บทที่ 7 ฉันตกลงจะหย่าแล้วเหรอ
เธอไม่อยากเป็นคนถูกบอกเลิก เธอรู้ดีว่าเขาอยู่กับ เธอไม่ได้มีความสุขเลย
ตอนที่เพิ่งแต่งงานกันนั้น เธอก็คิดอย่างโง่ๆว่าเขาก็ เป็นคนเย็นชาอย่างนั้นอยู่แล้ว
มาถึงตอนนี้เธอก็เพิ่งจะเข้าใจ
ไม่ใช่ว่าเขาไม่อบอุ่นอ่อนโยนหรือนิ่งๆ แต่เป็นเพราะ เขาไม่ได้รักเธอ
จะว่าไปถ้าเกิดว่าเราต้องอยู่กับคนที่เราไม่รักทุกวัน เราจะทำเป็นแกล้งรักแกล้งเอ็นดูได้ไหม
เสี่ยวซีรู้ว่าเธอติดหนี้เขา
เธอไม่ได้บริสุทธิ์ผุดผ่องแล้วก็มาแต่งงานกับเขา เธอ ไม่รู้จริงๆว่าเมื่อไหร่ถึงจะสามารถยอมให้เขาแตะเนื้อ ต้องตัวเธอได้ แต่ถ้าเขารู้ความจริง ภาพของเธอในใจ เขาก็คงจะยิ่งแย่เข้าไปใหญ่
จริงๆแล้วเธอเองก็ไม่ได้อยากจะเลิก ไม่อยากจะยอม แพ้ เธอแอบชอบเขามาตั้งสามปี กู้หมิงจวิ้น คุณจำฉัน ได้ไหม วันที่คุณตะโกนร้องอย่างเหน็บหนาว ฉันเองที่ กอดคุณอยู่ตลอดทั้งคืน
อีกนิดเดียวเขาจะตาย เธอแบกเขาทั้งที่ร่างกายตัวเองก็อ่อนแอกลับไปที่โรงแรม
คิดกลับไปตาของเธอก็แดงก่ำ “ฉันเหนื่อยแล้ว เป็น เดือนแล้ว เหมือนฉันอยู่กับท่อนไม้ คุณเคยยิ้มให้ฉัน ไม่ พูดจากับฉัน ฉันไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้ไปทั้งชีวิต คน แต่งงานกันก็ต้องอยู่ด้วยกันอย่างสามีภรรยาที่รักใคร่ กันไม่ใช่เหรอ กู้หมิงจวิ้นฉันจะปล่อยคุณไปเอง เราจะ ได้ไม่ต้องมาทำร้ายกันเอง
เธอรักเขา เธอจึงไม่อยากเห็นเขาไม่มีความสุข
แน่นอนว่าเธอเองก็ไม่ใช่แม่พระมาจากไหน ที่เธอทำ ไม่ใช่เรื่องยิ่งใหญ่อะไรทำเพื่อความสบายใจของเธอ เองทั้งนั้น
จะพูดไปก็คือ ถ้าเป็นแบบนี้เขาก็จะไม่รู้ว่าเป็นผู้หญิง ไม่บริสุทธิ์ แต่ยากจะให้เขาเก็บภาพนั้นของเธอไว้
เสิ่นเสี่ยวซีลุกขึ้นหยิบหมอน ผ้าห่ม โทรศัพท์
“ต่อไปเราจะแยกห้องนอนกัน ถ้าฉันหาบ้านได้เมื่อ ไหร่ฉันจะย้ายออกไป คุณมีเวลาก็ไปทำเรื่องทะเบียน หย่าให้เรียบร้อย”
“เสี่ยวซี”
“เสิ่นเสี่ยวซี”
เขาร้องเรียกเธอ แต่ก็ไม่ได้หยุด
เป็นครั้งที่กู้หมิงจวิ้น โดนทิ้ง
แต่ก่อนก็มีแต่เขาที่หยิบของแล้วเดินออกไปทิ้งที่ห้อง นั้น บางครั้งก็มีเรื่องราวที่เขาจะต้องคิดด้วยตัวเองเขา เองก็เข้าใจได้
กู้หมิงจวิ้นกำลังจะเป็นบ้า เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าเธอ จะกล้าบอกเลิก สิ่งที่เขาคาดการณ์ไว้ก็มาถึง เขาเองก็ เป็นคนอยากจะหย่ามาโดยตลอดไม่ใช่หรือ
ตอนนี้ผู้หญิงโง่ๆคนนั้นก็พูดออกมาแล้ว ทำไมเขา กลับไม่รู้สึกดีใจเลย
ในห้องน้ำ
เสียงน้ำไหลซู่ๆ
เสิ่นเสี่ยวซีล้างหน้าด้วยน้ำเย็นไม่หยุด
เธอหายใจเข้าลึกๆ มองดูตัวเองในกระจกแล้วก็ พยายามฝืนยิ้ม
ทำไมผู้หญิงทุกคนที่รู้ว่าสามีมีเมียน้อย ไม่โมโห อาละวาดก็อดทนเก็บไว้ในใจไปทั้งชีวิต เธอเสิ่นเสี่ยวซี คนนี้จะเดินออกมาจากเขา แล้วใช้ชีวิตในตัวเองมีความ สุขยิ่งขึ้น
ทำนั้นยากกว่าพูดมากนัก เสี่ยวซีรู้ดี เธอรู้ดีว่าเลิกกับ เขา เธอเองจะเป็นฝ่ายเจ็บปวดทรมาน ตอนนี้พวกเธอเองก็เพิ่งจะอยู่ด้วยกันได้ไม่นาน ถ้าเกิดว่าให้รอวันที่ เธอเดินออกมาจากชีวิตเขาไม่ได้ เธอก็จะยิ่งขายหน้า ยิ่งจะแย่เข้าไปใหญ่
เสี่ยวซีเดินออกมาจากห้อง แบกกระเป๋า หยิบนมและ ขนมปังโฮลวีลเตรียมออกจากบ้าน พอดีเห็นเขากำลัง จะเดินลงจากตึกก็แปลกใจ เป็นเดือนแล้วที่เขาอยู่บ้าน เธอก็จะเป็นคนเตรียมอาหารเช้าให้ตลอดแต่ว่าวันนี้ กลับไม่มี
“อาหารเช้าล่ะ”
เมื่อว่าเขาจะไม่เคยกิน แต่ทว่าไม่มีก็ไม่ค่อยชิน
เสี่ยวซีนิ่ง กัดขนมปังเข้าปาก “ยังไงคุณก็ไม่ชอบที่ ฉันทำอาหารเช้าให้อยู่ ต่อไปยังไงก็คงไม่มีอะไรที่ไม่ อร่อยแบบนั้นอีก”
เธอเดินออกไปจากบ้าน เขาขมวดคิ้ว “จะไปไหน”
เธอยืนเปลี่ยนรองเท้าอยู่ “ฉันไปหาบ้านกับหางานทำ” “เสิ่นเสี่ยวซี ฉันตกลงหย่าแล้วเหรอ”
เขาทำไมแสดงท่าทางไม่อยากจะหย่ากับเธออย่างนั้น
กู้หมิงจวิ้นรู้สึกสับสนในใจ เขาขึ้นเสียง เสี่ยวซีตกใจ เธอหลุบตาและพูดเสียงเบาว่า “ไม่อยากหย่า แต่มีเมีย น้อยเนี่ยนะ”
“เธอพูดบ้าอะไร”
เขารู้สึกว่าเขาเคยชินกับภรรยาที่ไม่ซื้อไม่อือมากกว่า
เสี่ยวซีส่ายหัวแล้วก็ยิ้ม มือที่ถือขนมปังอยู่ก็ส่ายไปมา “บ๊ายบาย ฉันไปก่อนแล้ว”
เธอพูดจบไม่รอเขาพูด ก็เปิดประตูแล้วเดินออกไป
กู้หมิงจวิ้นที่ยังอยู่ในบ้านก็รู้สึกไม่คุ้นเคย “เขาอยาก กินน้ำร้อนก็ไม่มีใครต้ม เขาอยากกินบะหมี่ก็ไม่มีใครต้ม ให้ หม้อไฟกระทะจาชามก็เย็นชืด เขาเปลี่ยนเสื้อผ้า ก็ ไม่มีคนเก็บไปซัก แม้แต่ตอนที่เขาจะออกจากบ้าน เขา เองก็ยังชอบให้มีคนยืนรอส่ง แต่ตอนนี้ผู้หญิงที่เชื่อฟัง คนนั้น ไม่มีแล้ว
เขาเองรู้สึกไม่คุ้นเคย แต่งงานกับเธอก็เหมือนได้แม่ บ้านมาคนหนึ่ง งานบ้านทั้งหมดก็มีเธอที่เป็นคนคอยทำ
แต่เมื่อไม่มีเธอขึ้นมา ก็ไม่มีใครเก็บใครทำ
ทั้งหมดวุ่นวายไปหมดแล้ว
เธอกำลังจะแยกกันกับเขาอย่างสมบูรณ์แล้ว อาจจะ พูดได้ไม่เต็มปากว่าเธอเป็นภรรยาที่ไม่ได้สมบูรณ์นัก แต่เธอก็อยู่ข้างเขามาโดยตลอด
ทั้งหมดมันคือเรื่องไร้สาระ
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ