บทที่ 9
เสี่ยวลี่ตะลึงจนสูดหายใจเข้า “เสบู่หาน พวก เธอ…..คบกันแล้วเหรอ?”
“ไม่ ไม่ได้…ไม่ใช่แบบนั้น เสี่ยวลี่ฟังฉันอธิบายก่อน ฉันกับเขาไม่มีความสัมพันธ์อะไรกันสักนิด” โม่เสว่หาน ร้อนรน โบกมือไม่หยุด
เหยียนอี้ฝางกระพริบตาเบา ๆ รอยยิ้มภายใต้สายตา เหมือนกับว่าพอใจเป็นอย่างมากที่ท่าทางของเธอตื่น ตระหนกตกใจกลัว
“เหอะ เธอพูดติด ๆ ขัด ๆ แล้ว เธอจะให้ฉันเชื่อเธอได้ ยังไง” รอยยิ้มบนใบหน้าของเสี่ยวลี่แข็งทื่อ กำมือแน่น ท่าทางสงบนิ่งมาก “ฉันมีธุระ ไม่รบกวนพวกเธอทาน อาหารแล้ว ลาก่อน!”
เสี่ยวลี่เดินออกจากร้าน โม่เสว่หานรู้สึกใจคอไม่ดี เปิดโทรศัพท์ดูแชทกลุ่มที่ทำงาน เป็นอย่างที่คิดเธอ เห็นเสี่ยวลี่ส่งรูปออกไป ทันใดนั้นแชทกลุ่มก็ระเบิด ทันที
ญิง : นี่มันโม่เสว่หานกับเหยียนอี้ฝางไม่ใช่เหรอ?
หยวนหยวน: พวกเขากำลัง……ออกเดท?
เสี่ยว: ไม่ใช่ได้ไง ไร้ยางอายมาก ก่อนหน้านี้ยังเส แสร้งพูดกับฉันว่าไม่สนใจเหยียนอี้ฝาง แล้วเป็นไงหละแอบไปคบกันแล้ว
ญิง: ตายจริง! นี่มันคนประเภทไหนเนี่ย!
หยวนหยวน : ก็ไม่ดูอายุตัวเองอะไรเลย เป็นคุณน้า แล้ว ยังจะกินหญ้าอ่อนอีก?
โม่เสว่หานดูแล้วโมโห พวกผู้หญิงในที่ทำงานทุกคน กำลังพูดถึงเรื่องที่เธอไร้ยางอาย
ปิดวีแชทลง โม่เสว่หานมองไปที่เหยียนอี้ฝางอย่าง โมโห “นายรับปากฉันแล้ว ว่าจะไม่เปิดเผยเรื่องของ พวกเรา ตอนนี้หมายความว่ายังไง?”
“หมายความว่าฉันทำผิดกฏของสัญญา เงินค่าชดใช้ ค่าเสียหายเธอไม่ต้องใช้คืนแล้ว” เหยียนอี้ฝางหยิบ ตะเกียบขึ้น เลียนแบบท่าทางการกินบะหมี่ของเธอ กิน คำใหญ่ ๆ แถมยังกินได้หน้าตาดีขนาดนั้น!
“นาย!” โม่เสว่หานลุกขึ้นยืน สองมือกำแน่นไว้อยู่บน โต๊ะ “ความรู้สึกตั้งแต่ต้นจนจบ นายตุกติกกับฉันตลอด ใช้ฉันเพื่อต่อสู้กับพ่อของนายใช่ไหมใช่ไหม?”
“ใช่ แต่เธอดื่มเหล้าจนเมาแล้วมีอะไรกับฉันนั้นก็เป็น เรื่องจริง” เหยียนอี้ฝางหยิบกระดาษทิชชู่เช็ดมุมปาก ประโยคเฉยชาประโยคนึงทำให้เธอชะงักคาที่
เป็นเวลาครู่หนึ่งโม่เสว่หานหาคำพูดที่จะโต้แย้งเขา ไม่ได้ โมโหจนหยิบเงินหนึ่งร้อยจากกระเป๋าออกมาวางไว้บนโต๊ะ แล้วรีบเดินออกไป จากนั้นก็เรียกแท็กซี่กลับ บ้าน
เหยียนอี้ฝางมองเงินที่ตั้งอยู่บนโต๊ะตรงหน้า ยิ้มมาก ขึ้นกว่าเดิม พี่สาวคนนี้น่าสนใจดีแฮะ
ไม่กี่วันต่อมา ข่าวโคมลอยของโม่เสว่หานกับเหยียนอี้ ฝางเป็นเรื่องซุบซิบนินทาทั้งเบื้องบนเบื้องล่างในบริษัท แล้ว เป็นเวลานานมากข่าวคราวก็ยังไม่จบลง
คนที่รู้เบื้องหน้าเบื้องหลังพูดขึ้นว่าเหยียนอี้ฝางคือ ผู้สืบทอดบริษัทเหยียนซื่อคนต่อไป จากนั้นก็ฮือฮาไม่ อาจจบสิ้นยิ่งไปกว่ากว่าเดิม
ทุกคนคิดว่าโม่เสว่หานเป็นผู้หญิงร่าน รู้ตั้งนานแล้วว่า เหยียนอี้ฝางคือคุณชาย ดังนั้นจึงลงมือก่อนได้เปรียบ
ข่าวลือเชิงลบมากมาย ผลักดันให้เธอถึงจุดที่ลำบาก
ที่สุดของประสบการณ์ชีวิต จนแทบจะตาย
โม่เสว่หานพักนี้หลบอยู่ในบ้านไม่ออกไปไหน ทุก ๆ วันกินอิ่มแล้วก็ปิดประตูอยู่แต่ในห้อง
คนในบ้านพบว่ามีปัญหาแน่ จึงให้โม่ฉิงไปลองสืบดู “พี่เป็นอะไร? สองสามวันมานี้ดูท่าทางขวัญหนีดีฝ่อ ดู ไม่ปกตินะ!”
โม่เสว่หานมุดหัวหลบอยู่ในผ้าห่ม แม้กระทั่งจะโผล่ หัวออกมายังขี้เกียจ พูดอย่างไร้เรี่ยวแรง “ไม่เป็นไร แค่ตกงานหนะ อยากจะคิดทบทวนเกี่ยวกับชีวิตอยู่เงียบ ๆ ไม่ต้องเป็นห่วงฉัน”
โม่ฉิงแสดงความสงสัยต่อไป “อกหักเหรอ? เป็น เพราะพี่ชายคนนั้นที่มาปรากฏตัวที่บ้านเหรอ?”
โม่เสว่หานที่ไร้เรี่ยวแรงที่อยู่ภายใต้ผ้าห่มเหลือบตาม องบน ไม่ได้อธิบายอะไร
“พูดจริง ๆ นะพี่ชายคนนั้นดูแล้วไม่เลว หน้าตาหล่อ มาก เสียดายจัง!”
“แต่ว่าพี่ไม่ต้องเสียใจไปหรอก แม่ของพวกเราจัดการ นัดดูตัวไว้ให้พี่แบบไม่ต้องหยุดพักเลย พี่เสียใจได้ไม่ นานแน่”
โม่เสว่หานถลึงตาโต มุดออกมาจากผ้าห่ม “เธอพูดว่า อะไรนะ?”
“พี่ พี่ลืมที่แม่พูดเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้วเหรอ จำเป็นจะ ต้องให้พี่แต่งงานออกเรือนไปให้เร็วที่สุด ไม่เช่นนั้นคน ทั้งบ้านต้องกินเจพร้อมกัน!” โม่ฉิงยิ้มอย่างมีเจ้าเล่ห์ ท่าทางเหมือนรอดูเรื่องสนุก ๆ อยู่
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ