บทที่ 7
ไม่เสน่หานตกตะลึงจนขยับไม่ได้ เหยียนฝางโอบไหล่เธอเดิน เข้าไป พูดอย่างเฉยชา “พ่อ นี่แฟนผมไม่เสน่หาน
“ลูกนอกคอก!” ไม่รอให้โม่เสน่หานได้สติกลับคืนมา แก้วชา แก้วหนึ่งก็แตกลงบริเวณเท้าแล้ว ตกใจจนไม่เป็นท่า ร้อนรนถอย หลังไป
“พ่อ ถ้าหากพ่อไม่พอใจ ก็สามารถพูดกับผมได้ อย่าทำให้ แฟนผมตกใจ”
เมื่อรู้สึกได้ว่าไม่เสน่หานตกใจอย่างมาก เหยียนฝางเป็น ฝ่ายกุมมือเธอไว้ ฝ่ามือใหญ่ที่อบอุ่นกุมมือของเธอไว้แน่น
“แกลืมว่าฉันเคยพูดอะไรกับแกไปแล้วเหรอ?” เหยียนกั่วเจิ้น ตบโต๊ะแล้วยืนขึ้น ถลึงตามองอย่างโกรธจัด
“ผมยื่นจดหมายลาออกกับหัวหน้าเรียบร้อยแล้ว เรื่องนี้พ่อสั่ง ประโยคเดียว ผมก็ไม่ใช่พนักงานของบริษัทแล้ว แบบนี้ก็ไม่ เป็นการทำลายกฎของบริษัทพ่อ ได้เปรียบด้วยกันทั้งคู่ไม่ดีเหรอ ครับ?”
“แก แกไอลูกบ้าทำไมต้องทำตัวเป็นศัตรูกับฉัน?” เหยียนกั๋ว เจิ้นถูกทำให้โมโหอยู่ไม่น้อย หน้าของเขาแดงก่ำ ท่าทางดุดัน
“พ่อ ผมไม่ได้เป็นศัตรูกับพ่อ เป็นพ่อที่ใช้ให้ผมไปที่บริษัท พ่อ ไม่เคยถามความคิดเห็นของผม ตอนนี้ผมพาแฟนกลับมาที่บ้านพ่อก็ไม่โอเคอีก ตกลงว่าพ่อให้ผมทำยังไง?
ค่าพูดของเหยียนฝางแต่ละค่ไม่มีท่าทีขี้ขลาดเลยแม้แต่นิด โมเสน่หานเข้าใจทุกอย่างแล้ว ที่แท้เขาก็ให้เธอเป็นไฟที่ใช้ สําหรับต่อต้านพ่อของเขา
ทันใดนั้น ไม่เสบู่หานรู้สึกเศร้าใจเล็กน้อย ดึงมือที่เขากำไว้
แน่นออก
ส่วนเหยียนฝางกลับกำมือเธอไว้แน่นอีกครั้ง พูดข้างหูเธอ “ห้าหมื่น ถ้าหากว่าเธอทำเสียเรื่อง ต้องชดใช้เป็นเท่าตัว!
โมเสน่หานไม่กล้าขัดขืน ก็แค่รู้สึกว่าอึดอัดใจ ไอ้คนเลวนี่นึก ไม่ถึงว่าจะหลอกใช้ฉัน
“อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะ เธอก็แค่ลูกไม้ที่แกไว้ใช้ต่อต้านฉัน” เห ยียนกั่วเจิ้นเดินมาหยุดอยู่ข้างหน้าเหยียนฝาง ประโยคนึง แทงใจ เขา “แกตื่นซะเถอะ! ยอมแพ้อุดมคติส่วนตัวเหล่านั้น บริษัทเหยียนชื่อคือที่พึ่งสุดท้ายของแก
“ไม่ ครั้งนี้พ่อทายผิดแล้ว เธอไม่ใช่ลูกไม้ที่ไว้ใช้รับมือกับพ่อ” พูดจบ ทันใดนั้นเหยียนฝางก็ดึงโมเสน่หานเข้ามาในอ้อมกอด จับใบหน้าของเธอไว้แล้วจูบลงทันที
ริมฝีปากที่นุ่มและอบอุ่นแนบลง โม่เสบู่หานเหมือนถูกไฟฟ้า ช็อต ตะลึงจนถลึงตาโต ไม่รู้จะทำอย่างไร แม้กระทั่งจะหายใจก็ ยังไม่กล้า
มีเสียงหายใจเข้าดังขึ้นจากรอบ ๆ ตามติดด้วยเสียงกรีดร้องของผู้หญิง “ว้าย! คุณพี่ คุณพี่เป็นยังไงบ้างคะ ไม่เป็นไรใช่ไหม คะ?”
เหยียน ฝางปล่อยเธอออก ไม่เสน่หานถึงกล้าหายใจลึก ๆ คนทั้งคนยังอยู่ในภาวะมึนงง เป็นเวลาอยู่นานถึงจะได้สติกลับ มา พบว่าเหยียนกั่วเจิ้นโมโหจนสีหน้าซีดขาวนั่งอยู่บนโซฟา ให้ แม่ของฝางลูบหน้าอกให้ ดูท่าทางเหมือนหัวใจจะไม่ดี
“พ่อ พ่อไม่เป็นไรนะ? ให้ผมพาพ่อไปโรงพยาบาลไหม?” เหยี ยนฝางอารมณ์ในสายตาซับซ้อนเล็กน้อย ดูเหมือนว่าจะไม่ พอใจสักเท่าไหร่กับผลลัพท์ของแผนนี้
“ไสหัวไป แกไสหัวออกไปให้พ้น!” เหยียนกั่วเจิ้นโกรธจนเข ยงแก้วอีกใบ
โมเสน่หานวันนี้ได้รับความตื่นตระหนกตกใจจนเกินไปแล้ว จึง
ออกแรงลากเหยียนฝางให้รีบออกไป
ถ้าหากวันนี้เหยียนกั่วเจิ้นถูกทำให้โมโหจนเสียชีวิต ตนเองก็ เป็นผู้สมรู้ร่วมคิด ความผิดร้ายแรงเกินไป เธอรับมันไม่ไหว
เดินออกมาจากประตู ไม่เสบู่หานรีบสะบัดมือเขาออก ถลึงตา ใส่เขาด้วยความโกรธ แล้วจึงเดินออกไปทางถนน
ในใจนึกถึงบรรพบุรุษสิบแปดรุ่นของเขา วัยรุ่นสมัยนี้ทำไมถึง ดีขนาดนี้นะ ไหนบอกว่าเป็นลูกหมาน้อยที่อบอุ่นเอาใจใส่ดูแล หละ?
นี่มันลูกหมาน้อยที่ปลิ้นปล้อนเจ้าเล่ห์ชัด ๆ !
เหยียน ฝางมือสอดในกระเป๋า มองดูผู้หญิงที่เดินอยู่ข้าง หน้าที่กำลังโมโหโวยวาย จู่ ๆ ก็รู้สึกขำนิดหน่อย อายุไม่น้อย อารมณ์โกรธก็ไม่น้อยเช่นกัน
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ