บทที่10 อยากได้เงินซะจนไม่สนใจชีวิต
ตอนเช้าตรู่ เธอก็รีบไปทำงาน ทำงานวันแรกจะไป สายไม่ได้
เธอปิดประตูเสียงดังปัง
เสิ่นอานนี่เดินออกมาทั้งชุดนอน เหมือนกับคุณผู้หญิง ของบ้านเดินขึ้นไปบนชั้นสอง เธอมองดูห้องหอของคู่ แต่งงานใหม่ เต็มไปด้วยสติกเกอร์สีแดงสัญลักษณ์ของ คู่แต่งงานใหม่ที่เต็มไปด้วยความยินดี
เสิ่นอานนี่มองสติกเกอร์พวกนั้นอย่างไม่พอใจนัก เธอ ยื่นมือออกไปฉีกทำลายสติกเกอร์คำว่าคู่กันออกเป็น สองชิ้นแล้วก็พูดเบาๆว่า “แต่งงานกันมาจะเดือนแล้ว ยัง จะติดอยู่อีก กลัวคนเขาไม่รู้ว่าแต่งงานแล้วรึยังไงกัน”
ห้องนอนใหญ่มาก ห้องนอนของพวกเขามองดูแล้ว แบ่งเป็นสองส่วน ส่วนที่ติดกับห้องน้ำเป็นว็อคอินคลอ เซ็ท เซท
เสิ่นอานนี่ผลักประตูตู้เสื้อผ้าเข้าไปในส่วนที่เป็น เสื้อผ้าของเสี่ยวซี
เสื้อผ้าของเสี่ยวซีจะมีลักษณะเฉพาะเป็นสไตล์ของ หญิงสาว ซึ่งแตกต่างกับเธออย่างสมบูรณ์
แต่ว่าเสื้อชุดนี้
นิ้วของเธอไล่ไปที่ราวเสื้อผ้าแล้วก็หยุดลงที่ชุดผูกคอ สีน้ำเงิน
นั่นเป็นชุดที่กู้หมิงจวิ้นเป็นคนซื้อเพื่อที่จะให้เธอใส่ไป ร่วมงานการกุศล แต่เธอกลับปวดท้องขึ้นมาก็เลยไม่ได้ ไป เสื้อตัวนี้ก็เลยยังไม่มีใครเคยใส่
เสี่ยวซีมัวแต่เสียดายไม่ยอมใส่เสื้อชุดละแปดหมื่น หยวน
เสิ่นอานนี่ลูบคลำชุดนั้นอย่างไม่ยอมปล่อย แล้ว เปลี่ยนสวมมันอย่างมีความสุข
ชุดนี้มันเหมาะกับเธอมากกว่าจริงๆ
อานนี่พอใจกับรูปร่างของตัวเองมาโดยตลอด ชุดนี้ ขับให้รูปร่างของเธอดูดี
กู้หมิงจวิ้นก็เดินออกมาจากห้องน้ำตอนนั้นพอดี เขา เปิดประตูห้องเสื้อผ้าแล้วก็เดินเข้ามา
เขามองเห็นหลังของเธอที่กำลังก้มหาเข็มขัดของเสื้อ ชุดนั้น
สายตาของเขามองรูปร่างที่ดูดีของเธอ เขาแสดง ความพึงพอใจออกมา
กู้หมิงจวิ้นก็ไม่เคยเห็นเสี่ยวซีใส่ชุดนี้ เข้าเดินขึ้นไป แล้วก็ห้ามใจไม่ได้ที่จะกอดเธอ น้ำเสียงตอนเช้าของเขาช่างฟังแล้วสดชื่น “ฉันว่าแล้วว่ามันจะเหมาะกับเธอ”
เสิ่นอานนี่นิ่งแล้วก็ลุกขึ้นหมุนตัวมาอย่างพอใจ ยกมือ
ขึ้นคล้องคอเขา “พี่หมิงจวิ้นชุดนี้พี่ซื้อให้ฉัน
เขานิ่งไป แล้วก็คิดว่าทำไมถึงได้
เขาปล่อยเธอ คว้ามือเธอเพื่อที่จะปลดมือเธอออก “มาที่นี่ได้ยังไง พี่เธอล่ะ”
เสิ่นอานนี่ได้ยินก็หน้าบึ้ง “เมื่อกี้พี่คิดว่าฉันเป็นใคร คิดว่าเป็นพี่ฉันเหรอถึงได้มากอด”
“อานน อย่ามาชวนทะเลาะ”
เขามองเธออย่างเหมือนจะเตือน แต่เธอก็ยังจะคล้อง คอเขาไม่ยอมปล่อย “พี่เป็นคนหลอกลวงว่าไม่เคยนอน กับพี่ฉัน พี่พูดมาเดี๋ยวนี้ว่าลับหลังฉันทำอะไรบ้าง
“เสิ่นอานนี่! จะเกินไปแล้วนะ!
เขาโมโห ฉากนี้ถ้าจะว่ากันไปเธอได้คะแนนไปแล้ว
เธอจงใจมาที่บ้านเขาเพื่อก่อกวน เพื่อที่จะมาท้าทาย เขา เขาเริ่มจะโมโหแล้ว
เสิ่นอานนี่ถูกเขาตะคอกจนนิ่งไป น้ำตาเริ่มที่จะคลอ เบ้าเหมือนโดนกลั่นแกล้งรังแก
ทันใดนั้นก็มีเสียงดังมาจากข้างล่าง
นั่นก็คือเสียงปิดประตูกู้หมิงจวิ้นนิ่งไปฟังเสียงเสิ่น เสี่ยวซีร้องอยู่ข้างล่าง “อานนี่? อานนี่?
“ฉันอยู่…”เขาปิดปากเธอ
เสิ่นอานนี่แกล้งทำเป็นจะตอบเสี่ยวซีแต่ก็ถูกมือใหญ่ ปิดปากเธอไว้ “อยู่ในห้องนี้อย่าส่งเสียง”
ท่าทีของเขาจริงจังมาก เขาไม่ได้พูดเล่นกับเธอ เธอรู้ ดีว่าเธอไม่ควรทำให้เขาโกรธ
เสี่ยวซีเดินขึ้นมาด้านบนแต่ก็เจอกู้หมิงจวิ้นที่กำลัง เดินสวนออกมาจากห้อง
เธอกำลังจะเดินเข้าไปในห้องแต่ก็ถูกเขาขวางเอาไว้
เสี่ยวซีไม่เข้าใจ “ทำอะไรของคุณ”
“เธอ เพิ่งออกจากบ้านไปไม่ใช่เหรอ”
ฉันกลับมาเอาของ แล้วก็เลยซื้ออาหารเช้ามาให้อาน นี่ คุณหลบสิ อย่ามาขวางฉัน ไม่เข้าใจรึยังไงว่าเขาไม่ มาขวางทางกันหรอก
กู้หมิงจวิ้นคว้ามือเธอ “เธอไปรอฉันข้างล่าง ฉันจะไป เปลี่ยนเสื้อผ้า เดี่ยวออกไปพร้อมกันเลย จะเอาอะไรฉัน จะหยิบให้
“ร่ม ฉันเพิ่งซื้อมาใหม่ยัดใส่ตู้เอาไว้
“เดี๋ยวฉันไปหยิบเอง”
เขารับปากเธอ แล้วก็ไม่ยอมให้เธอเดินเข้าห้อง
เสี่ยวซีมองเขาอย่างสงสัย แต่เขาก็มองกลับมาอย่าง ไม่มีพิรุธอะไร สีหน้าเรียบเฉย “ทำไม หน้าตาเริ่มจะหั่น แล้วนะ หรือว่าอยากจะเข้ามาช่วยฉันเปลี่ยนเสื้อผ้า
เสี่ยวซีบ่นเขา “คุณนั่นแหละตื่น”
พูดจบเธอก็เดินลงข้างล่างไป “เร็วๆหน่อย ฉันจะสาย แล้ว”
“หยุด “
“จอดข้างทางก็พอ” เสิ่นเสี่ยวซีชี้ไปทางแยกเพื่อบอก ทางให้เขาจอด”จอดที่นี่แหละ คุณจะได้ไม่ต้องกลับรถ
เสี่ยวซีคว้ากระเป๋าเปิดประตูลงจากรถแล้วก็วิ่งไปฝั่ง ตรงข้ามกู้หมิงจนมองตามเธอไปด้วยความเป็นห่วง
ผู้หญิงอะไรอยากได้ตังจนไม่ห่วงชีวิต
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ