่ประเทศซูดานสามวันแล้ว กลับมาต้องใช้ชีวิตสวมบทเป็นคุณนายตระกูลเศรษฐี แน่นอนว่า หลายวันที่อยู่ประเทศซูดาน ฉินจูนไม่ได้พา เธอไปแต่งงานจริงๆอยู่แล้ว เพราะบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปก็มี การค้าอยู่ที่ประเทศซูดาน ดังนั้นฉินจูนถือโอกาสนี้ไป ตรวจสอบพอดี เสี่ยวซิงผู้น่าสงสารได้แต่คอยอยู่โรงแรม สามวัน ถึงแม้ ห้องจะหรูหรากว้างใหญ่ก็ตาม แต่ในใจเสี่ยวซิงกลับเต็มไปด้วยความเดียวดายและอ้างว้าง
วันเวลาผ่านไปเร็วมาก พริบตาเดียวก็กลับมาจาก ประเทศซูดาน สองเดือนแล้ว สองคนนี้เสี่ยวซิงกับฉินจุ้น แทบจะไม่มีอะไรที่ต้องคลุกคลีกันเลย ฉินจูนมักจะออก ไปแต่เช้ากลับอีกทีก็ดึกๆ ทุกวันที่เขากลับมาก็จะดึกมาก แล้ว น้อยมากที่จะกินอาหารมื้อเที่ยงและมื้อเย็นที่บ้าน ดังนั้นมีแค่มื้อเช้าที่เสี่ยวซิงได้เจอเขาจริงๆ แต่ช่วงนี้เสี่ยว ซิงก็ไม่ได้คุยอะไรกับเขาเลย เพราะเวลาอันมีค่าของฉิน จุ้นยังต้องคุยกับฉินเจี้ยนหาวและเหยาเฟินอีก อันที่จริง เวลาอาหารมื้อเช้าก็มีน้อยมากเหมือนกัน
ทุกวันกลางดึก ถึงแม้เสี่ยวซิงขึ้นเตียงแล้ว แต่เธอกลับ นอนยังไงก็นอนไม่หลับ มีเพียงวินาทีที่รอเขาค่อยๆผลัก ประตูอย่างเบาๆเข้ามา เสี่ยวซิงได้ยินเสียงเท้าของเขาถึง จะหลับตาลง รอเขาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จขึ้นไปนอน อีกข้างของเตียง เสี่ยวซิงถึงจะนอนหลับลงอย่างสงบ เตียงคู่ที่กว้างใหญ่ เธอนอนอยู่อีกข้างหนึ่ง ส่วนเขานอน อีกข้างหนึ่งไกลๆ ที่ผ่านมาพวกเขาไม่เคยแตะเนื้อต้องตัว กันเลย แม้กระทั่งคำว่าฝันดีก็ไม่เคยพูด แต่ว่าไม่รู้ทำไม ไม่ได้กลิ่นไอของเขา เสี่ยวซิงก็ไม่มีทางนอนหลับลง
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ