บทที่ 9 รบกวนมาที่บ้าน
สายตาที่มองไปรอบๆที่ราวกับต้องการจะมองให้ออก ว่าอีกฝ่ายเป็นอย่างไร ทำให้เสื่นเสี่ยวซีต้องเม้มปาก เขายังคงกอดเธอ ทำให้เธอรู้สึกกดดันอย่างมาก หน้า ของเขาค่อยๆขยับเข้ามาใกล้เธอ จมูกของเขาโด่ง ลม หายใจอุ่นของเขาเป่ารดลงบนหน้าของเธอจนเสี่ยวไม่ กล้าหายใจ
ตอนที่เขากำลังจะจูบเธอ
ติ๊งต่อง
ติ๊งต่อง
เสียงกดออดประตูดังขึ้นติดต่อกันไม่หยุด
เสี่ยวซีได้สติกลับมาจึงรีบผลักเขาออก หยิบ ผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่มาพันรอบตัวคลุมหน้าอกไว้แล้วออก เปิดประตู
ประตูเปิดออก
เสียงหวานเลี่ยนดังเข้ามาในหูของเสิ่นเสี่ยวซี อานนี่ที่ สวมชุดกระโปรงสั้นมองดูเสี่ยวซีอย่างยิ้มๆ “พี่ โรงเรียน จะให้ฉันออกมาฝึกงาน ฉันย้ายมาอยู่กับพี่ที่นี่ได้ไหม”
เสี่ยวซีก็ดีใจมาก เธอลูบหน้าของน้องสาวอย่างรัก ใคร่ “เด็กโง่ยังจะต้องถามอีก ทำไมจะไม่ได้ล่ะ”
บ้านหลังใหญ่ที่เป็นเรือนหอของพวกเขาช่างดูอ้างว้าง นัก
บางครั้งเสี่ยวซีก็อยากจะให้มีใครสักคนมาอยู่เป็น เพื่อน
“จริงเหรอ พี่ดีกับฉันจังเลย” ปากเล็กของอานนี่ยิ้ม อย่างอ่อนหวานทำให้เสี่ยวซีอารมณ์ดี เธอช่วยเสิ่นอาน นย้ายข้าวของสัมภาระเข้ามา
“พี่กำลังทําอะไรเหรอ”
กู้หมิงจวิ้นขมวดคิ้ว ยืนอยู่บนบันได สำหรับการมา ของเสิ่นอานนครั้งนี้เขาไม่ได้ยินดีนัก
“พี่เขยเขาไม่อยากจะต้อนรับฉันใช่ไหม”
เสิ่นอานนี่กุมมือของเสี่ยวซี มองไปที่กู้หมิงจวิ้นอย่าง ต้องการจะเตือน เธอพูดอย่างน่าสงสาร “พี่ดูสิ พี่เขยดู ไม่อยากต้อนรับฉัน”
เสี่ยวซีไม่คิดมาก่อนเลยว่าเข้าจะทำท่าทางแบบนี้ ใจ เธอก็รู้สึกประหม่า เธอกำลังจะหย่ากับเขา เธอหลบตา แล้วถามเขาว่า “อานนี่อยู่ที่นี่ได้ไหม ถ้าคุณไม่สะดวก เดี๋ยวไม่กี่วันฉันก็…
“ก็อยู่ไปแบบนี้แหละ”
เขารับพูดตัดบท แล้วก็หมุนตัวเดินขึ้นห้องไป แล้วหัน มาพูดว่า “เก็บของอะไรเรียบร้อยแล้วก็ขึ้นมาข้างบนฉัน มีเรื่องที่จะพูดด้วย
กลัวว่าเสิ่นอานนี่จะคิดมากไป เสิ่นเสี่ยวซีก็ยิ้มแล้วก็ พูดช่วยกู้หมิงจวิ้น “อานนี่ พี่เขยไม่ได้ไม่ต้อนรับเธอ แต่ เขาคิดว่าคงกระทันหันไป ไม่ต้องคิดมากนะ ถ้าพี่อยู่ที่นี่ เธอก็อยู่ได้อย่างสบายใจ
เสิ่นเสี่ยวซีลูบหน้าของเสิ่นอานนี่อย่างรักใคร่ “ดูเธอสิ อยู่โรงเรียนผอมไปเลย”
“พี่ ขึ้นไปข้างบนเถอะ พี่เขยบอกว่ามีเรื่องจะพูดกับพี่ เดี๋ยวฉันเก็บของเอง” เสิ่นอานนี่คิดว่าการมาของเธอทำ ให้กู้หมิงจวิ้นรีบที่จะบอกความจริงเพื่อรีบให้เสิ่นเสี่ยวซี ออกจากบ้านไป
เมื่อมาถึงห้องของเขา
เสิ่นเสี่ยวซีก็ยืนอยู่ที่หน้าประตูแล้วก็เคาะประตู ไม่ กล้าที่จะเดินเข้าไปโดยพลการ “เรียกฉันขึ้นมามีเรื่อง อะไรเหรอ”
กู้หมิงจวิ้นมองตามไปแล้วเขาก็ดับบุหรี่ในมือ หลัง จากนั้นก็ลุกขึ้นแล้วเดินมาเธอราวกับต้นไม้ใหญ่ยืนอยู่ ตรงหน้าเธอมองลงมาที่เธอ “อานนี่พูดอะไรกับเธอ”
เขากลัวว่ายัยนั่นจะอดไม่ได้ที่จะบอกความจริง เสี่ยวซีไม่เข้าใจ “ไม่ได้พูดอะไรนี่”
“ทำไมเหรอ เขามีเรื่องอะไรรึเปล่า”
เสิ่นเสี่ยวซีมีน้องสาวแค่คนเดียว เห็นเธอตกใจแล้วกู้ห มิงจวิ้นก็รู้สึกผิด เขาจับมือของเธอพาเธอเข้ามาในห้อง แล้วก็กดล็อคประตู
เสี่ยวซีเห็นดังนั้นก็ปลดมือออกแต่เขาก็ออกแรงกดไป ที่ไหล่ของเธอ พูดเตือน “เสิ่นเสี่ยวซี ถ้าเธอยังขยับอีก เชื่อไหมว่าฉันจะจัดการเธอ”
เสี่ยวซีนิ่ง ไม่กล้าขยับ
“ฟังฉันนะ พรุ่งนี้ไปหาบ้านให้อานนี่กัน แล้วให้เขา ย้ายออกไป” เขาไม่ยอมให้อานนี่อยู่ที่นี่ยิ่งทำให้ สถานการณ์ยิ่งแย่ลงไปใหญ่
เสิ่นเสี่ยวซีได้ฟังก็ไม่สบายใจ “อานนี่อยู่ที่นี่ไม่กี่วัน เอง คุณต้องทำแบบนี้เลยเหรอ ฉันเป็นพี่สาวของเขา นะ ฉันอยู่ที่นี่แต่ให้เธอพักไม่ได้ ยังจะต้องให้เธอไปเช่า บ้านอยู่ข้างนอก ถ้าเกิดว่าพ่อแม่รู้เข้า ฉันจะเป็นพี่ได้ อย่างไร”
เสี่ยวซีไม่เข้าใจเขาจริงๆ “พูดอีกก็คืออานนี่เองก็ไม่ เคยมีเรื่องอะไรกับคุณ ทำไมคุณต้องไม่อยากให้เธออยู่ ที่นี่ด้วย”
“ฉัน…”
เขาก็ไม่รู้จะพูดอะไรต่อหาเหตุผลไม่ได้
เสี่ยวซีขยับมือของเขาออก “ถ้าคุณไม่ต้อนรับเธอ ฉัน ก็จะพาเธอไปเอง”
เธอพูดจบก็จะเดินออกนอกประตูไป เขาก็รีบกอดเธอ เพื่อหยุดเธอไว้ “จะทำอะไร ดึกแล้ว”
กู้หมิงจวิ้นเพิ่งจะคิดได้ว่า เวลาผู้หญิงโกรธขึ้นมาช่าง แข็งแรงมากนัก
“นอนเถอะ นอนที่นี่แหละ”
เขาสั่งเธออย่างสับสน ดึงมือของเธอพาไปที่เตียง เสี่ยวซีอยากจะออกไปนอนข้างนอกแต่ก็คิดแล้วว่า ถ้า เกิดน้องรู้เรื่องเข้า พ่อกับแม่ก็จะต้องรู้เรื่องแน่แน่ๆเดี๋ยว จะยิ่งมีปัญหา
คิดแล้วเธอก็ทำได้แค่นอนที่นี่เท่านั้น
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ