moneybags พ่อฉันเป็นเจ้าสัว

ตอนที่ 14 ลดความรุ่มร้อน



ตอนที่ 14 ลดความรุ่มร้อน

ม่านของห้องคนไข้โดนลากออก จักรชัยโดนแสง อาทิตย์สาดเข้ามาจนต้องลืมตาขึ้น

น้ำทิพย์ในตอนนี้สะท้อนแสงแดดอย่างเป็นอิสระ ในมือ กอดเสื้อผ้าชุดใหม่เอาไว้ มองจักรชัยตื่นขึ้นมายิ้มเล็ก น้อย

ต้นขาที่พันไว้ด้วยเส้นสีขาวแน่นๆเดินเข้าไปหาจักรชัย ทีละก้าว ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย ความรุ่มร้อน ของเมื่อคืนเพิ่งกดลงมาได้ไม่นาน เช้าตรู่นี้ก็มีข่าวที่น่า ดึงดูดใจอีกแล้ว รู้สึกลางๆว่าถ้ายังมองต่อไปก็กลัวเลือด กําเดาจะไหลออกมาแล้ว

“คุณชายคะ อยากจะเข้าไปอาบน้ำลดความรุ่มร้อน ก่อนไหม? บนหน้าผากสิวเพิ่มขึ้นอีกสองเม็ดแล้วค่ะ ต่อ ไปเข้านอนเร็วสักหน่อยคงจะดีกว่า”

ต๊ะ? ลดความรุ่มร้อน?

จักรชัยลูบๆหน้าผากนิดหน่อย ไม่รู้สึกว่ามีสิวนะ ขณะ ที่กำลังคิดอยู่ สายตาที่ไม่ใส่ใจก็เห็นท่าทางที่ตื่นนอน ของตนเอง

แค่มองสายตาที่ยังเลอะเลือนอยู่นิดหน่อยในตอนแรก ก็ได้สติทันที ดึงผ้าห่มที่อยู่ข้างๆ ใบหน้าแดงขึ้นมาอย่าง ฉับพลัน

“ต่อไปเข้านอนเร็วหน่อยนะคะ ไม่แน่ว่าก่อนฉันเข้ามาจะได้ไปเข้าห้องนํ้าก่อน”

ตอนนี้จักรชัยกำลังโดนบีบบังคับ เมื่อคืนวานเขานอน ดึกขนาดนั้น น้ำทิพย์รู้ได้อย่างไร

เห็นจักรชัยไม่พูด น้ำทิพย์จึงจัดการทำความสะอาด

ด้วยตนเองอย่างทันที ในตอนที่เดินไปถึงหัวเตียงก็เห็น กระดาษทิชชู่ที่อยู่บนโต๊ะนั้น อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว

“คุณชายคะ ร่างกายของคุณยังไม่ฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์

นะคะ!”

ตอนนี้จักรชัยอยากจะวิ่งออกไปทันที ถ้าเขาบอกว่า กระดาษพวกนี้ใช้เช็ดเหงื่อ ไม่รู้ว่าน้ำทิพย์จะเชื่อไหม

น้ำทิพย์ไม่พูดอะไร จักรชัยก็ทำเป็นไม่เห็นว่าน้ำทิพย์ กำลังช่วยเขาจัดการของเลอะเทอะกองหนึ่ง วิ่งเข้าไปใน ห้องนํ้าอย่างรวดเร็ว เห็นท่าทางในกระจกแล้ว ก็อดไม่ ได้ที่จะถอนหายใจ

เมื่อคืนวานที่คุยกับเฟื่องฟ้าค่อนข้างสะเทือนอารมณ์ จริงๆ แต่ตอนที่เห็นน้ำทิพย์ช่วยเขาจัดการสิ่งของที่ สะเทือนอารมณ์กองนั้น ในหัวก็โยนสิ่งยุ่งเหยิงทิ้งไป ตอนที่น้ำทิพย์ปรากฏตัวต่อหน้าตอนนี้อีกครั้งก็มีสีหน้าที่ สบายอกสบายใจแล้ว

“ช่วงระยะนี้สามมื้ออาหารของคุณชายฉันเป็นคนนำ มาส่งนะคะ เป็นอาหารตุ๋นยาจีนทั้งหมด สามารถช่วย คุณชายฟื้นฟูร่างกายรวมไปถึง————เพิ่มพลังด้วยค่ะ”
การหยุดชะงักไปพักใหญ่อย่างนี้ ทำให้ความอึดอัดของ จักรชัยที่เพิ่งหายไปเกือบจะปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง ทำได้ เพียงไอแห้งๆ ถามตนเองว่าอีกเดี่ยวจะนั่งรถอะไรไป บริษัท

ตอนที่ได้ยินว่าน้ำทิพย์จะไปส่ง จักรชัยก็สบายใจอยู่ เงียบๆ สายตามักจะชำเลืองมองต้นขาของน้ำทิพย์อยู่ บ่อยๆ แค่คิดว่าอีกเดี๋ยวจะได้มองตลอดทาง ก็ค่อนข้าง อดใจรอไม่ไหวแล้ว

ครั้งนี้ขับรถBMWคันหนึ่ง ดูแล้วกลับเหมาะสมกับน้ำ ทิพย์ใช้ได้เลย

นี่เป็นรถที่ยศพลตั้งใจส่งมาโดยเฉพาะ สะดวกให้น้ำ ทิพย์ดูแลและรับส่งจักรชัย ต่อไปในช่วงระยะหนึ่ง เขา จำเป็นต้องอยู่ในโรงพยาบาลส่วนตัวของตระกูลหัส บดินทร์ เพื่อให้รู้ว่าบาดแผลบนร่างกายหายดีอย่าง สมบูรณ์แล้ว

“คุณผู้หญิงให้น้ำทิพย์ถามคุณชายสักหน่อยค่ะ ต้องการลางานสักระยะไหม รอจนกระทั่งแผลหายแล้ว ค่อยกลับไปทำงาน

จักรชัยพินิจพิเคราะห์รูปร่างของน้ำทิพย์อย่างละเอียด ปากก็ไม่หยุดพูด

“ไม่ต้องหรอก ฉันรู้สึกว่างานนี้ดีใช้ได้ ทำไปก่อนสักพัก ค่อยว่ากัน อยู่ในโรงพยาบาลก็น่าเบื่อ ร่างกายของฉันเอง ถึงอย่างไรก็มีความคุ้นเคย
จริงๆแล้ว จุดสำคัญที่สุดก็ยังอยากอยู่กับพวกพี่น้อง แม้ว่าในบริษัทจะมีสักกี่คนที่เขาไม่ค่อยอยากเจอ แต่ก็คง ไม่ทำแค่เพราะหนูตัวเดียวจึงยอมละทิ้งชีวิตของตนเอง

“แล้วคุณชายอยากได้รถอะไรคะ คุณผู้หญิงบอกว่า ตอนที่มาคราวหน้าจะพาคุณมาดูด้วยกัน”

จักรชัยส่ายหัว ข้อแรกตอนนี้ยังไม่มีใบขับขี่ ข้อสองยัง ไม่มีกำลังวังชาจะไปเรียน

ยิ่งไปกว่านั้น คนขับรถเหนื่อยมากเลย มีคนขับคนหนึ่ง แล้วยังไม่พอหรือ ยังเป็นสาวสวยที่รูปร่างเผ็ดร้อนเสีย ด้วย

หลังจากที่ทั้งสองคนไม่ได้พูดอะไรกัน น้ำทิพย์มองจักร ชัยที่ท่าทางจ้องมองขาเธออยู่ตลอดก็ขำอยู่พักใหญ่ แต่ ก็ไม่ปกปิด

เมื่อเห็นว่ากําลังจะถึงชั้นล่างของบริษัท จักรชัยจึง เคลื่อนสายตาอย่างอาลัยอาวรณ์นิดหน่อย

“ลงตรงนี้แหละ ฉันจะเดินเข้าไป” พูดจบก็หยิบข้าว กลางวันของตนเองออกมาจากเบาะหลัง เดินเข้าไปด้าน ใน ไม่ได้หันกลับมา

ตอนนี้เขายังไม่อยากให้คนอื่นรู้มากขนาดนั้น โอ้อวด มากเกินไปไม่ใช่เรื่องดี

หลังจากจักรชัยลงไปแล้ว น้ำทิพย์ก็ไม่ได้รีบที่จะขับรถ ออกไป แต่ยัง มองตามจักรชัยที่เดินไป
สองวันนี้ที่ได้อยู่ด้วยกัน สำหรับความรู้สึกที่มีต่อ คุณชายคนเล็กน้ำทิพย์รู้สึกไม่เลวเลย อย่างน้อยก็ไม่ เหมือนคนที่เพิ่งร่ำรวยอย่างกะทันหัน แค่มีเงินก็อยาก ทำให้ทุกคนรู้อย่างยิ่ง ทำเรื่องอะไรก็รู้ว่าอะไรควรไม่ควร แน่นอนว่า ยกเว้นเรื่องการชกต่อย

แต่แค่นึกถึงคู่หูคนนี้นอกจากมองขาเธออยู่ตลอดแล้ว ก็ แทบจะไม่ทำอะไรเกินเลย ยังเป็นผู้ชายที่ดีคนหนึ่งจริงๆ!

จักรชัยเดินเข้ามาในบริษัทอย่างสงบ รถแลนด์โร เวอร์คันหนึ่งก็จอดอยู่ตรงหน้าเขาท่ามกลางเสียงที่ตื่น ตระหนกตกใจ

“ความรู้สึกด้านในเป็นอย่างไรบ้าง มีความรู้สึกที่ได้ กลับบ้านอย่างนั้นไหม

จำรัสนั่งอยู่ที่นั่งคนขับมองจักรชัยอย่างเหยียดหยาม อลินดาที่นั่งอยู่ข้างๆ กำลังเติมหน้า ชำเลืองมองจักรชัย อย่างเย็นชา

จักรชัยก็ขี้เกียจจะสนใจพวกเขา แต่ใครจะรู้ว่าจำรัสจะ ไวกว่าลงจากรถมาขวางอยู่ที่ด้านหน้าของจักรชัย

“จะพูดอย่างไรพวกเราก็เป็นคนๆเดียวกันแล้ว ไม่ ทักทายคนรักเก่าของคุณสักหน่อยล่ะ!”

จำรัสพูดจบ เสียงของอลินดาก็ลอยออกมา แค่เห็น ใบหน้าที่หยิ่งยโสของเธอ

“จำรัส ที่ฉันอยู่กับเขาจะถือเป็นคนรักได้อย่างไร ก็แค่คนขี้แพ้คนหนึ่งเท่านั้น ยังไม่เหมาะจะเป็นคนถือรองเท้า ให้ฉันเลย!”

จักรชัยได้ยินคำพูดของอลินดาก็ยังคงไม่พูดไม่จา เดิน อ้อมทั้งสองคนเพื่อเข้าบริษัทไป

“ขี้แพ้ก็คือขี้แพ้ ไม่กล้าทำอะไรสักอย่าง”

จํารัสกลับรู้สึกว่าไม่เป็นอะไร มือข้างหนึ่งยังคง เพลิดเพลินอยู่บนร่างกายตรงจุดที่มีความรู้สึกไวของอ ลินดาต่อหน้าฝูงชนอย่างไม่ซื่อสัตย์ กระตุ้นให้หญิงสาว หลงใหลอยู่พักหนึ่ง

“วันเกิดคุณคืนนี้ เรียกเขามาด้วย ให้เขายอมรับความ จริงให้เต็มที่อีกครั้ง จะได้ไม่ต้องเสแสร้งทำเป็นจิตใจ สูงส่งอีกต่อไป”

อลินดาพยักหน้าไม่ได้พูดอะไรมาก จริงๆก็ไม่อยากให้ มาอยู่แล้ว แต่แค่คิดว่าคืนนี้จะได้ทำให้เขาอับอายอย่าง เต็มที่ ก็มีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที

ขี้แพ้คนหนึ่งโดนทิ้งไปวันๆก็ควรจะเดินตามก้นเธอเพื่อ ขอคืนดีสิ จากนั้นในทุกๆครั้งก็ให้เธอทำให้ขายหน้าถึงจะ ถูก แต่ทำไมหลังจากเลิกกันไปแล้วแม้กระทั่งคำด่ายังไม่ ด่าเลย ยิ่งคิดยิ่งไม่สบายใจ แล้วก็ยิ่งคิดหาวิธีที่จะทำให้ เขามาในคืนนี้ให้ได้

“จักรชัย นายมาแล้ว!”

ชลธิชาแค่เห็นจักรชัยก็ลุกขึ้นจากที่นั่ง ไม่กี่คนล้อมรอบเข้ามาทันที เมื่อวานหลังจากที่จักรชัยกลับไป พวก เขาสามคนก็คิดๆอย่างดี

เรื่องนี้พวกเขาไม่มีความผิดชัดๆ โดยเฉพาะจักรชัย เป็นคนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมที่สุด ทำไมถึงต้อง ขอโทษ แม้ว่าจะต้องอยู่ในสถานีตำรวจนั่นก็ไม่เกี่ยวกัน

นึกถึงเรื่องที่เพลงพิณทำเมื่อวานชลธิชาก็ยิ่งละอายใจ มากขึ้น

“เรื่องเมื่อวานพวกฉันต้องขอโทษนายด้วยนะ ฉันไม่คิด ว่าพอเพลงพิณเข้าสังคมแล้วจะกลายเป็นอย่างนี้ มีเรื่อง อะไรไม่สบายใจนายก็พุ่งมาที่ฉันได้เลย ฉันหนังหนา ทน โดนเตะต่อยได้”

เห็นท่าทางของทั้งสามคน รอยบวมบนหน้ายังไม่หาย เลย จึงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา

“ชลธิชาขับรถได้ใช่ไหม ถ้าอยากจะขอโทษจริงๆ มา เป็นคนขับรถชั่วคราวของผมดีกว่า ผมไม่มีใบขับขี่ แต่ อยากซื้อรถสักคันจะจอดเอาไว้ตลอดก็คงไม่ได้

ไม่กี่คนนั้นฟังคำพูดเขาแล้วต่างก็พากันตกตะลึง สักพัก จึงตอบสนองกลับมา

“จักรชัย นายอยากซื้อรถ!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ